น่าจะพาลูกไปหยดวิตามินซีเข้าเส้นเลือดที่จุฬาให้เร็วที่สุด ระหว่างตัดสินใจเรื่องทำคีโมนะคะ
การรักษาแผนแพทย์ทางเลือกที่เราใช้ ซึ่งเราแบ่งให้คุณเข้าใจง่ายๆแบบนี้นะ
1.การหยดวิตามินซีเข้าเส้นเลือด 2.น้ำผัก 3.วิตามิน(หาหลินจือแบบสกัดได้หรือยัง?) ที่เป็น immune booster 4.สมุนไพรต่างๆ เข้าไปรักษาที่ไขกระดูก ควบคุมการทำงานของตับไต ระหว่างการรักษา
ต้องทำงานไปพร้อมกัน ห้ามขาดตัวใดตัวหนึ่ง(บางคนคิดว่าสมุนไพรไม่จำเป็น แต่หมาเราตลอดการรักษาค่าตับ ไต ลดลงอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเรื่อยๆตลอด เพราะให้สมุนไพรคุมไว้นี่แหละ)
ถ้าคุณให้วิตามิน สมุนไพรที่เราแนะนำ
(ให้ๆครบทุกตัวด้วยนะคะ มันทำงานสอดประสานกัน ขาดตัวใดไป มันไม่ทำงานขึ้นมา เหมือนกลไกเครื่องยนต์ คุณประกอบเครื่องยนต์ไม่ครบ มันก็ขับไม่ได้ อธิบายง่ายๆแบบนี้แล้วกัน)
แต่คุณไม่พาเขาไปหยดวิตามินซีเข้าเส้นเลือด
เม็ดเลือดขาว จะไม่ได้รับอาวุธครบ
และเมื่ออาวุธไม่ครบ มันก็ไม่แข็งแรงพอจะไปทำลายเซลมะเร็งได้
(หยดวิตามินซี สำคัญอันดับหนึ่งเลย เราขอบอก คุณยิ่งช้า โอกาสยิ่งเหลือน้อยลง)
และกว่าเซลเม็ดเลือดขาวจะแข็งแรงพอ ที่จะเข้าไปทำลายเซลมะเร็งได้ คุณต้องให้ทุกอย่างครบๆ(ข้อ1-4)เป็นเวลาอย่างน้อย3-4อาทิตย์ เพราะร่างกายมีข้อกำจัดเรื่องเวลา ในการสร้างภูมิคุ้มกัน ระดับทำลายเซลมะเร็ง...เร่งมันไม่ได้
น้องเอแคร์ป่วยในเสตทที่เรียกว่า เมื่อทำทุกอย่างครบแล้ว ก็ให้ รอ..และ รอ และทำบุญซื้อเวลาไป ขออย่าให้เขาไปก่อนที่เม็ดเลือดขาวจะแข็งแรงพร้อมทำงานเข้าไปทำลายเซลมะเร็ง
และเมื่อร่างกายเริ่มทำลายเซลมะเร็ง ก็ต้องทำบุญไปให้มาก และรอดูมะเร็งที่แข็งนิ่มลง และต่อไปที่นิ่มลงจะหายไป ใช้เวลาเป็นเดือนๆๆ
ทุกขั้นตอน มันก็ได้แต่ลุ้นกันอย่างหนัก เพราะหมอผ่าตัด3รอบ ทำมะเร็งกระจายไปตามจุดสำคัญแล้ว
------------------------------------------------------------
ถ้าคุณทำคีโม ระบบที่ส้รางเม็ดเลือดขาว ภูมิคุ้มกันขึ้นมาให้แข็งแรงด้วยตนเอง เพื่อให้ไปทำลายมะเร็ง จะถูกทำลายลงทั้งหมด เพราะคีโมเข้าไปกดภูมิ และไขกระดูกจะถูกทำลายไปบางส่วน
ดังนั้น ถ้าจะทำคีโม ให้พร้อมยาแค็ปซูลสีเหลืองได้ ตัวนั้นทำงานไปพร้อมกับคีโมได้ดีเช่นกัน
แต่พวกสมุนไพร วิตามินต่างๆไม่จำเป็นแล้ว
เพราะมันทำงานขัดแย้งกัน ให้ไปก็ไม่มีประโยชน์ โดนคีโมทำลายเรียบ เหมือนนิวเคลียลง
