 |
+++ น้อง Fidea – Poodle ข้างถนนผู้น่าสงสาร ..หาบ้านอุปการะค่ะ +++
|
|
เดิมที น้องได้บ้านแล้ว..แต่ตอนนี้ทางผู้อุปการะแจ้งว่า เข้ากับหมาเดิมไม่ได้ และมีปัญหาบางอย่าง จึงต้องมาหาบ้านใหม่
ประวัติของน้อง ได้รับความช่วยเหลือจากคุณกิดาการ ( ล็อคอิน บรูโน่ ) ในเบื้องต้นและคุณนกสุนารี รับมาช่วยเหลือต่อ ตามนี้นะคะ
20/2/2010
+++ 9.00 ผมเดินผ่านวัด St. Louis เพื่อไปทานอาหารเช้าที่โรงพยาบาล ระหว่างทาง เห็น Poodle ตัวหนึ่งไกลๆ อายุประมาณ 3-4 ปี ไปวิ่งมา ตลอดเวลา ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นสุนัขของคนที่มาวัด พามาเล่นด้วย ไม่ทันได้คิดอะไร
+++ 10.00 หลังจากทานเช้าเสร็จ เดินผ่านบริเวณเดิม สุนัขตัวเดิม ยังคง วิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา แต่คราวนี้ วิ่งอยู่ใกล้ๆผม และรอบๆผม ท่าทางมัน ตื่นกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย ตื่นสถานที่ ทำให้ต้องวิ่งไปมาตลอดเวลา ลองนึกภาพสิครับ
ผมจึงยืนดูมันประมาณ 5 นาที และทำให้คาดเดาได้ว่า สุนัขตัวนี้ เพิ่งถูกนำมาปล่อยแน่นอน ท่าทางมันตื่นกลัวและน่าสงสารมาก
ผมตัดสินใจสอบถามเพิ่มเติมจากภารโรง และคนสวน ได้ความว่า สุนัขตัวนี้ เข้ามาอยู่ในบริเวณวัด ประมาณ 3 วันแล้ว โชคดี ที่คุณพ่อเจ้าอาวาสยังไม่เห็น เพราะนโยบายนี่คือ ไล่ออกไปทุกตัว มิฉะนั้น จะมีคนนำมาปล่อยอีก แม้กระทั่ง สุนัขของ เอกอัครราชทูตวาติกัน ที่อยู่รั้วติดกัน คุณพ่อก็ไม่อนุญาต คนสวนบอกว่าโชคดีที่คุณพ่อยังไม่เห็น
ผมยืนชั่งใจอยู่ 5 นาที ว่าจะทำอย่างไร ระหว่างปล่อยไปตามกรรม กับ หา shelter ให้อยู่ ระหว่างนั้นก็ มองตามมันที่วิ่งไปมาตลอดเวลา ด้วยความตื่นกลัว
ในที่สุดผมทำใจไม่ได้ครับที่จะไม่ทำอะไรเลย จึงค่อยๆลำดับความคิด 1. จับตัวซ่อนไว้บางมุมไม่ให้ใครเห็น มิฉะนั้นจะถูกไล่ 2. มันถูกนำมาปล่อย หิวโซ ไม่รู้ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน - ต้องหา อาหารให้ 3. ดูจากสภาพ เจ้าของเลี้ยงตามมีตามเกิด พอเป็นโรคผิวหนังจนรับไม่ได้ ก็เอามาปล่อย – ต้องรักษา 4. ต้องหาที่อยู่ให้
ผมไม่แน่ใจว่าใครจะจับมันได้ และจะได้ตัวมาเมื่อไหร่ จึงได้ดำเนินการตามลำดับดังนี้ ให้ค่าใช้จ่ายคนสวนหาอาหารให้มัน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ให้เบอร์โทรผมไว้ ขอให้เขาพยายามสร้างความคุ้นเคย จับได้เมื่อไหร่ ให้โทรหาผม เพื่อเคลื่อนย้ายไปที่อื่นไปหายารักษาโรคผิวหนังมาให้ผสม กับลูกชิ้น
ผมจึงออกจากโบสถ์เพื่อไปหายา
11.00 ผมกลับมาพร้อมกับยา ตั้งใจแค่จะสอนคนสวนว่าให้ยาอย่างไร ปรากฏว่า พระเจ้าช่วยผมครับ คนสวนแจ้งว่า จับ Poodle ตัวนี้ได้แล้วโดยปาฏิหาริย์ (1) และมันเชื่องน่ารักมาก ตอนแรกผมนึกว่าต้องรออีกหลายวัน คิดแม้กระทั่งว่าต้องยิงยาสลบ
