ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องเดิมๆซ้ำๆแหละค่ะ แต่ไม่รู้จะระบายกับใครดี ขอพื้นที่สักนิดนึงนะคะ จากคุณ : แม่ครุกแชงค์ แม่โอเลี้ยง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 19:46:44

ความคิดเห็นที่ 2 ก็แต่งงานกันมานานแล้ว ไม่มีลูกสักที นานวันไปก็อืม ไม่มีก็ได้ ก็อยู่กันสองคน หมา 2 ตัว หลายๆครอบครัวก็เป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว Dog Hall ครอบครัวพุกก้า ก็มีความสุขกันดี จากคุณ : แม่ครุกแชงค์ แม่โอเลี้ยง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 19:48:03

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วต่อมา  คนรอบข้างก็ขยันท้องกันจัง แต่งปุ๊บท้องปั๊บ แม่ครุกแชงค์ก็โดนเย้ยหยัน ว่าไม่มีความสามารถบ้างล่ะ อะไรบ้างล่ะ คลอดแล้วคนนึง อีกคนก็ท้องต่อๆกันอีก เห็นเขาท้อง ก็เริ่มเครียดแล้วล่ะค่ะ   คงไม่ต้องบรรยายเนอะว่าเครียดแบบไหน อิจฉาก็อิจฉา จากคุณ : แม่ครุกแชงค์ แม่โอเลี้ยง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 19:50:58

ความคิดเห็นที่ 4 เฮ้อ จากคุณ : แม่ครุกแชงค์ แม่โอเลี้ยง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 20:02:36

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็ไม่มีเหมือนกันค่ะ อยู่กันมา 8 ปีแล้ว คนรอบข้างก็พูดเหมือนกัน แต่ว่าเราไม่สนใจ เราคิดแค่ว่า ถ้ามีแล้วเลี้ยงให้ดีไม่ได้ ก็คงไม่มีดีกว่าค่ะ ไม่ต้องคิดมาก  เราก็อยู่กะน้องหมา 3 ตัวเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Fuyuki เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 20:33:17

ความคิดเห็นที่ 6 คนที่มีลูกต่างหากที่ต้องอิจฉาพวกเราที่ไม่มีลูก -เรามีเวลาส่วนตัวเยอะกว่า เมื่อมีเวลามากกว่าคนที่มีลูก ก็มีเวลาดูแลตัวเอง มีเวลาหาความสุขเข้าตัว มีเวลาแต่งตัว แต่งหน้าทำผม มีเวลาท่องเที่ยว มีเวลาทำกิจกรรมต่างๆกับสามี -ไม่อ้วน ไม่เผละเหมือนคนที่มีลูกแล้วส่วนใหญ่จะปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่มีเวลาดูแลตนเอง -คนไม่มีลูกดูเด็กกว่าคนมีลูกแล้ว แก่ช้ากว่า -สุขภาพกายและใจดีกว่า เพราะไม่เครียดเรื่องลูก ไม่ต้องมีห่วงมาก เมื่อไม่มีห่วง ก็ไม่มีบ่วงรัดตัว -ไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องมีใครมาดูแล ทำให้ใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น คนที่มีลูกก็จะมั่นใจว่ามีคนดูแลแน่ๆ(แต่ก็ไม่แน่นะ ลูกอาจไม่สนใจก็ได้ เครียดกว่าเดิมอีก )ก็จะไม่สนใจสุขภาพ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ผลสุดท้ายอ้วน สุขภาพไม่ดี เจ็บป่วยเร็วกว่า -และข้อดีต่างๆนานา นับไม่ถ้วน บ้านYoja Jiji Yuji ก็ตัดสินใจว่าไม่มีลูกคะ เพราะทั้งคู่ไม่อยากมีภาระ ไม่อยากทำให้ตัวเองเป็นภาระให้ใคร สรุปว่าตอนนี้คนที่มีลูกกลับมาอิจฉาครอบครัวเรา เพราะเราทั้งคู่มีเวลาเยอะแยะ จู๋จี๋หวานแหววตลอดเวลา แถมดูเด็กดูหนุ่มดูสาวกว่าคนที่มีลูกซะอีก เดี๋ยวพรุ้งนี้ก็จะไปเที่ยวทะเลบ้านกรูดกันคะ ฉลองครบรอบแต่งงานปีที่ 10 พาลูกๆสี่ขาทั้งสามไปด้วย มีความสุขสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 20:42:15

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยอย่างยิ่งกับพี่หญิงคะ แต่พออ่านถึง ฉลองครบรอบแต่งงานปีที่สิง นี่ ตกใจเลยค่ะ เชื่อแล้วว่า ดูเด็กจริงๆ มีเพื่อนแต่งงานแล้ว คนรอบข้างก็พูดแบบนี้เหมือนกัน แต่เค้าก็คิดเหมือนคุณ Fuyuki ค่ะ คิดว่า ถ้ามีแล้วเลี้ยงให้ดีไม่ได้ ก็คงไม่มีดีกว่าค่ะ อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ คนท่พูดไม่ใช่คนที่เลี้ยงนิคะ จะพูดยังงัยก็ได้ จากคุณ : KhunSCi เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 20:59:35

