ความคิดเห็นที่ 1 มันออกจะยากที่จะกำหนดให้ตายตัวครับ  เพราะต้นไม้มีหลายกลุ่ม  ลูกค้าก็แบ่งเป็น หลายกลุ่มเหมือนกัน  ต้นไม้ตลาดที่มีขายทั่วไปจะออกสู่ผู้ซื้อตามฤดูกาล  และเทศกาล ซึ่งมันก็เยอะไปหมด  ราคาไม่สูงแต่มีคนซื้อทั่วไปขายง่าย  ส่วนต้นไม้ตามกระแสความ นิยมจะจำเพาะ ราคาสูง  ส่วนมากจะเป็นพันธุ์ใหม่ๆ  แปลกตา  อันนี้ต้องลองศึกษา หาประสบการณ์เอาเองแล้วหล่ะครับ อ้าว...ข้าพเจ้าเข้าใจผิดไปเองหรือนี่ เอาใหม่ครับ ถ้าต้นไม้ตอนนี้ที่ดูจะมีแนวโน้มที่ดี  อนาคตปริมาณการใช้น่าจะสูงไม่น้อย  แม้ว่า จะมีคนปลูกมากแล้วก็ตาม  นั่นก็คือยางพาราครับ  บำรุงดี น้ำดีมีให้กินตลอดปี ใช้เวลา  4-5 ปี ก็กรีดได้แล้วครับ  แต่ปลูกทิ้งๆ  ขว้างๆ  อาจไม่ได้กรีด  ดูแล แบบพอควร  น้ำมีให้เฉพาะเทวดาจัด  ก็ 7 ปี ครับ  ราคาปัจจุบันได้ยินมาว่า ยางแผ่น  ก.ก. ละ 170 บาท แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 22:39:06 จากคุณ : บานดึก เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 21:09:36

ความคิดเห็นที่ 2 ต้นสักปลูกทิ้งไว้ไม่ได้ราคานะครับ แรกสุดต้องเลือก สักทองก่อน หาต้นกล้ายาก ราคาสูง สามสิบไร่... ทุนไม่น้อย จากนั้น ปลูกสัก ต้องคอยมาเผาหญ้า ให้ลมต้น สีไม้สักถึงขึ้น ปีแรกๆ ถึงปีที่สาม ไม่ดูแลดีๆ ต้นโดนเจาะด้วยสารพัดแมลงได้ง่าย ไม่เผา เนื้อไม่แกร่ง ไม่ขึ้นสี กลวงในด้วย โตไปก็ไม่มีราคา เผลอๆ ไม่โตด้วย แล้วไม้สักผ่านปีที่ห้า ราคาสูง ... ปลูกทิ้งไว้ไม่มีคนเฝ้า เหอๆๆๆๆ ผมมีที่ห้าไร่อยู่พร้าว จ้างชาวบ้านทำรั้วรอบลวดหนามให้ กลับไปจ่ายเงิน เห็นเสารอบที่เป็นไม้สักสูงสัก สองเมตร ก็ตกใจ ถามคนนที่รับจ้างว่าไปเอามาจากไหน เขาก็บอกว่า มีคนมาปลุกทิ้งไว้ ไม่เคยเห็นมาดูแล เห็นว่าตัดได้แล้ว เขาก็เลยไปตัดมาเก็บไว้ พอดีผมจ้างให้ทำรั้ว เขาก็เลยเอามาทำเสารั้วให้ ชาวบ้านเขาก็ไม่ผิดหรอกครับ เพราะสำหรับเขา เขาเห็นว่าเป็นป่า ไม่มีคนเฝ้า คือของฟรี จากคุณ : ต้องถามหน่อย เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 21:24:14

ความคิดเห็นที่ 3 จำปาทอง  ที่คนจีนเอาไปทำโลงศพ 20 ปีข้างหน้าจะหายาก   ราคาจะแพงมาก แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 23:07:31 จากคุณ : r1sph เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 21:38:59

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วการดูแลต้องใกล้ชิดมากขนาดไหนอะครับ แบบว่าตั้งเวลารดน้ำแล้วไปดู  สัปดาห์ละครั้งพอมั้ยครับ? แล้วอยากทราบพวกไม้เศรษฐกิจที่เห็นว่ามีราคาแพงอย่างพวกไม้กฤษณา หรือไม้มงคลอะครับ เคยได้ยินมาว่าราคาสูงมากๆ ขอความรู้ด้วยครับ ^^ จากคุณ : zirius (Ziriusa) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 21:41:47

