ความคิดเห็นที่ 1 โหวตให้แล้วค๊าา ดึกแล้วสงสัยตาลาย อ่านยังไง๊เป็น หมาจราจร งงกระทู้ตั้งนาน ฮิฮิ จากคุณ : Rabbity เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 23:10:37

ความคิดเห็นที่ 2 เอางบติดชิปไป ทำกองคาราวานทำหมัน ออกทำหมันและให้ความรู้ในการเลี้ยงสัตว์ดีกว่า เพราะคนใจดีดูแลแมวหมาจร  มักไม่มีเงิน แต่คนมีเงิน เห็นสัตว์เป็นของเล่น เป็นของอวดกัน จากคุณ : rachomon เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 23:15:47

ความคิดเห็นที่ 3 เอางบไปทำหมันหมาดีกว่า คนมันจะทิ้ง ยังงัยก็ทิ้ง ฝังชิฟแล้วงัย จากคุณ : mu_ka_puk เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 23:35:07

ความคิดเห็นที่ 4 ชิฟมันมีประโยชน์เฉพาะกับคนที่รักหมาเท่านั้นแหละ แบบว่า หมาหายจะได้ตามเจอ ก็อย่างว่า คนจะทิ้งก็ไม่ฝังซิ หรือถ้าจะทิ้งจริงๆ เอาออกไม่ใช่ยาก ถ้ารู้ที่ฝังแปปเดียวก็เอาออกได้แล้ว เม็ดเล็กนิดเดียว จากคุณ : nevyblue เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 23:35:38

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าการติดชิพเป็นโครงการที่ดีนะ  เพียงแต่ว่ามันต้องมีมาตรการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพมาร่วมด้วย  ไม่งั้นก็จะไม่ต่างอะไรกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพื่อนบ้านเราอย่างสิงคโปร์  กฎหมายบังคับให้สุนัขทุกตัวต้องติดชิพ  ติดชิพเสร็จก็ต้องไปขึ้นทะเบียนอีก แถมยังต้องต่ออายุทุกๆปี  แล้วถ้าเป็นสายพันธ์อย่างพิทบูล ล็อตไวเลอร์ เยอร์มันเชพเพิร์ด ก็ต้องวางเงินประกันไว้ 5000เหรียญ (แสนกว่าบาท) บวกกับต้องซื้อประกันไว้อีกตะหาก  ทั้งหมดนี้เค้าถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม  ถ้าสุนัขใครไปกัดคนอื่นเค้าก็จะมีเงินประกันตรงนี้เป็นค่าชดเชย มาตรการบังคับใช้ของเค้าก็คือ  ทุกๆคลินิกจะต้องตรวจสอบไมโครชิพก่อนเสมอ  (เหมือนเรียกหาบัตรประชาชนก่อนการรักษา) ส่วนคนที่คิดจะเลี่ยงไม่ติดชิพนั้น  เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไป แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น  เช่นเพื่อนบ้านบ่นเรื่องสุนัขของคุณทำเรี่ยราดแล้วให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ  ถ้าไม่มีชิพจริงก็เตรียมค่าปรับมหาศาลไว้ซะดีๆ... จากคุณ : Yuki Yanagi เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 00:23:50

