ความคิดเห็นที่ 1   ข้อมูลเบื้องต้น... Oil Pulling(ออยล์พูลลิ่ง) การอมน้ำมันตอนที่ 1    Oil Pulling(ออยล์พูลลิ่ง) ตอนที่1 ออยล์พูลลิ่ง : มารู้จักกันออยล์พูลลิ่งคืออะไร ออยล์พูลลิ่ง เป็นวิธีบำบัดของอินเดียที่มีมาเป็นเวลาช้านานแล้วโดยการอมน้ำมันไว้และเคลื่อนน้ำมันไปให้ทั่วช่องปาก ใช้เวลาประมาณ15-20นาทีจากนั้นจึงบ้วนทิ้งไป ออยล์พูลลิ่งเป็นที่ฮือฮาเมื่อ Dr. F. Karach, M.D., ได้เสนอรายงานต่อที่ประชุมสัมนาบัณฑิตย์ทางด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศรัสเซียเมื่อปี 2534-2535 การประชุมมีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องมะเร็ง และแบคทีเรียซึ่ง Dr.Karach ได้อธิบายถึงการบำบัดรักษาโรคที่ยอดเยี่ยมไม่เหมือนใคร ด้วยวิธีง่ายๆ โดยใช้การอมน้ำมัน ผลลัพธ์ของการบำบัดด้วยวิธีนี้ ทำให้ผู้คนตะลึง ประหลาดใจ เต็มไปด้วยความสงสัยในรายงานของเขาเป็นอันมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการอธิบาย ซักถามกันถึงการรักษา มีการทดสอบ ทดลองใช้ ทดลองทำ พิสูจน์หาความสมเหตุสมผลที่เกิดขึ้น ต่างก็ยิ่งประหลาดใจถึงผลที่ได้รับจากการรักษาอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังไม่มีอันตรายใดๆด้วย เป็นการรักษาทางด้านชีววิทยาโดยแท้ ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาโรคได้มากมายหลายชนิด Dr. Bruce Fife N.D. นักโภชนาการผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเขียนหนังสือไว้หลายเล่มรวมทั้ง Coconut Oil Miracle เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความสงสัยในรายงานดังกล่าว จึงได้ทดลองทำออยล์พูลลิ่งด้วยตนเอง ผลลัพธ์ที่ได้ Dr. Fife ถึงกับออกปากว่า ออยล์พูลลิ่งเป็นการรักษาของ แพทย์ทางเลือก ที่มีประสิทธิภาพที่สุด แต่สิ่งที่ Dr. Fife สงสัยคือ เหตุใดการอมน้ำมันจึงช่วยรักษาโรคได้ เขาเริ่มศึกษาการทำออยล์พูลลิ่งของ Dr. Karach อย่างจริงจังรวมทั้งศึกษารายงานอีกเป็นร้อยๆชิ้น ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่เป็นคำตอบทางวิทยาศาสตร์ซึ่ง Dr. Fife เขียนไว้ในหนังสือชื่อ Oil Pulling Therapy มีใจความบางตอนดังนี้ จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:59:09

ความคิดเห็นที่ 2  ในปากของคนเราเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ในปากของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัว แต่ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรีย เพราะปากเป็นแหล่ง อาศัยที่เหมาะสม มีความร้อน ความชื้น และอุนหภูมิคงที่ ยังมีอาหารอุดมสมบูรณ์จากเศษอาหารที่เรารับประทาน กล่าวกันว่าปริมาณแบคทีเรียในปากของคนคนหนึ่ง มีมากกว่าจำนวนประชาการของคนทั้งโลก แบคทีเรียบางชนิดอาศัยอยู่บนผิวฟัน บางชนิดอยู่ในช่องว่างระหว่างฟันและเหงือก บางชนิดอยู่ที่เพดานปาก และบางชนิดอยู่ที่ใต้ลิ้นและโคนลิ้น การแปรงฟันและการใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ลงได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งไม่นานก็จะกลับมาแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นเช่นเดิม - โรคร้ายทุกชนิดเริ่มต้นที่ปาก อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่หากไม่นับโรคทางพันธุกรรม โรคทางอารมณ์ หรือโรคจากการบาดเจ็บต่างๆ โรคร้ายเกือบทุกชนิด รวมทั้งการเจ็บป่วยเรื้อรังต่างๆล้วนเริ่มต้นที่ปาก เนื่องจากปากเป็นประตูเข้าสู่ร่างกาย การรับประทานอาหารไม่ถูกต้องหรืออาหารที่มีพิษ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ยิ่งกว่านั้นในปากและลำใส้ยังเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียนับพันล้านตัว บางชนิดเป็นอันตราย บางชนิดไม่ และบางชนิดเป็นประโยชน์ ถ้าแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเข้าสู่กระแสเลือด แม้แต่แบคทีเรียชนิดที่ไม่เป็นอันตรายก็สามารถทำให้เราถึงแก่ความตายได้ หากในปากของเรามีแผล หรือมีการอักเสบของเหงือกหรือเนื้อเยื่อ จะทำให้แบคทีเรียสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยง่าย เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลายชนิดตั้งแต่โรคไขข้ออักเสบไปจนถึงโรคหัวใจ จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:00:09

