ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้เป็นแปลงแรก ใบล่างๆจะโก๋นๆไปนิด สาเหตุจาก เมียอยากชิมสลัดผักที่ผมปลูกเอง ในวันปีใหม่ ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:07:34

ความคิดเห็นที่ 2 จากวันที่เริ่มเพาะเมล็ด 10  พ.ย. 53 ลงราง 13 พ.ย. 53  อายุ 55 วัน วันที่คาดว่าจะเก็บได้ 8 ม.ค. 54 จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:14:32

ความคิดเห็นที่ 3 จนถึงวันนี้ อีกสามวัน เก็บผลผลิต ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:17:26

ความคิดเห็นที่ 4 คอส รุ่นที่ สอง และรุ่นที่สาม ตามมา ติดๆ ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:20:01

ความคิดเห็นที่ 5 ครั้งแรกในชิวิตที่ ปลูกผักไฮโดรโปนิค หลังจาก ที่ได้ไปอบรมมา แล้วทิ้งไว้เฉย ๆเป็นปี จนกระทั่งมาอ่านกระทู้ ของคุณตู้ไฟ 007 ทำให้เกิดแรงจูงใจจนได้ปลูก จนได้มีผักสลัด ที่ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง เป็นของตัวเอง ได้กินเองไม่ต้องซื้อเค้ากิน อีกต่อไปแล้ว ต้องขอบคุณ คุณตู้ไฟ เป็นอย่างสูง ด้วยครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:31:16

ความคิดเห็นที่ 6 คุณกา...พอจะบอกได้ไหมว่าเซ็ทปลูกผักราคาเท่าไรคะ จากคุณ : The Gollum เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:02:25

ความคิดเห็นที่ 7 ผักคอส  เป็นผักสลัด รสชาติอร่อย กรอบกว่า ร๊อกเกต กินได้เนื้อ ได้เส้นใยเซลลูโลส มากกว่า กรีนโอ๊ค เร็ดโครอล เร็ดโอ๊ค และผักตระกูลใบเป็นฝอย เช่นฟีเล่ ที่สำคัญ คอสเป็นผักสลัดที่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยธรรมชาติ ครับ เหมาะสำหรับคนสูงอายุที่ต้องคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือเบาหวานครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:11:17

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบคุณThe Gollum ครับ ตัวรางขาวๆ ยาวเส้นละ 6เมตร ราคา 900 บาท ค่าเจาะรู 150 บาท นอกนั้นก็มี ท่อปะปาPVC สามหุนเป็นน้ำเข้า ท่อปะปาPVC สี่หุนเป็นน้ำออก ปั๊มน้ำตู้ปลา พร้อมกรอง ชนิดตัวใหญ่ทนทานเปิด 24ชม. มีเวนจูรีดูดอากาศได้ ขาอลูมิเนี่ยม 1x1 นิ้ว จำนวนเส้นตามเท่าที่เราทำ ตัวพลาสติกมุมขา สีตัว ตัวพลาสติกปรับความสูงขา กล่องใส่น้ำได้ สี่สิบลิตร เอาคร่าวๆนะครับ  ซื้อของเบ็ดเสร็จใช้งานปลูกได้มีเมล็ดพันธ์ มีน้ำยา A,B ก็ประมาณหกพัน บาท  ครับ ถ้าอยากจะทราบมากกว่านี้ต้องถามหลังไมล ครับ เพราะว่าเดี๋ยวจะเป็นการโฆษณาให้เค้าละครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:38:28

ความคิดเห็นที่ 9 ขอน้ำสลัดด่วน.... จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:12:58

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบตรงถ้วยที่ใช้ปลูกน่ะค่ะ  เป็นถ้วยกาแฟ ถ้วยขนมใช่ไหมคะ  ความคิดเลิศมากเลย จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:30:30

ความคิดเห็นที่ 11 นกเขาป่า ข้างๆบ้านครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:34:24

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นราคาแล้วเหงื่อตกเลย   ก้มหน้างุด ๆ  กลับไปปลูกผักในกล่องแบบเดิม จากคุณ : The Gollum เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 15:20:38