ความคิดเห็นที่ 6 1.ได้ เพราะมีประวัติผู้เลี้ยง 2. ต้องเริ่มบังคับให้จริงจัง เริ่มต้นเชื่อว่าจะมีผู้เลี้ยงที่ไม่มีความรับผิดชอบ ปล่อยออกมาเป็นสุนัขจรมากแน่ๆ แต่ต้องทำเพื่อเริ่ม การบังคับให้ได้ผู้เลี้ยงที่มีความรับผิดชอบ 3. คนที่มีความพร้อมเท่านั้นที่ได้เลี้ยงสุนัข(คือคนเลี้ยงสามารถดูแลสุนัขได้ตลอดชีวิตสุนัข) อีกทั้งหากสุนัขที่เลี้ยงมีลูก ก็ต้องนำไปแจ้ง นำไปฝังชิพ มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ในระยะยาวก็สามารถจำกัดจำนวนได้ดีขึ้น 4. เมื่อสุนัข ตาย ก็ต้องไปแจ้งเป็นประวัติผู้เลี้ยงและเหตุผล เพื่อยกเลิกการเป็นเจ้าของ ตรวจสอบได้ว่า เลี้ยงมากี่ตัว ตายเพราะอะไร มีความรับผิดชอบพอมั้ย 5. ถ้าตรวจสอบได้ว่า ไม่นำสุนัขไปฝังชิพ ต้องปรับให้หนักๆ เอาเงินไปช่วยสุนัขจรจัด ด้วยเหตุผลต่างๆ ทำให้ผู้เลี้ยงใหม่ๆ มีความรอบคอบมากขึ้น ยุ่งยากมากขึ้น จะทำให้ได้ผู้เลี้ยงที่มีคุณภาพ ไม่ปล่อยให้ถูกรถชน ขี้เรื้อน ทรมาน ไปถ่ายมูลหน้าบ้านคนอื่น จริงๆอยากให้เริ่มทำให้จริงจังและเริ่มบังคับจริงจัง เริ่มที่ กทม และเมืองใหญ่ๆ ก่อนเลยไม่ต้องขนาดทั่วประเทศแต่ต้องเริ่ม จากคุณ : sunday 14 jan เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 01:53:06

ความคิดเห็นที่ 7 นิสัยคนไทยไม่ค่อยรับผิดชอบ จากคุณ : เจ็ดสิบห้าสตางค์ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 03:48:14

ความคิดเห็นที่ 8 ทำไปเถอะคะ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อย น้องหมา หาย อาจจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เจอน้องหมาได้ แต่มันต้องมีองค์ประกอบอื่น ควบคู่ไปด้วย ถึงจะ เพิ่มความรับผิดชอบคนเลี้ยง  / ลดสุนัขข้างทาง / และ สุขภาพใจ กาย ของน้องหมา แมว ดีขึ้น จากคุณ : tempopo เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 04:48:02

ความคิดเห็นที่ 9 ติดอ่ะช่วยได้แน่ครับ แต่มันต้องทำควบคู่กับมาตรการอื่น แต่ที่ทำนี่ติดๆไปอย่างเดียวผมว่าไม่ได้ช่วยไรมากอ่ะครับ ถ้ามีโครงการทำหมันสุนัขและแมวจรควบคู่มันถึงจะค่อยๆเห็นผล เพราะสุนัขขและแมวชุดหลังๆจะมีชิพประจำตัวหมดแล้ว รู้ว่าของใครเป็นของใคร โครการทำหมันนี่ต้องทำให้รวดเร็วและถี่หน่อยอ่ะครับช่วงแรกๆ ไม่งั้นมันจะไม่ทันกับจำนวนสัตว์ที่คนเอามาปล่อยใหม่ จากคุณ : กะละมุงตุ้งแช่ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 05:17:15

ความคิดเห็นที่ 10 การฝังชิพ ก็คือการทำบัตรประชาชนสุนัขนั่นแหละ แต่ส่วนใหญ่ของสุนัขจรจัดไม่ได้ทำ จึงแก้ปัญหาไม่ได้สักที จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 08:43:40

ความคิดเห็นที่ 11 ที่ผมว่าไม่เห็นผลเพราะ 1พอมันออกลูก พวกก็เอาไปทิ้ง(ลูกหมาไม่ได้ติดชิป) แค่วัคซีนรวมยังไม่มีปัญญาฉีดเลย หมากลุ่มใหม่ๆไม่มีงบติด 2 ลูกหมาเพียงแค่6เดือนก็ท้อง (เด็กต่างจังหวัดท้องแค่อายุ11-13เอง) หมาไทยออกลูกดกมากๆๆๆๆ 8-14ตัว พออีก6เดือนก็ท้องอีก (กินแหลก ทุนชิปกระติดเดียว ขายโครตแพง ญาติผมก็เคยร่วมประมูลไม่อยากจะโวย) 3 คนหลายคนไม่คุมกำเนิดสุนัขแม้แต่สุนัขพันธ์ (กลัวปาบ กลัวสุนัขเครียจ กลัวไปหมด กลัวจนบ้า) หมาก็ท้องไม่มีพ่อ หน้าออกมาวัดๆ ก็ไปปล่อยอีก 4 ผมไปJapan เค้าไม่เห็นต้องทำเลย(แต่คนมีวินัย เช่นมีสายจูง)ผมว่าบังคับง่ายๆก่อนแค่สายจูงไม่ง่ายกว่าหรือ??????????????????? จากคุณ : t1k เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 08:49:40