ความคิดเห็นที่ 3 - ออยล์พูลลิ่งทำงานอย่างไร? ออยล์พูลลิ่งเป็นการบำบัดที่ทำได้ง่ายที่สุดแต่ก็มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาการรักษาทางธรรมชาติด้วยเช่นกัน สำหรับหลายๆคนมีความรู้สึกว่า แค่การอมและเคลื่อนน้ำมันไปทั่วๆปาก ไม่น่าจะช่วยรักษาโรคได้ อันที่จริงออยล์พูลลิ่งไม่ได้รักษาโรค แต่มันช่วยขจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหรือเป็นตัวการปล่อยสารพิษให้หมดไป เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ฟื้นฟู ออยล์พูลลิ่งเป็นกระบวนการทางชีววิทยาล้วนๆ แบคทีเรียในช่องปากที่ก่อให้เกิดโรคร้ายหรือปล่อยสารพิษแก่ร่างกายนั้น แต่ละเซลล์ของมันจะปกคลุมด้วยน้ำมันหรือเนื้อเยื่อที่เป็นไขมันซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของผิวเซลล์ (เซลล์ของคนเราก็ล้อมรอบด้วยส่วนผสมของไขมันเช่นเดียวกัน) เมื่อคุณเทน้ำมันลงในน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำกับน้ำมันจะแยกกันอยู่ไม่ยอมผสมรวมกัน แต่ถ้าคุณเทน้ำมันสองชนิดเข้าด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำมันทั้งสองจะผสมรวมและดึงดูดซึ่งกันและกัน นี่คือความลับของออยล์พูลลิ่ง เมื่อคุณใส่น้ำมันลงในปาก เนื้อเยื่อที่เป็นน้ำมันหรือไขมันของแบคทีเรียจะถูกน้ำมันดูดไว้ ขณะคุณเคลื่อนน้ำมันไปทั่วช่องปาก แบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยแยกของเหงือกและฟันหรือตามซอกของฟัน จะถูกดูดออกจากที่ซ่อนและติดแน่นอยูในส่วนผสมของน้ำมัน ยิ่งนานยิ่งมาก หลังจากผ่านไป 20 นาที ส่วนผสมของน้ำมันจะเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส ฯลฯ คุณจึงควรบ้วนทิ้งไปมากกว่าที่จะกลืนมัน เศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียจะถูกดูดออกด้วยเช่นกัน สิ่งที่ไม่ใช่น้ำมัน (water based) จะถูกดูดออกด้วยน้ำลาย น้ำลายยังช่วยลดกรดที่เกิดจากแบคทีเรีย เมื่อแบคทีเรียรวมทั้งพิษร้ายที่เกิดจากแบคทีเรียถูกดูดออกไป จึงเป็นโอกาสดีที่ร่างกายได้ทำการฟื้นฟู การอักเสบทั้งหลายหมดไป กระแสเลือดเป็นปกติ เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการซ่อมแซม การมีสุขภาพดีจึงกลับมาในที่สุด จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:01:59