ความคิดเห็นที่ 8 อือ  ดูเด็ก และดูสวยจริงๆด้วยอ่ะ จากคุณ : แม่ครุกแชงค์ แม่โอเลี้ยง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 21:05:06

ความคิดเห็นที่ 9 55555555 ม่ะต้องไปเครียดเยยคร๊าบบบบ ทำใจให้สบายเต๊อะ ในเมื่อเขาม่ะมาเกิดก้อม่ายต้องเครียด   ม่ะมีลูกก้อเครียด  มีแย้ว ลูกมานม่ะดีเครียดยิ่งกว่าตอนม่ะมีอีกน๊ะคร๊าบบบ   ดูหย้งป๊ะป๋ากะมะหมี่ป๋มจิคร๊าบ  ทุกวันนี้ เขามีความสุขมากมาย นึกอยากจะทำอะรัยก้อทำ อยากไปหนายก้อไป ม่ะมีลูกหลาน ให้มานั่งห่วงใย  มีแต่ยายจ๋าให้ห่วงคนเดียวก้อพอแหล๋ว อิอิอิอิ จากคุณ : dear pukka เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 21:24:07

ความคิดเห็นที่ 10 เราเชียร์เต็มที่เรื่องไม่มีลูก ไม่ต้องกังวล เพราะเราไม่ต้องการมีภาระผูกพัน เราบอกพ่อแม่เราว่าเราตายเมื่อไรก็ได้ไม่เดือดร้อนใคร ไม่มีใครต้องเป็นกังวลเมื่อจากไป เป็นความสงบของจิตใจอย่างยิ่ง เราชอบเที่ยวมากๆ ถ้ามีลูกจะใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้แน่ เราทำงานสิบเจ็ดวันต่อเดือน ไม่ต้องทำมาก ทำพอกินแค่นี้ก็มีพอแล้ว ไม่ต้องทำเผื่อใคร คนไม่มีลูกจะรู้สึกเพียงพอได้เร็วมากกว่าคนมีลูก เราสามารถเลี้ยงดูบุพการีได้เพราะเราไม่มีภาระมากมายเหมือนพี่น้องคนอื่น การที่จะคาดหวังว่าจะให้ลูกดูแลเมื่อเราแก่เฒ่า เราคิดว่าเป็นการเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย เพราะลูกเราก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง อาจมีภาระ หน้าที่การงานของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบด้วย ชิวิตของเขาไม่ใช่ของเราแม้จะเป็นลูกของเราก็ตาม แต่งมาแล้วสิบแปดปีตั้งใจไม่มีลูก ไม่เคยเสียใจสักนิดเดียว เวลาใครถามจะบอกว่ามีลูกเป็นหมาเก้าตัว ความจริงแก่ๆแล้วอย่างรับหมาจรมาเลี้ยงแต่กลัวว่าจะตายไม่ได้เพราะมีแต่ห่วง เลยช่วยได้แค่สบทบทุนคนอื่นที่ใจดีในห้องนี้หลายๆคน พูดจริงๆนะ อย่ากลุ้มเลยค่ะ เห็นมาหลายคนแล้ว ถ้าไม่มีแล้วต้องพยายามมากเพื่อให้มี ดูแล้วเป็นทุกข์มากจริงๆ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 53 21:36:13 จากคุณ : poohnim เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 21:30:01

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับเพื่อน ๆ ข้างบนค่ะ เพราะก็แต่งงานมา 6 ปีแล้ว ก็ไม่มีลูกเหมือนกันค่ะ เจอคำถามคล้าย ๆ แบบที่แม่ครุกแชงค์เจอเลย เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ  พอดีลูกชิ้นมาเติมเต็มครอบครัวแล้วก็รู้สึกว่า มีความสุขมาก ๆ พอตอนหลังคนที่มีลูกเค้าก็มาบอกว่าอิจฉาจังลูกหมาเธอไม่ดื้อไม่ซนเลย เลี้ยงก็ง่ายกว่า ไม่เหมือนลูกพี่เลย ทั้งดื้อทั้งซน อายลูกชิ้นเลยนะเนี่ย แม่ครุกแชงค์ไม่ต้องเครียดนะคะ จากคุณ : ลูกชิ้น shineedog เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 21:52:51

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าเครียดเลยค่ะ...เลี้ยงพวกเค้าให้ดีที่สุด.. จากคุณ : น้ำหวานกับน้ำพุ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 21:54:38

