|
ความคิดเห็นที่ 64 |
ขอให้กรณีนี้ เป็นอุทาหรณ์ สำหรับ การช่วยเหลือ และหาบ้านใหม่ให้หมาลำบากทั้งหลาย
การช่วยเหลือ ด้วย เหตุ แห่ง ความเวทนาสงสาร โดยไม่ได้ยั้งคิด ถึง ผล ที่จะติดตามมา แล้วภายหลังต้องมาเป็นทุกข์ กับสิ่งที่"คิดว่า"เป็นการ"ทำบุญ"
ทั้งคนช่วยหมา , คนหาบ้านให้หมา , คนติดต่อประสานงาน , และคนที่รับหมาไปเลี้ยง และ ผู้เกี่ยวข้อง ฯลฯ
ทุกคนและทุกฝ่าย ควรคิดให้ดี ก่อนทำอะไรลงไป ว่า เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องเดือนร้อนคนอื่น
การช่วยเหลือผู้อื่น ควรรู้ขอบเขตของตัวเอง ว่า มีกำลัง พอที่จะรับผิดชอบ ในภาระ ที่ตัวเอง คิดจะเอามาแบกรับ ได้ดีขนาดไหน
เช่น การช่วยเหลือหมาลำบาก ที่ทำไปด้วยความเมตตาสงสาร หากรับมาแล้ว มีกำลังที่จะดูแลรักษาและหาบ้านใหม่ได้....
ก่อนส่งหมาไปบ้านใหม่ ก็ควรให้แน่ใจว่าบ้านใหม่ สามารถเลี้ยงดูเขา ตามสมควรเท่าที่หมาปกติจะอยู่ได้ โดยไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ควรพิจารณาข้อมูล ประวัติของหมา และของคนรับเลี้ยงว่าเหมาะสม
คนที่ติดต่อประสานงาน หรือ คนที่รับหมาไปเลี้ยง ก็ควรจะศึกษา รายละเอียดของหมาที่จะรับเลี้ยง , ศึกษา พฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์ประเภท หมา ให้ดีก่อน
และพิจารณาตัวเองและสภาพแวดล้อมของตัวเอง ว่าจะสามารถรับผิดชอบ ชีวิต ที่จะรับมาดูแลได้อย่างแน่นอน
หมา มันเป็นสิ่งมีชีวิต มันมีลักษณะนิสัยที่แตกต่าง มันมีพฤติกรรมที่สืบทอด และฝังลึกในสายเลือด มันมีสัญชาติญาณของสัตว์กินเนื้อ...ฯลฯ...ฯลฯ
มันไม่ใช่อุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรม ไม่ใช่พนักงาน รปภ. หมาบ้าน(ไม่ใช่หมาป่า) มันเป็นอะไรที่หลายๆคน ไม่รู้ว่ามันเป็น...... จริงๆแล้ว หมาบ้าน มันเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นเพื่อน เป็นลูกหลาน เป็นครอบครัว
ส่วน การที่มันช่วยเห่าบอกเวลามีคนแปลกหน้ามาที่บ้าน หรือ ไล่กัด เวลามีคนมาหยิบข้าวของ หรือ คอยระแวดระวัง อาณาเขตรอบๆบ้าน....ฯลฯ....ฯลฯ
สิ่งเหล่านั้น คือสัญชาติญาณฝังลึกตามธรรมชาติของมัน ที่จะคอยปกป้องสมาชิกฝูง และอาณาเขตของฝูง ซึ่งเป็นผลพลอยได้ ที่ คนเลี้ยงหมาจะได้รับ....... .....ถ้าสามารถทำให้หมามันยอมรับ ว่า ..... เป็น ฝูงเดียวกับมัน
คนช่วยหมา และ เอาหมามาหาบ้าน จึง ควรต้องให้แน่ใจว่า คนจะรับเลี้ยงหมา รู้จัก และเข้าใจดีแล้ว ว่า หมา มันคืออะไรกันแน่
จากคุณ |
:
dogpeople1
|
เขียนเมื่อ |
:
7 มิ.ย. 53 19:38:00
|
|
|
|
|