ความคิดเห็นที่ 1 ตาแฉะ ซึม ๆน่าสงสารอ่ะ กินอาหารซองที่คุณเอ็กซ์ส่งมาให้เกือบหมดซองเลย คงหิวมาก เห็นตอนที่เทอาหารให้หมาโตที่วัด พยายามแทะอาหารเม็ด ลูกเอ๊ย เห็นแล้วสุดสงสารมันเลย น่าจะอายุซักเดือนนึง บุญของมันที่เจอเรา กรรมของเราที่เจอมัน แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 08:09:27 จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 01:35:06

ความคิดเห็นที่ 2 บางครั้งก็เป็นวาสนาของหมาเหมือนกัน ค่ำวันหนึ่ง ที่ตรงข้างเมรุนี้แหละ กำลังให้อาหารหมาอยู่ดีดี มันก็วิ่งไปเห่าอะไรที่ริมกำแพง ด้านที่ติดกับถนน คนหน้าด้าน เอาลูกหมากับแม่มันมาทิ้ง มันคงเห็นเรา เลยโยนถึงลูกหมาไว้ริมถนนแหละ ที่เห็นเป็นลูกหมาตัวนิดเดียว วิ่งหนีหมาไปซุกอยู่ริมกำแพง หมัดเป็นร้อย ส่วนแม่มันตอนที่เทอาหารให้ คงหิว แต่พอถูกหมาเจ้าถิ่นไล่ มันก็วิ่งหนีไปเลย งานเข้า แล้วลูกหมาจะทำไงดี อุ้มกลับมาอาบน้ำอุ่นที่บ้าน ไม่ไหว เดี๋ยวเอาเห็บมาติดที่บ้าน ไอ้ตัวนี้แหละ ที่เจอตัวแรก จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 01:40:49

ความคิดเห็นที่ 3 เย็นอีกวัน ไปให้อาหารวัดเดิม กำลังจะออกมาจากวัดกลับบ้าน เห็นอะไรแว๊บ ๆในกอหญ้า ริมถนน ฝั่งตรงข้ามกับวัด ตอนนั้นเริ่มมืดแล้ว เป็นลูกหมาสีขาว พยายามเดินหาตัวที่เหลือก็ไม่เจอ แม่มันก็ไม่เห็น ต้องอุ้มกลับมาบ้าน สมทบกับตัวแรก หลังจากนั้นก็จัดการ ถ่ายวีดีโอ ถ่ายรูปที่น่ารักที่สุด ไปหาบ้าน ไม่ไกลหรอก พี่ที่ทำงานแหละ มีคนสนใจ 2 คน แต่พี่อีกคนฝากไว้ก่อน ใจน่ะไม่อยากให้พี่คนนี้ เพราะรู้ว่าเขาไม่มีเวลา วิธีหาทางออกของเราก็คือ ให้พี่อีกคนเอาไปทั้ง 2 ตัวเลย แล้วค่อยมาบอกหลานไม่ให้ ไอ้ 2 ตัวนี้วาสนาดี ไปอยู่กับพี่พยาบาล อยู่บนบ้านด้วย ส่วนตัวที่เหลือ เป็นเพศเมีย ขนเกรียน น่ารักสู้ 2 ตัวนี้ไม่ได้ จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 01:45:53

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนแม่มัน ตอนนั้นพระท่านเอาลูกหมาตัวที่เหลือไปใส่ไว้ในคอก ผ่านไป3 วัน ท่านถึงมาบอกเรา ว่าเก็บลูกหมาไปไว้ในคอก ไม่ให้ให้อาหารมัน 3 วันแล้วไม่รู้ตายยัง เราน่ะตกใจมากเลย รีบเข้าไปดู ดีที่แม่มันพยายามปีนเข้าไปให้นมลูก เนี่ยะสภาพที่เจอมันวันแรก ๆ จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 01:49:13

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนปัจจุบัน ขนขึ้นแล้ว หลังจากที่ได้ ivermec จากคุณเจี๊ยบ ตอนนั้นเห็นหมาที่วัดนี้แล้วเครียดเลย เป็นเรื้อนทั้งวัด โชคดีที่มันเริ่มชิน ก็จับให้กินบ้าง ฉีดบ้าง จนปัจจุบันเป็นแบบนี้แล้ว ตัวริมซ้ายของรูป เป็นเป้าหมายต่อไปที่จะจับไปทำหมัน จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 01:51:32

