ความคิดเห็นที่ 1 "รด"น้ำนะครับ ไม่ใช่"ลด" เพราะยิ่ง "ลด"น้ำ ต้นไม้ก็ยิ่งได้น้ำน้อยลง ตอนไหนก็ได้ที่สะดวก แต่ถ้าใบเหลืองเดาว่าน่าจะขาดแดดมากกว่า ถ้าขาดน้ำใบจะเหี่ยวครับ ยอดจะเหี่ยวก่อน ถ้าขาดรุนแรงจะแห้งกรอบแล้วแต่ว่าต้นอะไร บางชนิดอยู่ได้นาน บางชนิดขาดแป๊บเดียวตายเลยก็มี สามสิ่งสมดุลครับ 1 แดด 2 น้ำ 3 ธาตุอาหาร มีครบรับรองโตพรวดๆ จากคุณ : โซว เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:09:44

ความคิดเห็นที่ 2 คุณโซว ครับ ต้นหน้าม้่าลายแมงมุมของผม ปลายใบที่แหลมๆ เหลือง และค่อยๆกุด ทุกใบ ทั้งใบเก่า และ ใบแตกใหม่ (แต่ภาพโดยรวม ยังเปล่งปลั่งสวยงามทุกใบ) ใช่อาการไม่ได้แดดหรือเปล่าครับ เพราะอยู่ในบ้านมาตลอดกว่า 2 เดือน ไม่ไ้ด้เอาออกอาบแดดเลย จากคุณ : พีระพงศ์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 10:43:37 A:58.9.177.111 X: TicketID:011396

ความคิดเห็นที่ 3 อาการของแก้วหน้าม้า น่าจะเป็นเพราะได้รับปุ๋ยมากไปหน่อย ลองหยุดให้้ปุ๋ยซักระยะแล้วรดน้ำแยะๆ ทุกวันๆละ 2-3 ครั้ง จากคุณ : ตาเชย เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:05:42

ความคิดเห็นที่ 4 ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : กล้วยไม้สีเงิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:21:28

ความคิดเห็นที่ 5 รดน้ำตอนไหนก็น่าจะได้นะคะ อาการแบบนั้น ลองดูดินในกระถาง หรือมองว่าโดนแดด หรือเปล่าน่ะค่ะ จากคุณ : jeabinlove เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:27:38

ความคิดเห็นที่ 6 ดีนะคะ ที่โน่นมีแดด ที่ภูเก็ตหาแดดไม่เจอมา3วันแล้วค่ะ ตกตลอดจะสำลักน้ำตายแล้วค่ะ จากคุณ : แม่น้องฟองเบียร์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:33:39

ความคิดเห็นที่ 7 ดีใจจังเลย เมื่อวานเห็นต้นไม้ที่ใส่กระถางไว้ที่หน้าบ้าน ใบเหลือง ๆ 2 ใบ เราก็เลยเดาว่าได้แดดไม่พอ เลยยกไปที่ได้แดดเพิ่ม ไชโย น่าจะช่วยเขาได้ถูกต้อง ขอบคุณทุกท่านค่ะ จากคุณ : ธรรมดารำลึก เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 12:03:47

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบ#2 ครับ อันที่จริงผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรหรอก ปลูกตายมาก็เยอะ ก็ใช้ประสบการณ์เท่านั้นแหละ ต้นไม้จะสังเคราะห์แสงจากคลอโรฟิลในใบที่เป็นสีเขียว ยิ่งได้แดดดีใบก็จะเขียวมากถึงเขียวแก่ ถ้าได้แดดน้อยคลอโรฟิลก็ต่ำสีเขียวก็ลดลงจนเหลืองได้ เหมือนซากไก่ตามตลาดที่ไม่มีเลือด ผิวตัวก็จะซีดจนขาวแบบนั้น ส่วนเรื่องปลายใบเหี่ยว อาจเกิดจากการตากแดดมาก อากาศแห้ง หรือแบบตาเชยว่าไว้ก็เป็นได้ครับ แก้วหน้าม้าเป็นไม้อยู่ที่ร่มได้ อาจจะไม่ใช่โดนแดดน้อยก็ได้ คนไม่สบายยังบอกอาการหมอไม่ชัดเจน หมาแมวเป็นโรคบอกไม่ได้รักษายากกว่าแต่ยังเห็นว่ากินได้หรือไม่ ต้นไม้ต้องอาศัยการหมั่นสังเกตครับ นี่ผมก็สังเกตมาหลายสิบปีแล้ว ยังไม่ค่อยได้ถึงไหนเลย บางทีก็เดินผิดทางไปเยอะเหมือนกัน ก็มาแลกเปลี่ยนความรู้กันเถอะนะครับ จากคุณ : โซว เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 12:09:14

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นเค้าว่ารดน้ำ ใ้ห้รดเช้า หรือ เย็น ตอนเทียงไม่ควร แต่กลางคืนนี่ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เราก็เป็นคนนึงที่รดน้ำกลางคืนอยู่บ่อยๆ (เพราะกว่าจะเสร็จธุระก็มืดซะแระ) จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 12:25:52

ความคิดเห็นที่ 10 เวลาฝนตก มันเลือกเวลาตกหรือเปล่า ฝนตกต้นไม้ก็ชอบ รดน้ำต้นไม้รดเวลาไหนก็ได้  แต่หากรดน้ำต้นไม้ตอนเที่ยงๆ ต้องรดให้มากๆ หรือรดให้ชุ่มๆ เวลาที่ดีที่สุดสำหรับรดน้ำต้นไม้คือเวลาเช้า  ต้นไม้ได้น้ำ ได้แสงแดด ก็ปรุงอาหารได้เลย จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 13:55:05

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ก่อนเข้ามาอ่านในบอร์ดใหม่ ๆ ก็เชื่อว่ารดกลางคืนไม่ดี จะทำให้เน่า เชื้อราเติบโตดี แต่พอเห็นฝนตกทั้ง เช้า กลางวัน เย็น ดึก มันก็น้ำเหมือนกัน ถ้ารดกลางคืนไม่ได้ ฝนตกกลางคืน ต้นไม้คงตายหมด เดี๋ยวนี้สังเกตุนิสัยต้นไม้มากกว่า ไม่แคร์ว่าเวลาไหน ปริมาณที่เหมาะกับแต่ละชนิดสำคัญกว่า จากคุณ : ผงดิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:25:16

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ รดน้ำเวลาไหนก็ได้แต่ให้สังเกตว่าอุณหภูมิขณะนั้นเป็นอย่างไร ถ้าแดดเปรี้ยงๆ ร้อนจัดๆ อย่าเพิ่งรดน้ำเลยครับสงสารมัน รอให้แดดร่มอากาศเย็นซักหน่อยก่อน ค่อยรดดีกว่า ตามธรรมชาติแม้จะมีฝนตกเวลาเที่ยง แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีเมฆครึ้มมาก่อน และลมแรง เพื่อลดอุณหภูมิของต้นไม้ลงเตรียมรับกับฝนเย็นๆ ต้นไม้แต่ละต้นมีความทนทานไม่เหมือนกัน บางต้นก็คุณหนูจริงๆ บางต้นก็อึดถึก ต้องคอยสังเกตครับ จากคุณ : โซว เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 08:47:51