 |
ใจเย็นๆครับ
ผมเคยโพสตอบไว้ในกระทู้ของคุณตู้ไฟ หลายวันแล้วขออนุญาตคัดลอกเอามา
โพสนะครับ
--------------------------
เนื่องจากความเข้มข้นของน้ำปุ๋ยผู้แทนจำหน่ายแต่ละเจ้า ผสมความเข้มข้น
ไม่เท่ากันและไม่เป็นมาตรฐานอีกด้วย บางเจ้าผสมน้ำเจือจางเพื่อให้ได้ปริมาณ
มากๆ เอากำไรเยอะๆ
คุณนันทาซื้อมา มาใส่A,Bอย่างละ 3 cc ผสมน้ำ1 ลิคร แน่นอนครับแช่กัน
นานน้านนาน ก็ยังไม่โตซักทีครับ
แต่ถ้าคุณนันทาซื้อปุ๋ยมาจากตัวแทนปุ๋ยที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ มีความเข้มข้น
ถูกต้อง ผสม A,B อย่างละ 3 cc ต่อลิตร อาจมากไปก็ได้ครับ
ที่ถูกต้อง ถึงต้อง มีเครื่องมือมาวัดให้น้ำปุ๋ยที่ใช้ในระบบ ให้เป็นมาตรฐาน ไงครับ
โดยปกติ น้ำยา A และ B ที่ใช้ เมื่อผสมน้ำแล้ว น้ำปุ๋ยที่ได้ ค่าจะวิ่งอยู่ระหว่าง
ค่า EC=1 ถึง 1.5 หรือ เท่ากับ TDS = 650 ถึง 1300 ppm ครับ
ทั้งนี้ ค่าทั้งหมดยัง ขึ้นอยู่กับ ระบบ ที่ปลูก ชนิดของพืชที่ปลูก พันธุ์ที่ใช้
เครื่องปลูกที่ใช้ และการจัดสภาพแวดล้อมต่างๆ ในการปลูกพืช
รวมถึงระยะเวลาระหว่างต้นอ่อน ต้นอนุบาล ต้นสมบูรณ์ และต้นแก่
มีผลทั้งนั้นครับ
จะใช้ความเข้มข้นของ ปุ๋ย A กับ B แตกต่างกัน ครับ
-----------------------------------------------------------
แต่ก็มีหลายท่านไม่ได้ใช้เครื่องมือ แต่ใช้วิธีสังเกตุความเจริญเติบโต
และสีของใบผัก ก็ใช้ได้เหมือนกัน ครับ
แต่... บางที การตอบสนอง อาจช้าเกินไป หรือบางครั้งน้ำยา A และ B
อาจเข้มข้น มากเกินไป หรือเจือจางมากเกินไป ซึ่งนักวิชาการ
เรียกว่า มันไม่นิ่ง
ซึ่งการเลี้ยงผักด้วยวิธี ไฮโดรโปนิก ต้องการความนิ่งพอสมควร ครับ
ผักที่ไดถึงจะเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอครับ
| จากคุณ |
:
กา...คาบพริก 
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 53 09:40:42
|
|
|
|
|
ปุ๋ย A + B ยากกว่าที่คิด