ความคิดเห็นที่ 5 ลองปลูกต้นยางพาราทิ้งไว้ดีกว่ามั้ง ถ้าคิดจะปลูกเพื่อกันรกร้าง น่าจะ 5 ปีก็กรีดยางได้ ถ้าจำไม่ผิดนะ จากคุณ : ตัวตุ่น..เล็ก ๆ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 22:09:07

ความคิดเห็นที่ 6 ยางพารา น้ำมันปาล์ม มันสำปะหลัง เก็บหาเงินได้ตลอด จากคุณ : วายุ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 23:24:37 A:223.204.8.187 X: TicketID:297353

ความคิดเห็นที่ 7 ยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ คนที่เพาะกล้ายางขาย รวยไม่รู้เรื่องแล้ว จากคุณ : โปรแตสเซียม เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 00:05:59

ความคิดเห็นที่ 8 ลองปรึกษาเกษตรอำเภอในท้องถิ่นดีมั้ยเผื่อเค้าจะแนะนำได้บ้าง จากคุณ : ขวัญใจซูโม่ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 01:33:03

ความคิดเห็นที่ 9 ลองปรึกษาคุณวิวัฒน์ ศัลยกำธร แห่งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง    ตําบลหนองบอนแดง  อําเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี  ดีกว่าไหมครับ คุณวิวัฒน์เป็นผู้บุกเบิกเษตรพอเพียง ที่เป็นผู้จุดกำเนิดแนวคิด "ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง" กับ ไม้ 5 ชั้น" "ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง" หมายถึง ป่าไม้ที่ปลูกนั้นสมควรที่จะปลูกแบบป่าใช้ไม้ ป่าสำหรับใช้ผล และป่าสำหรับใช้เป็นฟืน ดังนั้นการปลูกป่า 3 อย่างให้ประโยชน์ 4 อย่าง ที่ให้ไม้ผล ไม้สร้างบ้าน และไม้ฟืนนั้นสามารถให้ประโยชน์ได้ถึง 4 อย่างคือ หนึ่งให้ไม้กินได้ สองให้ไม้เศรษฐกิจ สามให้ไม้ใช้สอย และสี่คือการช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธาร ซึ่งไม้ทั้งสามอย่างที่ปลูกนั้นต้องเป็นไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นไม้ที่สามารถเจริญเติบโตและเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ ฉะนั้น การปลูกไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เป็นการปลูกไม้ให้เกิดขึ้นในใจของคนในชุมชนเป็นจิตสำนึก เป้นความตระหนัก เป็นความสัมพันธ์ที่สร้างความเกื้อกูล เป็นการสร้างป่าสร้างชุมชนที่ยั่งยืน "ไม้ 5 ชั้น" เป็นการปลูกพืชแบบผสมผสานต่างระดับ หรืออาจเรียกว่าเป็นการปลูกพืชชในระบบวนเกษตรคือ จะมีไม้ยืนต้นเป็นไม้ใช้สอยหรือไม้ผล โดบให้ลักษณะของพืชที่ปลูกนั้นแบ่งเป็น 5 ระดับ ตามความสูงและความลึกของราก ชั้นบน (ระดับแรก) จะเป็นพืชที่ต้องการแสงมาก มีพุ่มใบไม่หนาทึบ เช่น มะพร้าว ตาล หมาก ชั้นที่สอง เป็นต้นไม้ที่มีใบพุ่มหนา เช่น ลำใย มะม่วง ลิ้นจี่ ชั้นที่สาม จะเป็นกล้วย กาแฟ โกโก้ ชา แคบ้าน หรือปลูกพืชไร่ที่ต้องการแสงน้อย เช่น ข้าวโพด ข้าวไร่ ชั้นที่สี่เป็นไม้เรี่ยดินหรือไม้เลื้อยได้แก่ ชะพลู พลู พริกไทย และชั้นที่ห้า เป็นไม้ใต้ดิน ได้แก่ ขิง ข่า กระชาย ขมิ้น เผือก ว่านหรือสมุนไพรต่างๆ ตามความเหมาะสม การปลูกไม้ 5 ชั้นจะช่วยให้ธาตุอาหารในดินหมุนเวียนและถูกใช้ไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ดินจะถูกปกคลุมตลอดเวลาและได้รับอินทรีย์วัตถุอย่างสม่ำเสมอจากใบไม้ที่ร่วงหล่น ลดความแรงของการตกกระทบโดยตรงของเม็ดฝน เพราะเรือนยอดของต้นไม้และไม้พื้นล่างที่ขึ้นคลุมดินอยู่จะช่วยรองรับน้ำฝนเป็นชั้นๆ โรคและแมลงก็จะมีน้อยลง ไม่ต้องใช้ยาปราบศัตรูพืช จึงเป็นวิธีการปรับปรุงดินที่ใช้ทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืน ลองดูนะครับ เผื่อจะทำให้พื้นที่ที่มีอยู่ 30 ไร่ มีคุณค่ามากขึ้น จากคุณ : ลูกยาง เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 08:49:13