ความคิดเห็นที่ 4 Oil Pulling(ออยล์พูลลิ่ง) การอมน้ำมันตอนที่ 2    Oil Pulling(ออยล์พูลลิ่ง) ตอนที่2 ออยล์พูลลิ่ง : วิธีการทำออยล์พูลลิ่ง วิธีการทำออยล์พูลลิ่ง • ทำขณะที่ท้องว่าง จะดื่มน้ำก่อนหรือไม่ก็ได้ • ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์บีบเย็นประมาณ 2-3 ช้อนชา อมไว้ในปาก • ค่อยๆ ดูด ดัน และดึง ให้น้ำมันไหลผ่านฟันและเหงือก • น้ำมันจะเปลี่ยนเป็นขุ่นหรือมีสีเหลือง • เคลื่อนน้ำมันไปทั่วๆปากอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 15-20 นาที • จากนั้นให้บ้วนน้ำมันทิ้งไป • บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยการดื่มน้ำ • ทำอย่างนี้วันละครั้งเป็นอย่างน้อย โรคที่ได้รับรายงานว่าตอบสนองต่อการทำออยล์พูลลิ่ง   ผลของการทำออยล์พูลลิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพในช่องปากดีขึ้น ฟันขาวขึ้น แน่นขึ้นไม่โยกคลอน เหงือกเป็นสีชมพูแลดูมีสุขภาพ ลมหายใจสดชื่น นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าออยล์พูลลิ่งจะช่วยเยียวยาความเจ็บไข้หรืออาการป่วยเรื้อรังได้อีกหลายชนิด ต่อไปเป็นชื่อของโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่มีผู้รายงานเข้ามาว่ามีการตอบสนองที่ดีกับออยล์พูลลิ่ง: สิว ภูมิแพ้ รังแค ไซนัส ปวดหัวไมเกรน น้ำมูกมาก หืด หลอดลมอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เรื้อนกวาง ปวดหลังปวดคอ ข้ออักเสบ กลิ่นปาก ฟันผุ ฟันเป็นหนอง เลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก ท้องผูก แผลในกระเพาะ ลำไส้ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวาร นอนไม่หลับ อ่อนเพลียเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน ส่วนอาการหรือโรคที่การศึกษาทางการแพทย์พบว่าเกี่ยวข้องกับสุขภาพในช่องปากโดยตรงและอาจมีผลตอบสนองกับการทำออยล์พูลลิ่งได้แก่ ปัสสาวะเป็นกรด ปอดอักเสบ(ARDS) ถุงลมโป่งพอง การอุดตันของเส้นเลือดและเส้นเลือดในสมอง ผลเลือดผิดปกติ ฝีในสมอง มะเร็ง เกาท์ ถุงน้ำดี หัวใจ น้ำตาลในเลือดสูง แท้งบุตร ไต ตับ ความผิดปกติของระบบประสาท กระดูกพรุน ปอดบวม ทารกคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อย แพ้สารพิษ และโรคติดเชื้ออื่นๆอีกหลายชนิด จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:04:22

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วงเวลาที่เหมาะจะทำออยล์พูลลิ่ง จากกราฟแสดงให้เห็นว่า ปริมาณของแบคทีเรียในช่องปากมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างวัน การรับประทานทำให้แบคทีเรียบางส่วนผสมกับอาหารและน้ำลายในที่สุดถูกกลืนลงไป ปริมาณแบคทีเรียมีมากสุดในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร การแปรงฟันช่วยลดปริมาณแบคทีเรียได้ไม่มากเนื่องจากฟันมีพื้นที่แค่ 10% ของช่องปาก ก่อนอาหารกลางวันปริมาณแบคทีเรียจะเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตอนก่อนอาหารเช้า และลดลงมากที่สุดภายหลังรับประทานอาหารเย็น เมื่อคุณหลับแบคทีเรียมีโอกาสกลับมาเพิ่มจำนวนขึ้นใหม่โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวน การทำออยล์พูลลิ่งจึงควรทำเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แบคทีเรียในช่องปากมีปริมาณมากที่สุด นอกจากแบคทีเรียในช่องปากจะทำให้ร่างกายเกิดโรคร้ายต่างๆแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขอนามัยในช่องปากโดยตรง ส่วนใหญ่กับฟันและเหงือก ผลโดยตรงของแบ็คทีเรียต่อสุขอนามัยในช่องปากมีดังนี้ กลิ่นปาก คนประมาณ 20% มีกลิ่นปาก กลิ่นปากต่างจากกลิ่นเหม็นของอาหารที่รับประทานเข้าไปตรงที่คงอยู่อย่างถาวร เกิดจากแบคทีเรียหลายชนิดที่อาศัยอยู่บริเวณโคนลิ้นด้านบน ซึ่งจะตรวจไม่พบในคนที่ไม่มีกลิ่นปาก การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ได้และช่วยกำจัดกลิ่นปากอย่างได้ผล (กลิ่นปากอาจเป็นสัญญาณของโรคฟันผุหรือโรคเหงือก) ฟันผุ เกิดจากกรดที่ผลิตโดยแบคทีเรียชนิดที่กินน้ำตาลเป็นอาหาร การรับประทานอาหารจำพวกขนมหวานหรืออาหารจำพวกแป้ง (สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเมื่อถูกกับเอนไซม์ในน้ำลาย) ช่วยเพิ่มอาหารให้กับแบคทีเรียชนิดนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นกรด และแน่นอน ช่วยเพิ่มฟันผุ ฟันผุเริ่มต้นที่ชั้นแข็งรอบนอกผิวฟันที่เรียกว่าอีนาเมล หากลุกลามไปถึงชั้นในซึ่งอ่อนกว่าที่เรียกว่าเดนติน จะทำให้เกิดอาการเสียวฟัน และถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาจนลุกลามเข้าไปถึงชั้นประสาทฟัน จะทำให้ปวดทรมาน ถึงขั้นนี้แพทย์ได้แต่ทำการรักษารากฟันหรือถอนฟันออกเท่านั้น การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำจะช่วยลดปริมาณแบคที่เรียที่ทำให้เกิดกรดเหล่านี้ ซึ่งสามารถยับยั้งและช่วยป้องกันฟันผุได้ จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:05:22

