ความคิดเห็นที่ 1 มีประสบการณ์ค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเจ้าของต้องเข้มแข็ง มีกำลังใจไว้นะคะ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลย และนี่เป็นประสบการณ์ของตัวเองค่ะ แมวที่บ้านตัวแรกที่เป็นไข้หวัดแมว+หัดแมวนี่ ตอนเป็นแรกๆ ไม่มีใครได้ดูแลใกล้ชิด (เพราะตอนนั้นดิฉันขึ้น กทม. พอดีแม่กับแม่บ้านก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องแมว) พอเอาไปตรวจก็เป็นมากแล้ว หมอให้แอดมิท ส่องไฟ และให้อินเตอร์เฟียรอน 2 โดส แต่เอาไม่อยู่ค่ะ แมวตัวนั้นเลยเสียไป พอดิฉันกลับจาก กทม. ก็รู้ว่าแมวอีกตัวก็เริ่มมีอาการ ก็เลยรีบพาไปหาหมอ ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมาก เพราะแมวอาการไม่ดีเลย ถ่ายเป็นเลือดข้นๆ ไม่กินอาหาร-น้ำ ไม่เคลื่อนไหว เหงือกเป็นหนอง ต้องพาไปหาหมอทุกวัน แต่ละวันขอให้เค้ามีชีวิตรอดก็ดีใจมากๆ แล้ว ตอนนั้นดิฉันก็เกือบจะให้เค้าฉีดอินเตอร์เฟียรอน แม้จะแพงก็ยอม (โดสละ 3,500 บ. ต้องฉีด 3-4 โดส) แต่หมอคนหนึ่งก็มาคุยด้วย บอกว่าการฉีดก็ไม่ได้ยืนยัน 100% ว่าจะหาย และเท่าที่ดู แมวน่าจะยังพอมีแรง หมอก็ไม่อยากให้เค้าเจ็บตัวมาก ก็เลยเปลี่ยนเป็นรักษาตามอาการ ให้อาหารเหลว และอาหารเม็ดบ้าง แต่ตอนนั้นเค้าทานน้อยมากๆ มื้อละ 5-8 เม็ดเอง และที่สำคัญ เหงือกที่เป็นหนองต้องระวังอย่าให้มีแมลงมาตอม เพราะถ้ามีหนอน จะเป็นเรื่องใหญ่ แล้วหมอก็บอกว่าเจ้าของต้องมีกำลังใจมากๆ ดิฉันก็เลยต้องเข้มแข็ง แล้วจับมือเค้า (แมว) นอนทั้งคืน ไม่ทราบว่ารู้สึกเองหรือเปล่าว่าเค้าดูเข้มแข็งมีกำลังใจขึ้น รักษาแบบนี้ 3-4 อาทิตย์ อาการเค้าก็ดีขึ้นค่ะ แต่พออาการดีขึ้นก็พบว่าเค้าเป็นไข้หวัดแมวอีก เป็นหนองในกระดูกที่ขาอีก ก็พาไปหาหมอทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน หมอสงสัยก็เลยเจาะเลือด พบว่าเค้าเป็นลูคีเมียด้วย ก็เลยเป็นโรคเยอะ แต่ดิฉันก็สู้ ค่อยๆ รักษา ดูแลอย่างดี จนหายเป็นปกติ ก็ให้ฉีดวัคซีน ตอนนี้เค้าอ้วนมาก น่ารัก แข็งแรง ชอบตบและกัดดิฉัน ดูเค้ามีความสุขดี เพราะฉะนั้น จขกท. อย่าหมดกำลังใจนะคะ แมวของดิฉันเป็นลูคีเมียก็ยังหายได้ แต่จำไว้ เจ้าของต้องมีกำลังใจเยอะๆ ค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเปลาะ และที่สำคัญ แยกเค้าออกจากแมวตัวอื่นด้วยนะคะ ดิฉันเป็นกำลังใจให้ค่ะ ^___^ จากคุณ : Barfinn เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 17:04:17

