ครูชะบา อ่อนนาค กับโครงการ "รักษ์สัตว์ รักษ์สังคม"
|
 |
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000183215
มีคนเป็นร้อยเป็นพันที่ทำความดีโดยไม่ได้หวังสิ่งใดๆ ตอบแทน ทั้งๆ ที่กว่าเขาจะสร้างคุณงามความดีนั้นขึ้นมาได้ มันต้องใช้ความเพียรพยายาม อดทน และฟันฝ่าอุปสรรคความเหน็ดเหนื่อยต่างๆ มามากมาย แต่เพียงเพราะต้องการให้ผู้อื่นได้อยู่กันอย่างมีความสุข เช่นเดียวกับ "ครูชะบา อ่อนนาค" ครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนชลบุรี "สุขบท" จังหวัดชลบุรี ครูผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกลุ่มเด็ก "รักษ์สัตว์ รักษ์สังคม" ที่ได้รับรางวัลเยาวชนต้นแบบจากรายการคนค้นฅนอวอร์ด ครั้งที่ 2 ซึ่งนับว่าเป็นผลพวงของการทำความดี ครูชะบาเล่าย้อนถึงการจัดตั้งชมรม "รักษ์สัตว์ รักษ์สังคม" ให้ฟังว่า สมัยก่อนเมืองชลบุรีเป็นสังคมการเกษตร เกือบทุกครอบครัวมีอาชีพเกษตรกรรมและทำการประมง แต่เมื่อไม่นานมานี้ความเจริญก้าวหน้าของโรงงานอุตสาหกรรมก็ได้เข้ามาในชุมชน ทำให้มีผู้คนจากต่างถิ่นเข้ามาอาศัยจำนวนมาก จนเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น หนึ่งในนั้นคือ ปัญหาสัตว์เลี้ยงถูกทอดทิ้งตามวัด โรงเรียน และสถานที่ต่างๆ และขาดการดูแลเอาใจใส่ที่ดี ด้วยความที่เธอเกิดและเติบโตที่ชลบุรี จึงคิดหาทางช่วยแก้ไขปัญหาในถิ่นฐานบ้านเกิดของตัวเอง แม้หลายคนอาจจะคิดว่าปัญหานี้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สภาพ ณ ตอนนั้นสุนัขนับร้อยตัวถูกนำมาปล่อยทิ้งจนป่วยเป็นโรคผิวหนังและโรคต่างๆ เป็นที่รังเกียจของผู้คนที่เดินทางผ่านไปมา และบ่อยครั้งที่มักจะเห็นสุนัขและแมวถูกทำร้าย ซึ่งเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจ เด็กๆ ในชุมชนจึงอาสารวมตัวกัน เพื่อเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีครูชะบาคอยให้คำปรึกษาและหาวิธีการช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ ถึงแม้ทุกคนจะไม่มีความรู้เรื่องการรักษาสัตว์เลยก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำความดีครั้งนี้เลย "ก่อนหน้านั้นมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งเห็นสุนัขดิ้นเจ็บปวดทุรนทุราย จึงวิ่งมาบอกแล้วพูดมาคำหนึ่งว่า ถ้าครูไม่ช่วย วันหนึ่งที่เขาโตขึ้นและเห็นปัญหานี้เกิดขึ้นในสังคม เขาก็จะไม่สนใจมันเหมือนกัน ทำให้รู้สึกว่าอยากจะสอนให้เด็กๆ มีความเมตตาต่อสัตว์และอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ที่ทำให้อยากช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งก็มาจากภาพของในหลวงที่ทรงรักและห่วงใยคุณทองแดงสุนัขทรงเลี้ยง และพระองค์ทรงดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของพระองค์เป็นอย่างดี ทำให้มีกำลังใจที่จะทำความดีเพื่อตอบแทนแผ่นดิน แม้จะลำบากและเหน็ดเหนื่อยมากแค่ไหนก็จะมุ่งมั่นทำเพื่อชุมชน" ครูชะบากล่าว
