ความคิดเห็นที่ 1 ชอบมากๆเลยอ่ะ หาซื้อมาหลายวันแล้วไม่มีขายเลยที่ตลาด(หายากมากๆในกทม.) อิจฉาคนที่มีต้นจังเลยอันตรายรึป่าวไม่รู้ค่ะ ผลไม้ไม่น่าเป็นไรน้า จากคุณ : Loma-jo เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 20:09:47

ความคิดเห็นที่ 2 คุณLoma-jo ถ้าอยากได้ไว้เก็บเมล็ดให้ก็ได้นะคะ ของเราก็เพาะเมล็ดมาคะ แต่ว่า ต้องรอ 3 ปีน้าถึงจะออกลูกให้กินได้ พอออกและทีนี้ออกไม่หยุดแถมออกตลอดปีด้วย ยังคิดว่าถ้ากินไมได้แล้วทีนี้จะเอาลูกเค้าไปทำอะไรแบบว่าลูกดกมากกก จากคุณ : หมวยเล็กกับหมวยใหญ่ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 20:13:40

ความคิดเห็นที่ 3 ทราบแต่ว่าทานมะเฟืองมาก ๆ จะทำให้เลือดจาง แล้วก็พวกที่ชอบสักยันต์เขาจะไม่กินกันเพราะกลัวเสื่อม อ่อ คนที่เป็นโรคของผู้ชายด้วย เค้าว่ากันมาแบบนั้น จากคุณ : ตัวตุ่น..เล็ก ๆ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 20:26:06

ความคิดเห็นที่ 4 เคยมี ฟอร์เวิร์ดเมล์ ตื่นตูมเรื่องพิษของมะเฟือง ออกมา ระยะหนึ่ง ซึ่งความเป็นจริงแล้ว มะเฟือง ไม่มีพิษอะไรทั้งสิ้น บ้างว่าจะทำให้เกิดนิ่ว จริง ๆ แล้ว มะเฟืองมี เกลือออกซาเลท ในรูป อะเบท ช่วยสลายนิ่วอีกต่างหาก ที่ว่า พิษ แทนนิน ( เกลือออกซาเลท เป็นสารกลุ่ม แทนนิน ครับ)สูงจนทำให้ไตวายนั้น มะเฟือง มี แทนนิน น้อยกว่า ลำไย ด้วยซ้ำ ฉะนั้น กล้ายืนยันได้เลยว่า พิษ มะเฟือง เป็นเรื่อง ลวงโลก ผมทดลองหา ปริมาณเกลือออกซาเลทในมะเฟืองมา เป็นร้อย ๆ รอบแล้ว ที่ว่า เกลือออกซาเลทจะไปทำให้ผู้ป่วยโรคไต เกิดอาการไตวายเฉียบพลันนั้น ลูกมะเฟือง 1 ลูก หนัก 150 กรับ มิ เกลือออกซาเลท แค่ ไม่ถึง 1 มิลลิกรัม ฉะนั้น ถ้าจะทานมะเฟืองให้ตาย ต้องทานมะเฟือง ครั้งเดียว 40 ลูก หรือ 6 กิโลกรัม ซึ่ง ถ้าทานขนาดนี้ คนที่ไม่เป็นโรคไตวาย (ขนาดต้องไป ล้างไตแล้วเนี่ย) ก็ยังไม่เป็นไรเลย แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 54 20:39:50 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 20:31:48

