ความคิดเห็นที่ 1 ทานผักกันไหมคะ.... แอบเห็นมีบางต้นที่โดนหนอนชอนใบค่ะ  555 จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 12:33:43

ความคิดเห็นที่ 2 :) จากคุณ : nonsoul เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 12:40:32

ความคิดเห็นที่ 3 หวัดดีค่ะคุณเก้า..เพิ่งไปถามมาให้เหมือนกันแต่ ลืมใบโพยจด..คือทำหายนั่นแหล่ะค่ะฮ่าๆๆ เขาบอกพี่ว่า มุ้งขาวจะกันแสงเหมาะสำหรับกลางแจ้ง..แต่พี่ก็ว่าเห็นสีฟ้ากลางแจ้งเหมือนกันนะ  หรือมันจะกรอบเร็วกว่า  ที่บ้านสีฟ้าตากแดดมาตั้งแต่กลางปีก่อนก็ยังโอเคอยู่  ราคาแพงกว่ากันแค่เมตรละสิบยี่สิบบาท กำลังชั่งใจว่าจะเปลียนสีขาวดีหรือเปล่า.. ผักสลัดฝรั่งเม็ดละบาทเป็นแบบเคลือบดิน ถ้าไม่เคลือบก็ถูกกว่ามาก แต่ไม่รับประกันการงอก  ประมาณนั้น พี่ซื้อแบบเคลือบมา แต่รอกเก้ตและ อะไรอีกอย่างจำชื่อไม่ได้ เป็นซองละร้อยมีเป็นพันๆเม็ดมั้ง ไม่เคลือบก็งอกเหมือนกันค่ะ ผลการสังหารไรแดง จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้งค่ะ ต้องพ่นจนถึงเมื่อวาน ถึงหมด  แต่พี่แยกแปลงออกไปต่างหากกลัวลุกลามไปทั้งหมด แต่ที่ง่ายมากๆคือต้นที่มีน้อยๆเอากระดาษทิชชูชุบน้ำเช็ดออก เลยจับไปฉีดล้างน้ำ ก็เกลี้ยงเลย ลืมถ่ายขั้นตอนไว้  นึกขึ้นได้ตอนค่ำแล้ว เสียดายว่าน่าจะทำรีวิวไว้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆค่ะ ผักน่ากิน.แง่มๆๆ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 16:00:38

ความคิดเห็นที่ 4 มีงานเกษตรแฟร์นะคะ  ลองไปเดินดูอาจเจอบูทของภาคกีฏ พี่ว่าจะไปวันจันทร์อยากถามเรื่องยาปราบศัตรูพืชแต่ละอย่าง.. ทำเล่นๆนะ..ตอนนี้รู้สึกจะหมกมุ่นมากไปแล้ว  หายใจเข้าหายใจออกเป็นปลูกผักๆๆฮ่าๆๆ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 16:02:32

ความคิดเห็นที่ 5 ตามมาสบทบค่ะ คุณเก้า เมล็ดผักเรามีแบ่งให้นะคะ เราฝากเพื่อนซื้อมาจากนิวซีแลนด์ เป็นพวกผักสลัดแบบไม่เคลือบ เราเอามาฝังในฟองน้ำ ก้อนละ 2 เมล็ด เทียบแล้วราคาถูกกว่าแบบเคลือบมากเลยค่ะ โตมาเป็นแบบนี้ค่ะ จากคุณ : Netmafia เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 16:12:20

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกคือ ปัญหาเพาะเมล็ดแล้วต้นอ่อนมันยืด เพราะได้รับแดดน้อยไป ไปอ่านเจอมา เค้าให้เพาะเมล็ดใส่ฟองน้ำ เอาวางในชามหรือกะบะมีขอบสูงนิดนึง เติมน้ำสูง 1 cm แล้วเอาพลาสติกใสปิดกะบะ เอาคลิปหนีบกันปลิว นำไปวางในที่ร่ม รอจนงอก ต้นจะไม่ยืด กำลังจะลองทำในชุดถัดไปค่ะ อันนี้ Lettuce Rossa :-) จากคุณ : Netmafia เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 17:00:13