เด็กๆ เรียนรู้การช่วยเหลือและปฐมพยาบาลสุนัขจากสัตวแพทย์ ครูชะบายังเล่าให้ฟังอีกว่า ในฐานะที่เป็นครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา เธอนำหลักธรรมของพระพุทธศาสนามาเชื่อมโยงกับการช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้ง ทำให้เด็กนักเรียนมีความเข้าใจและหันมาช่วยเหลือดูแลสัตว์มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังให้เด็กๆ มีจิตใจที่เมตตาต่อผู้อื่น รวมถึงสัตว์ที่เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมโลกกับมนุษย์ด้วย อย่างไรนั้น คุณครูชะบาก็ไม่ได้สอนแต่เด็กนักเรียนเพียงเท่านั้น เพราะเธอเริ่มสอนตั้งแต่คนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกสาวที่ซึมซับความดีจากการปลูกฝังของแม่ที่พร่ำสอนให้มีจิตใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น "ตอนที่ลูกสาวยังเล็กๆ ครอบครัวของเราจะพากันไปทำบุญที่วัดอยู่บ่อยๆ ลูกสาวก็จะเห็นภาพของสุนัขและแมวถูกทำร้ายหรือนำมาปล่อมทิ้งไว้ พี่ก็จะสอนเขาเสมอว่า ถึงเราไม่ใช่เจ้าของมันก็ไม่ควรทำร้ายหรือทารุญให้มันเจ็บปวดทรมาน เพราะสัตว์ก็มีความรู้สึกไม่ต่างไปจากคนเรา หากเราสามารถช่วยเหลือได้ก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง" จนวันหนึ่ง ลูกสาวของคุณครูชะบา หรือที่เด็กๆ เรียกว่า "หมอตาล" หรือ "สพ.ญ.พันธ์กานต์ อ่อนนาค" จึงมีความมุ่งมั่นจะเข้าศึกษาต่อคณะสัตวแพทย์ เพื่อจะได้นำความรู้มาช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้ง ทุกๆ ครั้งที่ออกไปให้ความช่วยเหลือสุนัขจรจัดหรือแมวที่ถูกทอดทิ้งไร้เจ้าของ ครูชะบาจะบอกกับลูกและเด็กนักเรียนเสมอว่า "การรักสัตว์ที่แท้จริง จะต้องไม่รักเพียงสัตว์ที่เราเป็นเจ้า ต้องรักและให้ความเมตตากับสัตว์ตัวอื่นๆ ด้วย แม้ไม่ได้เป็นจ้าของ แต่ถ้าเราช่วยแบ่งปันอาหารหรือเข้าไปดูแลมันคงดีกว่าที่จะปล่อยให้มันอยู่ตามยถากรรม อีกอย่างการช่วยกันแก้ไขปัญหาของชุมชนก็เปรียบเสมือนการที่เราได้ดูแลบ้านหลังใหญ่ของทุกคน"
"หมอตาล-สพ.ญ.พันธ์กานต์ อ่อนนาค" ลูกสาวของครูชะบา นอกจากนั้น คุณแม่และคุณครูผู้สร้างคนด้วยความเมตตาท่านนี้ ยังบอกด้วยว่า สำหรับหลายๆ รางวัลที่ได้รับมาจากการทำความดี ถือว่าเป็นการสร้างกำลังใจให้กับทุกๆ คนที่ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม และมันจะมีคุณค่ามากถ้าเราได้เห็นผลของการทำความดี ซึ่งมันมีค่ามากกว่ารางวัลที่ได้รับอีก ฉะนั้น จึงอยากให้ทุกคนตั้งใจทำความดี แม้วันนี้อาจจะยังไม่มีใครเห็น แต่เชื่อว่าสักวันความดีที่เราได้ทำมันจะเกิดประโยชน์กับผู้อื่น แล้วสะท้อนผลดีมาสู่ตัวเราที่มากกว่าคำยกย่องสรรเสริญอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ครูชะบายังฝากข้อคิดไปถึงคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองทุกๆ บ้านว่า ถ้าต้องการให้ลูกหรือลูกศิษย์เป็นคนดี มีความเมตตา เสียสละ และมีน้ำใจต่อผู้อื่น เราต้องมองย้อนกลับมาที่ตัวเราเองก่อนว่าได้ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกและลูกศิษย์แล้วหรือไม่ โดยเฉพาะการรักสัตว์ คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มทำก่อน เพราะมันสามารถช่วยปลูกฝังให้เด็กมีจิตใจที่อ่อนโยน รู้จักรักและให้ความสุขกับคนอื่น แล้วในอนาคตเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และไม่คิดทำร้ายหรือรังแกผู้อื่น ฉะนั้นคนจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับการอบรมเลี้ยงดูและการปลูกฝังแต่สิ่งที่ดีให้กับเขาตั้งแต่เล็กๆ
จากคุณ |
:
RoseTiara
|
เขียนเมื่อ |
:
วันสิ้นปี 53 12:19:28
|
|
|
|