ความคิดเห็นที่ 1 หัวใจหลักในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายเซลล์เดียว หรือน้ำเขียว  คือ เพิ่มสารอาหารลงในน้ำนะครับ  ไม่ใช่การทำให้น้ำจะเน่า  ให้โดนแสงแดดจัดๆ  เดี๋ยวไม่นานน้ำจะเขียวขึ้นมานะครับ  แต่ช่วงนี้มีฝนตกและแสงแดดมีน้อยลง  ทำให้เกิดปัญหาในการเพาะเลี้ยงน้ำเขียว ....ลองศึกษาเลี้ยงแพลนตอนสัตว์ด้วยก็ดีนะครับ  ป้องกันน้ำเขียวขาดแคลน  จะได้นำมาทดแทนกันได้ครับ จากคุณ : ญี่ปุ่น35 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 15:09:32

ความคิดเห็นที่ 2 เอ่อ...ลองไปหาซื้อหัวเชื้อน้ำเขียวดูดีไหมค่ะ จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าเริ่มแรกเลยเพาะแบบไหน แต่สูตรคร่าวๆของการทำหัวเชื้อจะมี  รำละเอียด  ปุ๋ยยูเรีย ปุ๋ยสูตร 15-15-15   อามิ    ซึ่งต้องดูขนาดของบ่อที่จะทำการเพาะด้วยค่ะ  แล้วหัวเชื้อจะต้องตากแดดตลอดเวลาอ่ะคะ ถ้าอยากทราบรายละเอียดลึกๆ เด่วจะโทรไปถามคุณแม่ให้ค่ะ ที่บ้านเคยเพาะไรแดงขาย  แต่ตัวเองไม่ได้ลงไปทำค่ะ  เลยไม่ได้จำสูตรไว้ จากคุณ : MahhOnLine เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 15:22:39

ความคิดเห็นที่ 3 ^ _^   ทำไมคุณ จขกท  คิดเรื่องยากจังคะ เลี้ยงสาหร่าย เพื่อให้เกิดไรแดง   และเลี้ยงไรแดง เพื่อให้ไว้เลี้ยงปลา โอ้วิธีการคิดซับซ้อนมากเลยค่ะ  นี่ยังไม่รวมกระบวนการเพื่อให้เกิดสาหร่ายนะคะเนี่ย การเลี้ยงปลามันไม่ยากขนานน้านนนนนนนน   ไม่ทราบว่าคุณต้องการเลี้ยงปลาอะไรคะ  เพราะที่บ้านก็เลี้ยงอยู่ค่ะ ส่วนมากก็เป็นปลาหางนกยุงกับปลาเงินปลาทองค่ะ   บ่อขนาด กว้าง X ยาว X ลึก  = 1m x 2.5m x 0.5m     วิธีการก็ง่ายๆ  สร้างบ่อเสร็จก็พักน้ำไว้ในบ่อ  สัก สองถึงสามน้ำใช้เวลาประมาณ  หนึ่งอาทิตย์ หลังจากนั้นก็สังเกตดูว่าบ่อใสสะอาดหรือยัง  เพราะว่าถ้ายังมีเศษปูน หรือ คราบปูนอยู่ใส่ปลาไปน้องปลาอาจตายได้    แต่ถ้ามั่นใจว่าบ่อใสสะอาดแล้ว ก็เอาน้ำประปาที่ถูกเก็บไว้จนแทบจะไม่มีกลิ่นคลอรีน  เอามาใส่บ่อแล้วก็ เลี้ยงปลาได้เลยค่ะ  ให้แห(น่าจะเรียกแบบนี้นะ)  ที่ติดมากับผักกระะเฉดอ่ะค่ะ ให้มาใส่บ่อไว้บ้างน้องปลาสามารถกินแหได้ค่ะ   เมื่อเลี้ยงนานๆก็จะเกิดน้ำ เขียวๆ   ขึ้นเองตามธรรมชาติได้ค่ะ   พอจะนึกออกมั้ยค่ะ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าไม่ลืมจะถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 21:06:14

