|
ink ตาม คห.1.เป็นระบบ DRFT วิธีนี้ ราก ส่วนหนึ่งจะแช่อยู่ในน้ำ และส่วนหนึ่ง จะลอยเพื่อรับ อ๊อคซิเจน การมีปั้มน้ำ และระบบ น้ำหมุนเวียน เพื่อ 1.เติมอากาศให้กับน้ำ 2.ลดอุณหภูมิสารละลาย 3.ป้องกัน สารละลายนอนก้น 4.ป้องกันลูกน้ำ
นับว่าเป็นการประยุกต์ วัสดุรอบตัวเอามาทำได้ดีพอสมควร ได้ผลผลิตดี แต่คิดว่า ช่วงแรกๆคงเจอปัญหา และแก้ปัญหา กันมาเยอะพอสมควร..
link ตาม คห.2 ก็เป็น ระบบ DFT (deep flow technique) คล้ายกัน แต่ ต้องมีเวลา คอยหมั่นดูแล เรื่อง แมลง และ ระดับ น้ำในรางปลูก ต้องอยู่ใน ระดับที่เหมาะสม (ปัญหา ที่มักเจอ ก็คือ ผักบางต้น อาจโตไม่เท่ากันกับต้นอื่นๆ ระบบราก สั้นยาวไม่เท่ากัน ทำให้ อาจมีปัญหาในการรักษาระดับน้ำ และ ข้อสักเกตุ ธาตุอาหาร A,B ล้วนหนักกว่าน้ำ ทุกชนิด ดังนั้น การที่อยู่ในระบบน้ำนิ่ง ไม่ไหลเวียน อาจเกิด การตกตะกอนนอนก้นได้ และอาจมีลูกน้ำ หรือ หนอน ไรแดง ฯลฯ ที่อาจติดมากับน้ำ (แต่เท่าที่ อ่านตาม Link ที่ 2 คิดว่า คนปลูกคง เติมน้ำ หรือ มีการ กวนสารละลาย ในรางปลูกบ่อยๆ เพื่อเติม อ๊อคซิเจนในน้ำ ให้มีปริมาณ ไม่น้อยกว่า 8 ppm และเป็นการยากที่จะรักษาอุณหภูมิไม่ให้เกิน 30 องศาC เพราะยิ่งอุณหภูมิสูง พืชที่แช่น้ำอยู่จะแสดงอาการขาดน้ำ..)
ดังนั้น ผมขอสรุป จากประสบการณ์ hydro หลายๆระบบ DRFT DFT NFT Aeroponics Aquaponics มานานแล้วว่า Link แรก น่าจะง่ายกว่าสำหรับคนที่จะเริ่มต้น..
แต่ทั้งสอง link ผมสงสัยอยู่เรื่องเดียว คือ เขาใช้ฟองน้ำ ที่มีสารวาปไฟ ทำการเพาะเมล็ด...?
ส่วนเจ้าของกระทู้อยากหาความรู้และทดลองปลูก ลองถาม google ดู หรือ จะลองที่ http://www.thaihydrohobby.com อันนี้ เขาจำหน่าย อุปกรณ์ต่างๆด้วย หรือ http://eakgapon.siam2web.com อันนี้ ไม่ได้อัพเดทนานแล้ว ไม่ค่อยมีเวลา ..
จากคุณ |
:
ประชาตาดำ
|
เขียนเมื่อ |
:
10 พ.ย. 53 21:52:42
|
|
|
|
|