ความคิดเห็นที่ 7 อีกอย่างที่เพิ่งได้มาใหม่คือ ที่วัดค่า PH พอวัดแล้วเลยรู้ว่าน้ำประปาที่บ้าน PH 7.3 เลยต้องหยอดน้ำส้มสายชูกลั่นลงไปเล็กน้อย วัดอีกทีได้ประมาณ 6.5 อ่านมาจากคุณ กาคาบพริก ว่าพืช Hydro จะดูดซึมธาตุอาหารได้ดี ก็กำลังดูอยู่ค่ะว่ามันจะโตเร็วขึ้นไหม Oak Leaf ค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 54 17:10:06 จากคุณ : Netmafia เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 17:02:53

ความคิดเห็นที่ 8 ลองปลูกผักกาดแก้วด้วยค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปไหวไหม ทางซ้าย ผัก Cos ทางขวา ผักกาดแก้วค่ะ ทั้งหมดอายุ ประมาณ 1 เดือน นับจากวันเพาะเมล็ด จากคุณ : Netmafia เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 17:05:35

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ anavrin เหมือนกันเลยค่ะ ก่ะทำเล่น ๆ แต่พอทำไปแล้วออกจะหมกหมุ่นเกินไป 555 แต่มันก็เพลินดีนะคะ เดินไปดูผัก ดูอะไรสีเขียว ๆ ก็สบายใจ เวลาได้ทานผักที่ปลูกเองก็ปลื้มค่ะ ตอนนี้กำลังเริ่มสนใจ Aquaponic ค่ะ เลี้ยงปลาแล้วเอาน้ำจากอ่างปลามาใช้ปลูกพืช Hydro แทนการเติมน้ำปุ๋ย AB ค่ะ ดูแล้วท่าทางจะยุ่งยากพอสมควร แต่ไร้สารเคมีเลยค่ะ จากคุณ : Netmafia เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 17:15:17

ความคิดเห็นที่ 10 งามมากกกกก ตอนเพาะทำคล้ายๆพี่เลยค่ะ ตอนแรกมันยืดยาวมาก พอเอาไปลงแปลงชอบหักทุกที โชคดีที่บ้านมีช่องแสงเลยเอากระบะไปวางได้เลยไม่ต้องคลุมพลาสติกกันลมค่ะ พี่ปลุกผักกาดแก้ว ไม่รอดอ่ะค่ะ มันยืดยาว กางเก้งก้างปลูกไปรุ่นเดียวไม่เอาแล้ว ฮ่าๆๆ โอคลีฟน่ากินมากค่ะ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 17:20:32

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคุณ anavrin และ คุณ netmafia ที่มาแชร์ข้อมูลค่ะ เก้าก็รู้สึกว่า เก้าหมกมุ่นกับผัก  55555  หมกมุ่นขนาดว่า  นั่งทำงานในออฟฟิศ แต่ใจนึกถึงแปลงผักที่อยู่ที่บ้าน  แอบเล่นเน็ตสืบหาข้อมูลว่า ..เอ..เราจะทำยังไงกับผักดีเนาะ เก้าก็เจอปัญหาเรื่องต้นอ่อนยืดเหมือนกันค่ะ   ตอนนี้กำลังทดลองคือ พอมันเริ่มจะผุดต้นขึ้นจากฟองน้ำ  ก็รีบนำกระบะไปตั้งไว้ตรงไต้ต้นไม้ที่มีแสงแดดส่องรำไรๆ  เก้าจะหยอดตัวน้ำยาเร่งราก เร่งใบลงไปด้วยค่ะ  เห็นคุณกา..คาบพริกบอกว่า ทำแล้วดีอ่ะ     ส่วนน้ำยากันเชื้อรายังไม่ได้ไปหามาเลย แต่เก้ามองว่า ช่วงคลุมพลาสติกของกระบะต้นอ่อนนี่มีข้อดีนะคะ  (เก้ายังไม่ได้คลุม) คือเวลาที่เราเอาไปตั้งให้ได้แสง  เราคุมพวกยุง พวกฝุ่น เศษใบไม้ที่ตกลงมาใ่ส่ไม่ได้  หลายครั้งที่เก้าว่า  ไอ้นี่แหละเป็นต้นเหตุให้มีเชื้อโรคในน้ำที่เราแช่ฟองน้ำอยู่ค่ะ ยังไง คลุมพลาสติกไว้ก็เป็นการป้องกันไว้ก่อน  (หรือว่าเก้าคิดเอาเอง  5555) คุณสามีเก้าเค้าก็ช่วยค่ะ  ช่วยกันดูว่าอย่างโน้นอย่างนี้ดีไหม   ใครปลูกผักชีสำเร็จบ้าง  บอกกันด้วยนะคะ  ตั้งแต่เพาะมา  รอดมาได้แค่ต้นเดียวเอง... ปล. gift หมดค่ะ  กะให้ทุก คห.เลย จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 20:26:22

