ความคิดเห็นที่ 1 ถึงจะพัฒนาข้าวสายพันธ์ใหม่ชนิดออกเมล็ดสุดยอด เม็ดสวยเรียวงาม หุ่งแล้วหอมน่ารับประทาน แต่นโยบายการส่งออกข้าวของรัฐไม่พัฒนา การส่งเสริมนโยบายพื้นฐานไม่ตอบรับก็หมดแล้วครับ ดูง่ายๆ ช่วงตุลานี้ ข้าวกำลังจะเก็บเกี่ยวได้แล้ว น้ำมาท่วมหมดเลย จะพัฒนาไปทำไม ไม่ได้อยากให้ท่วมก็มากันน้ำไม่ให้เข้ากรุงเทพ ก็เลยท่วมนาข้าวหมด แล้วจะเอาองค์ความรู้ใหม่ๆมาแก้ปัญหาน้ำท่วมนาข้าวยัง มันต้องมาจากการสนับสนุนจากรัฐด้วย จากคุณ : Mr.Review เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 08:42:02

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าเกิดจากค่านิยมมากกว่านะคัรบ แบบว่า เรียนอื่นๆมันเท่ห์กว่าสาวๆกรี๊ด เรียนเกษตรแหวะ ต้องขุดดินตัวดำ สาวไม่มอง คิดง่ายเลยๆตอนผมเรียน ไปจีบสาวๆพอเค้าถามคณะใหน ยี๊ๆๆๆ กันหมด แต่ถ้า วิดวะ นะว้าวๆ กรี๊ดๆๆ หุๆๆ ดังนั้นไม่รู้จะตอบไงดีนะครับ มันเป็นค่านิยมครับ เรื่องงานก็ออกจะเยอะแยะ สบายอีกต่างหาก ดังนั้น ใครคิดจะเท่ห์ก็ให้เท่ห์กันไปครับ ผมว่าผมคิดถูกนะที่เลือกเรียน(ต่อ) เพราะตอนแรกก็รับไม่ได้ว่าใครๆก็ดูถูก เรียนด้านนี้ ไม่ต้องเรียนก็ทำได้ ขนาดเรียน มหาลัยของรัฐนะเนี่ย เลยคิดจะเปลี่ยนสาขา ดีนะไม่ได้เปลี่ยนไปเรียนอื่นๆ ไม่ัง้นผมคงไม่มีวันนี้ ไม่มีประสบการณ์กับคนทุกระดับกว่าหกปี ไม่มีร้านปุ๋ยเล็กๆเป็นของตัวเอง... จบคร๊าบ... สรุป...เป็นค่านิยมครับ ้อ้อ...ลืมบอก พ่อผมก็จบเกษตร ผมก็จบเกษตร พ่อเล่าว่าสมัยพ่อเรียน นี่ เท่ห์โคตรๆๆครับ สาวๆกรี๊ด ฮ๋าๆ แต่สมัยผมนี่มันช่างกลับกันเลย จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 09:26:53

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่า เกษตร นี่ไม่ใช่ของง่ายนะ ถ้าจะทำให้ได้ดี เช่นที่ออกทีวี ปลูกข้าวได้120ถัง/ไร่ มันสำปะหลัง30ตัน/ไร่ ข้างโพดได้2ตัน/ไร่ คนที่ทำได้นี่สุดยอดนักเกษตรจริงๆ ความเสี่ยงต่อดินฟ้าอากาศ เสี่ยงต่อโรค เสี่ยงต่อราคาผลผลิต และราคาปุ๋ย ยา ต่างๆนี้ ล้วนแต่อยู่ในความรับผิดชอบของ เกษตรกร ซึ่งดูแล้ว รู้สึกว่ามันมากเกินไป จากคุณ : Turk14857 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:34:15

ความคิดเห็นที่ 4 อยากย้อนเวลากลับใจให้พ่อส่งเสริม ผมอยากเรียนเกษตรมาก แต่พ่อไม่ส่งเสริม กลับส่งเสริมบังคับให้เรียนทางช่างเครื่องกล สุดท้ายก็เรียนจบทำงานตามสายงาน ทำงานในตำแหน่งหน้าที่กำลังรุ่ง แต่ด้วยใจรักตอนนี้ลาออกมาทำสวนเป็นที่เรียบร้อย // มอบรัก จากคุณ : ต้อย_คนใต้ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:24:18

ความคิดเห็นที่ 5 อยากเรียนเกษตรจ้า แต่เรียนสายศิลป์อะ เห็นรับแต่สายวิทย์ น่าเศร้า ^_^! จากคุณ : ปรียทรรศิกา เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 10:22:10