ผมจึงดำเนินการตามลำดับครับคือ ให้ยา ไปซื้ออาหาร และน้ำให้ สุนัขตัวนี้ เชื่องและน่ารักอย่างที่คนสวนว่า ครับ ผมเห็นมันกินน้ำและ อาหาร เหมือน ไม่ได้กินอะไรมาเป็นสัปดาห์ ระหว่างนั้น ผมเริ่มดำเนินการหา Shelter ให้มันต่อ
ปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 ในวันเกิดขึ้นครับ ผมติดต่อมูลนิธิหนึ่ง (ขอสงวนนาม เนื่องจากไม่ต้องการให้เป็นภาระต่อมูลนิธิ) ซึ่งผมให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว ยินดีรับเลี้ยงให้โดยไม่บ่ายเบี่ยง แต่มีเงื่อนไขคือ 1. ต้องพาไปตรวจรักษาโรค และฉีดวัคซีนทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน 2. หากมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุนัขตัวนี้หลังจากนั้น จะต้องขอการสนับสนุนจากผม
ผมยอมรับในเงื่อนไขทั้งหมด รอจนสุนัขทานน้ำและข้าวหมด ให้เวลาพักช่วงหนึ่ง แล้วพยายามขนขึ้นรถ ระหว่างรอ ผมจัดการ Cancel นัด และ Plan ทั้งช่วงบ่าย เนื่องจากยังไม่ทราบว่าต้องใช้เวลาที่ คลินิก และ มูลนิธิอีกนานเท่าไหร่
ผมค่อยๆเกาะเชือกจากคอมันด้วยความกลัว ยิ่งระยะนั้นมีข่าวผู้เสียชีวิตจากสุนัขใน Farm ที่จตุจักรกัด ผมยิ่งกลัว แต่ปรากฏว่า และแล้ว ปาฏิหาริย์ครั้งที่ 3 ก็เกิดขึ้นครับ มันไม่ดุเลย และพอเริ่มสัมผัสตัวมัน ลูบหัวมัน (ทั้งที่สภาพตอนนั้นดูไม่ได้เลย) หงิงๆ ดีใจ และเอาตัวเข้ามาไถ และซุกที่ขาผม เสมือนมันรับรู้ได้ว่ามีคนมาช่วยแล้ว ทำให้ผมรู้ว่ามันถูก mistreat และทอดทิ้งมาเป็นเวลานาน ผมอุ้มมันขึ้นวางบนพื้นรถยนต์ข้างคนขับอย่างง่ายดาย
ระหว่างทางไปคลินิกที่ทางมูลนิธิประสานงานไว้แล้ว ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ทุกครั้งที่รถติด ผมจะคุยกับมัน ลูกหัว เกาคางมัน นับเป็น 1 ชั่วโมง ที่มีค่ามากครับ มันร้องหงิงๆ เหมือนดีใจ และ พยายามเงยหน้าสบตาผม พยายามย้ายที่ มาหาผม ผมต้องพยายามตบหัว และพูดคุยเพื่อให้มันสงบ
12.30 ผมมาถึง คลินิก และแจ้งโจทย์กับสัตว์แพทย์ ตามที่ตกลงกับมูลนิธิคือ
อาบน้ำ ฆ่าเห็บ หมัด เจาะและตรวจทุกอย่างโดยละเอียด ทำหมัน ผ่าตัด วัคซีนทุกชนิด กักตัว กักโรค รอผล และรักษา แผลผ่าตัด พักฟื้น 1-2 สัปดาห์ ตรวจซ้ำ ทำทุกอย่างตามที่พึงปฏิบัติกับสุนัขจรจัดแรกรับ
ระหว่างกรอก ประวัติ แจ้งรายการตรวจ คิดค่าใช้จ่าย และเจรจาเพิ่มเติมกับมูลนิธิ มันเชื่องมากครับ ไม่ซนไม่เห่า แต่ซุกอยู่ที่ขาผมตลอดเวลา ผมรู้สึกดีกับมันมากๆ เจ้าหน้าที่ถามชื่อสุนัข ผมทราบว่าเป็นเพศเมีย เลยตั้งว่า Fidea ครับ
เจ้าหน้าที่แจ้งค่าใช้จ่ายมาค่อนข้างสูง และร้านนี้ ไม่รับบัตรเครดิต จึงต้องยืมเงินเพื่อนอีกคนหนึ่งมาจ่าย (ซึ่งก็เหมือนปาฏิหาริย์ (4)อีกครับ เพราะยืมปุ๊ป โอนปั๊ป) เพราะไม่ต้องการทิ้งบิลไว้เป็นค่าใช้จ่ายของมูลนิธิ หลังจากนี้ 1-2 สัปดาห์ ทางมูลนิธิจะรับไปดูแลเอง
ผมบอกลาน้อง Fidea ด้วยความรู้สึก งงๆ ปนดีใจ ปนเศร้า ปนเสียใจ
