ความคิดเห็นที่ 1 ปลูกผักไทย ผักจีน  ไฮโดรฯ ต้องโดนแดดเยอะๆ ไม่งั้นต้นยืดใบก๊องแก้ง ครับ น่าจะใส่น้ำปุ๋ยมากไปหรือเปล่าครับ น้ำถึงได้มีไขมันลอยเยอะน่ะ ครับ ผสมน้ำปุ๋ย ตามอัตราส่วนที่เค้าบอกมาหรือเปล่า ครับ ถ้าตามสูตร ของคุณตู้ไฟ ควรมีไขมันลอยอยู่ประมาณ 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้นครับ แล้ว ๆ อยากถามว่าปลูก สี่ต้น เองหรือครับ และอีกอย่างปุ๋ย A,B ที่ซื้อมาเค้าใช้กับผักไทยผักจีน  หรือผักสลัดฝรั่ง คนขายได้บอกหรือเปล่า ครับ ถ้าน้ำปุ๋ย A,B ใช้กับผักสลัดฝรั่ง เอามาปลูกคะน้าใบ คะน้าฮ่องกง  ต้นจะแคระแกรน ใบอาจจะหงิก หรือปูดๆได้ ครับ อย่างอื่นคงต้องให้คุณพี่ตู้ไฟมาช่วยตอบแล้วครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:07:43

ความคิดเห็นที่ 2 ไขที่เป็นแผ่นลอยขึ้นมา คือผลทางเคมีระหว่างปุ๋ย AB เป็นแผ่นหินปูนค่ะ จากคุณ : Schwabbbbb เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:27:28 A:180.180.20.57 X: TicketID:292061

ความคิดเห็นที่ 3 ไขที่ว่าไม่มีผลเสียอะไรค่ะ ปลูกไปสัก 15-20 วัน ก็เปลี่ยนสารละลายด้วยนะคะ เพราะอาจเกิดอาการ TIP BURN ได้ค่ะ จากคุณ : Schwabbbbb เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:28:56 A:180.180.20.57 X: TicketID:292061

ความคิดเห็นที่ 4 อาการผักยืด จะพบเจอกันในหน้าหนาว และหน้าฝน กันซะส่วนใหญ่ เนื่องมาจาก แสงน้อย การสังเคราะห์แสงของพืชต่ำ ทำในอัตราการเจริญเติบโตเป็นไปได้ช้า แคลเซี่ยม ที่ใช้ในเรื่องของการสร้างใบ  ไม่สามารถ หล่อเลี้ยง ใบพืชได้...ลองดูเรื่องของแสง จากตารางการสังเคราะห์แสงชองพืชข้างล่างดูละกัน... ส่วนเรื่องน้ำเป็นไข...สงสัยจะเป็นเหมื่อน คห.อื่นๆแนะนำ เป็นเรื่องของธาตุอาหาร.. ในการปลูก ระบบ DFT รากแช่อยู่ใน น้ำนิ่งๆ ไม่มี การ ถ่ายเท ของอากาศ และการเติมอากาศเข้าในสารละลาย จะทำให้ น้ำสูญเสีย อ๊อคซิเจน ซึ่งจำเป็น ในการดูดซับและหายใจของรากพืช..นานวันเข้า อุณหภูมิ สารละลายก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่รากพืชไม่สามารถประกอบกิจกรรมได้ มันก็จะแสดงอาการขาดน้ำให้เห็น (ใบซีดเหลือง,ขอบใบไหม้ ฯลฯ) ทางแก้...กรณี อัตราส่วน ถูกต้องแล้ว..ให้ใส่ หัวฟู่อากาศ(อ๊อคตู้ปลา) เพื่อเติมอากาศให้กับสารละลาย อีกทั้งยังช่วยลดอุณหภูมิสารละลายด้วย.. จากคุณ : ประชาตาดำ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:22:10

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกท่านมากๆๆเลยครับ จากคุณ : อิอิอิ (sukritudom) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:33:22

