เริ่มเลยดีกว่า...... 1. สินค้า การจะขายสินค้างานฝีมือ ให้เป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จได้ สินค้าของคุณจะต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่คนอื่นไม่สามารถทำสินค้านี้ในแบบฉบับของคุณได้ พูดง่าย ๆ คือต้องมีความเหนือชั้นที่แตกต่าง ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เรือจำลองที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปนั้น เป็นเรือจำลองที่มักใช้สี เข้ามาเป็นองค์ประกอบเสริมความสวยงาม แต่เรือจำลองของคุณพ่อไม่ใช้สีแต่เน้นนำเสนอสีที่เป็นธรรมชาติของไม้สักทอง และสร้างจุดขายจากผลงานที่ประณีตบรรจง เป็นต้น การสร้างเอกลักษณ์ของสินค้า นอกจากตัวสินค้าเองแล้วยังต้องมีคุณค่าที่แตกต่างจากของเจ้าอื่น ๆ ซึ่งคุณต้องคิดให้ออกให้ได้ว่า สินค้าของคุณมีคุณลักษณะใดบ้างที่แตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ และสามารถนำมาเป็นจุดเด่นของสินค้าของคุณได้ อย่าพึ่งคำนึงถึงราคาขาย แต่ให้คิดถึงมุมมองของลูกค้าที่ต้องการมีสินค้าชนิดดีเลิศไว้ในครอบครอง ในขณะเดียวกันความดีเลิศของสินค้าต้องเหมาะสมกับความต้องการและกาลเทศะด้วย ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ต่อให้คุณทำข้าวมันไก่ได้อร่อยเพียงใดก็ตาม ถ้าคุณนำไปขายในหมู่บ้านที่เป็นมังสวิรัติ อย่างไรเสียก็ขายไม่ได้แน่นอน ถูกต้องไหมครับ ? สินค้าที่คุณผลิตต้องรักษาคุณภาพให้สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะมีการสั่งซื้อมากเท่าไรก็ตาม แปลว่าคุณต้องมีการ QC. สินค้าอยู่เป็นประจำ ใครจะไปรู้ว่าลูกค้าที่ซื้อสินค้ารายที่ 1 กับลูกค้าที่ซื้อสินค้ารายที่ 2 อาจจะเป็นเพื่อนกัน แล้วพูดคุยกันถึงสินค้าชนิดเดียวกันที่ซื้อจากเรา จนเกิดการเปรียบเทียบและพบข้อบกพร่องของสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่ง จนเกิดความรู้สึกว่าสินค้าของคุณไม่มีมาตรฐานก็เป็นไปได้ คนทำงานฝีมือ มักจะให้คำตอบตัวเองว่า ไม่เป็นไรหรอก เพราะสินค้าของฉันเป็นงาน Hand Made ไม่ใช้เครื่องจักรทำซักหน่อย แล้วจะให้ออกมาเหมือนกันทุกชิ้นได้อย่างไร ที่ลูกค้าชอบซื้อสินค้าของฉัน นั่นก็เพราะหลงเสน่ห์คำว่า Hand Made นี่แหละ !
จากคุณ |
:
วายุอัคคี
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 53 10:32:43
|
|
|
|