ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากโครงการ 4 ขา 1 หางค่ะ T^T
|
 |
ไม่รู้เป็นโชคชะตาหรือเปล่านะค่ะ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ที่ผ่านมาปกติเอยก็ต้องไปทำงาน แต่จู่ๆ ก็งานเข้าทำให้ต้องลางาน และเย็นวัน
นั้นเองประมาณสี่ห้าโมงเย็นเอยก็ลงเอาผ้าไปซักและออกไปหาไรกิน ปรากฎว่าหน้าอพาร์ตเม้นท์มีคนมุงอยู่เต็มไม่รู้ดูอะไรกัน เอยก็เลย
เดินเข้าไปดู เห็นน้องหมาตัวเล็กๆ นอนแน่นิ่ง ที่ขาหน้าทั้งสองข้างมีเลือดออกเต็มน่าสงสารมาก ถามคนคุมอพาร์ตเม้นท์เอยซึ่งก็ยืนดูอยู่ได้ความว่า มีคนเรียกแท็กซี่มารับ แต่แท็กซี่ดันถอยมาเหยียบขาน้องเข้าเต็มๆ น้องนอนแน่นิ่งตอนแรกก็นึกว่าไม่รอดแล้ว แต่ดูดีๆ น้องเค้าก็ยังหายใจอยู่ ตอนแรกเอยก็คิดว่าคงมีคนจัดการเรียกรถพยาบาล หรือจะมีคนพาไปหาหมอแล้ว แต่จนเดินไปซื้อของ แล้วกลับเข้ามา คนที่มุงอยู่เยอะแยะก็หายเกลี้ยงไปหมด แต่เหตุไฉนน้องหมายังนอนอยู่ที่เดิม O_O" เอยเดินเข้าไปถามคนคุมอพาร์ตเม้นท์ที่นั่งดูทีวีอยู่ว่า ไม่มีใครพาน้องไปหาหมอหรอ?? เื่ชื่อหรือไม่ค่ะ คำตอบที่ได้มาทำให้เอยถึงกับ ช๊อค!! "ปล่อยมันไว้อย่างนั้นละค่ะ จะพาไปโรงบาลก็หลายตังค์" กรี๊ดดดดดดด ได้ยินแค่นั้นเรารีบขึ้นห้องไปบอกแฟนถึงเรื่องราวทั้งหมด และ search หาข้อมูลถึงโรงบาลหรือคลินิคที่อยู่ใกล้มากที่สุด เอยอยู่ห้วยขวาง
ประชาอุทิศ 24 ข้อมูลที่หาได้ตอนนั้นใกล้สุดเป็นโรงบาลจันทร์หุ่นฯ ซักพักนึกขึ้นได้ว่าแถวๆ ลุมพินีคอนโด (อยู่ตรงข้ามซอยที่เอยอยู่)
เหมือนมีร้าน Pet Shop หรือคลินิคสัตว์ ถึงไม่แน่ใจแต่เอยก็รีบเดินจ้ำไปดู (ใจก็เฝ้าแต่ภาวนาว่าน้องอย่าเพิ่งเป็นไรนะ)
โชคดีที่เป็นคลินิคสัตว์จริงๆ เราเลยรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือเลย ทางคลินิคใจดีมาก ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ตามเอยเข้ามาดูในซอย และจับน้องใส่ตะกร้าไปที่คลินิค พี่เค้าดูแล้วอาการหนักพอสมควร เครื่องไม้เครื่องมือที่นั่นไม่เพียงพอ เลยให้พี่ผู้ชายคนนึงพาเอยกับน้องหมาไปที่คลินิคสัตว์ตรงประชา
ราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 8
ไม่รู้ว่าสีหน้าเราไปถึงขนาดไหน เอยยังไม่ทันพูดไรเลยแต่คำแรกที่ได้ยินพอไปถึง "ใจเย็นๆ นะค่ะ ถึงมือหมอแล้วค่ะ" คุณหมอรีบนำน้องเข้าห้องไป ดูอา่การ แล้วทำแผลทันที เราได้แต่ยืนลุ้นระทึกอยู่ข้างนอก ซักพักก็แอบเข้าไปดูข้างใน (คุณหมอก็ไม่ได้ว่าไร) ได้สติเอยก็เลยรีบถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ
เราเองก็ค่อนข้างห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะบอกตามตรงว่าเอยกับแฟนตอนนี้ก็มีตังค์ support ได้ไม่มาก ก็เลยแอบถามค่า
รักษาพยาบาลกับคุณหมอไปหลายเรื่องเหมือนกัน ทั้งคิดเผื่อเอาไว้ด้วยต่างๆ นานา แต่ยังไงก็อยากเอาชีวิตน้องไว้ให้ได้ก่อน ตอนนั้นคิดแค่ว่า เอาว่ะ ไหนๆ ก็ได้ช่วยน้องละ ช่วยให้ถึงที่สุดเลยละกัน! หากเงินไม่พอยังไง หยิบยื้มเพือนก็ยอม (ไปตายเอาดาบหน้าจริงๆ)
สรุปค่าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทำแผล ที่คลินิคค่าใช้จ่าย 500 บาท แต่คุณหมอบอกว่าเกรงว่ากระดูกขาขวาจะหัก ให้ไปเอ็กซ์เรย์ที่โรงพยาบาลดีกว่า เผื่อหักจริงจะได้ว่ากันต่อจะเอายังไง ต้องผ่าตัดเลยมั้ย? ตอนแรกก็ว่าจะพาไปโรงบาลจันทร์หุ่นฯ เพราะใกล้สุดแล้ว แต่คุณหมอที่คลินิคแนะนำว่าไปโรงบาลสัตว์เกษตรเลยจะดีกว่า เพราะ
เครื่องไม้เครื่องมือครบกว่า รักษาดี ค่าใช้จ่ายไม่แพง และหมอบอกว่ามีกองทุนสุนัขจรจัดด้วย ให้ลองไปถามดู ก็เลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่
บึ่งต่อไปโรงบาลสัตว์เกษตรเลยทันที
ไปถึงก็เย็นแล้ว เอ็กซ์เรย์ผลปรากฏว่ากระดูขาขวาน้องหักจริงๆ ต้องผ่าตัดใส่สกรู T^T แต่ไปถึงดึกหมอบอกไม่ทันที่จะผ่าตัดเลยวันนี้ เลยนัดเป็นพรุ่งนี้เช้า สำหรับวันนี้ก็ทำแผล ใส่เฝือกไว้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับวันนี้ที่
โรงพยาบาลสัตว์เกษตร 940 บาท เราถามคุณหมอเรื่องกองทุน คุณหมอบอกให้ไปติดต่อที่ประชาสัมพันธ์พรุ่งนี้ (ก่อนหน้านี้โทรถามระหว่างเดินทางมา ดูขั้นตอนยุ่งมาก
ต้องใช้เอกสาร ต้องสัมภาษณ์ไรอีกเยอะแยะ บอกตามตรงตอนนั้นไม่คาดหวังไรจากกองทุนนี้เลย T_T)
เย็นวันนั้นก็พาน้องกลับมาที่ห้อง ซื้ออาหารสำเร็จรูปมาให้น้องกินนิดหน่อย แต่พอจะขึ้นอพาร์ตเม้นท์ก็เจอเรื่องอีกละ คนคุมที่เห็นเหตุการณ์ด้วยนั่นละค่ะ ปรี่เข้ามาหาเราเลย ตอนแรกก็ถามอาการน้อง ซักพักพอเราจะขึ้นห้อง "ขึ้นไม่ได้นะค่ะ เค้าห้ามเลี้ยงสัตว์" กรี๊ดดดดดดดดดด จะอะไรกันนักกันหนาค่ะ น้องอาการสาหัส พวกเธอไม่ช่วยแล้วยังจะมากีดกันอีกหรอ (ตอนนั้นปรี๊ดแตกมาก) เอยก็เลยบอกไปว่าก็น้องเค้าเจ็บอยู่ จะให้เอาไปไว้ที่ไหนละค่ะ (ตอนนั้นสี่ทุ่มกว่าแล้ว) พรุ่งนี้เช้าก็ต้องพาไปผ่าตัดแต่เช้าอีก รปภ. และเพื่อนๆ คุณเธอที่ปรี่เข้ามาดูด้วยกัน ก็บอกให้เค้าดูเถอะ ชีถึงยอมและยังบอกอีกว่า ขืนเจ้าของเค้ารู้ พี่ก็โดนอีก เออ เอาเหอะ ให้มาหาเรื่องสิ จะรีบย้ายออกให้เลย แล้งน้ำใจกันจริงๆ!