ความคิดเห็นที่ 13 มีแล้วปวดหัวกว่าหมาหลายเท่านะคะ จริงๆ สถานการณ์โลกเป็นแบบนี้ ไม่มีดีกว่าค่ะ อากาศสกปรกมาก สภาวะรอบโลกไม่แน่นอน น้ำจะท่วมโลกรึเปล่าก็ไม่รู้ ..... นี่แค่ปัญหาใหญ่ของโลกนะคะ ไหนจะค่าเรียนอีก ..... ปีนึงนี่หลายแสนอะ ค่าฝากเข้าเรียน ..... ก็หลายล้าน ลูกไม่สบายที .... แม่ไม่ได้หลับได้นอน ต้องคอยดูว่าลูกตัวร้อนไหม ไข้ขึ้นจะชักรึเปล่า .... ต้นเหตุทำให้แม่แก่เร็วชัดๆ ค่าปวดหัวกับลูก.... ตีราคาไม่ได้ เลี้ยงหมาสบายใจกว่า จริงๆ เชื่อรำเพยเหอะ จากคุณ : รำเพย เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 22:05:19

ความคิดเห็นที่ 14 จริงอย่างที่คุณหญิงบอกทุกอย่างค่ะ... แต่งงานมา 16 ปี สุดท้ายก้อจบ..ดีตรงที่เราไม่มีลูกด้วยกัน..ถ้ามีคงคิดมากแน่เลย..เรื่องลูก ตอนนี้มีความสุขไม่มีห่วง...เงินทองหามาได้ทางบ้านเราก้อสบายไปด้วย..เห็นพี่ๆน้องๆมีลูกก้อพอแล้ว ตอนนี้..อยากไปไหนมาไหนก้อสบายจริงๆ...มีน้องดุ๊กดิ๊กก้อสุดยอดแล้วนะกับสิ่งเติมเต็มที่ทำให้ไม่เหงา จากคุณ : นอนมองก๊อก" เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 22:05:31

ความคิดเห็นที่ 15 โธ่!!!!!นึกว่าเรื่องอะไร อย่าเครียดไปเลยยังไงก็ครอบครัวสมบูรณ์แบบมีทั้งพ่อ แม่ ลูกๆ แต่ส้มตำสิมีแต่แม่ก็มีความสุขได้ เหมือนมีทั้งพ่อและแม่เหมือนกัน ไม่ต้องเครียดค่ะ ชิล ชิล จากคุณ : ส้มตำ (Inundaporn) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 22:11:37

ความคิดเห็นที่ 16  มะต้องเครียดค่า... สองสาวนี่.. มีแต่จุนแม่กะจุนน้า.. ก็สุขีสโมสรเหมียนกัลล์น้าคร้า   จากคุณ : ปอนด์ กะ เป้ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 22:46:32

ความคิดเห็นที่ 17   การไม่มีลูกเป็นลาภ <------อันประเสริฐค่ะ    จริงๆ นะคุณโอ๋   เพื่อนๆ  เราแทบทุกคน ที่มีลูกแล้ว  บอกมาทั้งน๊านนนนนนนนนน เลยค่ะ    พี่บีแต่งงานมา 18 ปีเต็มๆ  ไม่มีลูก  แรกๆ  ก็แคร์ญาติพี่น้องค่ะ      ลองผสมเทียม 3  ครั้ง  เจ็บตัวฟรี  แถมเสียเงินฟรีอีกมากโข   เราหาเลี้ยงตัวเราเองได้  ไม่ได้พึ่งใครนี่นา  เปลี่ยนความคิดใหม่   เอาเงินที่จะทำลูก  ไปเที่ยวไปทำบุญ  หาความสุขใส่ตัวเอง  เวิร์คกว่าเป็นไหนๆ   แถมได้ดูแลพ่อ แม่ได้เต็มที่  ไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย      และแล้วก็คิดถูกอย่างที่สุดค่ะ   ทุกวันนี้....เรามีความสุขในแบบฉบับของเรา  เที่ยวในสไตล์ของเรา  ไม่ยุ่งเรื่องของใครๆ    แก่ตัวไม่ต้องกังวลว่าใครจะดูแล      หลาน....เพียบบบบบบบ  มีตังก็แย่งมาเอาใจกันเองหละน่า      น้องโอ๋จะลองปรึกษาคุณหมอ  ก็ได้นะคะ  ไหนๆ  ถ้าอยากลองสักครั้ง  แค่กินยากระตุ้นรังไข่  และนัดวันนอนกับแฟน   ไม่ได้เสียหายนี่นา  ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพงด้วยค่ะ   แต่ระวังนิดนะคะ   กินฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่  มากๆ  มีผลข้างเคียง  เพราะพี่บีเจอมาแล้ว  ก็เลยเข็ดที่อยากทำลูกค่ะ        จากคุณ : DOGHALL เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 23:11:59

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยค่ะ อยู่ด้วยกันมาจะ 4 ปีแล้ว ยังไม่แต่งนะค่ะ พ่อแม่ 2 ฝ่ายรับรู้ ฝ่ายชายย้ายมาอยู่ที่บ้านเรา เมื่อก่อนก็อยากมีน้อง เห็นคนนั้นพูด คนนี้พูด เพื่อนแฟนเอารูปลูกแฝด 3 มาให้ดู แม่ก็บอกอยากเลี้ยงหลาน โดนกรอกหูทุกวัน แต่ทำไงได้ในเมื่อมันไม่มี จะให้พูดคุยกันบ่อยๆก็กลัวว่าไม่นานจะต้องทะเลาะกัน ก็เลยคิดว่าคงยังไม่ถึงเวลา ยิ่งอยากก็ยิ่งเครียด  เครียดมากสุขภาพจิตและกายก็แย่ งั้นขอปล่อยวางดีกว่า... แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้วค่ะ แค่เรื่องจะแต่งงานส่วนตัวก็ยังไม่อยากเลยค่ะ แล้วเรื่องลูกเลิกคิดเลย อยู่กับหมาๆ สบายใจ มีความสุขกว่า แล้วก็มีเพื่อนคู่ใจคู่กายที่คอยดูแล ห่วงใยซึ่งกันและกันดีกว่าึค่ะ จากคุณ : dear1124 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 23:19:26