งง..... ที่ ผมเพิ่งเจอ น้อง Fidea เมื่อเช้านี้ แต่ ภายใน 3 -4 ชม. เราสามารถ จับตัวมันได้ ให้อาหาร มันได้ ปฐมพยาบาล ขั้นต้น ส่งเข้าคลินิก และหามูลนิธิดูแลต่อได้ ในวันเดียว ทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ผมเชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์ จากพระเจ้า ที่ต้องการให้ผมจัดการช่วยเหลือ น้อง Fidea ในขั้นต้น เหมือนทุกอย่างมีใบเบิกทางมาก่อน จะยืมเงินก็ได้มาง่ายๆ
ดีใจ....ที่ช่วยหาบ้านชั่วคราวคือมูลนิธิให้มันได้ ดีใจที่ได้จัด course รักษาพยาบาล ให้มันดีที่สุดตามที่ทาง คลินิกจะจัดให้ได้ ดีใจที่ มันได้ทานข้าว มีน้ำดื่ม และดีใจที่สุดคือ ทำให้มันได้รู้ว่ายังมีคนรักมันอยู่
เศร้า.... ที่ผู้คนขาดความรับผิดชอบในสัตว์เลี้ยง เศร้าที่เราไม่มีกฎหมายเด็ดขาด น่าแปลกที่ SG / HK มองไปทางไหนก็เจอสุขัขจรจัดเลย ไม่ทราบเขาทำได้อย่างไร
เสียใจ.... ที่ดูแลมันด้วยตัวเองไม่ได้ เนื่องจาก Apartment ผมไม่อนุญาตให้เลี้ยงสุนัข ส่วนพ่อแม่ผม อายุ 73 และ 66 และเลี้ยงแมวเต็มบ้าน หากเอาภาระไปให้ผมมองว่าก็อาจจะเป็นบาปเหมือนกัน
28/3/2010 หลังจากที่ผมเอาภาระไปให้มูลนิธิในวันแรก แม้ผมจะดูแลค่าใช้จ่ายที่ คลินิกให้ทั้งหมด และได้ฝากค่าเลี้ยงดูไว้ด้วย แต่ก็ยังคงรู้สึกผิดตลอดเวลา ว่า มูลนิธิดูแล หมาแมวอยู่กว่า 900 ตัวแล้ว เราทำถูกหรือเปล่าที่ไปเพิ่มภาระให้เขา นอกจากนี้ น้อง Fidea ที่ผมได้รู้จักแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมสัมผัสได้ว่าสัตว์โลกผู้อ่อนโยนตัวนี้ ไม่น่าจะถูกนำไปขังในกรงพื้นที่จำกัด ซึ่งมีแต่เสียงเห่าหอนรอบๆ รบกวนสุขภาพจิต และอาจนำไปสู่พฤตกรรมก้าวร้าวในอนาคต ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดของมูลนิธิแต่อย่างใด ผมก็เข้าใจดีว่าแต่ในความเป็นจริงคงเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดเจ้าหน้าที่พาสุนัข ทุกตัวเดินเล่นทุกวันจนครบ 900 ตัว และทางมูลนิธิก็ได้พยายามช่วยเหลือดีที่สุดแล้ว
วันนี้ผมจึงตัดสินเยี่ยมน้อง Fidea อีกครั้ง เพื่อติดตามการรักษาโรคผิวหนัง และดูว่าจะช่วยมูลนิธิอะไรเพิ่มได้บ้าง
ครั้งแรกเจ้าหน้าที่ถามผมว่าผมเป็นเจ้าของหรือผู้ เก็บมา ซึ่งนั่นทำให้ผมได้ข้อคิดว่า คงมีเจ้าของที่ไม่รับผิดชอบ พอเลี้ยงไม่ได้ก็เอามาทิ้งเยอะมาก เขาจึงถามแบบนั้น
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า Fidea เชื่องและว่าง่ายครับ สำหรับโรคผิวหนังคงใช้เวลาอีกประมาณ เดือนกว่าจึงหายสมบูรณ์ ขณะนี้ อยู่ภายใต้การดูแลของ resident vet ได้อาบน้ำสัปดาห์ละครั้ง
เจ้าหน้าที่พาผมไปที่กรง ระหว่างทางต้องผ่าน กรงอีกนับร้อย และเสียงเห่าหอนตลอดเวลา ถ้าเรารักหมาตัวไหนคงไม่อยากให้ไปอยู่แบบนั้น เพราะอยู่ในกรงพื้นที่จำกัด แล้วเสียงเห่าหอน เหล่านั้นก็ทำให้เสียสุขภาพจิตด้วย ผมไม่อย่างให้ น้อง Fidea อยู่ในที่แบบนี้ ผมได้แต่คิดว่าทำไมผมแม้พยายามช่วยเต็มที่แล้ว แต่ถึงช่วยได้ไม่สุด