ความคิดเห็นที่ 6 ไวท์ เป็นลูกหมา ที่แม่ถูกทิ้งที่วัด แม่ของไวท์เป็นหนึ่งในหมาอีกหลายตัวที่พอเจ้าของมาทิ้งที่หน้าวัด จะวิ่งตามถนนไปอาศัยอยู่บริเวณข้าง ๆวัด ที่เป็นสวน ลูกหมา 4 ตัว ที่จำได้ คือไวท์และลายเสือ วันหนึ่งแม่ชีเล่าให้เราฟังว่า คุณครู เอาลูกหมาถูกทิ้ง 4 ตัวมาให้เลี้ยงพอเราเห็นลูกหมา เราขำก๊าก ไม่ใช่ลูกหมาใหม่ เพราะทุกวันที่ออกจากวัด ไม่ว่าจะ 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม เราจะต้องย้อนเอาข้าวมาให้หมาที่สะพานหน้าวัดทุกวัน และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เราเห็นลูกหมาทั้ง 4 พร้อมกัน ประมาณครึ่งเดือนต่อมา เราลืมไอ้ลูกหมา 4 ตัวนี้ไปแล้ว  เรากับหมอนัท มาเลือกหมาที่วัด เพื่อจะไปถ่ายเลือดให้กับบางแก้วของหลวงพี่ บางแก้วตัวนี้ฉลาด มีคนขอไปเลี้ยง พอมันกินไก่ย่างเขาอิ่ม มันก็วิ่งมารอหลวงพี่ที่ปากทางเข้าวัด แล้วเดินกลับวัด วันนั้น เรากับหมอเข้าไปเลือกหมาตัวโตในเมรุ อาจจะเป็นโชคดีของไวท์ ที่เราได้ยิน จำได้เลย เสียงร้องมันโหยหวนมาก จนเรามองหน้ากับหมอ หมอนัทน่ะกลัวผีมาก เราก็กลัว แต่ทำใจกล้าเดินไปดูตามเสียง ในห้องเล็ก ๆในเมรุ เป็นที่เก็บรถเข็นศพ และเก้าอี้พลาสติก สำหรับใช้ในงานศพ ลูกหมาสีขาวนวลตัวผอม พยายามหนี บอกตัวเองเลยว่า ยังไงต้องเอาลูกหมาตัวนี้ออกมาให้ได้  มันเป็นความผูกพันที่ให้อาหารมันมาตั้งแต่เล็ก ในนั้นได้กลิ่นเหม็นมาก ถามแม่ชี ถึงลูกหมาที่เหลืออีก 3 ตัว แม่ชีบอกว่า ตายแล้ว ที่ได้กลิ่นเป็นกลิ่นศพของลายเสือ อึ้งพูดไม่ออก มองหน้ากับหมอ ไวท์เป็นลำไส้อักเสบ ไม่ได้พูดอะไรกันมาก หมอนัทพาลูกหมากลับไปรักษาที่คลินิค จนมันหาย ฉีดวัคซีนเรียบร้อย  เราพาไวท์ไปฝากไว้กับแม่ชีอีกองค์หนึ่ง และคอยไปดูอยู่เสมอ ทุกวันนี้เวลาไวท์เห็นเรา  เขาก็ยังจำได้ หลังจากนั้น ปกติวันหยุดเราก็จะไปยุ่งอยู่กับหมาที่วัดนั้นแหละ วันนั้นคุณครูคนเดิม อุ้มหมาแม่ลูกอ่อน มากับลูกอีกครอก เรานั่งมองด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ก่อนที่จะตัดสินใจพูดกับคุณครู เราถามคุณครูว่า ครูรู้มั๊ยคะว่า ลูกหมา 4 ตัวที่ครูพามาที่วัดครั้งสุดท้ายเป็นยังไงบ้าง พวกเขาตายหมดแล้ว แล้วเราก็เล่าเรื่องของไวท์ให้คุณครูรับรู้ คุณครูถึงกับอึ้งไปเลย เพราะคุณครูก็เป็นคนที่รักหมามาก ทุกเย็นจะเอาข้าวไปให้หมาที่สะพานตรงหน้าวัดทุกวัน หมาที่เขามาปล่อยที่โรงเรียนคุณครูก็จับไปทำหมัน คุณครูบอกว่า มีคนบอกคุณครูว่า มีหมอมาดู เราแย้งเลย หมอที่ไหนอ่ะ มีแต่หนูนี่แหละ หมอจะมาตอนที่ทำหมัน แล้วก็ไม่มีเวลามาตรวจหรอก แล้วก่อนหน้านี้ ก็มีคนเอาหมาแม่ลูกอ่อนมาฝากแม่ชี ตอนนั้นบอกเพื่อน ครอกนี้จะอยู่ได้กี่วัน ก่อนที่จะตายหมด มะชันเศร้านะ เวลาที่เห็น แล้วพูดไมได้ แต่ครั้งนี้เราพูด ส่วนคุณครูจะตัดสินใจ ยังไง ก็แล้วแต่คุณครู เย็นนั้น กลับเข้าไปที่วัด ทราบจากแม่ชีว่า คุณครู ขนลูกหมากับแม่ออกไปหมดเลย คงทำใจไม่ได้ ได้ยินแม่ชีพูดว่า เอาไปก็ตาย เราเลยบอกแม่ชีไป ก็ยังดีกว่าให้พวกมันมาตายที่นี่ ให้คนที่เขาเอามาทิ้ง รู้สภาพที่แท้จริง แล้วให้เขาตัดสินใจเอง ที่ผ่านมาก็เปลี่ยนใจทุกรายแหละ แม่ชีองค์ที่เราพาไวท์ไปฝาก เขาก็รักสัตว์ แต่สุขภาพไม่ดี เคยอุ้มไวท์ไปอาบน้ำที่โรงเรือน เพราะหมัดเยอะมาก เขายังอึ้ง อุ้มไปได้ไง ตัวมันหนัก แต่เราสามารถพามันไปได้แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 08:12:52 แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 02:19:41 จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 02:18:56