ความคิดเห็นที่ 19 สวรรค์ของคนไม่มีลูก คู่รักที่แต่งงานกัน เชื่อว่า ต้องการมี "สวรรค์" ในครัวเรือนด้วยกันทั้งนั้น แน่นอนใครก็สร้างให้กันไม่ได้นอกจากตัวเราเอง ในความคิดของข้าพเจ้า ครอบครัวที่มีความสุขส่วนใหญ่อาศัย "ของขวัญจากสวรรค์" คือ ลูก เป็นคนนำมาให้  แล้วคนที่ไม่มีลูกละ เขาคิดกันอย่างไร อะไรทำให้เขาเหล่านั้นมีความสุขอยู่ในโลกนี้ บทความของสตรีนางหนึ่ง ซึ่งเป็นคนจีนโพ้นทะเลบนแผ่นดินอเมริกา ได้สะท้อนแนวความคิดของครอบครัวที่ไม่มีลูกในดินแดนศิวิไลซ์ว่าหาความสุขกันได้อย่างไร เธอเล่าว่า เธอแต่งงานมา 19 ปี แต่ไม่มีลูก มีคนถามบ่อยๆ ว่า "ทำไมถึงไม่มีลูก ?" บางคนถามด้วยความเป็นห่วง บางคนอยากรู้ความลับบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ แต่คำตอบคือว่า เธอเป็นคนรักเด็กหากมีลูกจริงๆ คงจะรักมากทีเดียว เธอคิดว่าการเลี้ยงลูกกับชีวิตที่กำลังดำเนินอยู่ดูเหมือนจะไปคนละทาง จนทำให้ไม่มั่นใจในอนาคตของลูกได้ หากมีขึ้นมาจริงๆ " ฉันรู้สึกว่า ตั้งแต่เกิดมา ท้องฟ้าก็ไม่ต้องการให้ฉันมีลูก เพราะแม่ของฉันสมัยนั้นต้องพบกับแรงกดดันอย่างหนักหน่วงในเรื่องการมีลูกชาย แม่คลอดลูกคนแล้วคนเล่าเป็นผู้หญิง จนกระทั่งประสบความสำเร็จคลอดบุตรคนที่ 8 ได้เป็นลูกชาย จึงได้ยุติความพยายามที่จะมีลูกต่อไป ครอบครัวทางบ้านจัดงานฉลองยิ่งใหญ่มีการจุดประทัดกันอย่างเอิกเกริกเลี้ยงแขกเหรื่อมากมาย แล้วความจริง เป็นยังไง ตอนที่น้องชายอายุได้ 10 ขวบ ก็เป็นเด็กเกเร สูบบุหรี่ กินเหล้า เล่นการพนัน ขโมยของ โตขึ้นมาเป็นหนุ่ม ก็กลายเป็นนักเลงอันธพาล สูบกัญชายาฝิ่น เฮโรอีน และมีเรื่องชกต่อยไม่เว้นแต่ละวัน สิ่งเลวร้ายต่างๆ เขาล้วนเคยผ่านมาแล้วทั้งสิ้น เมื่อปีที่แล้วอายุเพียง 29 ปี ได้เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย แม่ของฉันต้องหอบสังขารวัย 80 ปี ไปส่งศพ ดังคำโบราณที่ว่า คนผมขาวไปส่งศพคนผมดำ เพราะคนเลวนั้นมักจะอายุสั้นเสมอ ฉันรู้สึกว่า แม่อยากจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา ไม่รู้จะโทษใครดี นี่หรือ รางวัลที่ได้รับจากการมีลูกชาย ฉันรู้สึกว่า ผู้หญิงสมัยก่อนถูกใช้เป็น "เครื่องมือคลอดลูก" การรับรู้สิ่งต่างๆ ในวัยเด็กทำให้ฉันไม่อยากเกิดเป็นผู้หญิงเลย ฉันมักนึกถึงสภาพของแม่เสมอ ท่านคลอดลูกถึง 8 คน จึงทำให้รูปร่างเปลี่ยนแปลงเป็นคนอ้วนมาก ช่วงที่แพ้ท้องแม่จะมีอาการรุนแรง จนฉันรู้สึกกลัวการมีลูก และดีที่สุดถ้าไม่เกิดเป็นผู้หญิง ฉันเองไม่เคยใส่ใจในความคิดของคนจีนที่จำเป็นต้องมีลูกชายว่าสำคัญเลย โลกนี้มีผู้คนมากมายเต็มไปหมด ทุกคนจะต้องแข่งขันต่อสู้แย่งชิงกัน จึงจะอยู่รอดได้ การปล้นจี้ ลักขโมยเกิดขึ้นเกือบทุกท้องที่ ถ้าคนในโลกนี้ลดลงไปครึ่งหนึ่ง สังคมคงจะดี และน่าอยู่กว่านี้มาก ปัจจุบันได้ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีมาแทนกำลังคนมากขึ้น ทำให้แรงงานล้นและคนตกงาน จนหลายคนต้องกลายเป็น "ขยะสังคม" การไม่มีลูกจึงมีประโยชน์ต่อสังคมโลกด้วยประการหนึ่ง มีบางคนรักลูกจริงๆ เขารู้สึกว่า การไม่มีลูกเหมือนกับครอบครัวที่ไม่เป็นครอบครัว เขายอมเสียสละตัวเองเพื่อลูก ฉันยกย่องคนอย่างนี้ เขาเลี้ยงลูกไม่ใช่เพื่อต้องการให้ลูกมาตอบแทน เขาจะมีความสุขมากในเวลาที่เลี้ยงลูก แต่คนอย่างนั้นจริงๆ จะมีสักกี่คน ฉันเคยเจอพ่อแม่หลายคู่ ยังไม่ทันจ่ายสักเท่าไรก็อยากจะขอคืนกำไรเสียแล้ว เขาอยากจะให้ลูกโตแล้วหาเงินเยอะๆ มาให้ พวกนี้คิดว่า การเลี้ยงลูกเป็นการลงทุน พ่อแม่บางคนเกิดมามีปมด้อย ไม่มีพรสวรรค์ ทำอะไรไม่ค่อยได้ดี แต่จะบังคับลูกให้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำได้ เช่น เล่นเปียโน พ่อแม่เล่นไม่เป็น แต่บังคับให้ลูกเรียน โดยไม่สนใจว่า ลูกจะมีความสามารถในเรื่องนี้หรือไม่ เมื่อลูกทำไม่ได้ ก็จะโกรธและหาว่า ลูกโง่ ครอบครัวแบบนี้ย่อมไม่มีความสุข พ่อแม่บางคน รักลูกเกิน และเลี้ยงลูกแบบตามใจในลักษณะพระราชาเมื่ออยู่บ้าน เมื่อออกนอกบ้าน ลูกจึงทำตัวเป็นนักเลงอันธพาล พ่อแม่อย่างนี้เป็นพวกทำลายสังคม ฉันเจอมาอย่างนี้ ทำให้ฉันมีความกลัว กลัวว่าพ่อแม่บางคู่นั้นจะมีคู่ของฉันรวมอยู่ด้วย ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับความสุขของคนอเมริกัน ซึ่งผลการวิเคราะห์ออกมาว่า คนที่มีความสุขมากที่สุด คือ คนที่แต่งงานแล้ว มีงานทำเป็นหลักเป็นฐานทั้งสามีภรรยาและไม่มีลูกรองลงมาคือคนโสด สุดท้ายคือคนที่แต่งงานแล้วมีลูก จะมีความสุขน้อยที่สุด ฉันเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์นี้เป็นอย่างยิ่ง แน่นอน บางทีฉันมีความเสียใจอยู่บ้าง ฉันคิด "ถ้าฉันมีลูก ลูกจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร" แต่ว่า ความคิดนั้นคงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เพราะ หนึ่ง ฉันเป็นคนมีลูกยาก สอง เมื่อย้ายมาอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานสร้างความกดดันให้ฉันมาก โชคดีที่ฉันแต่งงานแล้ว ไม่มีลูก ฉันจึงมีชีวิตอยู่อย่างอิสระและมีความสุข บางที ฉันเห็นลูกของคนอื่น น่ารักมาก หน้าตาจิ้มลิ้ม ยิ้มหวาน แก้มแดง และมีกลิ่นนมหอมฟุ้งทั้งตัว "หากมีลูกสักคน คงไม่เลวนะ" ฉันเคยคิดว่า จะไปขอลูกคนอื่นมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฉันเกษียณก่อนครบกำหนดจากงานคอมพิวเตอร์ และตั้งใจจะทำในสิ่งที่ฉันใฝ่ฝัน คือ เขียนหนังสือ และท่องเที่ยวรอบโลก ตอนนั้นฉันรู้สึกสบายและมีเวลาพอสมควร ฉันกับสามีได้ไปทำหนังสือสัญญาขอรับเด็กชาวจีนแดงมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เสียเงินไปหลายพันเหรียญ แต่สุดท้าย ได้ตัดสินใจฉีกหนังสือสัญญาฉบับนั้นทิ้ง เพราะฉันเป็นโรคนอนไม่หลับ บ่อยครั้งที่ต้องพึ่งยานอนหลับ แล้วฉันจะมีปัญญาลุกขึ้นมาชงนมคืนละหลายๆ ครั้งหรือ ? ฉันชินกับการทำอะไรปุ๊บปั๊บ เช่น วันนี้คิดอยากจะเที่ยว พรุ่งนี้จะเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเลยโดยไม่ต้องห่วงอะไรซึ่งจะเป็นไปได้หรือที่จะมาดูแลลูก ฉันเขียนหนังสือและส่งไปตามสำนักพิมพ์ต่างๆ มีรายได้จากงานเขียนน้อยมาก ไม่พอกับค่านมของเด็กหรอก จะไปจ้างพี่เลี้ยงเด็กคงจะไม่ไหว หากเลี้ยงเองคงไม่มีเวลาเขียนหนังสือและท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งออกไปข้างนอกนานๆ สามีของดิฉัน คิดว่า ขณะนี้อายุใกล้ถึง 50 ปี พออายุ 55 ปี จะเกษียณตัวเองทันทีหากต้องเลี้ยงลูก เขาคงต้องทำงานจนถึงอายุ 70 ปี เดี๋ยวนี้มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการ กลับมาบ้านรู้สึกเขาเหนื่อยมากและอยากพักผ่อน เขาวางโครงการไว้ว่า เมื่อเกษียณแล้วจะไปสอนหนังสือในชนบท เขาเองก็ไม่อยากให้การมีลูกสักคนหนึ่ง แล้วทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปทั้งหมด สำคัญที่สุด นอกจากที่ไม่มีลูก ชีวิตครอบครัวของเรามีความสุขมาก เรารักกันมาก มีลูกแล้วเราจะมีห่วง เรากลัวว่า จะทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันด้วย "ชีวิต" ไม่มีอะไรสมบูรณ์ ต้องรู้จักพอจึงจะมีความสุข ทั้งหมดนี้เป็นเหตุให้เราตัดสินใจฉีกสัญญาการขอบุตรบุญธรรมทิ้งไป เราตั้งใจว่า จะดูแลตัวเอง หาเพื่อนเยอะๆ หาความสุขมากๆ เลี้ยงดูลูกของญาติพี่น้อง เมื่อเราแก่ เราจะไปอยู่บ้านพักคนชรา อยู่ด้วยกันจนวันตาย ลูกนั้นแต่เดิมมาก็คือนักเดินทางที่เดินทางผ่านตัวเราไป ไม่ใช่ที่พักริมทาง หรือบ้านพักของเรา จริงๆ แล้ว บ้านพักของเราอยู่ที่ใจต่างหาก ฉันตั้งใจแล้วว่าเมื่ออยู่ในบ้านพักคนชรา ฉันจะไม่กลุ้มใจเลยว่าลูกหลานไม่มาเยี่ยมเรา " คนไม่มีลูก ใช่ว่า จะหาความสุขในครอบครัวไม่ได้ "ความคิด" ต่างหากที่ทำให้ใจเราสุขหรือทุกข์ อย่าเอาความสุขทั้งหมดไปแขวนไว้กับการมีลูก เพราะยังไง ยังไงชีวิตของเราต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะมีลูกหรือไม่ หนทางข้างหน้ายังอีกไกล เกี่ยวก้อยคนรักไว้และทอดอารมณ์หาความสุขจะไม่ดีกว่าหรือ บางทีเมื่อเราเดินไปจนถึงสุดสายปลายทางแล้ว เราอาจดีใจที่ไม่ได้ให้กำเนิดใครสักคนมาลำบากลำบนในโลกใบนี้ ดูพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างซิ พระพุทธองค์ท่านมิใช่หรือที่แสวงหา "การไม่เกิด" อีก ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 24 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2543 จากคุณ : Pecan เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 23:22:00