ความคิดเห็นที่ 6 พลั๊ก เกิดจากเมือก เศษอาหาร แบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่นๆรวมทั้งผลิตผลของมัน ทั้งหมดรวมตัวกันเป็นครีมเหนียวสีเหลือง เกาะอยู่รอบๆฟัน พลั๊กต่างจากหินปูนตรงที่มีความนิ่ม สามารถนำออกได้ง่ายด้วยการแปรงฟัน หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดคราบหินปูนและโรคเหงือก การทำออยล์พูลลิ่งช่วยลดสาเหตุที่ทำให้เกิดพลั๊ก และช่วยกำจัดพลั๊กในส่วนที่การแปรงฟันทำได้ไม่ทั่วถึงเช่นบริเวณซอกฟันและด้านหลังของฟัน คราบหินปูน เป็นแร่ที่สะสมอยู่ที่ฟัน ต้นกำเนิดของคราบหินปูนคือพลั๊กที่แข็งตัวเป็นแร่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ คราบหินปูนนี้จะแข็งตัวติดแน่นกับฟัน ซึ่งไม่สามารถนำออกได้ด้วยการแปรงฟัน ต้องใช้เครื่องมือของแพทย์ทำการขูดออก คราบหินปูนสามารถเกิดกับฟันได้ทั้งบริเวณที่อยู่สูงกว่าหรืออยู่ภายใต้เหงือก แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดพลั๊กและที่เกาะอยู่ตามคราบหินปูน สามารถทำให้เหงือกเกิดการอักเสบหรือทำให้เกิดโรคปริทนต์ การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำจะช่วยลดสาเหตุของการเกิดคราบหินปูน เหงือกอักเสบ เป็นอาการเริ่มต้นของโรคเหงือก ทำให้เหงือกมีอาการบวมแดงและมีเลือดออกขณะแปรงฟัน เกิดจากแบคทีเรียที่ทำให้เกิดพลั๊กและสารพิษที่เกิดจากแบคทีเรียไปรบกวนเหงือก ปกติจะไม่เจ็บปวดแม้จะมองเห็นได้ง่าย คนส่วนมากจึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคเหงือกอักเสบ หากปล่อยไว้จะนำไปสู่การเป็นโรคปริทนต์ โรคปริทนต์ หรือเหงือกอักเสบเรื้อรัง เป็นอาการที่รุนแรงเกินกว่าขั้นของโรคเหงือกอักเสบ แบ็คทีเรียและสารพิษจากแบคทีเรียทำให้เหงือกเกิดการติดเชื้อ บวม นิ่ม และอ้าออกจากฟัน แบคทีเรียและพลั๊กจึงขยายไปเติบโตอยู่ในส่วนที่อยู่ภายใต้เหงือก สารพิษจากแบคทีเรียและเอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านเริ่มทำอันตรายต่อกระดูกและเนื้อเยื่อที่รองรับฟัน ทำให้ฟันโยกและอาจต้องถอนออก อาการของโรคปริทนต์คือ เหงือกบวม แดง นิ่ม หรือมีเลือดออก เหงือกร่น ฟันโยก ปวดเมื่อเคี้ยวอาหาร หรือมีอาการเสียวฟัน มีกลิ่นปากแบบถาวร ส่วนใหญ่มีฟันผุร่วมด้วย การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำนอกจากจะป้องกันการเกิดโรคปริทนต์แล้ว ประโยชน์ของการทำออยล์พูลลิ่งในระยะนี้คือ ช่วยลดแบคทีเรียและพลั๊กที่เป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบ ลดการอักเสบของเหงือก ช่วยทำให้ร่างกายมีโอกาสได้ทำการฟื้นฟู รากฟันเป็นหนอง เกิดจากการคั่งของหนองจากการสลายของเนื้อเยื่ออันมีสาเหตุมาจากฟันผุ โดยการโจมตีของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ในส่วนของเนื้อเยื่อชั้นประสาทฟัน ส่วนใหญ่เกิดจากฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษา ฟันที่แตก การลุกลามของโรคปริทนต์ หรือแม้แต่การรักษารากฟันที่ไม่ถูกต้องก็สามารถทำให้รากฟันเป็นหนองได้ รากฟันเป็นหนองสามารถเกิดได้ทั้งแบบเรื้อรังและแบบเฉียบพลัน ขึ้นอยู่กับความเร็วที่โรคก่อตัวและการป้องกันของร่างกายว่าได้ผลเพียงไร แบบเฉียบพลันสามารถทำให้มีอาการปวด บวม และมีไข้ แบบเรื้อรังอาจไม่มีอาการปวด ทำให้ผู้ที่เป็นไม่รู้ตัวแม้จะลุกลามไปถึงกระดูกขากรรไกร จากคุณ : ลองดูไม่เสียหายอะไรมากมาย (คนดง คนเดิม) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:07:22