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ยางและปาล์มคือคำตอบที่ดีที่สุด จากคุณ : TASSY_TT เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 11:32:43

ความคิดเห็นที่ 11 ลองปรึกษาผู้เชี่ยวในท้องที่ตามความเห็น 8 และ 9 ดูก่อนครับ เพราะแต่ละพื้นที่สภาพแวดล้อมน่าจะต่างกัน ผมไม่ค่อยได้ออกนอกเมืองแปดริ้วเท่าไร เลยไม่แน่ใจว่าจะมีพืชตัวไหนเหมาะสม เพราะเท่าที่ทราบรู้สึกว่าจะมีปัญหาเรื่องของสภาพดินซึ่งมีผลกระทบจากน้ำทะเลที่หนุนเข้ามาผสมกับแม่น้ำเจ้าพระยา (บางช่วงของปี) แต่ถ้าเป็นพื้นที่แถวบ่อทอง ชลบุรีละก็ ปาล์มน้ำมัน กับ ยางพารา น่าจะเหมาะสุด ผมเคยพาน้องที่อยู่ภาคใต้มาทำบุญที่วัดป่าแถวนั้น น้องผมทักขึ้นมาเลยว่าบรรยากาศเหมือนภาคใต้มาก แต่ระยะหลังพื้นที่แถวนี้มีต้นยูคาลิปตัสเพิ่มมากขึ้น เพราะโครงการปลูกต้นกระดาษของบริษัทแห่งหนึ่งครับ จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 13:42:51

ความคิดเห็นที่ 12 ยางพารา น่าจะดีกว่าชนิดอื่น จากคุณ : ไม้๘อนุรักษ์ (ไม้_อนุรักษ์) เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 16:47:14

ความคิดเห็นที่ 13 ปลูก ไม้พยุง กับไม้กฤษณาค่ะ อิอิ จากคุณ : Puvarin เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 19:07:01

ความคิดเห็นที่ 14 ตามหลายๆความเห็น สงสัยจะต้องใช้เกษตรปนิก(เกษตรกร+สถาปนิก)มาช่วยออกแบบสวนป่าให้ซะแล้ว เหอๆ ตอนนี้ผมคิดว่าจะทำเกษตรผสมผสาน แต่เลือกปลูกตามโจทย์นี้คือ 1. ดูแลง่าย ใช้เวลาไม่มาก ยิิ่ิ่งน้อยยิ่งดี 2. เหมาะสมกับสภาพดิน ฟ้า อากาศของที่แปดริ้ว 3.เป็นธรรมชาติที่สุด 4.มีผลตอบแทนต่อการลงทุนสูง ก็ไม่รู้ว่าจะดูเห็นแก่ได้มากไปหรือปล่าว อิอิ แต่ก้ออยากนำเกษตรยั่งยืนของคุณลูกยางมาปรับใช้ด้วยเหมือนกัน กะว่าจะลงไม้ยืน5ปี+สัก 7-10ไร่ เช่น ไม้สัก,มะฮอกกานี,ต้นยาง,etc. แล้วก็ลงฟาร์มเห็ดสัก1-2ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นเกษตรผสมผสาน เช่น แปลงผัก ขุดร่องเลี้ยงปลาตามธรรมชาติ มะพร้าว,ปาล์ม,ถั่ว,กล้วย,ข้าว,มะม่วง. สลับกันไป. เริ่มจากทำทีละไร่ แล้วค่อยขยายออกไป จะได้ไม่เหนื่อยมาก แต่ก็ยืนยันจะทำให้เป็นorganicให้หมด เพราะเป็นคนรักความเป็นธรรมชาติ ไม่รู้หวังสูงไปหรือปล่าวคับ อิอิ จากคุณ : zirius (Ziriusa) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 21:57:29