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อให้อีกนิด จากรูปข้างบน.. จะเห็นว่า พืชจะสังเคราะห์แสง ได้ก็ต่อเมื่อ แสงที่ส่องออกมา มีค่า (ช่วงคลื่น)ระหว่าง 480 ถึง 680 nm ซึ่ง โดยประกติแล้ว แสงแดด ที่ส่อง มายังโลกมนุษย์ จากดวงอาทิตย์ก้อนกลมๆนี้ มันให้มาครบแล้ว เพียงแต่..บางครั้ง แสง(แดด)ส่องผ่านตัวกลางอื่นๆ เช่น เมฆทั้งหลายแหล่ อีกทั้งความเข้มข้น ที่เปลี่ยนไปจากระยะทางที่เพิ่มขึ้น(หน้าหนาว) และอุปสรรคขัดขวางอื่นๆ (ในกทม.อุปสรรคเยอะ มลพิษแยะ) ทำให้ แดดเปรี้ยงๆของเราในบางครั้ง พืชก็อาจจะไม่ชอบได้เหมือนกัน..ถ้าช่วงคลื่นที่ส่งมาไม่อยู่ในความต้องการของมัน... เหล่านี้จึงเป็นเหตุผล ที่ว่า ทำไม ปลูกผักใน กทม.ถึงไม่งามเหมือน ตจว. หรือ ปลูกผักข้างๆโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก็ไม่งอกงามเหมือน ชนบท.. องค์ประกอบเรื่องแสง นี้ ถ้าจะว่ากันให้ครบ ก็คงต้องคุยกันเป็นอาทิตย์เลยครับ.. เอาเป็นว่า อย่าไปสนใจมันมาก ขอเพียงให้เข้าใจ ว่า ปลูกข้างถนน ก็มีส่วนให้ พืชเจริญเติบโตไม่ดีได้เหมือนกัน.. รวมไปถึง การพลางแสงในบางครั้ง..วัสดุที่ใช้ มันสะท้อนช่วงคลื่นไหนออกไป เช็คกันให้ดีก่อน จะนำมาพลางแสง พืชก็แล้วกัน.. ออกอีกนิด พืชแต่ละชนิด มีความต้องการ แสง ไม่เท่ากันครับ..คงต้องว่ากันเป็นตัวๆ ไป. จากคุณ : ประชาตาดำ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:36:08

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้เป็นรูปการวิจัย ปลูกผักไฮโดรในห้องมืด.. ไม่ประสพผลสำเร็จเพราะอากาศไม่ถ่ายเท ทดลองมา 4 เดือน เบื่อซะก่อน เอาไว้ตกงาน หรือ เกษียร จะมาทำการทดลองต่อ เพราะ ของเก่า พบว่ามีข้อสักเกตุอยู่หลายเรื่อง ที่ไม่ได้แก้ไข.. แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:52:35 จากคุณ : ประชาตาดำ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:49:24

ความคิดเห็นที่ 8 ไขที่เกิดขึ้น แสดงว่า น้ำใกล้เน่าคะ เนื่องจากออกซิเจนในน้ำน้อยไป นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ต้นไม้ของคุณไม่เจริญงอกงาม บางช่วงที่เราเคยปลูกก็เป็น เราจะมีปั๊มลมฉุกเฉินไว้อันหนึ่ง ถ้าแปลงไหนเป็น เราก็จะเปิดปั๊มลมทำงานสักพัก เพื่อให้น้ำมีออกซิเจนเพิ่มขึ้น แล้วไขเหล่านั้นก็จะหายไปเองคะ จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 01:32:27