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนตัวไม่เคยรักษาโรคนี้ด้วยตัวเองนะคะ ฝากคุณหมอไว้ 1 อาิทิตย์ คุณหมอบอกว่า ภายใน 1 อาิทิตย์ ถ้าแมวยังอยู่ ก็แสดงว่ารอดค่ะ แมวตัวที่พาไปรักษาพอวันที่ทรุดมากๆ คือถ่ายเป็นเลือด (คือผนังลำไส้ลอกออกมา คุณหมอบอกแบบนั้นค่ะ) ถ้าผ่านวันนั้นได้ ส่วนใหญ่เค้าจะรอดค่ะ ส่วนหวัดแมว ถ้าเป็นหนักไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที จะทำให้แมวเกิดอาการปอดบวม ซึ่งก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ เช่นกัน คุณจขกท. นำส่งเค้าถึงคุณหมอแล้ว ก็ไม่ต้องห่วงแล้วนะคะ ตอนนี้เหลือเพียงร่างกายน้องเท่านั้น ที่จะต่อสู้กับโรคอยู่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  ขอให้เค้าหายป่วยนะคะ จากคุณ : ปล.คิดถึงเสมอ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 17:05:43

ความคิดเห็นที่ 3 ที่บ้านจะให้เค้ากินยาเขียวร่วมกับยาของหมอ แล้วก็พยายามให้เค้ากินได้ ป้อนครั้งละน้อย ๆ แต่ป้อนบ่อย ๆ ค่ะ จากคุณ : iluvtravel เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 18:01:48

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้านเจ้าดำเพิ่งตายวันนี้เองครับเป็นแบบนี้เลย จากคุณ : ป.ปลา (palara) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 18:16:18

ความคิดเห็นที่ 5 ทองเหลืองเป็นหวัดแมวตั้งแต่ 3 เดือนค่ะ ยังไม่ทันฉีดวัคซีนเลยมาเป็นซะก่อน แล้วก็พาพี่ๆน้องๆติดกันหมดเลย 4 ตัว เพราะตอนแรกอยู่รวมกัน  ทองเหลืองเป็นเยอะสุดเพราะหนังตาด้านในบวมเป่งเลย พาไปหาหมอ ฉีดยา 1 เข็มและให้ยากลับมาป้อนยา 1 อาทิตย์ค่ะ หมอผสมให้เป็นเจลใส่สลิ๊งค์ป้อน โชคดีที่เค้ากินยาง่าย แล้วก็จับแยกกรงทองเหลืองกับพี่น้องประมาณ 2 อาทิตย์ ส่วนพี่ๆน้องๆยังเป็นน้อยอยู่ไม่ต้องฉีดยา แต่หมอให้ยามาป้อนตัวละ 1 อาทิตย์เหมือนกัน ตอนนี้หายสนิทแล้วค่ะทั้ง 4 ตัว พอหายกันก็เลยจับฉีดวัคซีนแก้หัด+แก้หวัดแมวเลย ตอนนี้ซนกันเหมือนเดิม ถ้าเห็นแมวตาบวมๆ ซึมๆ ก็ให้รีบพาไปหาหมอนะคะ เพราะรีบไปก็รักษาได้ทันค่ะ //รูปทองเหลืองค่ะ จากคุณ : ตะกร้าหวายสีขาว เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 18:49:45

ความคิดเห็นที่ 6 กินยาจีนร่วมกับยาสัตวแพทย์ อึ่งไน้ , อึ่งงิ้ม , หงิ่งฮวย , แบะตง   อย่างละ 4 สลึง (ที่ร้านขายยาจีน)  ต้มรวมกันให้เข้มข้นเย็นแล้วค่อยป้อนใส่ปาก ( ใช้สลิงค์ง่ายกว่า )  แต่ยามันขมนะบอกไว้ก่อนกินยากมากๆ จากคุณ : ไผ่มงคล (เต่าธนชัย) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 19:18:34

ความคิดเห็นที่ 7 ขอขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับกำลังใจและคำแนะนำที่มีประโยชน์นะคะ ตอนนี้เค้าลุกขึ้นมากินอาหารได้เองแล้ว 30% ตอนเปิดกรงก็เดินมาอ้อน ซุกอยู่ในตัก จากตอนแรกเอาแต่นั่งก้มหน้า หายใจครืดคราด เหมือนจะสำลักตลอดเวลา จากคุณ : ท้องฟ้าใสกับต้นไม้เขียวๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 12:34:41