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้ววววว ขอบพระคุณมากๆ ครับ ทั้งสามท่าน ได้ความรู้ทั้งสามท่านเลยครับ คห. 1 พี่ ญี่ปุ่น35 ครับแล้วอย่างมูลกระต่ายกับฉี่กระต่ายนี่ถือว่าเป็นสารอาหารของ สาหร่ายได้หรือเปล่าครับ ถ้าผมเอามูลกับฉี่กระต่ายจำนวนพอเหมาะผสมน้ำระดับหนึ่งโดยที่ไม่ให้น้ำเน่า จะได้หรือเปล่าครับ และ ตะไคร่สีเขียวๆ ในสายยางน้ำใส ของผมนี่คือสาหร่ายที่นำมาทำน้ำเขียวได้ใช่มั้ยครับ และน้ำเขียวทีว่านี่ แบบ คห. 3 พี่ รักนะแต่ไม่แสดงออก ว่าไว้หรือเปล่าครับ คห. 2 พี่ MahhOnLine ครับ พวกอาหารของสาหร่าย คลอเรลลา นี่ผมพอจะมีข้อมูลครับ แต่อยากจะลองหาสิ่งที่หาได้ภา่ยในบ้้านก่อนหน่ะครับ อย่างไรก็ขอขอบคุณในน้ำใจมากๆ เลยนะครับ ที่อุตส่าห์จะถามคุณแม่ให้เลย คห. 3 พี่ รักนะแต่ไม่แสดงออก ครับ น่านสิครับ ผมคิดเยอะเกินไปหรือเปล่า แต่ตอนแรก ที่คิดเนี่ย ผมคิดว่าจะเพาะพันธุ์ปลาหางนกยูง ฟูลเรด กับ ปลากัด ขายหน่ะครับ เลยคิดจะเพาะไรแดงไว้เป็นอาหารเองครับ (เห็นว่าถ้าให้ไรแดง สีของปลาจะสวยสด กว่าการให้อาหารเม็ดอย่างเดียว) เพราะแถวบ้านผม (นวมินทร์) ไม่มีร้านขายปลาเลยครับ ครั้นจะไปจตุจักร ก็คิดว่า ค่าเดินทางคงมากโขจนไม่สามารถทำกำไรได้จากการขายปลาเล็กๆ น้อยๆ หน่ะครับ เลยคิดแบบนี้ครับ ขอบพระคุณทุกๆ ท่านมากเลยครับ ช่วยแนะนำด้วยนะครับพี่ๆ ครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 22:40:02 จากคุณ : เอ..ชีวิตมันขาดไรไปน๊า เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 22:36:18

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ลองเพาะเลี้ยงหนอนจิ๋วแทนอะครับ  ง่ายกว่ากันเยอะเลย ....สูตรการเพาะง่ายแบบสุดๆ  และต้นทุนต่ำมากๆ  คือ ใช้แป้งมัน + ยีส ( ที่ใช้ทำขนมปัง..เน้นของถูก ) + ใส่น้ำให้อาหารเลี้ยงมีความเหลวตามต้องการ  แล้วใส่เชื้อหนอนจิ๋วขยายได้เลย (อัตราส่วนผสมให้ทดลองผสมเอาเองนะครับ) ปล.ระวังแมลงหวี่ จะมาเกาะแล้วว่างไข่  เดี๋ยวจะมีปัญหาตามมา ( สูตรนี้ผมทดลองมานานแล้วไม่เคยบอกใครเลยนะนี่  อิอิ ) อีกอย่างหนอนจิ๋วหาซื้อที่ ตลาดJJ ได้ง่ายราคาไม่แพงมากจนเกินไป  ไม่เกิน 50 บาท แล้วเราสามารถใช้ขยายได้ตลอดไปเลย จากคุณ : ญี่ปุ่น35 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 01:12:24

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณพี่ญี่ปุ่นมากๆ ครับ ลองไปเสิร์ซ เรื่องหนอนจิ๋วมาแล้วครับ น่าสนใจดีทีเดียวครับ ขอบพระคุณมากๆ เลยนะครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 23:39:23 จากคุณ : เอ..ชีวิตมันขาดไรไปน๊า เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 23:36:05

ความคิดเห็นที่ 7 อ้าวจะเพาะไปขายหรือคะ   ตอนแรกคิดว่าเลี้ยงปลาไว้ดูเล่น ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ทราบแล้วอ่ะค่ะ  ว่าทางการค้าต้องเลี้ยงแบบใหน เพราะที่เลี้ยงอยู่  เลี้ยงแบบบ้านๆอ่ะค่ะ  ไม่ได้เร่งให้โตและก็ไม่ได้ต้องการ ให้สีสวยอะไรมากมายนัก    อันนี้เป็นบ่อที่เลี้ยงไว้ค่ะ   พึงทำได้ประมาณ ๒  เดือน  จะสังเกตุว่าเริ่มสีเขียวๆที่ขอบบ่อนะคะ  ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมาก ทำให้ต้องตักน้ำในบ่อทิ้งประจำเลยค่ะ  เพราะถ้าไม่อยู่บ้านถ้าว่าฝนตกมา น้องปลาจะหลุดไปค่ะ  กะว่าหายหน้าฝนจะไปซื้อน้ำตกเล็กๆมาใส่ในบ่อด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 53 01:27:52 จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 01:21:15

ความคิดเห็นที่ 8 อันนี้เป็นบ่อบัวเล็กๆค่ะ  เริ่มมีดอกบัวตูมๆมาบ้างแร้วค่ะ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 01:22:58

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนนี่เป็นบ่อผักกระะเฉดค่ะ  รอให้น้ำลดๆกระเฉดน่าจะทานได้ค่ะ ทุกวันจะต้องตักน้ำผักกระะเฉดไปใส่บ่อปลาค่ะ  เพราะว่าปลาจะกินแหค่ะ จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 01:24:55

ความคิดเห็นที่ 10 ลืมรูปซะนั้น จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 01:25:30

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้โห พี่ รักนะแต่ไม่แสดงออก ครับ บ่อสวยมากเลย อยากทำบ้างจัง แต่ข้างบ้านเลี้ยงแมวสิบกว่าัตัวอ่ะ กลัวทำมาแล้วปลาหาย T T ขอบคุณที่เข้ามาแนะนำนะครับ ^^ จากคุณ : เอ..ชีวิตมันขาดไรไปน๊า เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 12:38:23