ความคิดเห็นที่ 9 ถ่ายรูปมาให้ดูกันหน่อย ซิครับ ใช้โทรศัพท์ถ่ายมาก็พอจะดูกันได้ ครับ เอาหลายๆรูปหน่อย จะได้รู้ว่าเป็นไขอะไร จะได้ช่วยกันวิเคราะห์ ว่าเกิดจาก แคลเซี่ยมไนเตรส ในน้ำปุ๋ยA รวมตัวกับ กับปุ๋ยที่มีฟอสเฟต (phosphates) หรือ ซัลเฟต (sulfates) เป็นองค์ประกอบ เช่น โมโนโปแตสเซี่ยมฟอสเฟต หรือ โมโนแอมโมเนี่ยมฟอสเฟต หรือ แมกนีเซี่ยมซัลเฟต ในน้ำปุ๋ยB หรือเปล่า   จะตกตะกอน เป็นฝ้า คราบไขสีขาวๆ  ครับ วิธีเทน้ำปุ๋ยผสมกัน เพื่อลดการเกิด การตกตะกอน  ครับ หลังจากได้น้ำปุ๋ย AB มาแล้วให้เจือจางน้ำปุ๋ยเสียก่อน ตามส่วนผสมที่คนขายเค้าบอกมา อาจเป็น 1:100 หรือ 1:200 ก็ว่ากัน ตัวอย่างเช่น สมมุติ ใช้อัตตราส่วน 1:100 เราใช้ไม่มาก ใช้น้ำแค่ 50 ลิตร เราก็ตวงน้ำปะปาใสภาชนะ 50 ลิตร ก่อน แล้ว.... ต้องตวงจริงๆนะครับ อย่ามั่ว ปกติขวดน้ำเปล่าที่บอกว่าลิตรครึ่ง จริงๆแล้วเราจะใส่น้ำได้ประมาณ 1440 cc เท่านั้นนะครับ ให้ใช้กระบอกตวงมาตรฐานมาตวง  หรือทำกระบอกตวงเอง จากขวดน้ำปล่า กับเข็มฉีดยา     โดยใช้เข็มฉีดยาขนาด 100 cc ซึ่งมีขายร้านขายยาทั่วไป ดูดน้ำ 100 cc มากรอกใส่ขวดน้ำ ชนิดลิตรครึ่ง ดึงมาที่ขีด 100 cc ด้วยนะครับ ไม่ใช่ดึง ดูดมาจนสุดก้านเซลลิ่ง  ถ้าสุดนั่น 125 cc นะครับ แล้ว เอาปากกาเมจิกมาขีดระดับน้ำไว้ ทุกๆ 100 cc จนได้ถึง 1000 cc ก็ขีดไว้ จากนั้นเทน้ำออก เอากรรไกรมาตัด ให้รอยตัดอยู่เหนือรอยขีดมากที่สุด ตำแหน่งที่จนผิวขวดเริ่มโค้งนั่นแหละครับ จากนั้นก็เอาเทบพันสายไฟพันไว้ สองสามรอบให้มันแข็งจับใช้งานจะได้ไม่ค่อยเบี้ยว ครับ  เดี๋ยวเย็นนี้ถ้าไม่ลืม จะถ่ายรูปกระบอกตวงขนาดหนึ่งลิตร ที่ผมทำใช้งาน มาให้ดูครับ พอได้น้ำปะปา 50 ลิตร โดยการตักตวงด้วยกระบอกตวง 50 ครั้ง แล้วขีดระดับไว้ด้วย คราวหลังจะได้ไม่ต้องมาตวงอีก ตักถึงระดับที่ขีด     ก็ 50 ลิตร พอดี เอาเข็มฉีดยาขนาด100cc มาดูดน้ำยาA 5ครั้ง คือเท่ากับ 500cc หรือครึ่งลิตร ใส้ลงไปผสมในน้ำ50 ลิตร ลงไปก่อน ใช้พายกวนขนม กวนให้ทั่วๆ ให้น้ำยาละลายเข้ากับน้ำ แล้วถึงค่อยใช้เข็มฉีดยา ดูดน้ำยา B 100cc ลงไปผสม อีก 5 ครั้ง โดยแต่ละครั้งให้ใช้พายกวนทุกครั้ง ด้วยครับ แล้วถึงค่อยตักน้ำที่ผสมปุ๋ย AB แล้ว ไปใส่ในภาชนะที่เราปลูก ครับ ทำแบบนี้จะเกิด ตะกอนแขวนลอย น้อยที่สุดครับ หรืออาจเกิดจากไขมันของตัวน้ำปุ๋ยเอง ตัวน้ำปุ๋ยBจะมีไขมันนิดๆครับ ถ่ายรูปมา ให้เพื่อนๆช่วยกันดู    ครับ เพิ่มเติมรายละเอียดข้อมูล และ แก้ไขตกหล่น  ครับ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 13:49:28 แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 13:29:21 จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 08:56:24

ความคิดเห็นที่ 10 หน้าตา กระบอกตวงทำเอง จากขวดน้ำลิตรครึ่ง ไม่ถึงกับตรงเป๊ะ แต่ก็ใช้ได้ ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 19:58:13

ความคิดเห็นที่ 11 เก้าก็ใช้วิธีเดียวกับคุณกา..ค่ะ  คือ ตวงน้ำลิตรนึงแล้วเทใส่ขวดน้ำ 1.5 ลิตร  แล้วขีดเส้นไว้ เวลาตวงก็จะได้ไม่พลาด จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 14:47:00