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ากินได้แบบที่คุณgreeny pony บอกจะดีมากเลยเพราะที่บ้านชอบกินกันมากเลยคะ เราก็สงสัยอยู่ว่าถ้ากินแล้วเป็นอันตรายจริงๆ น่าจะมีข่าวครึกโครมกันไปนานแล้ว ข่าวไม่น่าหายเงียบไป น่าจะมีหน่วยงานจับเอามะเฟืองมาทำวิจัยแล้วประกาศให้ทราบ ทั่วกันจะดีกว่า บ้านเราเกือบ 50% คนไทยปลูกต้นมะเฟืองกันแทบจะทุกบ้านเรียกวา เป็นต้นไม้คู่บ้านเลยก็ว่าได้ทั้งเป็นไม้มงคลด้วยผลก็รับทานได้อร่อย ถ้าเป็นพิษจริงๆ วานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยออกมาแจ้งข่าวดีกว่าจะปล่อยให้ คนเราเป็นนิ่วหรือไตวายเพราะมะเฟือง ^_^ รอฟังคำตอบคะ (มะเฟืองสุกอยู่บนต้นตอนนี้ไม่กล้ากิน ได้แต่มองน้ำลายไหล) จากคุณ : หมวยเล็กกับหมวยใหญ่ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:02:50

ความคิดเห็นที่ 6 ที่บ้านก็ปลูกค่ะ  แต่ลูกยังติดไม่เก่งดีเท่าไหร่... แต่ช่อดอกเยอะมากๆๆๆ... จากคุณ : Mai_ZaZa_ZuZu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:04:37

ความคิดเห็นที่ 7 มีเรื่องขำๆ  แต่เรื่องจริง จะเล่าให้ฟังค่ะ เด็กหนุ่มชอบว่า คนแก่แถวบ้าน กินเหล้าสูบบุหรี่ เก่ง..น่ากลัว ..อายุจะสั้นเร็ว ไม่กี่วัน เด็กหนุ่ม ขับรถ มอไซค์ ไป ชนต้นมะขาม ตายคาที่... คนแก่ ทุกวันนี้ 70 กว่าแล้ว  ยังแข็งแรงล่ำบึก  ขนาดเย็นๆ เมาตกท่อ คูน้ำ..บ่อยๆ..555 เราว่า..พระเจ้า กำหนด อายุไขมาให้ทุกคนแล้ว....อย่าไปคิดอะไรมากค่ะ... เกี่ยวอะไรกับมะเฟือง  ป่าวนี่..อิอิ จากคุณ : Mai_ZaZa_ZuZu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:15:05

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าชอบก็ทานไปเถอะค่ะ มันก็เป็นผลไม้ที่ดีมีประโยชน์ แต่เราไ่ม่ค่อยชอบกลิ่นมันแฮะ แบบว่าสมัยเด็กๆ ที่บ้านยายปลูกไว้ต้นใหญ่ 2-3 ต้น แล้วมันสุกร่วงเต็มพื้นไปหมด กลิ่นโชยซะฝังใจจนถึงทุกวันนี้เลย ^^ จากคุณ : Orange Jasmin เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:38:45

ความคิดเห็นที่ 9 อาหารทุกอย่างถ้ากินอย่างเดียวมาก ๆ ก็ไม่ดีกับสุขภาพทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : โปรแตสเซียม เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:42:58