ความคิดเห็นที่ 7 เอาใหม่รูปใหญ่ไป จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 02:20:35

ความคิดเห็นที่ 8 หมาวัดตัวนี้ เราเจอเขานั่งที่ศาลารอรถโดยสารหน้าวัด เมื่อปลายปีก่อน แล้วมาเจออีกครั้งที่หน้าวัดอีกวัดหนึ่ง มันคงหาทางกลับบ้าน ยังจำท่านั่งคอยเจ้าของที่ศาลาวันที่ถูกทิ้งได้เลย เขานั่งรอตรงนั้น 2-3 วัน เราเอาข้าวไปให้ เขาก็กินแล้วก็นั่งรอ แล้วเขาก็หายไป เห็นอีกครั้ง เขาเดินตามชายสติไม่ดีไป "เฮียแบะ" อาศัยอยู่ข้างวัดที่เราสร้างโรงเรือน กลับมาเจออีกครั้ง ทั้งตัวเป็นเรื้อน ขนร่วงจนน่าสงสาร ไม่เหลือเค๊าหมาในรูปนี้เลย ตอนนั้นก็พยายามเอายา ใส่ในลูกชิ้นให้กิน วันที่เห็นเขากลับมาขนสวย ก้ดีใจนะ เพราะหมอก้อย เคยบอก หมาที่เป็นโรคผิวหนัง มันจะอาย แล้ววันนี้ เราก็ไม่เจอเขาอีกแล้ว อืมห์ ทุกเย็น เฮียแบะจะเดินมาที่ร้านค้าเทศบาล เพื่อนเราจะมีแก้วน้ำชาเตรียมไว้ให้ กับป้าอีกคน จะผัดข้าวให้เย็นละห่อ ลำพังตัวแกยังเอาตัวไม่รอด วันก่อนเราถามว่า หมาไปไหน เขาบอกมันกลับบ้านไปแล้ว เห็นรูปนี้ยังจำภาพวันที่มันนั่งรอเจ้าของได้ ตั้ง 2- 3 วันโดยที่ไม่ไปไหนได้เลย แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 08:14:21 จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 02:29:03

ความคิดเห็นที่ 9   น่าสงสารจังค่ะ น้องหมาเขาคงคิดว่า เจ้าของคงจะมารับเขา เห้อ...เจ้าของหนอเจ้าของ จากคุณ : KwangSmile เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 02:38:13

