เอาเรื่องฮา ประจำตัว ก่อน เรื่องอื่นที่หลัง
มิส J. คันโม้วซิแดรว์
กาลครั้งนึง ในปี 2553
มีหญิงสาววัยทำงาน ใช้ชีวิตตามปกติ ทุกวัน ทุกวัน
วันนึง อาบน้ำอาบท่า ลูบไล้เนื้อตัว
เกิดไปพบตุ่มนูนๆ ขึ้นที่หนึ่งในร่างกาย
ด้วยความกังวลใจมากก จึงได้ปรึกษาเพื่อนๆ หญิง (คอย บน คาน)
เพื่อนคนหนึ่ง เคยทำงานเป็นลูกจ้างรพ. ราชวิถี ใกล้ชิดกับหมอ ออกความเห็นว่า อาการแบบนี้ ต้องหาหมอโดยด่วน 
หญิงสาวผู้ที่มีตุ่มนูนบนร่างกาย จึ่งไปรพ. เอกชน เพื่อพบสูตินรีแพทย์
(
ทีนี้ ก็รู้กันเลยละจิ ว่าตุ่มมันขึ้นที่หนายยย)
หมอผู้หญิง ให้ไปใส่ผ้านุ่ง แล้วมาขึ้นขาหยั่ง (สำหรับคนไม่เคยน่ะ น่ากลัวมากกกกกก
โลหะเย็นเจี๊ยบเยย)
หมอตรวจแล้วบอกว่า......อ๋อ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่ "ขนคุด" เด๋ว หมอจะกรีดออกให้นะคะ ขอเตรียมยาชาก่อน
(หันไปหยิบเข็มฉีดยา ดูดยาจากขวด)
ที่เห็นน่ะเข็มมันเล็กมากๆ เล็กกว่าเข็มที่ดูดเลือดตอนบริจาคโลหิตต้องเยอะแน่ะ (คิดว่า ขนาดไม่น่าเกิน 1 มิลลิเมตรน่ะ)
หมอจิ้มเข็มลงไปยังบริเวณที่จะต้องกรีดเอาขนคุดออก
โอ้ว พระเจ้าหมากเก๊บ ทำไมมันเจ็บ จั๋งซี่
มือสองมือ จิกหน้าขาไว้แน่นเลย น้ำตาไหลพรากๆ
หมอดำเนินการ อะไรก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
รู้แต่วา หมอเอาสำลีก้อนเบ้อเร้อกะผ้าก๊อซมาแปะแผลให้ แล้วแถมด้วย "สายสะพาย" ปลาสเตอร์คาดตั้งแต่ ใต้สะดือ จนถึง ก้นกบน่ะคะ
ประมาณว่าได้ตำแหน่งอันทรงเกียรติ อะไรยังงั้น ตอนออกจากห้องหมอมา เพื่อนๆ ต๊กกะใจ ทำไม เอ็งเดินขา ถ่าง ท่าประหลาดงั้นฟระ
พอรู้ว่า เป็นอะไร ก็เลย ตั้งชื่อ คันโม้วซิแดรว์ ให้ คิดว่า เหมาะแก่ความยาวของสายสะพายดี 
แต่เด๋วก่อน ยังไม่หมดนะ พอกลับบ้านจาอาบน้ำ ลอกสายสะพายได้หน่อยนุง
ปรากฎว่า
ต้องใช้กรรไกรแทน
ผลคือ การไปรพ. ครั้งนั้น ทำให้ได้ผมล่างทรงใหม่มาด้วย
และตอนนี้ มีคนมาสมัครเป็นน้องสาวชื่อ "มิส เกาโม้วซิแดรว์" แว้ว 