ความคิดเห็นที่ 7   เก็บมาให้อ่านเพิ่มเติม ......  เรื่องของการอมน้ำมัน Oil-Pulling เมื่อประมาณเดือนก่อน ได้รับ email มาฉบับหนึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกะการอมน้ำมัน หรือว่า oil pulling ซึ่งเป็นวิธีการบำบัดโรคอย่างหนึ่งของคนอินเดีย ปกติไม่ค่อยจะได้สนใจอ่านเมลล์ยาวๆ ซักเท่าไหร่ แต่ว่าพอดี ตอนที่ได้เมลล์ เป็นช่วงที่เพิ่งกลับมาจากเมืองไทย จิตใจยังไม่ได้กลับมาด้วย ก็เลยเหมือนว่าตัวเองล่องลอย ก็เลยเหมือนจะไม่มีอะไรทำ แล้วก็เลยลองนั่งอ่านข้อความเล่นๆ ดู เพราะเห็นว่ามันดูพิเรนดี น่าลอง จริงๆ oil pulling หลักๆ คือการบำบัดในลักษณะของการระงับเชื้อโรคไม่ให้เข้าร่างกายมากไปกว่าเดิม เพื่อให้ร่างกายได้ทำการฟี้นฟูสภาวะที่เป็นอยู่ให้ค่อยๆ ดีขึ้นมาจนเป็นปกตินั่นเอง แต่ที่อยากลอง ก็คืออยากรู้แค่ว่า มันจะให้ผลต่างยังไง กะการบ้วนน้ำธรรมดา สิ่งที่อ่านไปแล้วจับใจความได้หลักๆ ที่น่าสนใจคือ 1 เชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ทางร่างกาย ปากถือเป็นอวัยวะที่รับความผิดอันนี้ไปโดยตรง เพราะเราต้องดื่มต้องกิน และลิ้นก็ยังเป็นที่สะสมของเชื้อโรคที่มากมายมหาศาลอีกด้วย เมือกขาวๆ ถ้าลองเอามาขูดแล้วเอาไปส่องกล้องกำลังขยายสูงๆดู พอเห็นแล้วก็จะซึ้ง 2 คราบและเมือกตามร่องฟันต่างๆ ถ้าแปรงฟันไม่สะอาด ก็เชื้อโรคดีๆ นี่เอง ยิ่งตอนนอนหลับ มันคงแบ่งตัวกันสนุกนานมากๆ 3 พวกเมือก คราบต่างๆ ตามผิวฟัน เชื้อโรค แบททีเรีย แล้วก็ไวรัสบางชนิด เยื่อหุ้มของพวกมัน ตามสัญลักษญ์ทางเคมี จะมีค่าเป็นลบ ซึ่งเป็นค่าเดียวกะน้ำมัน ฟังดูทำให้มองเห็นภาพว่า เวลาล้างจาน ถ้าใช้น้ำเปล่าล้าง มันก็จะไม่หายมัน เพราะน้ำมีสัญลักษณ์เป็นขั้วบวก จนกว่าจะไปเอาน้ำยาล้างจานมาล้าง เพราะน้ำยาล้างจาน หรือสบู่ ก็เป็นที่รู้กันว่า มีขั้วเป็นลบ ลบ กะ ลบ เจอกัน ก็เอาออกได้ อันนี้เป็นหลักสูตรเคมี ตอน ม.ปลาย ก็เลยคิดสงสัย เพราะที่ผ่านมาเวลาใช้น้ำหรือน้ำยาบ้วนปาก สิ่งที่ทำได้ก็คือ เอาเศษอาหารออกได้บางส่วน ปากก็จะโล่งขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่า ฟันก็ยังเป็นเมือกๆ แล้วก็ไม่ได้สะอาดอย่างแท้จริง ไม่เหมือนกับความรู้สึกหลังแปรงฟันซึ่งมันรู้สึกสะอาดมากกว่า แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ไปกว่านี้ ทีนี้ลองมาคิดว่าถ้าอมน้ำมันละ ขั้วที่เป็นลบเหมือนกันก็น่าจะช่วยอะไรได้มากกว่าน้ำ แต่ก็นะ อมน้ำมัน ปากคงเหนอะหนักกว่าเดิม ตอนแรกก็คิดอย่างนี้ แต่ว่า มันไม่เป็นอย่างนั้นนะสิ เพราะว่าในปาก มีน้ำลาย ที่คอยช่วยไม่ให้น้ำมันเกาะติดฟัน