ความคิดเห็นที่ 6 เรียน ปวส จบบัญชี  ป.ตรี จบการตลาด ทำงานบริษัทเล็กๆ ด้านขนส่ง เห็นมะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย  นึกแล้วเสียดาย รู้งี้ จบม 3 เลือกเรียน ศิลปะ หรือไม่ก็เกษตรดีฝ่า  โครตะ เสียดายเลย ที่บ้านมีที่ทางเล็กน้อย ประมาณ 3 ไร่เอง อยากทำเป็นเกษตรแบบพอเพียง เนี๊ยะตอนนี้อายุปาไป 28 แล้ว เลือกเรียนตามใจฝันเสียที เสาร์นี้จะไปสมัครเรียนคณะเกษตรศาสตร์บัณฑิต วิชาเอกการจัดการผลิตพืช ที่ มสธ.  คุยกะเพื่อน งงกันเป็นแถว เรียนไปทำไมว๊...   ก็ชอบธรรมชาติ สายลม และแสงแดด (ไง เหตุผลงามป๊ะ) ใครว่าง ไปเรียนด้วยกันป่าว?? อ่านหนังสือสอบ แล้วแค่ไปสอบเอง สอบที่ศูนย์ใกล้บ้านด้วย มีให้เลือกตั้งหลายโรงเรียนแหนะ ไม่ต้องไปสอบที่ มสธ. ใครอยากเรียนก็ เข้าไปดูที่เวป  www.stou.ac.th   จะหมดเขตรับสมัคร  5 พฤศจิกายน 2553 นี้แล้ว รีบๆ กันหน่อยน๊ะ อ้อ ซื้อใบสมัครได้ที่ เซเว่น อีเลฟเฟ่น น่ะ โชคดี ทำตามความฝัน จากคุณ : raymy เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 15:50:46

ความคิดเห็นที่ 7 ผมพูดกับชาวบ้านเสมอว่าการทำสวนปัจจุบันต้องมีความรู้ การทำสวนแบบพึ่งพาดินฟ้าอากาศแบบสมัยก่อนไม่ได้แล้ว เคยยกตัวอย่าง เงาะ 1 ต้น อายุประมาณ 15 ปี ไม่ตัดแต่งกิ่งเลยได้ต้นละประมาณ 70-80 กก.ตัดแต่งกิ่งเรียบร้อยน่าจะได้ 200 กก. ขึ้น และลงมือช่วยตัดแต่งเรียบร้อย ตอนนี้บอกให้ตัดกิ่งด้านในที่ไม่ได้รับแสงแดดทิ้ง "ผ่านไปแล้ว 3 เดือนยังเฉย"         หลังจากลาออกจากงานประจำที่ทำมาเกือบ 15 ปี ที่ไม่เกี่ยวกับการเกษตร มาพบปะพูดคุยกับชาวบ้านจึงได้เข้าใจเรื่องการเกษตรในมุมมองชาวบ้าน มุมมองพ่อค้า และมุมมองข้าราชการมากขึ้น         -มุมมองชาวบ้านส่วนใหญ่่ สวนผลไม้ของฉันตั้งแต่ไหนแต่ไหรไม่เคยตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปีหนึ่งจะแต่งกิ่ง/ถากหญ้า/ใสปุ๋ย ในสวนเมื่อต้นไม้ออกดอก         -มุมมองพ่อค้า ฤดูต้นไม้ออกดอกออกผลคือฤดูกาลขายปุ๋ยและทำกำไรของฉัน เจ้าของสวนจะใส่อย่างไร ฉันไม่สนสนขอกำไรต่อกระสอบเกิน 20 % เป็นพอ         -มุมมองข้าราชการ ผลไม้ออกมาเท่าไร ราคาเท่าใดฉันไม่สน ปีนี้ได้งบหาเสียงผ่านการแทรกแซงราคา เป็นฉันพอใจ          มีรายละเอียดเรื่องพวกนี้อีกมาก แต่ระบบที่ทำให้การเกษตรตายคือรัฐบาล ที่ไม่เข้าใจการเกษตร "การเกษตรไม่ใช่การขายผลผลิตที่ได้ราคาดี แต่การเกษตรคือวิถีชีวิต/ชีวิต ของคนในชาติ"          วันใดชาติไทยไร้ซึ่งการเกษตร ....... จากคุณ : แมวหน้าโรงหนังลุง เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 12:21:45

