ลุงกับป้าแกก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะแกไม่รู้เรื่อง แกยังไม่เข้าใจคำว่า "มันเป็นกรรมพันธุ์น่ะครับ" เลยด้วยซ้ำไป ไม่ใช่เพราะแกโง่หรือเบาปัญญา เพียงแต่ว่าแกไม่รู้ข้อมูลการเลี้ยงดูกระต่ายที่ถูกต้อง เพราะสาเหตุที่ว่า "ลูกสาวแกเป็นคนอยากเลี้ยง พอเลี้ยงๆไป ก็ทิ้ง ไม่สนใจ ไม่ดูแล พ่อแม่ต้องมารับหน้าที่แทน" ผลที่ตามมาคือกระต่ายตัวผู้ ตัวเมียคู่แรกที่เลี้ยงไว้ ผสมพันธุ์ มีลูก ออกมา 2 ตัว ตัวผู้เป็นหูตก ตัวเมียเป็นหูตั้ง ลูกออกมาหูตก 1 หูตั้ง 1 และอาการก็เป็นอย่างที่เห็นในภาพค่ะ
ภาพนี้เป็นภาพชัดๆ ถ่ายด้านหลังของน้อง จะเห็นว่าขาผิดรูปไปเลยค่ะ
เพราะฉะนั้นนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นอุทธาหรณ์สอนใจสำหรับใคร หลายๆคนที่กำลังคิดที่จะเริ่มเลี้ยงกระต่าย คนที่เพิ่งจะเริ่มเลี้ยงกระต่ายได้ไม่นาน คนที่เลี้ยงแล้วยังรู้ข้อมูลไม่ค่อยมาก คนที่คิดจะผสมพันธุ์กระต่ายข้ามสายพันธุ์
ความเสี่ยงมีอยู่มาก กระต่ายคือสิ่งมีชีวิตที่มีเลือดเนื้อ มีจิตใจ มีความรู้สึก ถึงแม้เขาจะไม่พูดออกมาให้เราได้ยิน แต่ถ้าคุณใช้ "ใจ" มองคุณจะเห็นสิ่งที่เขาสื่อสารกับเรา เขาไม่ได้อยากเกิดมาแล้วไม่เหมือนชาวบ้าน เดินไม่ได้แบบนี้หรอกนะคะ เราอย่าไปเลือกให้เขาต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เลยค่ะ กระต่ายสองตัวนี้พิการเพราะการผสมข้ามสายพันธุ์
อย่าทำร้ายกระต่ายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรา อย่าปล่อยให้เรื่องเลวร้ายน่าสลดใจเกิดขึ้นเพียงเพราะคำอ้างว่า "เราไม่รู้" อย่าทำให้ตัวเราเองเป็นคนเห็นแก่ตัวสร้างบาปกรรมให้สิ่งมีชีวิตอื่นและเพิ่มกรรมให้ตัวเองด้วยการเอาเขามาเลี้ยงด้วยความคิดสั่วๆว่า เขาน่ารัก น่าเลี้ยง ปีกระต่าย เหมาะกับปี เลี้ยงตัวผู้-ตัวเมีย จะได้มีลูกอีก น่ารักๆ เลยค่ะ
กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งมาด่าหรือว่าใคร แต่อยากให้เห็นภาพและจำกันเอาไว้ค่ะ ว่าสมองและสองมือของเราอาจจะพาสิ่งมีชีวิตเล็กๆก้าวเข้าไปในความเสี่ยงมหันต์แบบนี้ได้ เพียงเพราะเรารู้ไม่พอ ถ้าตอนนี้คุณบอกว่าคุณไม่รู้ อ่านกระทู้นี้นะคะ กระทู้นี้ได้บอกแล้วว่า "อย่าผสมกระต่ายข้ามสายพันธุ์"