ทุกครั้งที่ทานอาหาร มันๆ น้ำมันก็ไม่เคยทำให้รู้สึกเหนอะ อันนี้ก็เพราะน้ำลายช่วยไว้นั่นเอง เพื่อคลายความสงสัย บวกกะกำลังว่างๆ อยู่ แล้วก้อยากทำอะไรพิเรนๆ ก้เลยเอาซะหน่อย ในอีเมลล์บอกให้ลองใช้น้ำมันมะพร้าวจะดีที่สุด เพราะเมื่อโดนน้ำลายแล้วจะสังเคราะห์สารตัวหนึ่งออกมา ที่ฆ่าไวรัสบางชนิดได้ แต่ก็นะ จะไปหาที่ไหน แต่ว่า น้ำมันพีชธรรมดา หรือ น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ก็ใช้ได้เหมือนกัน และหาได้ง่ายกว่าด้วย จะให้ใช้น้ำมันมะกอก ก็เกินไป แพงซะ ในหนังสือบอกให้อมไว้ 15-20 นาที แต่ความรู้สึกว่ามันนานไป ก็เลยลองแค่ 5 นาที แต่บางทีก็อมไป เล่นคอมไป เวลาผ่านไปไม่รู้ตัว อันนี้ก็ใช้ได้ ช่วยฆ่าเวลาได้ดี อมไป ทำนู้นทำนี่ไป แต่โดยเฉลี่ยก็จะประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น แรกๆ จะตะหงิดๆ ไม่คุ้น แต่พอสักสองวัน มันก็เริ่มชิน จังหวะที่เราอมน้ำมันอยู่ก็ให้ใช้แรงดันน้ำมันให้ผ่านตามร่องฟันไปด้วย อย่าอมเฉยๆ ให้กรั่วไปมาในปากให้ทั่ว ทันทีที่บ้วนออก น้ำมันจะเป็นสีขาว เพราะทำปฏิกริยากะน้ำลาย ซึ่งเวลาที่บ้วนออก พวกเชื้อโรคต่างๆ ไวรัส เมือกต่างๆ ก็จะหลุดออกไปด้วย ถึงแม้จะไม่หมด แต่ก็รู้สึกได้ถึงความต่างกะการอมน้ำธรรมดาหลายเท่านัก แถมปากก็ไม่ได้รู้สึกเหนอะอะไรเลยด้วย ถ้าเป็นการอมตอนเช้า หลังจากที่บ้วนออกแล้วล้างด้วยน้ำอีกครั้ง จะรู้สึกเหมือนได้แปรงฟันแบบลวกๆ มาแล้วรอบหนึ่งเลย รู้สึกได้ว่า ฟันสะอาด ไม่มีเมือก ทีนี้ก้เลยลองแปรงฟันดู ก้ปรากฏว่า ฟันแปรงง่ายมาก ปกติ ฟันซี่ในสุด จะล้วงเข้าไปแปรงลำบาก เพราะต้องพยายามเอาแปรงเข้าไป แล้วก็ออกแรงขัดเอาคราบต่างๆ ออกอีก แต่หลังจากที่อมน้ำมันแล้ว โอ้ววว อะไรมันจะแปรงง่ายขนาดนี้ พอเอาแปรงเข้าไปลึกถึงฟันซี่ใน ออกแรงปัดๆ นิดเดียว คราบก็ออกหมด หลังจากบ้วนปากแล้ว ลองใช้เล็บตรวจสอบดูความสะอาดอีกที ปรากฏว่า ไม่มีคราบอะไรเลย แล้วก้ออกแรงแปรงฟันเบามากๆ ฟันไม่สึก แถมรู้สึกสดชื่นในปากมากๆ มายๆ เลยละ เวลา ผ่านมาประมาณ 1 เดือน คราบหินปูน ไม่มีมาเกาะให้เห็น อัศจรรย์จริงๆ ส่วนใครที่มีคราบหินปูอยู่แล้ว เค้าว่ากันว่า มันจะหลุดออกมาเป็น ช้ินๆ ให้เห็นเลย แต่ข้าพเจ้าเพิ่งไปขูดหินปูนมา แต่ปกติพอผ่านไป 2 เดือนกว่าๆ มันก็จะเริ่มเกาะเป็นชิ้นเล้กๆ ให้เห็นแล้ว แต่ว่าคราวนี้ ไม่มีให้เห้นเลย แถมฟันสวยใส แล้วก็ดูขาวขึ้นมาอีกด้วย   ที่มา....http://pingpongmow.ไม่อนุญาตให้โฆษณา/reviews/item/9 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 09:14:48 จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:13:49