ความคิดเห็นที่ 8 เรียนจบเกษตรมาครับ ย่ำเดินสมัครงานจนรองเท้าขาดไป3คู่ รูปหมดไปห้าโหล จ่ายเงินค่าอินเตอร์เน็ตหมดไปหลายร้อย ไม่ได้งานตรงสายที่เรียนจบมา   เคยได้งานสายเกษตรเหมือนกันคือ ขายดินที่เค้าบอกว่าปุ๋ยชีวภาพ เอาไปหลอกขายเกษตรกร รับไม่ได้กับการต้องหลอกเค้ากินไปวันๆ จนต้องออกมาทำงานหลายอย่างสารพัด เคยสมัครสอบงานราชการ เคยสอบผ่านมีชื่อจะเป็นข้าราชการอยู่ร่อมร่อ แต่แล้วฝันมาพังทะลายลงเมื่อรออยู่2ปี ไม่เคยเรียกถึงชื่อเราสักที จนบัดนี้เลิกคิดที่จะเป็นข้าราชการแล้วครับ ครั้นจะกลับไปอยู่บ้านทำไร่ไถนาก็จนปัญญาครับเพราะเห็นแสงสว่างของปลายอุโมงค์เลกแค่รูเข็มครับ ถ้าให้กลับไปอยู่บ้านทำการเกษตรก็ทำได้แค่พอกินไม่พอขาย ไม่พอจะเลี้ยงชีพได้ จากคุณ : นายต้นไม้ เด็กนคร เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 12:47:44

ความคิดเห็นที่ 9 ผมจบคอมพิวเตอร์ แต่พื้นฐานที่บ้าน ก็ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ทำไร่ เป็นเกษตรกรเหมือนกัน ผมยอมรับนะ ตั้งแต่เรียนยันจบไม่เคยสนใจจะเรียนเกษตรกรรมเลย แต่พวกทำไร่ ทำสวน บางทีมันก็ใกล้ชิดมากนะครับ ตั้งแต่เด็ก ๆ ในวันนี้ก็ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แต่สิ่งที่ถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ๆ ก็มีในเรื่องของต้นไม้ ตกปลา วิ่งเล่นในที่กว้าง ๆ ซึ่งการทำงานปัจจุบันให้แบบนั้นไม่ได้ ตอนนี้ก็เลยพยายามที่จะกลับไปทำเกษตรกรรมอยู่เหมือนกัน แต่กว่าจะได้ไปทำ คงอีกสิบปี ตอนนั้นก็คงจะสี่สิบกว่า ๆ เพราะถึงตอนนั้น ผมก็คงซื้อที่ ปลูกอะไรไปเรื่อย ๆ หาความรู้ แต่ตอนนี้ที่ผมเครียดอยู่แล้วไม่รู้จะทำไง ก็คือ ที่เก็บน้ำที่ไว้สำหรับเลี้ยงปลา ที่ไม่รู้จะทำอย่างไง เพราะดินแถวบ้านไม่เก็บน้ำเลย จริง ๆ อยากประมาณเลี้ยงปลาในบ่อแล้วก็ตกปลาในบ่อตัวเอง 55555 อีก 10 ปี ผม Plan ว่าจะต้องทำให้ได้ครับ จากคุณ : juckrid เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 20:44:06

ความคิดเห็นที่ 10 ช่วงเริ่มต้น ก็เรียนเกษตร จบม.ปลายสายอุตสาหกรรม.. หันไปเรียนม.รามคิดได้ว่าอย่างไรเสียก็ต้องไปทำไร่ทำนาอยู่แล้ว..ก็เลยไม่เรียนต่อ(ที่จริง ..เริ่มเบื่อ...) ออกมาหาประสบการณ์ทำงานโรงงานอยู่หลายปี ช่วงที่ฟองสบู่แตกก็ยังไม่กลับบ้านคิดว่าน่าจะหาอะไรทำไปก่อน... ทนอยู่เปลี่ยนอาชีพไปหลายอย่าง แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะจิตใจใฝ่แต่ทางการทำไร่ ทำนา ปลูกต้นไม้ สุดท้ายปัญหาสารพัดที่กดดันทางจิตใจก็ผลักให้กลับบ้าน.. เหมือนจะไปรักษาจิตใจที่ในที่ที่เราชอบ.. กลับมาแล้วก็เริ่มทำอย่างที่คิด แม้จะได้ไม่เต็มร้อย แต่ก็ได้ทำ ทุกอย่างอยู่ที่เราจะกล้าพอที่จะเปลี่ยนมันรึเปล่า.. อากาศดีๆ  อาหารดีๆ  สิ่งแวดล้อมทีเราเเสวงหา   อิสระที่เราต้องการ  ถ้าไม่กล้าที่จะทำหรือแม้แต่คิด เราก็ไม่อาจจะหลุดพ้นจากสิ่งพันธะนาการที่เราหามาผูกมัดตัวเราเองได้.. สิ่งที่คุณไม่ชอบแต่อยู่กับมันได้เป็น สิบปี ..เหลือเวลาบั่นปลายไว้เพื่อตัวเอง ..บางครั้งมันอาจสายไป... .... จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 10:46:25