ข้างบนทั้งหมด เราอธิบายแบบชาวบ้านเข้าใจง่ายๆนะคะ
หลักการแพทย์ไม่รู้จะเรียกว่ามีหรือไม่มี ที่แน่ๆไม่มั่ว
เพราะพอศึกษาทำความเข้าใจเสร็จ ใช้ได้ผล ก็ไม่ได้จดจำ ไม่ได้คิดว่าจะเอาเลคเชอร์บอกใครต่อ
ความเสี่ยงของการทำคีโม คือ หมาจะตายด้วยอาการตับวาย ไตวาย
อาการเบื้องต้น คือ นอนลุกไม่ได้ ฉี่อึไหล
ถ้ามีอาการแบบนี้ say goodbye ได้เลย
มีเคสที่เลือกมาทางแพทย์ทางเลือกช้ากว่าคุณอีก คือ หมาเริ่มไตวายเพราะทำคีโม โทรหาเราเสตทนี้ ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง มันไม่ทันจริงๆ
แต่บางเคสรักษาด้วยคีโมได้ผลดี
คุณต้องปรึกษาหมอ ว่าโอกาสรอดมากน้อยแค่ไหน
เขาทำคีโมด้วยมะเร็งแบบนี้ เสตทนี้ หายมากี่เคสแล้ว(จากที่ตายไปกี่เคส..อันนี้เป็นเรากล้าถามนะ)
ถ้าโอกาสมาก ทำไมไม่แนะนำให้ทำแรก
และถ้าแทบไม่มีโอกาส ทำไมยังแนะนำให้ทำ
ต้องคุยกับหมอให้ละเอียด จะได้ตัดสินใจถูก ว่าจะรักษาหมาเราให้หาย หรือให้ตายกัน เอาแน่ๆ ขอดูโอกาสหน่อย
ทั้งนี้ถ้าใครที่เคยรักษามะเร็งชนิดนี้ stageนี้หายด้วยคีโมชนิดที่คุณจะทำ ลองขอคำปรึกษาเขาดูคะ ขอชื่อมาจากหมอ โทรคุยกับเขาดู
ส่วนของเรา เราศึกษามาเต็มที่แล้ว มะเร็งชนิดที่หมาเราเป็น melanoma ในเหงือก
ทำคีโม จุฬาให้โอกาสหาย 25เปอเซน และบอกเลย ว่ายังไม่เวิค ไม่แนะนำให้ทำ
แพทย์แผนปัจจุบัน รักษาแบบประคับประคองให้ตายใน4เดือน
(หมานะ ไม่ใช่มะเร็ง ตายหมด..คิดดูแล้วกัน เราเดินทางฝ่าความมืดมิดมาแบบไหน เวลานั้นในใจเรามีแต่น้ำตาท่วมใจ ไม่มีหมอสักคนรักษาได้ แม้แต่แพทย์ทางเลือกก็ตาม)
ความหวังเดียวของเรา คือ แพทย์ทางเลือก ที่ยังไม่เคยเจอยาตัวไหนรักษาหาย
เรากับหมอคุยกันว่า มาหากัน ว่าอะไรฆ่ามันได้ แข่งกับเวลา2เดือน(ที่เหลือ เพราะผ่านไป2เดือนแล้ว)
เราสิ้นหวัง ไม่เห็นทาง แต่เราไม่เคยหยุดสู้ และเราทำการบ้านหนักมากๆคะ
มะเร็งชนิดที่หมาเราเป็น ร้ายแรงกว่าของคุณเยอะนัก
ดังนั้น ขอให้ทำการบ้านให้ดี
ทำบุญให้มากๆแล้วค่อยตัดสินใจเลือกเส้นทางให้น้องเขา
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 21:14:54
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 20:39:38
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 20:26:50
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 20:23:58