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนแรกผมก็ว่าแพง แต่ราง กับคลิ๊บล๊อกราง เค้ารับประกันอายุใช้งาน ตากแดดตากฝนให้ 13 ปี เปลี่ยนให้ฟรี แล้วปั๊มตู้ปลา ผมเดินดูจตุจักร แบบใช้งานหนัก ของญี่ปุ่นไม่ใช่ของจีนก็ ราคาพัน เหมือนกัน ครับ ผมดิคจะซื้อรางกระถางพลาสติกยาวๆ แบบของคุณพี่ตู้ไฟ ก็ต้องทำแบบ DFT หรือน้ำนิ่ง ถึงจะเวิคสุด ตานี้ อีตานาย Allen Cooper แห่งสถาบันวิจัยการปลูกพืชในเรือนกระจก (GCRI) ประเทศอังกฤษ แกวิจัยมาว่า ในระบบ NFT อ๊อกซิเจน ในอากาศจะละลายลงไปในสารละลายได้เร็วกว่าการปลูกแบบ DFT เพื่อช่วยให้เคมีในน้ำปุ๋ยแตกตัวเป็นไออ้อน ได้เร็ว และเพื่อให้รากพืชจะได้ดูดไปใช้งานได้ดีกว่าระบบอื่นๆ   การปลูกแบบ NFT จึงช่วยลดปัญหาการขาดอากาศ (O2) ของรากพืชได้ดี ผมจึงอยากจะทำแบบฟิลม์ หรือ NFT โดยให้รากอยู่ในน้ำใหล ลึกเพียงแค่ 1ถึง2 มิล  เลยก็จำเป็นต้องซื้อรางแหละครับ ผมคิดว่าระบบนี้ มันแพงในตอนแรก แต่ ในระยะยาวก็คงน่าจะคุ้มบ้างแหละครับ แต่ผมว่านะ จะเป็นระบบอะไรก็ได้ ขอให้เราได้ปลูกเองเถอะ เทียบกับเราได้กินผัก ที่ไม่มีเคมีฆ่าแมลง ก็น่าจะคุ้มกับสุขภาพเรา ทุกระบบแหละครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:15:58

ความคิดเห็นที่ 14 สุดยอดครับ ผักงามจริงๆ จากคุณ : จอมยุทธเซี่ยง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 18:02:45

ความคิดเห็นที่ 15 แวะมาชมสวนผักสมาชิกค่ะ สงสัยนิดนึงค่ะว่า ที่เด็ดใบสลัดใบล่างๆมารับประทานเลย ต้นนี้ต้องผ่านการแช่รากก่อนหรือเปล่าคะ เราเข้าใจว่าเวลาจะเอามาทำอาหารผักพวกนี้จะต้องแช่น้ำเปล่าประมาณสามวันขึ้นไปเพื่อล้างไนเตรทในต้น  ถ้าเราเก็บใบล่างๆมาโดยไม้ล้างจะมีผลกระทบอะไรหรือเปล่า และถ้าผักผ่านการล้างรากสามวันขึ้นไปแล้วเราเก็บเฉพาะใบล่างมากินจะมีปัญหาในการเจริญเติบโตหรือเลป่าน่ะค่ะ ตอนนี้ประสพปัญหากินไม่ทัน เวลาเด็ดก็เอามาทั้งหมดและตอนนี้มะเขือเทศที่ทดลองปลูกกับน้ำแบบระบบแช่รากติดลูกแล้ว(ค่อนข้างนานเหมือนกันเพราะกลุ่มที่ลงดินได้กินผลแล้ว) สงสัยว่าเวลาเก็บลูกมากินเราจะต้องล้างรากเหมือนผักกินใบหรือเปล่า ว่าจะตั้งกระทู้ใหม่เลยขอแจมถามไปด้วยนะคะ เรื่องหนอนกินใบ ตอนนี้เราทดลองวิธีใหม่ค่ะ โดยการจับลำต้นจุ่มในน้ำสะอาดให้น้ำท่วมทั้งต้น หนอนมันลอยตายออกมาเอง แล้วเอาต้นไปแช่ใหม่ จุ่มแค่ครึ่งชั่วโมงก็ตายเกลี้ยง ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงก็ได้ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 01:25:13