ความคิดเห็นที่ 10 กรดออกซาลิก ในผัก ผลไม้ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนจะถูกปลูกฝังให้กินผัก ผลไม้ เยอะ ๆ ทั้งที่บางคนก็ไม่เคยรู้เลยว่า ในผัก ผลไม้ ที่กินเข้าไปนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร หรืออาจจะมีสารอะไรบ้างที่เป็นพิษต่อร่างกาย ท่านผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า ผัก ผลไม้ บางชนิดที่เรากินเข้าไปทุกวัน มี กรดออก ซาลิก อยู่หากเรากินเข้าไปในปริมาณ มาก ๆ มันอาจจะไปจับกับแคลเซียม ทำให้เกิดนิ่วได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุร วัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า ในผักต่าง ๆ จะมีกรดออกซาลิกมาก โดยเฉพาะ ยอดผัก ใบ หรือต้นอ่อน กรดออกซาลิก มีอยู่ในผักหลายชนิด ได้แก่ ใบชะพลู ยอดพริกชี้ฟ้า ผักปลัง ผักโขม ผักชีฝรั่ง ผักกระเฉด หัวไชเท้า ใบโหระพา หน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี ผักกาด แครอท มันสำปะหลัง ดอกกะหล่ำ มะเขือ กระเทียม ในผักบางชนิดนอกจากจะมีกรดออกซาลิกมากแล้ว จะมีแคลเซียมอยู่ในตัวมันเองเยอะด้วย ก็ยิ่งจะรวมตัวกัน และทำให้เกิดนิ่วได้ง่ายขึ้น ส่วนผลไม้ที่มีกรดออกซาลิก ได้แก่ สับปะรด กล้วยไข่ พุทรา การกินผักและผลไม้ที่มีกรดออกซาลิก มาก ๆ มันจะไปจับกับแร่ธาตุตัวอื่น ๆ กลายเป็นผลึกออกซาเลต เช่น จับกับแคลเซียม ก็จะกลายเป็น แคลเซียมออกซาเลต จับกับโซเดียม ก็จะกลายเป็น โซเดียมออกซาเลต กรดออกซาลิกจะชอบไปจับแคลเซียม ทำให้เกิดแคลเซียมออกซาเลตได้ง่าย ยิ่งในปัจจุบันคนชอบกินแคลเซียมเม็ด กรดออกซาลิกก็จะไปจับกับแคลเซียมที่กินเข้าไป หรือไปจับกับแคลเซียมในกระดูก ทำให้เกิดผลึกนิ่ว กระดูกงอก กระดูกย้อย พอกระดูกของคนเราถูกดึงแคลเซียมออกไป กระดูกก็จะพรุนง่าย ทำให้มีหินปูนงอกตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ เอกซเรย์แล้วอาจจะเจอกระดูกงอกตรงนั้นตรงนี้ กลายเป็นก้อนนิ่วเลยก็ได้ ความจริงร่างกายสามารถขับกรดออกซาลิกออกมาทางปัสสาวะได้ แต่ในคนที่มีปัญหาเรื่องไต ไม่ควรกินเพราะร่างกายจะไม่สามารถขับกรดออกซาลิก ออกมาได้หรือขับออกมาได้น้อย ทำให้เกิดนิ่วในไต หรือกระเพาะปัสสาวะได้ คนที่กินแคลเซียมเม็ด ก็ไม่ควรกินผักที่มีกรดออกซาลิก หรือถ้ากินผักที่มีกรดออกซาลิก ก็ไม่ควรกินร่วมกับอาหารที่มีแคลเซียม เพราะอาจจะเพิ่มความเสี่ยงขึ้นได้ ดังนั้นการกินผัก ผลไม้ ที่มีกรดออกซาลิก ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเป็นกิโลกรัม หรือกินติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือกินร่วมกับอาหารที่มีแคลเซียม อย่างไรก็ตามผัก และผลไม้ ที่กล่าวมา แม้จะมีกรดออกซาลิก ที่อาจเป็นโทษต่อร่างกาย แต่ประโยชน์ด้านอื่นก็มีเช่นกัน เช่น มีวิตามิน แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หรือมีคลอโรฟิลล์เยอะ ซึ่งคลอโรฟิลล์จะช่วยนำสารอาหารเข้าไปในร่างกาย ช่วยชะลอเซลล์ที่เสื่อมได้ หลักสำคัญในการกิน คือ กินอาหารที่หลากหลาย ไม่ควรกินอะไรซ้ำ ๆ โดยเฉพาะยอดผัก มีสีเขียวจัด กลิ่นฉุน กลิ่นแรง. นวพรรษ บุญชาญ ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ขออนุญาตเอามาแปะคะ เราว่าอะไรๆ กินมากก็เป็นโทษ ถ้าไงเรากินมะเฟืองต่อไป วันละลูก 2 ลูกคงไม่ถึงตายแต่อย่ากินพร้อมกับอาหารเสริมพวกแคลเซียม ก็คงจะไม่เป็นอะไรเน้อะ มีเหลือกินก็แบ่งคนอื่นบ้างมีความสุข เล่นซะคิดมากไปเลย จากคุณ : หมวยเล็กกับหมวยใหญ่ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:53:20