ความคิดเห็นที่ 8 ดูเพิ่มเติม...http://www.naturalmind.co.th/index.aspx?ContentID=ContentID-090702083319565   http://www.naturalmind.co.th/?ContentID=ContentID-090516063818923   หรือค้นเพิ่มด้วยคำว่า  การอมน้ำมัน  ออยล์พูลลิ่ง  จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:23:00

ความคิดเห็นที่ 9   ดูเพิ่มเติม....http://www.the-arokaya.com/web5/index.php?option=com_content&view=article&id=423:2011-01-24-03-19-28&catid=40:2010-03-31-09-25-53&Itemid=107     จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:25:42

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.the-arokaya.com/web5/index.php?option=com_content&view=article&id=423:2011-01-24-03-19-28&catid=40:2010-03-31-09-25-53&Itemid=107 http://www.youtube.com/watch?v=Ad5SDWfFBus&feature=player_embedded   http://www.youtube.com/watch?v=Ad5SDWfFBus&feature=player_embedded   จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:28:51

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านจบแล้วค๊าบบบ  ยัง  งง  ๆ  มีคำถามมากมาย  แต่ไม่มีความเห็นค๊าบบบ เอามะแพร้วมาดู  ก็ยังไม่หายงงเลย....ค๊าบบ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:11:10

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องอมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเนี่ย สาวๆที่ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องสวนลุม เค้าถกกันจนได้ข้อสรุปว่า ทำก็ดี แต่จะอมน้ำเปล่าผลที่ได้ก็คือปากสะอาดลมหายใจสดชื่นเหมือนกันหมดแหละ หมอฟันแนะให้บ้วนปากกลั้วคอแรงๆบ่อยๆ จะน้ำอะไรก็ขอให้ทำไปเถอะ จากคุณ : vizion เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:54:05