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่มีนะดีแล้วค่ะคุณน้อง มีก็มีห่วง ไปไหนแปบนึงก็ห่วงลูก สองคนตายายนะดีแล้ว จากคุณ : น้ำมะตูมชื่นใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 08:26:12

ความคิดเห็นที่ 21 ป้าพร ขอแจม มั่งจ้า ป้าพร คิดเสมอว่าการที่เรา ไม่มีลูก ถือว่า เราไม่มีเวร มีกรรม ที่ต้อง ชดใช้ ให้ใคร อิอิ แค่ ลูกหมา สองตัว ก็เหนื่อยนิ ไปไหนก็ห่วงมันจั๊ง จากคุณ : ไอยรินมาทวงถาม เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 08:29:31

ความคิดเห็นที่ 22 พี่โอ๋ จะไปเครียดทำมายยยยยย  ปล่อยไปตามธรรมชาติเหอะพี่ จะบอกความจริงอะไรให้  ลูกนะอ่ะ มานเป็นลูกได้แค่ตอนยังพูดไม่ได้แหละ พอมานพูดได้มานก็เปลี่ยนมาเป็นแม่นู๋แล้ว ทั้งออกคำสั่ง ทั้งเถียงฉอดๆๆ แถมแข่งสวยกับแม่มานอีก ถลุงเครื่องสำอางค์ไปเป็นกะบุงแว๊วววว   ซ้ำร้ายไอ้พี่โรก็โดนน้องจิกขนเป็นว่าเล่น  ลูกคนลูกหมามานแกล้งกันสะเด็ดสะด่วง    ตอนเนี้ยนะกลับมาเครียดแล้วเนี่ย เหอ เหอ เหอ จากคุณ : พี่โร&น้องผิง เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 08:31:56