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เห็นด้วย เพราะดูมันไม่ค่อยเป็นไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น คือ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายบังคับหลายๆ เรื่อง ปัญหาคนดูแลหมาไม่ดี ไม่รับผิดชอบ การไม่ใส่สายจูงในที่สาธารณะ (กรณีไม่แน่ใจว่า หมาจะวิ่งกระโจนใส่สิ่งกระตุ้นรึเปล่า) ฯลฯ จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 10:00:54

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าถามว่า  ได้  หรือ  ไม่ได้     คำตอบก็คือ "ได้"  และ  "ไม่ได้"   ฝังชิพ อย่างเดียว  แก้ปัญหาไม่ได้แน่นอน   การฝังชิพ  เป็นเพียงมาตรการส่วนหนึ่ง  ของ กฏเกณฑ์ เพื่อการควบคุมการเลี้ยงสัตว์ เป็น "การควบคุมประชากรสัตว์เบื้องต้น" ที่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่สุดแล้ว การฝังชิพ  ไม่ใช่ การแก้ปัญหาหมาจร  แต่เป็นการจัดการสัมโนประชากรหมา ซึ่งต้องมี กฏเกณฑ์ ข้อปฏิบัติ  ข้อกำหนดมาตรการอื่นๆ ตามมาอีกมากมายหลายส่วน   หาก มีการปฏิบัติตาม มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดรัดกุม ตามระยะเวลาและข้อกำหนด และ มีลงโทษผู้ฝ่าฝืนกฏระเบียบ อย่างจริงจัง   ปัญหาย่อมลดลงแน่นอน ประเด็น เรื่องการควบคุม การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย ปัญหาใหญ่ที่สุด คือ ผู้มีอำนาจในบ้านเมือง มองไม่เห็นหรือ ไม่รับรู้ว่า คือ มันปัญหา แม้จะมีการส่งร่างกฏหมาย ผลักดันให้  มีการนำร่างเข้าสภา อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง เรื่องสำคัญที่สุดในประเด็นนี้ คือ จิตสำนึก ในความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่ง ยังหาได้ค่อนข้างยากในสังคมไทยปัจจุบัน จะมีเป็นเฉพาะกลุ่ม เท่านั้น ไม่ได้รับการปลูกฝัง ตั้งแต่เด็กเล็ก จะมาเปลี่ยนกันตอนโตแล้ว เป็นไปได้ยากมาก สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป คือ สร้างกฏระเบียบ เพื่อการควบคุม สร้างจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม  ให้เยาวชนรุ่นต่อๆไป และที่ขาดไม่ได้ คือ การนำกฏ ระเบียบที่สร้างขึ้น  มาใช้บังคับอย่างเข้มงวดจริงจัง ส่วนตัว  ได้รณรงค์ ผลักดัน ล่ารายชื่อ ฯลฯ เพื่อผลักดันร่างกฏหมายฯมานานแล้ว ปัจจุบันคอยช่วยเหลือ หมาลำบาก จากการถูกทอดทิ้ง ทารุณ บ้างตามกำลังที่พอทำได้ เรื่องของการผลักดัน เพื่อเข็นร่างกฏหมาย ได้หยุดทำไปแล้ว เพราะไม่มีกำลังพอ สรุปว่า  เราทำหน้าที่ของเรา เท่าที่จะทำได้ ไปให้ดีที่สุด ท่าน ก็ทำหน้าที่ของท่านไป ให้ดีที่สุด เช่นกัน สิ่งที่ดีก็ช่วยกัน สนับสนุน แสดงความคิดเห็น มุมมองที่สร้างสรรค์ กันไป สิ่งที่จะสร้างปัญหา  ทำให้สังคมเดือดร้อน  ก็ช่วยกันตักเตือน ชี้แนะกันไป โดยแต่ละคนมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบของตัวเอง และปฏิบัติตามความถูกต้องกันไป แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 11:33:54 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 11:32:07 จากคุณ : dogpeople1 เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 11:30:49