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อปีใหม่ปีก่อน มีคนเอาของมาฝากที่วัด มันมากองทิ้งไว้ที่หน้าวัดเลย เป็นแม่หมากับลูก 3 ตัว จำไม่ได้ว่าแม่ชีหรือพระล่อลูกหมาเข้ามาในเมรุ เพื่อไม่ให้รถชน ก็ไม่ได้อะไร เห็นแม่ชีไปให้ข้าวอยู่ แต่อย่างที่บอก วัดนี้มันกว้าง แม่ชีองค์เดียว ก็ดูแลไม่ทั่วถึง จุดที่มีอยู่ไม่กี่ตัว ก็จะถูกลืม ลูกหมาในเมรุ กับแม่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น สัณชาติญานการเอาตัวรอด แม่หมาพาลูกกลับออกไปหาพระที่หน้าวัด หลวงตาจะแบ่งอาหารที่เหลือมาให้ แล้วเราก็เห็นว่าลูกหมา มันหายไป 1 ตัว ก็เลยแวะเข้าไปดู ที่เห็น ไอ้ 2 ตัวที่เหลือมันซีดมาก ...พยาธิเม็ดเลือด ทั้งคู่ถูกย้ายเข้ามาในโรงเรือน แล้วมันทั้งคู่นี่แหละที่เป็นตัวแสบ กัดตาข่ายขาด มีอยู่ครั้งหนึ่ง มันกัดลวดที่เพื่อจะออกมาข้างนอก ปรากฏว่าติดตาข่ายเขียวกันยุงที่อยู่ชั้นนอก สภาพมันเลยเหมือนหมาสตาร์ฟเลย เห็นแล้วอย่างขำ จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 02:42:49

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากนั้น ทุกครั้งที่ออกจากวัด ทั้งคู่จะวิ่งตามออกมาที่ถนนใหญ่ ในช่วงนั้น ถ้ามีคนสังเกตุ จะเห็นบางครั้งเราเลี้ยวมอไซด์กลับเข้าไปที่วัด ตั้งหลักให้ดี ก่อนที่จะซิ่งหนี ให้มันวิ่งตามไม่ทัน ครั้งยังอยู่ในโรงเรือน จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 02:45:48

ความคิดเห็นที่ 12 สุดท้าย ต้องเอาไปฝากไว้ที่โรงใหญ่ แต่มันยิ่งทรมานความรู้สึกเรายิ่งกว่า ถ้าบอกได้ จะบอกมันว่า อย่ารักเรา เราคงจะรู้สึกดีกว่านี้ มันแทะเหล็กเส้นที่ทำรั้ว เพื่อจะตามออกมาหาเรา สุดท้ายเป็นเราที่ใจอ่อน ปล่อยมันออกมา แล้วใช้วิธีซิ่งหนีมันเหมือนเดิม จำได้ว่า ถามแม่ชีว่า ทั้งคู่ทำหมันหรือยัง แม่ชีบอกว่า ปกติในโรงใหญ่จะทำแล้ว ไม่ค่อยเชื่อ แม่ชีอายุมากแล้ว ไปถามหมอดีกว่า หมอก็ตอบเหมือนแม่ชี เราก็วางใจ ปรากฏว่ามันท้อง เครียดเลยเรา ทั้ง 2 ตัวลูกตายหมด เหลือตัวเดียว ตัวนี้ จากที่เคยวิ่งหนี วันที่เราจะจับมันไปทำหมัน มันวิ่งหนีเรา มันถูกรังแก จนมันผวา มันหนี เราน่ะรู้สึกผิดกับมันมากเลย จำได้ว่ามันพยายามจะมาหาเรา แต่เราขี่รถหนีมัน เกือบ 2 วัน ที่พยายามกลับไปทำให้เขาวางใจ ก่อนจะพาไปทำหมันได้ อีกตัวเป็นลูกที่เหลือตัวเดียว ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราก็ซื่งหนีมันจากวัด แต่คราวนี้มันวิ่งตามสุดชีวิต มาถึงถนนใหญ่ (คือถนนอยู่ตรงกลาง บ้านเรากับวัดจะลงจากถนนคนละข้างกัน) ครั้งแรก เราก็ล่อมันกลับไปที่วัด พอเราซิ่งมา มันก็ตามมาอีก พอครั้งที่ 2 เราไม่หยุด มันก็ยังวิ่งข้ามถนนมาเลย เราน่ะใจหาย กลัวมันถูกรถชนตาย หลอกมันกลับไปที่วัด เป็นครั้งที่ 2 พอดีมีลุงคนหนึ่ง เขาถีบจักรยานมา เขาก็ว่าเรา เพราะเธอ มันเกือบถูกรถชนเลย อ้าว ซวยเลยตรู ครั้งที่ 3 คราวนี้ พอมาถึงถนน เราเลี้ยวไปกินข้าวจนอิ่ม จะกลับบ้าน คิดว่ามันตามมาไม่ทันแล้ว ข้ามถนนไป ได้ยินเสียงตึก ๆอะไรข้างๆ เป็นว่ามันตามข้ามถนนมา แล้วหาเราไม่เจอ ก็ยืนรอที่ริมถนน คราวนี้เราต้องยอมแพ้ กลับไปเอาข้าวที่บ้านมาให้ เราถึงได้รู้ว่ามันหิว มันอยู่ในเมรุ 2 ตัวกับลูก บางครั้งแม่ชีก็คงลืม เคยมีคนวานให้แม่ชีอีกองค์ช่วยหุงข้าวแทน ในวันที่แม่ชีองค์นี้ไม่สบาย เขาตอบว่า เขามาถือศีล ไม่ได้มาเลี้ยงหมา เราฟังแล้วก็ขำ มาเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วที่อยากได้โรงเรือนของหมานี่มันผิดศีลเปล่าอ่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 03:04:41 จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 02:59:19