ความคิดเห็นที่ 12 กลายเป็นไฮโดรโพนิคแมเนีย กันรึยังเนาะ..ฮ่าๆๆ เรื่องเพาะต้นอ่อนคงต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับสภาพที่บ้านไปเรื่อยๆค่ะ พี่ทดลองทุกวิธีเลย บังเอิญโชคดีที่บ้านมีช่องแสงตรงบันได้ทางขึ้นดาดฟ้า  อากาศผ่านเข้าออกทางประตูดาดฟ้าและไม่มีแรงลมมาก  เลยวางได้สบายๆเลยค่ะ จะมาเจอศัตรูพืช ช่วงย้ายออกไปลงแปลงใหญ่ข้างนอกนี่แหล่ะค่ะ ผักชี ได้แค่ไม่กี่ต้นเหมือนกันค่ะ ตอนนี้เหลือต้นเดียวเอง ช่วงที่ลูกเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ดูแลเลย ลืมลอคโฟม พัดแปลงผักปลิวตกกับพื้นกว่าจะเจอก็ย่ำแย่แล้ว อาทิตย์หน้าจะลงผักชีเพิ่มอีกรอบ  กะทำแบบนี้ค่ะ ทุบให้เป็นซีก  แช่น้ำยาเร่งราก เอาลงฟองน้ำ ดูว่าจะงอกเร็วหรือเปล่า โตช้ามากก ที่หว่านลงดินไปไหนต่อไหนแล้ว .. ตอนนี้สนใจAquaponic เหมือนกันค่ะ ที่บ้านมีบ่อปลาเล็กๆอยู่หน้าบ้านกำลังคิดว่าน่าจะใช้ประโยชน์ได้ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 20:46:24

ความคิดเห็นที่ 13 ผักชีเราก็ไม่รอดเหมือนกันค่ะ เพาะในฟองน้ำไม่ขึ้นเลย เลยเอาเมล็ดที่เหลือไปเพาะในดินแทน กลับขึ้นค่ะ แต่รอนานเหมือนกัน แต่ขึ้นมากกว่าในฟองน้ำมากเลยค่ะ ลืมเรื่องมุ้ง เราไปซื้อผ้าโปร่งที่ตั้งฮั่วเส็งค่ะ หน้าจะกว้างประมาณเมตรยี่สิบ ราคาไม่แน่ใจคิดว่าน่าจะประมาณ 40-50 บาทค่ะ เราเอามาพันรอบราวตากผ้า เว้นด้านบน ส่วนด้านบน เราใช้แผ่นพลาสติกแบบบาง ๆ เอามาคลุมกันฝนค่ะ รำคาญศัตรูพืชเหมือนกันเลยค่ะ ผักกาดขาวนี่อย่างเยอะเลย แต่พวกผักสลัดดูมีศัตรูพืชน้อยลงนะคะ คุณ Anavrin เหมือนกันเลยค่ะ บ้านเรามีบ่อปลาอยู่เหมือนกัน เลยสนใจค่ะ ตอนนี้คิดว่าจะลองเอาน้ำจากบ่อปลามาใส่ในกะบะปลูกผัก Hydro แล้วไม่ต้องใส่ปุ๋ย AB จะดูว่าจะรอดไหม :-) จากคุณ : Netmafia เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 21:09:03