ความคิดเห็นที่ 11 คุณหมวยเล็กหมวยใหญ่ถ้ามีเมล็ดขอจองสักหน่อยได้ไหมครับ จากคุณ : คนเกาะยม (คนเกาะยม) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:54:09

ความคิดเห็นที่ 12 ได้คะเดี๋ยวหมวยส่งเมล็ดไปให้นะคะ รอหน่อยตอนนี้หมวยเพิ่งเอาลงดินเพาะอยู่ไปหมด รอบที่แล้วเลยคะ ยังไงคุณคนเกาะยม ส่งที่อยู่หลังไมค์มาเลยค้า ไว้มีแล้วจะจัดส่งไปให้ ^_^ ปล เสียดายจัง กิ้ฟ หมด ไม่งั้นให้ป้าใหม่ (เข้าใจชีวิตเลยค้า) กับคุณ greeny เลย แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 54 22:08:59 จากคุณ : หมวยเล็กกับหมวยใหญ่ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:58:16

ความคิดเห็นที่ 13 ผมใช้หลักคิดง่าย ๆ กว่าจะเกิดอะไรผมก็อิ่มแล้ว... อิ่มแล้วก็สบาย หุหุ... จากคุณ : pakeeranung เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 22:55:39

ความคิดเห็นที่ 14 หมวยเล็กกับหมวยใหญ่ -- ขอบคุณมากๆเลยค้า แต่คอนโดไม่มีที่ปลูก บ้านก็น้ำเค็มคงปลูกไม่รอดแน่ๆเลย(สมุทรปราการ) นี่ก็ผ่านตลาดคอยมองทุกวันเผื่อจะมีอิอิ จากคุณ : Loma-jo เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 02:49:04

ความคิดเห็นที่ 15 อะไร ๆ ถ้ากินมากเกินไปเราก็ว่าไม่น่าจะดีทั้งนั้นหล่ะ แต่มะเฟืองหวาน ๆ นี่อยากได้มาปลูกที่บ้านมานานแล้ววววววววววววว จากคุณ : ~ ดาวดวงนั้น...คือฉันเอง ~ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 09:02:59

ความคิดเห็นที่ 16 เคยไปเที่ยวไต้หวัน เค้ามีซุ้มขายน้ำมะเฟืองเยอะมากๆเลยค่ะ ถามคนจีน เค้าว่ามะเฟืองสามารถป้องกันโรคโลหิตจางได้ โรคนิ่วด้วย รู้สึกจะขัดๆกันแฮะ ตกลงรักษาหรือว่าทำให้เกิดกันแน่? แต่เอาเป็นว่า อร่อยค่ะ ที่บ้านถ้าทาน+แจกไม่ทันก็จะคั้นสดๆเป็นน้ำมะเฟืองซะเลย ชื่นใจจริงๆ :) มะเฟือง เพาะเมล็ดได้ด้วยเหรอคะ ต้องแกะออกมาตากแดดให้แห้งก่อนรึเปล่า เผื่อจะได้เอามาแจกมั่งค่ะ ที่บ้านมีอยู่ต้นนึง สีสวย หวาน อร่อย ไม่ฝาดด้วยนะ จากคุณ : kirakira na yume เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 09:04:21

ความคิดเห็นที่ 17 เราเอามาทำน้ำมะเฟือง ทำแยม ทำสลัด จากคุณ : แม่เตาถ่าน เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 09:42:03

ความคิดเห็นที่ 18 ลูกมะเฟือง แม่เตาถ่าน ลูกใหญ่มาก น่ากินจัง ไม่ได้กินมานานมากแล้ว ยังงัย ขอชิมสักลูกสองลูกก่อนนะ ถึงจะตอบได้ว่าดีไม่ดี 55555 จากคุณ : แต่ก่อน ตอนนี้ และตลอดไป เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 11:09:47