ความคิดเห็นที่ 23 อย่าไปเครียด ๆ มีลูกกวนตัว มี .. เอ่อ ปล่อยให้กวนไปเหอะ 5555+ (ความสุขของเรา) สิ่งที่เรามีอยู่ และได้อยู่ร่วมกัน นั่นแหละ คือ ความสุขที่แท้จริง จากคุณ : kob2511 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 08:57:41

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ต้องเครียดค่ะ หาเวลาไปเที่ยว แล้วกลับมารีวิวให้ดูอีก อิอิอิ จากคุณ : kok_snoopy เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 09:56:36

ความคิดเห็นที่ 25 คุณโอ๋คะ เราเข้าใจความรู้สึกค่ะ เพราะตอนนี้เราก็โดนบีบทั้งสองฝ่ายเหมือนกัน แถม ตอนนี้บ้านใกล้ๆกันเค้าก็คลอดไปแล้ว 1 ใกล้คลอดอีก 1 กำลังท้องอ่อนๆอีก 1 คน ขนาบซ้ายและขวาเลยค่ะ ตอนแรกๆก็เครียด ตอนนี้ก็เฉยๆ เพียงแต่โดนบังคับให้ ตรวจร่างกาย.... เตรียมร่างกายให้พร้อม ถ้าไม่มีเองในปีนี้ ปีหน้าก็ต้องพึ่งคุณหมอ ในหมู่บ้านก็มีแต่เด็กเล็กๆเพิ่งคลอด คนอื่นเค้าอุ้มลูง เข็นลูก แต่เราอุ้มหมา เข็นหมา บางคนก็เข้ามาถามว่า ทำไม่ไมีมีลูก คุมหรอ เราก็ตอบจนไม่อยากตอบแล้ว หลังๆเริ่มชิน ใครๆถามก็ยิ้มอย่างเดียว อย่าไปเครียดเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : We hold on together เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 12:02:09

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนนี้เริ่มที่มาพาลกะหมาแล้วว่า ..........เลี้ยงหมาแหละเลยไม่มีลูก แยกหมาออกให้เป็นสัดส่วนเลยนะ อย่าให้ขึ้นไปนอนด้วย .... กั้นห้องให้หมาอยู่ต่างหากเลยนะ...... สารพัด แต่เรากับแฟน เฉยๆ จะแยกอย่างไงล่ะ ไม่ให้เข้าห้องมันก็เคาะประตูทั้งคืน...เคาะทุก 5 นาที ใครจะนอนได้ ก็ต้องให้เข้ามานอนด้วยกันเหมือนเดิม....... จากคุณ : We hold on together เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 12:10:48

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่มีดีแล้วค่ะ เราเองก็ไม่มี ส่วนตัวไม่อยากมี ไม่เคยคิดที่จะมีลูกเลยด้วยค่ะ พอดีเป็นคนไม่ค่อยชอบเด็ก ไม่มีเวลาเลี้ยง แล้วก็ไม่อยากให้ใครเกิดมาลำบากไปกับเราด้วยค่ะ สภาพสังคมเดี๋ยวนี้เวลาดูข่าวต่างๆนาๆ ก็พูดกับตัวเองเสมอๆ ว่า ดีแล้วที่ไม่มีลูก ในอนาคตโลกเราต้องแก่งแย่ง แข่งขัน แย่งกันกิน แย่งกันอยู่ เราไม่อยากให้ใครเกิดมาแล้วลำบาก เหมือนเราค่ะ อย่าคิดมาก จากคุณ : ข้าวยำหมูตุ๋น เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 12:36:46

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นกำลังใจให้ค่ะคุณโอ๋ โดยส่วนตัวไม่เคยคิดจะมีลูกเลยค่ะ ไม่ค่อยชอบเด็ก ^^" เห็นแล้วเวียนหัว แต่ก็เข้าใจคนที่อยากมีนะคะ ในที่สุดก็นานาจิตตังค่ะ เอาตัวเราเป็นที่ตั้งดีกว่า ว่าอยากมีรึไม่อยาก ถ้าอยากก็ลองทำอะไรดู ถ้าไม่ได้อยากก็ขอให้หายเครียดไวๆค่ะ จากคุณ : Hathi เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 12:57:59

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่เห็นต้องเครียดเลย ก็แค่ไม่มีลูกเป็นคนน่ะ   ถ้ามีจริงๆ รับรอง เครียดกว่าเดิมอีกร้อยเท่า ชีวิตครอบครัวไม่จำเป็นต้องจบด้วยการ "มีลูก" นะคะ ครอบครัว คือการมีซึ่งกันและกันที่เริ่มต้นจาก 2  แค่2คนก็สมบูรณ์แล้วค่ะ จากคุณ : แม่ข้าวตู เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 18:55:56