ความคิดเห็นที่ 14 เพิ่งตักขี้ปลาออกจากบ่อเป็นถังเลยค่ะ กะว่าจะเอาไปตากแห้งผสมดิน  แต่เอามะเขือเทศที่ปลูกแบบไฮโดรมาแช่..ออกดอกด้วยค่ะ  พรุ่งนี้จะถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ บ่อที่บ้านกะเลี้ยงปลาสวยงาม แต่กังวลว่ามันจะสร้างภาระ พอเอาปลานิลมาปล่อยดันไม่กล้าฆ่าซะอีก ปล่อยลงคลองหลังบ้านหมด(แล้วคนงานก็จับไปกินต่อหน้าT_T)  อยากลองทำแบบครบวงจร เลี้ยงปลา ปลูกผัก  จะได้ประหยัด  ยังทำใจฆ่าปลาไม่ได้อยู่ดี ฮ่าๆๆ เห็นในเวปต่างประเทศ น่ากินจังตัวเบ้อเริ่ม..ผักก็งาม เรื่องผ้ามุ้งก็เคยคิดจะซื้อแบบเดียวกันเลยค่ะ  เรามีผ้ามุ้งสีดำซื้อจากพาหุรัด เมตรละสิบแปดบาทเองค่ะ เอามาเย็บทำมุ้งกันยุงที่ประตูหน้าบ้าน ไม่รู้ว่าโดนแดดจะเป็นยังไงบ้าง  ของเราแปลงอยู่บนดาดฟ้า แดดเปรี้ยง ลมแรงมาก เอารูปผักมาอวดมั่งค่ะ  แต่อันนี้ปลูกดิน กินไปแจกไป ที่เห็นมุมขวาผัดถั่วลาย คล้ายๆถั่วฝักยาวแต่มีลายแดงๆที่ฝัก แต่ปลามุมซ้ายซื้อมา  ไม่ได้ฆ่านะคะ..อิอิ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 22:10:26

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ^ น่ากินนะครับ... จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 08:31:19

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุญาตคุณkaoim ขอแจ้งข่าวถึงคุณ Netmafia หน่อยนะครับ ในการปรับ pH น้ำในวงการไฮโดรโปนิก เราจะ   ไม่ใช้ น้ำส้มสายชู CH_3COOH หรือ acetic acid ในการเตรียมน้ำสำหรับ เลี้ยงผัก ครับ เนื้องจากผักจะไม่ค่อยจะได้ใช้ประโยชน์จาก การแตกตัวของน้ำส้มสายชู ครับ ถึงแม้จะมีคุณสมบัติเป็นกรด ใช้ลด pH ได้ก็จริง แต่เราจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเคมีของมัน ด้วยครับ และอีกประการหนึ่ง เราจะไม่ใช้น้ำหมัก น้ำหมักชีวภาพ ในสารละลาย ไฮโดรโปนิก เพราะจะทำให้ความเข้มข้นของสารละลาย มีค่าไม่แน่นอน หรือ ค่าElectro Conductivityของสารละลายไม่นิ่ง   หรือไม่เป็นไปตามปกติ  ครับ รวมถึงความไม่บริสุทธิ์ของน้ำหมัก ที่เราใช้ด้วย ครับ ในวงการไฮโดรโปนิกจะใชกรดอยู่สองตัว ในการปรับpHน้ำ ครับ คือ กรด ไนตริก 68%หรือกรด  ฟอสฟอรริก ครับ กรดไนตริก เมื่อแตกตัวจะได้ ไนเตรส ซึ่งจะเป็นธาตุอาหารหลักที่ผักใช้เป็นปุ๋ย และ กรดฟอสฟอรริก เมื่อแตกตัว จะได้ฟอสเฟรส เป็นปุ๋ยธาตุอาหารหลัก เช่นกัน ครับ สำหรับการนำกรดทั้งสองตัวมาใช้ เราต้องทำให้เจือจาง 50cc ต่อน้ำ หนึ่งลิตร หรือ 1000cc  ก่อนครับ แล้วถึงค่อยใส่กรดเจือจาง ที่ได้ครั้งละ10 - 20 cc  แล้ววัด ค่า pH ครับ ก่อนวัดครั้งแรก ให้ คาลิเบรด 4 และ คาลิเบรด 7  ทั้งสองค่าด้วยนะครับ หลังจากนิยมไนตริก  ในการปรับ pH  มานาน ปัจจุบันที่เริ่มจะนิยมฟอสฟอรริก แอซิก ขึ้นมาแทนครับ จากการทดลองมาระยะหนึ่งเคมีในปุ๋ยที่ปรับ pH ด้วยกรดฟอสฟอรริด จะบาลานซ์เคมีในปุ๋ยได้ดีกว่าไนตริก และลดการตกค้างสะสมของไนเตรส ที่ส่วนเจริญของเนื้อเยื่อของยอดใบได้ดีกว่า การใช้ไนตริกครับ รูปถ่ายข้างขวดที่ผมใช้ ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 12:26:57 จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 09:20:08