ความคิดเห็นที่ 13 ไอ้ก้อนดำ ดำในกรง มันคือแม่หมาลูกอ่อน ที่เราเคยจะพามันไปทำหมัน แล้วขอตรวจเลือดก่อน ดีที่วันนั้น ไม่ได้ผ่าตัด หลังจากที่รักษาพยาธิ์เม็ดเลือดจนหาย ก็ปราฏว่ามันท้อง เมื่อวาน มันออกลูกแล้ว ในดงกล้วยข้างโรงเรือนนั่นแหละ 4 ตัว แม่ชีเขาบอกว่า มันขู่ แต่พอเห็นเรามันกระดิกหาง ก็เราเป็นคนให้ข้าวให้ยามันในโรงเรือนทุกวัน แต่เพื่อความไม่ประมาท อุ้มแม่มันเข้าไปในโรงเรือนก่อนที่จะอุ้มลูกมันตามเข้าไป เราไปเอากรงที่บ้านมา ถึงพบว่า ในกอกล้วยแคบ ๆ แม่มันนอนทับลูกตายไป 1 ตัว ตอนเช้า เราเข้าไปดู ลูกหมาตายอีก 1 ตัว ก็คิดว่ามันไม่ต้องโตมาเป็นหมาวัดเนอะ จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 03:12:47

ความคิดเห็นที่ 14 ชีวิตหมาจร หมาข้างถนน สำหรับบางคนมันไร้ค่ามากเลย วันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะถึงบ้านแล้ว เห็นหมาถูกรถชน นอนตายอยู่ที่ข้างถนน ขับเลยไปแล้ว เพราะรีบ เย็นแล้ว แต่สงสารมัน ถ้าศพมันต้องถูกทับเละกลางถนน ตัดสินใจเลี้ยวรถไป คิดว่า จะลากลงข้างทางเหมือนทุกครั้ง ลูกหมายังไม่ตาย ยังกระตุก แต่เราก็รู้ว่า ไม่รอด เพราะลิ้นซีดหมดแล้ว ตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมาบนรถ บอกตัวเอง ถ้าตายก็ฝัง ยังก็ไม่หาหมอ ตลอดทาง ได้แต่เอามือลูบหัวมันเป็นระยะ ถ้ามันจะตาย จะได้ไม่รู้สึกเหงา เราชอบคิดแบบนี้แหละ ก่อนถึงบ้าน มันก็สิ้นใจ ทั้งเห็บทั้งหมดเป็นร้อย เลยต้องเอาแป้งกำจัดหมัดโรยไปที่ตัว ก่อนที่ลูกน้องจะเอาไปฝัง ดีใจที่เราไม่ได้ผ่านเลยไป อย่างน้อยถึงเขาจะไร้ค่าสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเรา เขามีค่าเท่ากับ 1 ชีวิตเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 03:20:07 จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 03:19:13