ความคิดเห็นที่ 16 อ่าว...โบราณเค้าว่า ถ้าไม่รู้อะไรให้เมียกินก่อน ไม่ใช่เหรอ ครับ ดูอย่างเห็ดซิ  โบราณเค้าบอกว่า ถ้าอยากจะรู้ว่าเห็ดมีพิษหรือเปล่า ต้องให้เมียกินก่อน นะครับ พูดเล่นน่ะ ครับ เท่าที่ผมศึกษาและค้นคว้า จากตำราจากในไทยและต่างประเทศ ซึ่ง ต่างประเทศเค้าเลี้ยงวิธีนี้ ก่อนเรา มาหลายสิบปี ได้ผลว่า ถ้าเรา คุมการใช้ เคมีในปุ๋ย A และB ให้ถูกต้อง ระยะเวลา และวิธีในการเลี้ยง จะเป็นตัวคุมให้ปุ๋ย ใช้งานได้สมดุลหมดพอดี  ครับ ความสมดุลในระบบดูดซึมอาหารของพืช  แสงแดด และองค์ประกอบ เคมีในปุ๋ยจะรวมตัวกับ  อ๊อกซิเย่นแปลสภาพเคมีในปุ๋ยให้เป็นไออ้อน เพื่อให้ระบบรากดูดซึมไปใช้งาน  โดยจะถูกเปลี่ยนไปเป็นในรูป ของโปรตีน ไฟเบอร์ กรดอะมิโน และรวมถึงวิตามิน ต่างๆอีกมากมาย ครับ ขนาดเมืองเค้าแดดน้อยกว่าเราเยอะ เค้ายังเลี้ยงได้อย่าง ปลอดภัยจากสารตกค้าง   เมืองเราแดดมากมาย เกินพอ ครับ และโดยทั่วไป ไนเตรสจะสะสมที่ยอดผักมากกว่าที่โคน ครับ แล้วตอนนี้ ผม คุม pH ด้วยกรดฟอสฟอริก แทนไนตริก68% แล้วครับ จริงอยู่ใช้ในตริก เราจะได้ไนเตรดเพิ่มมาฟรีๆ           แต่ถ้า มากเกินไปก็ไปสะสม ที่เนื้อเยื่อเจริญ เพื่อเตรียมตัวแบ่งเซล เช่นที่ยอดอ่อนครับ ที่พบปัญหาสะสม เท่าที่ผมทราบส่วนใหญ่ ผู้เลี้ยงให้ปุ๋ยมากเกินความจำเป็น ไม่ได้ตรวจค่า EC              ถ้ามากเกิน4 มิลลิซีเมนซ์  พืชไม่เป็นไรเขียวดี แต่คนกินอันตรายครับ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร คนเลี้ยงไม่ได้กินเอง ก็แบบนี้แหละครับ ปล่อยให้ ค่า EC อย่าให้ต่ำกว่า 1 ไม่เกิน 1.8 มิลลิซีเมนซ์ ก็พอแล้ว สำหรับผักสลัด แต่ถ้าผักจีนหรือผักไทย ก็ให้ได้สูงหน่อย อาจได้ถึง 3.6 ครับ และตอนใกล้ๆจะเก็บ    ใกล้ๆ 45 วันของผักไทยจีน   ใกล้ๆ55 วันของผักสลัด ก็ค่อยๆเพิ่มน้ำ เข้าไป  ผมว่าน่าจะปลอดภัยสำหรับสารตกค้าง นะครับ ท่านใดมีความเห็นอื่น เพิ่มเติมได้ครับ เคมีในน้ำปุ๋ยจะได้     ไม่มากเกินไป      ไม่น้อยเกินไป น้อยไป ก็ใบล่างเหลือง มี Tip Burn  มีอาการขาดแคลเซี่ยม ลำต้นอ่อน แต่ปลอดภัย    มากไปก็สะสม  ผมว่าเรากินเอง เอาพอดีๆ   ดีกว่านะครับ นี่แหละครับที่ผมชอบ ระบบไฮโดรโปนิค   เพราะมันคุมปุ๋ยได้ดังใจดีครับ  หาอ่านข้อมูลในเนตได้เยอะ ยิ่งเดี๋ยวนี้ ให้กูเกิล แปลเวปให้ ยิ่งสบายเลย ครับ     ซึ่งต่างกับดินเยอะ ปัจจัยนอกเยอะ คุมยากกว่ามากครับ สำหรับกินไม่ทัน    ผมมีเห็ดอยู่โรงหนึ่ง ไม่เยอะหรอกประมาณ สี่ - ห้าร้อยก้อนได้ แรกๆเลี้ยงไม่เป็น ดันออกดอกมาพร้อมๆกัน กินไม่ทัน ก็เอาใส่ถุงก๊อบแก๊บ แจกเพื่อนบ้าน ครับ ตอนหลังรู้วิธีคุมให้ออกดอกไล่ๆกัน แล้วก็มีแม่ค้ารถกับข้าวมาขอซื้อด้วย เลยไม่ได้แจกแล้วครับ ก็อ่านจากเนตเมืองนอก กูเกิลแปลให้เหมือนกันครับ ยินดี ที่คุณ anavrin  แวะมาชมสวนผักผม  ครับ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 54 08:30:17 จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 11:22:45