ความคิดเห็นที่ 17 รูปข้างขวดกรดฟอสฟอรริค เพื่อใช้ลด ค่า pH ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 09:22:41

ความคิดเห็นที่ 18 ู^ ^ คุณกา..พอบอกแหล่งหาซื้อได้ไหมคะ อืมม์  เก้าไม่แน่ใจว่า ร้านตรงอตก.มีหรือเปล่านะคะ  เพราะ วันที่ไปดูๆ ที่ร้านนี้ เขาวางพวกขวดสารเคมีอะไรสักอย่างไม่รู้ เป็นขวดเหมือนยาหยอดตา สีชา เล็กๆ แล้วก็กระดาษวัดค่า pH ขอบคุณสำหรับความรู้ด้วยค่ะ  เก้าคิดว่า  ปลูกจริงปลูกจัง ต้องซีเรียสกับเรื่องนี้แล้วล่ะ จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 10:06:55

ความคิดเห็นที่ 19 เก่งจังเลยครับ... จากคุณ : จิโป่ม (จิโ่ป่ม) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 10:12:43

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ซื้อ...ทางหน้านี้ ผมว่ามันจะเป็นการค้า หลังไมล์ดีกว่านะครับ ที่ผมซื้อเค้าขายแกลลอนละห้าลิตร คนขายไม่แบ่งขายครับ ถ้ายังไงลองถามเพื่อนๆเราในห้องนี้อย่างคุณ seto16 พี่เค้าชำนาญเรื่องปุ๋ยเรื่องยา น่าจะพอทราบที่แบ่งขาย กรดฟอสเฟอรริก นะครับ จริงๆแล้วใช้กระดาษลิสมัทเทสเทียบสีดู  แบบที่เค้ามีขายก็ใช้ได้ครับ เพียงแต่มันไม่ละเอียดแน่นอน ถ้าคิดว่าจะทำเยอะๆก็ซื้อเครื่องมือวัด ครับ ส่วนน้ำยาที่เติมผมเดาว่าน่าจะเป็นกรดไนตริก ลองถามคนขายดูก่อน ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:14:30

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ คุณกาคาบพริก ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ เรื่องน้ำส้มสายชู เราไปอ่านมาจากเวปเมืองนอก แห่งนึง มีคนโพสต์ว่า สามารถใช้ เบกกิ้งโซดา และ น้ำส้มสายชู ในการปรับค่า PH ได้ เลยลองดูค่ะ ใจเราคิดว่า ทั้งคู่ก็เป็นสารที่เราใช้ในการประกอบอาหาร ไม่น่าจะเป็นอันตราย แต่ไม่ได้คิดไปถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับพืชแบบที่คุณกาคาบพริกบอก ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Netmafia เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:42:14

ความคิดเห็นที่ 22 แอบเข้ามาฟัง และมาเก็บข้อมูลไปเยอะเลย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : pk12th เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:53:23

ความคิดเห็นที่ 23 สงสัยครับ เวลาเพาะเมล็ดในฟองน้ำ บางทีใส่ไป 3 เมล็ด มันงอกหมดเลย แล้วจะย้ายยังไงดี ถ้าดึงออกมารากมันจะขาดติดอยู่ในฟองน้ำมั้ยคับ จากคุณ : Nasemo เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 21:32:36

ความคิดเห็นที่ 24 คุณเก้า ผมหลังไมล์ไปให้แล้ว นะครับ คุณNasemo ครับ ผมใช้วิธีค่อยๆบิฉีกฟองน้ำออกครับ แล้วแยกต้นออกมา เอาฟองน้ำมาบิด้านข้างออกเช่นเดียวกัน  แล้วเอาต้นใหม่ มาวางใส่ให้หุ้มรากและลำต้นไว้อย่างละครึ่งๆ ครับ ที่ทำมาก็เป็นหมดทุกต้น ที่แยกออกมาครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 54 09:58:27 จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 09:33:16

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณ คุณกา...คาบพริกครับ สงสัยผมคงมือหนักไป รากขาดไปหลายต้นละครับ จากคุณ : Nasemo เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 22:32:32