ความคิดเห็นที่ 15 สุดท้าย ขอบคุณ เพื่อน ๆ พี่ ๆที่เป็นกำลังใจ และคอยช่วยเหลือเรามานะคะ ขอบคุณสวรรค์ ที่ไม่พรากหนูก็องส์ไปจากเรา เมื่อ 2 เดือนก่อน เพราะมัวยุ่งกับเรื่องของปาน จนไม่ทันสังเกตุว่าหนูก็องส์ไม่สบาย เพราะเขาไม่ค่อยป่วย ถึงแม้สุขภาพจะไม่ค่อยดีก็ตาม ทั้งที่นอนด้วยกันทุกคืน 2 วันที่หนูก็องส์ไม่กินข้าว เหมือนมีเสมหะในปอด เราพาก็องส์ไปสุพรรณ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผลการตรวจออกมาอย่างนี้ เราร้อง ไห้ไปแล้ว หนูก็องส์มีอาการของโรคหัวใจ ปอดติดเชื้อมากพอประมาณ ตับอ่อนอักเสบ และพยาธิเม็ดเลือดแฝง ค่าตับสูงเล็กน้อย ไข้ 104 คืนนั้น หนูก็องส์หนัก 5 กิโล ไทลินอล เม็ดนึง ไข้ยังไม่ยอมลง หมอให้ยาลดไข้มากิน แต่พอฉีดยากลับมา เราวัดไข้ปกติก็ไม่ได้ให้กิน สัปดาห์ที่ 2 ที่หนูก็องส์ต้องไปเจาะเลือด ทุกอย่างโดยรวมดีหมด เห่าได้ เสียงดี สนั่นคลินิค แต่ค่าตับก็สูงด้วย จาก 95 เป็น 495 เราเริ่มใจเสียแล้ว สัปดาห์ที่ 3 เกล็ดเลือดขึ้นมาเป็นปกติ แต่ค่าตับขึ้นมาเป็น 1300 ตอนนั้นพี่ลูกอาบอกให้พาหนูก็องส์ไปรักษาที่กรุงเทพฯ ตลอดทางที่ไปสุพรรณ มันสับสนนะ สุดท้ายเราบอกหมอว่า ลูกหมาที่หมอตัดขาให้ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันที่เขาตาย เขาก็แข็งแรง ปกติแบบนี้ แต่ค่าตับเขาขึ้นเป็น 1900 เรากลัวหนูก็องส์เป็นแบบนั้น เราเชื่อมั่นในหมอ เราถึงไม่ย้าย หมอเปลี่ยนยาทุกอย่างหมดเลย งดสเตีรอยด์ แล้วกินยารักษาตับอ่อน สัปดาห์ที่ 4 ค่าตับหนูก็องส์ลงมาเหลือ 400 กว่าจาก 1300 ดีใจมาก หลังจากนั้น หนูก็องส์ยังต้องเจาะเลือดตรวจทุกสัปดาห์  ผลปกติ เราดีใจนะ ตลอดเวลาที่หนูก็องส์ไม่สบาย เราจะนอนกอดหนูก็องส์ทุกคืน บอกเขาสู้ สู้ หนูเป็นลูกแม่ต้องอดทน หนูก็องส์อายุ 13 ปี ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณจริง ๆค่ะ จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 03:39:30

ความคิดเห็นที่ 16 มาให้กำลังใจค่ะ คนทิ้งก็ทิ้ง คนช่วยก็ต้องตามแก้ไข  เมื่อไหร่มันจะหมดซะที พวกเอาหมามาทิ้ง จากคุณ : คุณแม่pp (anwan) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 07:17:21

ความคิดเห็นที่ 17 มาให้กำลังใจคุณ ชิโร่ kung ครับ ....หมาที่โตแล้วถูกนำมาทิ้ง น่าสงสารที่สุด เพราะเข้าใจว่าเดี๋ยวก็ได้กลับบ้าน นั่งรอ และก็รอ แต่ก็มีเพียงสายลมกับแสงแดด ที่แวะกลับมาเยือนเท่านั้น ..... เฮ้อ......ชีวิตที่มนุษย์เป็นคนกำหนดให้ จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 09:02:08

ความคิดเห็นที่ 18 ปลื้มในตัวคุณ ชิโร่ kung มากค่ะ จากใจค่ะ จากคุณ : joyjeenaja เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 09:28:08