ความคิดเห็นที่ 13 โอ้ววว พระเจ้า... ขอบคุณอย่างสุดซึ้งครับ ป้าแกร่ต้องลองครับ เดี๋ยวก็จะหายงง คึคึ ผมก็จะไปลอง ณ บัดเดี๋ยวนี้แหละ (ขออนุญาตเ้จ้าของกระทู้ แชร์สิ่งดีสู่เพื่อนๆนะครับ) จากคุณ : จิโป่ม (จิโ่ป่ม) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:06:10

ความคิดเห็นที่ 14 โอ๊ววว . . . แถวๆนี้มีแต่แอลกอฮอให้อมอ่ะ   จากคุณ : วิฬารักษ์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:59:01

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านหัวข้อกระทู้ ทีแรก นึกว่า อมน้ำมัน หมายถึง ยักยอกน้ำมัน ไปนู่น ขอบคุณนะครับ จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 16:07:23

ความคิดเห็นที่ 16 เคยไปเข้าคอร์ส ล้างพิษในลำใส้  ถุงน้ำดี และตับอ่อน ที่จัดโดยแพทย์ แผนไทย (เป็นงานวิจัยสมุนไพรล้วนๆ) เข้าคอร์สอยู่ 4 คืน 5 วัน ทุกเช้าเค๊าก็ให้ อมน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 1 ช้อนโต๊ะ 20 นาที แล้ว จึงให้บ้วนทิ้ง จากนั้นให้ดื่มน้ำอุ่นเกือบร้อน 3-4 แก้วยิ่งมากยิ่งดี ก่อนที่จะเริ่มรักษาด้วยตัวยาอื่น  วันสุดท้ายก่อนออกคอร์ส คุณหมอ ให้ดื่มน้ำมันมะพร้าวผสมน้ำมะนาว  นั่นแสดงว่า น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์ ในการรักษาอย่างมาก หลังจบคอร์สตัวเบาเชียวค่ะ  ยังคิดจะหาเวลา ไปเข้าคอร์สอีกสัก 2- 3 ครั้งเลยค่ะ จากคุณ : สาวอีสาน เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 21:01:08

ความคิดเห็นที่ 17   ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านครับ ทุกท่าน   โดยส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อหรอกครับ แต่ของแบบนี้ต้องลองเองถึงจะเห็นแสงสว่าง ป้าแกร่ครับ ... เหมือนผมตอนแรกๆ ที่รับข้อมูลมาเลยครับ ต้องลองครับ ... คุณvizion  .....ไม่ค่อยจะได้เข้าห้องโต๊ะเลยไม่ทราบครับ แต่ก็ขอบคุณที่นำมาบอกครับ.. พี่จิโป่ม ....ต้องลองอย่าเชื่อครับ...ของแบบนี้ไม่เสียหายอะไร.. คุณวิฬารักษ์  ...อิอิ...แบบนี้อาจ...มีปัญหากับที่บ้านได้นะครับ..ต้องหาคำอธิบายดีๆ นะครับ... พี่ลำน้ำชี..... แบบว่าเอาอย่างพาดหัวข่าวเหมือนนสพ.น่ะครับ... พี่สาวอีสาน... ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ ขอรายละเอียดในการเข้าคอร์ดได้มั้ยครับ แบ่งๆ กันเพื่อจะได้ทำตาม..   จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 08:21:53

ความคิดเห็นที่ 18 หลังไมค์บอกรายละเอียดให้แล้วนะคะ ทั้งสถานที่ และรายละเอียด  ไม่แน่ใจว่าบอกหน้าไมค์จะผิดกฏ pantip รึปล่าวค่ะ จากคุณ : สาวอีสาน เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 22:25:54

ความคิดเห็นที่ 19 เพิ่งได้ลองเมื่อช่วงต้นเดือนเองครับ พอดีฟันอักเสบอยู่ดีๆก็ปวดจี๊ดขึ้นมา ทานอาหารร้อนๆไม่ได้เลยครับ เล่าให้คุณแม่ฟังเลยได้ลอง ได้ผลดีจริงๆครับตอนแรกไม่เชื่อลองทำวันเดียว หายปวดไปพักนึงแล้วกลับมาปวดอีกแต่ตอนนี้ลองทำมาพักนึงแล้วอาการปวดหายไปครับแต่ก็จะรีบหาเวลาไปหาหมอฟันครับ ^^ อีกอย่างครับอาการเลือดออกตามไรฟันก็หายไปด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 54 21:36:09 จากคุณ : I'm กลมใหญ่ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 21:30:36