ความคิดเห็นที่ 19 ขอยืมพื้นที่เจ้าของกระทู้หน่อยนะคะ แต่ก่อน ตอนนี้ และตลอดไป  -----   ตอนนี้เหลือแต่กิ่งจ้า  พอหมดรุ่น เราก็จะตัดแต่งกิ่งให้แตกใหม่ค่ะลูกจะได้ใหญ่ออกลูกทีไรมีแต่ลูกใหญ่ๆค่ะ เคยมีลูกใหญ่สุด หนัก 9 ขีด กินลูกเดียวอิ่มกันทั้งบ้านเลย จากคุณ : แม่เตาถ่าน เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 11:27:06

ความคิดเห็นที่ 20 ทุกสรรพสิ่งในโลกเรา  มากเกินไป ก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดี  ควรใช้ในลักษณะทางสายกลางของพระพุทธเจ้า นั่นแหละครับ กินให้พอดี กินให้อร่อย ก็จะเป็นเรื่องดีต่อร่างกายและจิตใจ ครับ ผมก็ชอบกินมะเฟืองครับ ส่วนมะเฟืองเปรี้ยว ก็กินร่วมกับอาหารเวียตนามครับ สมัยเด็กถ้าเป็นแผลที่เท้าเช่นตะปูตำเทา หรือมีบาดแผลสด ที่บ้านจะเอามะเฟืองแบบเปรี้ยวๆมาย่างให้ร้อนๆ แล้วมาคั้นน้ำราดที่แผล ครับ ทั้งร้อน ทั้งแสบ แต่ก็ต้องทน เพราะกล้วบาดทะยัก ครับ จากคุณ : ทองนพคุณ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 15:07:56

ความคิดเห็นที่ 21 ผลที่ร่วง เอาเมล็ดมาแจกทางนี้ก็ได้นะ คุณหมวยเล็กกับหมวยใหญ่ เหลือจากแจกคุณ คนเกาะยม  คิวต่อไปผมขอจองนะครับ   ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากคุณ greeny pony มะเฟืองคุณแม่เตาถ่าน  อยากสอยมากินจัง (แถวบ้านมีแต่มะเฟืองพันธุ์ลูกเล็ก ๆ เปรี้ยวจี๊ด  เอาไว้ใส่ตำกล้วย  ตำลูกจัน  (แซบ แซบ) รสเปรี้ยวมะเฟืองจะตัดรสฝาดของกล้วยดิบ ลูกจันดิบ แซบลงตัว  ) จากคุณ : กลิ่นสละ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 20:15:48

ความคิดเห็นที่ 22 มะเฟืองเพาะเมล็ดได้ แต่ต้องลุ้นว่าจะกลายหรือเปล่า อย่างถ้าต้นแม่เค้าหวานกรอบ ถ้าต้นเพาะเมล็ดโตมาออกลูกอาจจะฝาด หรือเปรี้ยวก็เป็นได้จ้า ในทางกลับกัน ต้นแม่เปรี้ยวปริ้ด เอาเมล็ดมาเพาะโตมาออกลูกหวานกรอบซะงั้น ฉะนั้นถ้าใครอยากได้เมล็ดไปเพาะก็ต้องทำบุญกันเยอะเย้อะ.. อิอิ คุณกลิ่นสละ ถ้าอยากลองลุ้นก็ที่อยู่หลังไมค์มาเลยจ้า ไว้มาแล้วจะส่งไปให้ วิธีเพาะก็โปรยลงดินแล้วกลบบางๆ รดน้ำชุ่มๆ เด๊ยวก็แตกยอดโผ่ลให่เห็นคะ ปล ทั่วไปเค้านิยมตอนกันเพราะจะได้รสชาติแบบเดียวกับต้นเดิมจ้ะ จากคุณ : หมวยเล็กกับหมวยใหญ่ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:37:57

ความคิดเห็นที่ 23 ต้มมะเฟืองของแม่เตาถ่าน เป็นพันธุ์อะไรเหรอครับ ลูกใหญ่มาก จากคุณ : มะตูม (ใต้ร่มชายคา) เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 09:32:49