พอเข้าห้องก็รีบจัดแจงอาหารการกินให้น้องหมา น้องกินข้าวนิดหน่อย แต่กินน้ำเยอะเลย สงสัยคงเสียเลือดมาก เสร็จแล้วก็นอนหลับปุ๋ยเลย
**เช้าวันต่อมา** (เสาร์ที่ 19 มีนาคม) เราตื่นแต่เช้าตรู่ พาน้องไปเข้าคิวตั้งแต่แปดโมง กว่าจะได้ผ่าตัดก็บ่ายโมง ลุ้นระทึกขอให้การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี ช่วงนั้นก็เล่าให้เพื่อนฟังบ้างไรบ้าง กระแสก็ต่างๆ นานา (ทำให้เห็น
ความจริงขึ้นเยอะเลย) ส่วนใหญ่ก็สงสารน้อง บอกว่าเราทำดีแล้ว แต่ก็ยังมีคนบางจำพวกที่หาว่าเราโง่บ้าง ไปช่วยมันทำไม เก็บเงินไว้
กินข้าวไม่ดีกว่าหรอ คนเค้ายังทิ้งกันได้ แล้วนับประสาอะไรกับหมา! หมาใครก็ไม่รู้ ระวังติดโรคด้วยนะ O_O" บอกตามตรงว่าเสียใจมากที่ได้ยินแบบนั้น จนนั่งร้องไห้อยู่ซักพักและพลันคิดได้ว่านี่สรุปเราทำถูกหรือไม่ถูกเนี่ย (เพราะเราเองก็นั่ง
เครียดอยู่ตลอดเวลาเรื่องค่าใช้จ่าย)
ซักพัก ก็มีพี่คนนึงพาน้องหมามาหาหมอเหมือนกัน เข้ามาถามไถ่ แล้วจู่ๆ ก็ถามเรื่องค่าใช้จ่าย คงเห็นสีหน้าเราเครียดมาก ซักพักพี่แก
ก็ควักออกมาเลยค่ะ 1,000 บาท ตอนนั้นก็ตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะยังมีคนแบบนี้อยู่ ตอนแรกก็ไม่รับเพราะเกรงใจพี่เค้ามาก เพิ่งมารู้จักกันจู่ๆ ก็มาช่วยเราขนาดนี้ (ขนาดเพื่อนเราที่เคยบอกอยากช่วย พอเรารับบริจาค
เข้าจริงๆ ก็เงียบหนีหายไปไหนไม่รู้) แต่พี่เค้าก็ยืนยันจะช่วย บอกสงสารทำบุญร่วมกันมาเลยได้มาเจอกัน แล้วพอดีวันนี้มีตังค์ถือซะ
ว่าพี่ช่วยละกัน ตอนนั้นความรู้สึกคืออั้นไม่อยู่แล้ว เพราะเพิ่งโดนคนด่าว่าโง่มา เลยปล่อยโฮแล้วกอดขอบคุณพี่เค้าอย่างปลาบปลื้มที่สุด T^T พี่เค้าได้คิวก่อน แล้วซักพักก็รีบกลับไป **ขออนุญาตให้เครดิตไว้ ณ ตรงนี้เลยนะค่ะ พี่เค้าชื่อ "พี่ทิพย์" ค่ะ ถึงใครจะไม่รู้จัก แต่เอยอยากเอ่ยชื่อให้เครดิตพี่เค้าจริงๆ ค่ะ
ไม่นานน้องเราก็ผ่าตัดเสร็จ โดนเข็นย้ายไปอยู่อีกห้อง ไปนอนให้น้ำเกลือ เราแอบเข้าไปดู แต่เค้าก็ไล่ออกมาให้ไปรอรับแฟ้มเอกสาร
ก่อนถึงจะมาดูได้ (โอเคๆ ออกไปรอแฟ้มก่อนก็ได้ค่ะ) พอได้แฟ้มและเข้าพบคุณหมออีกครั้ง คุณหมอบอกว่า คุณหมอห่วงอยู่ 2 ประเด็น คือ 1. แผลน้องอาจติดเชื้อ เพราะมันจะมีรอยขีดบาดเหมือนโดนลาก คุณหมอเย็บให็แล้ว แต่ต้องรอดูอีกทีว่าแผลจะแห้งดีมั้ย คุณหมอกังวล
เรื่องการติดเชื้อค่ะ 2. กระดูกตรงบริเวณที่หัก อยู่ใกล้กับข้อพับ คุณหมอเกรงว่าตอนหายแล้วน้องจะไม่สามารถยืดหดในส่วนนั้นไม่ได้เต็มที่ เลยอาจทำให้
เดินวิ่งเหมือนหุ่นยนต์ -..-
คุณหมอนัดตรวจแผลอีกทีัวันที่ 22 และนัดตัดไหมวันที่ 26 ค่ะ รับทราบตามนั้นระหว่างรอน้องให้น้ำเกลือเอยก็ไปทำเรื่องกองทุน ค่าใช้จ่ายวันนี้ 3,380 บาท T_T ทำเรื่องอยู่นาน คุณหมอก็ยอมเซ็นให้ แล้วก็บอกว่า "ไม่รู้ทางกองทุนจะช่วยเหลือเท่าไหร่นะค่ะ แต่หมอจะเซ็นรับรองไปให้" (อารมณ์ไม่