ความคิดเห็นที่ 19 ร้องไห้...เศร้า แต่ยังดีที่ในความเศร้ามีเรื่องดีอยู่บ้าง ขอบคุณ จขกท. มีอะไรให้ช่วยบอกนะคะ อีกเรื่องอยากบริจาคอาหารให้นะคะ ทำไง บอกหลังไมค์ให้หน่อยนะคะ พอดีขับรถไปลพบุรีบ่อยๆ จากคุณ : สีส้มรุ่นหนึ่ง เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 09:51:29

ความคิดเห็นที่ 20 คุณเป็นคนใจดีจังเลยค่ะ.... จากคุณ : Olee jan เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 09:57:29

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอให้เด็กๆๆ แข็งแรงค่ะ จากคุณ : TIk-Rungtiwan เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 10:27:57

ความคิดเห็นที่ 22 มาเป็นกำลังใจให้ ชิโร่ kung ค่ะ ดีใจด้วยนะคะ่ ที่หนก๊องปลอดภัีย เพราะแม่หนูก๊องเป็นคนดี สวรรค์ต้องคุ้มครองทั้งจุนแม่ จุนลูกค่ะ จากคุณ : เหลยเซิ่ง เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 11:01:37

ความคิดเห็นที่ 23 โหวตค่า จากคุณ : Ponk Club เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 11:03:50

ความคิดเห็นที่ 24 ขอชื่นชมคุณ ชิโร่ฯ ค่ะ จากคุณ : white&simple เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 11:15:14

ความคิดเห็นที่ 25 พี่ต๋อมไหวมั้ย หนูยังอยู่ตรงนี้นะคะพี่  พี่ต๋อมหลังไมค์มาได้ตลอดนะคะ ถ้าหนูอยู่ใกล้กว่านี้  คงได้ช่วยเหลือกันได้มากกว่าเดิม จากคุณ : หลงลูก จนโงหัวไม่ขึ้น (หลงลูก จนโงหัวไม่ขึ้น) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 13:30:43

ความคิดเห็นที่ 26 สู้ๆค่ะ นับถือน้ำใจมากๆ ทำดีได้ดีแน่นอนค่ะ ^^ จากคุณ : PandaNana เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 13:38:39

ความคิดเห็นที่ 27 สุดยอดมากๆ ขอชื่นชมคุณ ชิโร่ฯ ด้วยค่ะ จากคุณ : frozenred เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 13:48:50

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณสวรรค์...ที่ส่ง คุณชิโร่ kung มาอยู่บนโลกใบนี้... เป็นกำลังใจให้ค่ะ... จากคุณ : สีขี้ม้า เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 15:20:09

ความคิดเห็นที่ 29   งานเข้าเต็มๆ พี่ต๋อม เหนื่อยหนักอีกแร้ว จากคุณ : coolchic เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 17:08:02

ความคิดเห็นที่ 30   คุณคือ ยอดมนุษย์ของน้องหมาจริงๆ เรายังไม่สามารถทำได้เท่าเศษเสี้ยว ของคุณเลย เป็นกำลังใจให่นะค่ะ จากคุณ : HuGLovE เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 21:55:54

ความคิดเห็นที่ 31   ...........รู้สึกดี....ไม่รู้จะบอกยังไงค่ะ จากคุณ : มะนาวย้อมสี เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 23:02:34

ความคิดเห็นที่ 32 ชื่นชมในน้ำใจที่มีให้ต่อน้องๆเด็กๆ ที่น่าสงสารค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ และขอให้หนูก๊องส์กับเด็กๆทุกตัวที่คุณชิโร่ ดูแลอยู่แข็งแรงๆ ค่ะ จากคุณ : tappa เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 23:11:06

ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อวานตอนเย็น กลับไปดูลูกหมาลายเสือที่วัดอีกรอบ เครียดกว่าเก่า เจอลูกหมาทั้งหมด 3 ตัว ยังเล็กทั้งนั้น พยายามคิดในแง่ดี อาจจะเป็นลูกหมาที่วัด เลยเอาข้าวต้มคลุกอาหารซองของน้องเอ็กซ์กับใส่นมผง ไปให้กิน แล้วกลับไปดูตอนใกล้ค่ำ ด้วยคิดว่า ถ้าเป็นลูกหมาที่วัด มันต้องแยกย้ายตามแม่ไป ปรากฏว่า ลูกหมาทั้ง 3 ตัว นอนกอดกันที่ใต้พุ้มเข็มข้างบ่อน้ำพุ มั่นใจ ลูกหมาถูกทิ้งแน่ ๆ  และคงตากฝนมาทั้งคืน เพราะเล็กขนาดนี้คงไม่มีปัญญา วิ่งไปหลบที่ไหน จชตัดสินใจ อุ้มทั้งหมดใส่รถ กลับมาไว้ที่โรงเรือนก่อน เอาเบาะนอนที่บ้านไปด้วย ให้เขาอยู่บนแค่ เมื่อเช้าไปดู อาหารที่ให้ไว้เกือบหมด อากาศเย็น ฝนตกทั้งวัน ดีแล้ว ตัวเล็ก นอนในโรงเรือนนั่นแหละ อย่างน้อย ถ้าหนูต้องตาย เพราะติดโรคจากที่วัดนี้ ก็ยังดีกว่า นอนหนาวตากแดด ตากฝนตายที่ลานวัดนะ ส่วนจิ๋วหลิว ลูกหมาตัวเล็กที่สุด ที่เราอุ้มกลับบ้านตในวันแรก ตอนนี้ยังอยู่ที่บ้าน เขาอ่อนแอเกินไป ที่จะทิ้งไว้ที่วัด ขอให้จิ๋วหลิวแข็งแรง และหาคนที่อยากได้ไปเลี้ยงนะลูก ส่วนคนทิ้ง อย่าให้เจอหน้า ขอด่าสักครั้งเถอะนะ จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 11:08:59

ความคิดเห็นที่ 34 โพสซ้ำค่ะ ขออภัย แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 53 21:11:58 จากคุณ : แม่หนูดี (kantakart) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 21:10:59

ความคิดเห็นที่ 35 ^ ^ แค่ด่าเองเหรอ ?? ใจดีเกินไปแล้วเจ๊ต๋อม เฮ้อ.. อ่านเรื่องเศร้า ตอนไม่ฉะบาย หัวใจอ่อนแอเป็นบ้าเลยอ้ะ  ไม่รู้ที่คัดจมูกนี่เพราะเด็กๆ เหล่านี้หรืออาการไข้หวัดกันแน่หนอ ?? เรื่องยาบอกมาเลยนะคะ เต็มใจช่วยเสมอ จากคุณ : แม่หนูดี (kantakart) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 21:11:12

ความคิดเห็นที่ 36 เรื่องเล่า เรื่องนี้เศร้าอะ น้ำตาไหลเลย สู้สู้นะคุณนาย จากคุณ : แก๊งค์ขาลอย เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 22:27:39

ความคิดเห็นที่ 37 ตามอ่านมาทุกภาคเลย ... ขอให้เจริญ ๆ ยิ่ง ๆ ขึ้นไปคะ เหมือนนางฟ้าของหมา แมวจรเลย ^^ จากคุณ : allize-oumiim เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 22:35:50

ความคิดเห็นที่ 38   ใครเอามาทิ้งได้ลงคอ..วะ.. เวรกำ เจงๆ สู้เค้านะเจ๊ อยากรวย 1 หมื่นกว่าล้านแบบใครบางคน..อิอิ...จะได้บริจาคให้บัญชีต่างๆในพันทิปไปเลย บัญชีละ 2 ล้าน 555 จากคุณ : coolchic เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 22:44:14

ความคิดเห็นที่ 39 โห ปุ๊ก รวยตั้งหมื่อนล้าน บริจาค 2 ล้านเองเหรอ ที่เหรอทำไรอ่ะ เดี๋ยวมันทับตายนะ จะบอกให้ จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 09:19:38

ความคิดเห็นที่ 40   น้องต๋อม ช่วงนี้ไม่ว่างเลยจร๊า แต่ยังเป็นกำลังใจให้น้องอยู่ซำเหมอนะจ๊ะ สู้ ๆ จร๊า จากคุณ : แก้ว (ging_gong_kaew) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:39:49

ความคิดเห็นที่ 41   ขอขอบคุณ คุณ ชีโรคุง แทนน้องหมาทั้งหลาย เราดีใจมากที่ได้รู้จักคนดีๆอย่างคุณ ขอให้คุณจงมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : aurs04 เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 22:43:39

ความคิดเห็นที่ 42 ******เรื่องเล่าของหมาถูกทิ้ง ภาค 6 ******* จากคุณ : ชิโร่ kung เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 00:30:43