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่มีไม่เป็นไรนึกเสียว่าเด็กที่มีวาสนายังมาไม่ถึง อยุ่กะเด็กๆสี่ขาไปก็แสนจะมีความสุขสนุกและวุ้ยวายดีค่ะ พี่มีสองคนพอเขาโตพวกเขาก็ไปมีครอบครัวหมด พี่ก็เลยเลี้ยงเจ้าสี่ขานี้ไงดีออก เขาไม่ที้งเราไปไหนอยุ่กะเราไปตลอด จากคุณ : tasorn เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 19:18:36

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณทุกคนมากนะคะ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ จากคุณ : แม่ครุกแชงค์ แม่โอเลี้ยง เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 20:22:07

ความคิดเห็นที่ 32 เราก็เป็นแบบเดียวกับคุณโอ๋เหมือนกันค่ะ แต่เราไม่ออกแนวเครียดแต่อยากมีมากกว่าค่ะ เวลาที่คนรู้จักมีน้องเราก็จะรู้สึกนิดนึงเหมือนกัน ว่าทำไมคนอย่างเราถึงไม่ได้เป็นแม่คนสักที ดูตามข่าวทิ้งลูก ฆ่าลูกทิ้งขยะแล้วก็สะเทือนใจ คนไม่อยากมีดันท้อง คนที่อยากท้องดันไม่มี เคยชวนแฟนไปปรึกษาคุณหมอเหมือนกันแต่แกก็ปฎิเสธ แกว่าแกแก่แล้วอยากอยู่แบบสบายๆมากกว่า และแกบอกว่ามันมีผลข้างเคียงต่อตัวเราด้วย แต่หากมีเองแกโอเคไปหาหมอไม่ไป ทุกวันนี้ก็เลี้ยงแต่หมาแต่ก็มีความสุขดีค่ะแต่ก็ยังอยากเป็นแม่คนอยู่ดีค่ะ ปล.พี่ที่เรานับถือแกก็ผ่านการทำลูกมาหลายวิธีและหลายปีมากๆค่ะ สุดท้ายมาสำเร็จที่พญาไทยศรีราชา ตอนนี้ได้ลูกแฝดที่น่ารัก ๒ คน กว่าจะได้นี่เจ็บตัวไม่รู้กี่หนเสียเงินไปหลายล้านอยู่นะ เราไปหาแกทีไรแกก็บอกว่าเหนื่อยแต่สีหน้าของแกดูมีความสุขมากๆ จากคุณ : MY PIDPEE เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 08:39:39

ความคิดเห็นที่ 33 จุนแม่ครุกแชงค์ แม่โอเลี้ยง   ไม่มีลูกเป็นลาภอันประเสริฐจริง ๆ ค่า  ดิฉันมี 2 คน แอบอิจฉาคนที่ไม่มีลูกมาก ๆ รู้งี้ไม่มีลูกดีกว่า ไปไหนก็ได้ไป ไม่ต้องมีห่วงหน้าห่วงหลัง อยู่กับน้องหมาน้องแมว ก็มีความสุขค่ะ จากคุณ : ฉันจะมีความสุขทุกวัน เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 17:30:14

ความคิดเห็นที่ 34 มีเสื้อผ้าใส่ เสื้อผ้าสวยไม่พอ ความสุขอยู่ที่ไหน... มีบ้านอยู่ ไม่หรูหราพอ ความสุขอยู่ที่ไหน... มีความรู้ แต่อยากเรียนเมืองนอก ความสุขอยู่ที่ไหน... มีรถขับ แต่อยากขับรถหรู ความสุขอยู่ที่ไหน... มีแฟน แฟนมีคุณสมบัติไม่ครบตามต้องการ ความสุขอยู่ที่ไหน... มีลูก ลูกไม่ได้ดั่งใจ ความสุขอยู่ที่ไหน... ชีวิตเป็นอย่างไร อย่าได้แคร์คำคน ขอให้มีความสุขกับปัจจุบัน... จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 18:33:59

ความคิดเห็นที่ 35 คห.ที่33 หัวอกเดียวกันเลยค่ะ...T__T จากคุณ : babara (babara foo) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 01:17:11

ความคิดเห็นที่ 36 เพิ่งแต่งงานได้ปีครึ่ง ก็คิดๆอยู่ว่าจะมี หรือ ไม่มี ดี ยังตัดสินใจไม่ได้เหมือนกัน ทุกวันนี้ไปไหนก็สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงมาก อายุเริ่มมาก็คิดว่าจะมีลูกไว้ดูแลเรา.. มันก็เป็นความคิดที่ไม่แน่เสมอไป ว่าลูกจะเลี้ยงเรา หรือ ดูแลเรา เราโดน..เหน็บประจำจากแม่เราเอง จะมีลูกเป็นหมารึไง.. เรา 2 คน กับสามีไม่ได้ซีเรียสนะ มีหรือ ไม่มีก็ได้ ไม่ต้องเครียดหรอก มีลูกอาจเครียดกว่านี้เป็นร้อยเท่าก็ได้นะ จากคุณ : แม่เนเน่ (boyote) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 11:18:00