เมื่อมาถึงกรง ผมดีใจที่ได้พบมันอีก แน่นอนครับ มันจำผมไม่ได้ในตอนแรก พี่เลี้ยงมันพยายามเอามันออกมา แต่ตอนแรกมันไม่ค่อนกล้า คงเป็นเพราะ ถูก mistreat มามากจากเจ้าของเดิม และการถูกทิ้งในวัด ประกอบกับเสียงสุนัขตัวอื่น เราใช้เวลาพักนึงทำให้มันสบายใจ เราเอาออกมาจนได้ ผมขออนุญาตพามันออกมาเดินข้างนอก เนื่องจากเข้าใจว่าอยู่ใน นั้นเดือนกว่า คงไม่ได้เดินแน่ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อลีบได้
น้อง Fidea ยังคงเชื่องน่ารักว่าง่ายเหมือนเดิมครับ แต่ต้องใช้เวลาสร้างความคุ้ยเคยพักนึง มันคงดีใจที่ได้ออกจากกรงมาเดินเล่น ผมอยู่กับมันพักนึงก็ส่งมอบสายจูงให้เจ้าหน้าที่ครับ ไม่อยากเดินเข้าไปส่งที่กรง ครับ ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นมันต้องกลับเข้าไปอยู่ในกรง ทนไม่ได้ที่จะต้องได้ยินเสียงเห่าหอนของตัวอื่น
คุณผู้อ่านครับ เราเลือกได้ ที่จะไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนั้น แต่ Fidea ……. เลือกไม่ได้ครับ
น่าอิจฉา Poodle ตัวอื่นๆครับ ที่มีคนอาบน้ำตัด /แปลง / ยี ขนกันทุกอาทิตย์ น้อง Fidea ช่างอาภัพ
ผมจึงวอนขอความเมตตาท่านผู้อ่านผู้มีใจกรุณาช่วย อุปการะน้อง Fidea ไว้ด้วยจักเป็นพระคุณอย่างสูง โดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูมันอย่างดี หรือ groom ตามแบบ Poodle ทั่วไปขอแค่เลี้ยงรวมกับตัวอื่น ขอให้เค้าไม่ต้องอยู่ในกรง และมีอาหารวันละมื้อก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
สำหรับเรื่องการรักษาโรคผิวหนังซึ่งประเมินว่าใช้เวลาอีก 1-2 เดือนขนจะขึ้นสวยนั้น ผมยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายครับ
โดยความช่วยเหลือของท่านนั้นจะนำคูณประโยชน์กับหลายฝ่ายด้วยกันครับ ท่านมีส่วนแบ่งเบาภาระของมูลนิธิ เพื่อให้เขาไปช่วยตัวอื่นต่อได้ เป็นประโยชน์ 2 ต่อ เป็นบุญกุศลกับท่านเองในฐานะเจ้าของใหม่ที่มีใจกรุณารับเลี้ยงน้อง Fidea การที่ท่านรับน้อง Fidea ไป จะถือเป็นกำลังใจสำคัญให้ผมได้ช่วยเหลือผู้อื่น / สัตว์ตัวอื่นต่อ ผมช่วย, เพื่อนผมช่วยให้ยืมเงิน, มูลนิธิช่วย, ท่านช่วย, เรากำลังช่วยกันสร้างสังคมที่ดีขึ้นครับ ที่สำคัญที่สุด คือช่วยให้ ปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้ายในชีวิต ของน้อง Fidea เป็นจริงครับ คือการมีเจ้าของที่ รักและดูแลมัน ช่วยลบล้างความรู้สึกของการถูกทอดทิ้ง mistreat ไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย ออกไป ให้มันได้มีบ้านถาวรหลังสุดท้ายของ ที่มันจะได้อาศัย ความเมตตาของท่านอยู่ไปได้.......จนสิ้นลมหายใจ
*รูป Fidea ในรูปตัวเปียกเพราะเพิ่งอาบน้ำมาครับ แต่ไม่มีใครเป่าให้ เช็ดตัวก็ไม่มี
จากคุณ |
:
Elza
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ย. 53 18:48:57
|
|
|
|  |