ความคิดเห็นที่ 17 แจกเห็ด เพื่อนๆครับ เป็นเห็ด นางฟ้าฮังการี่ เป็นเห็ดขี้เกียจครับ ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องทำอะไรเลย ก็ได้กิน ได้ขาย กำไรดีมาก รอเก็บดอกอย่างเดียว เลี้ยงง่ายที่สุดในโลกนี้ ใครมีตลาดนัดอยู่ใกล้ๆบ้านก็เอาไปขาย โลละ 60 บาท ถ้าแบ่งใส่ถุงขายถุงละ 20 จะได้ 4ถุง = 80 บาท กำไรมหาศาล ใครอยูใกล้วัดก็เอาไปให้โรงครัวพระ ได้บุญมหาศาลเหมือนกัน ครับ ลงทุน ซื้อมา 1000 ก้อน 7000 บาท ปั๊มน้ำไฟฟ้าครึ่งแรงม้า 1200 บาท   สปริงเก้อ  150 บาท สองตัว 300 ที่ตั้งเวลาปั๊มน้ำ ชนิด 24 ชั่วโมง   300 บาท   สายยาง หนึ่งเส้น 300 บาท แผ่นผ้าพลาสติกล้อมกั้นเป็นโรง 2 ผืนเป็นผนังสูง2 เมตร   หนึ่งผืน หลังคาอีกหนึ่งผืน เอาด้านหนึ่งติดกับผนังบ้าน   ที่ไม่ค่อยถูกแดด ด้านส้วมดีที่สุด   ซื้อแม็กโคร ผืนละ 400 สองผืนก็ 800 บาท เบ็ดเตล็ด เช่น ท่อสี่หุน 1 เส้น เสาเป็นเหล็กเส้น หกมิล อิฐบ๊อกทำชั้น ไม้กระดานรองก้อนเห็ด   ฯลฯ รวมค่าเบ็ดเตล็ด อีกประมาณ 1000 บาท และที่สำคัญถ้าเป็นคุณผู้หญิง  ก็ แรงงานสามี  ต้องอ้อนๆหน่อย รวมลงทุน  ประมาณ หนึ่งหมื่นบาท ขายประมาณเจ็ดเดือนบวกลบ คืนทุน ต่อไปเป็นกำไร มหาศาล การตั้งเวลาให้น้ำ ให้กั้นด้วยกระสอบหรือผ้าเช็ดตัวเก่าๆ ขึงในส่วนที่จะบังคับให้ออกดอก ขึงด้วยเชือกพลาสติก แล้วเอาผ้ากระสอบพาดกั้น เป็นพื้นที่ส่วนบังคับ   ตอนกลางวันทุกๆหนึ่งชั่วโมง ให้น้ำ 15 นาที ตอนกลางคืน ทุกๆสองชั่วโมง ให้น้ำ 15 นาที  เอามือจับกำที่ผ้ากะสอบกั้น  ต้องชื้นอยู่เสมอ อันนี้ไม่แน่นอน แล้วแต่สถานที่ แล้วความเหมาะสม ให้ปรับเอา ให้น้ำอย่าให้น้ำเข้าถุงเด็ดขาด หัวสปริงเก้อต้องอยู่ด้านหลังถุง จากนั้นก็รอ เงิน รับทรัพย์อย่างเดียว ครับ ผมรับปรึกษาเรื่องเห็ด ฟรี เป็นวิทยาทาน เพราะ ความรู้ได้มาฟรีครับ ทำน้อยๆพอกินพอขายได้ค่ากับข้าวทุกวัน ให้ซื้อก้อนเค้ามาเปิดเองดีที่สุดครับ อย่าอัดถุงทำถุงเชื้อเอง   ไม่คุ้มถ้าทำน้อยๆ ครับ และเห็ดฟาง ทั้งแบบกอง หรือแบบในตะกร้าง   แบบกองจะออกดอกใหญ่ ดอกตูมใหญ่ แบบตะกร้าจะออกดอกเล็ก     เคยทำเห็ดฟาง     แต่ไม่ชอบเพราะ เรื่องมาก อย่าไปทำมันเลยครับ ปลูกผัก ต้องปลูกหน้าหนาว เวิคสุด  เลี้ยงเห็ดต้องเลี้ยงหน้าร้อน กับหน้าฝน เวิคสุด ครับ แก้ไขคำผิดตกหล่นตัวสะกด  และเพิ่มเติมข้อมูล แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 14:56:05 แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 14:47:25 แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 14:25:33 จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 12:47:11

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ สงสัยต้องหาความรู้และทดลองเพิ่มเรื่อยๆ  ตอนนี้รู้จักกะ คาดคะเน เลยพอกินพอแจกแล้วค่ะ เห็นเห็ดที่ปลูกแล้ว อยากผัดฉ่าใส่เมล็ดพริกไทยอ่อน..เป็นคนที่ชอบกินเห็ดมากกกแต่เรื่องปลูกสงสัยต้องรอคิวต่อไปค่ะ แหะๆ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 23:55:36