ได้คาดหวังมาอีกแล้ว แต่ในใจก็คิดว่า เอานะช่วยนิดหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ช่วยเลย) เสร็จล้วก็ไปรับน้องลงมา และไปเอายากลับบ้าน ที่การเงินไม่เก็บตังค์ซักกะบาท เค้าบอกว่าเคลียร์บิลให้แล้วค่ะ เดี๋ยววันสัมภาษณ์จะนัดอีกทีนึงนะค่ะ (ตอนนั้นก็ดีใจมาก แต่ยังรู้สึกเคลือบแคลง เพราะมันเหลือสัมภาษณ์ไง ไม่รู้ process เค้าจะเป็นยังไง ไม่ใช่มาเรียกเก้บคืนย้อนหลัง
เท่านั้นเท่านี้เปอร์เซ็นไม่ไหวนะ T-T)
กลับมาก็พาน้องไปฝากที่คลินิคใกล้บ้านช่วยดูแลให้ เพราะน้องยังอาการหนักอยู่ เราคงดูแลได้ไม่ดีเท่าที่คลินิคแน่นอน พี่เค้าก็ใจดีบอก
คิดค่าดูแลแค่วันละ 150 (จากปกติคิดสามสี่ร้อย) เค้าบอกถือซะว่าช่วยๆ กัน ก็ขอบคุณที่ี่พี่เค้าลดให้นะค่ะ แต่นับวันดูแล้ว วันละ 150 ไม่รู้ต้องนานแค่ไหนกว่าน้องเค้าจะหายสนิทก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเลยนะค่ะ
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดอาจถึงหมื่นได้เลยทีเดียว *0*
ตอนนั้นก็หนักใจมาก และพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อรับบริจาค จนได้ไปคุยกับเพื่อนๆ ใน Group Thailand Loves Lady Gaga เหมือนโชคเข้าข้าง พี่ออมเจ้าของกลุ่มบอกเราว่าให้ไปโพสท์ที่ห้องจตุจักรในพันธ์ทิพย์สิ เค้ามีโครงการ 4 ขา 1 หาง พี่เค้าบอกว่าเค้าอยู่
ที่ห้องนั้นประจำ แต่ด้วยยุ่งงานที่ออฟฟิตด้วย เลยยังไม่ได้มาโพสท์ทันทีตั้งแต่วันนั้น
22 มีนาคม 2554 วันนี้เอยลางานเลยค่ะ เพื่อพาน้องไปโรงบาลสัตว์เกษตรตามที่คุณหมอนัด น้องฟื้นตัวได้ไวมาก แอบเดินแล้ว กะเผกๆ ก็ยังจะเดิน ^^ ซนมากกระโดดไม่หยุด alert เชียวค่ะ เราเองก็ดีใจที่เห็นน้องฟื้นตัวได้ไวขนาดนี้ ไปถึงโรงบาลแกะเฝือกตรวจแผล แผลหายดีขึ้นเยอะมาก ล้างแผลขาซ้าย (เท้าซ้ายหนังถลอกออกหมดเป็นแผลเปิด) แล้วก็ใส่ยาขาขวา
ที่ผ่าตัด แล้วก็ใส่เฝือกสีใหม่ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ^^ ค่าใช้จ่ายวันนี้ 350 แต่ทางการเงินไม่ได้เก็บเพราะบอกว่าน้องอยู่ในกองทุน ค่อยมาสัมภาษณ์ทีเดียวตอนเสร็จ โอเค เราก็กลับบ้าน กลับมาก็เอาไปฝากไว้ที่คลินิคแถวบ้านให้เค้าช่วยดูแลให้ แล้ววันที่ 26 ค่อยพาไปโรงบาลอีกที
กลับมาห้องก็รีบมาโพสท์เนี่ยละค่ะ ก่อนจะนานไป (พี่ออมบอกเดี๋ยวเค้าไม่เชื่อว่าเป็นหมาจรจัดจริง *-*)
ก็ไม่รู้ว่าทางโครงการจะช่วยเหลือมากน้อยแค่ไหนนะค่ะ แต่แค่ไหนก็ดีใจแล้วละค่ะ (บอกตามตรงว่าแอบหวังอยู่นิดๆ) T^T
**ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตอนนี้** วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2554: ค่าปฐมพยาบาลที่คลินิคซอย 8 = 500 บาท ค่าแท็กซี่ไปโรงบาลสัตว์เกษตร ไป-กลับ = 200 บาท ค่าใช้จ่ายที่โรงบาลสัตว์เกษตร = 940 บาท
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2554: ค่าแท็กซี่ไปโรงบาลสัตว์เกษตร ไป-กลับ = 200 บาท ค่าใช้จ่ายที่โรงบาลสัตว์เกษตรทั้งหมด = 3,380 บาท
วันอังคารที่ 22 มีนาคม 2554: ค่าแท็กซี่ไปโรงบาลสัตว์เกษตร ไป-กลับ = 200 บาท ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตร = 350 บาท
และค่าใช้จ่ายวันที่ 26 อีกซึ่งยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่ และที่สำคัญเลยคือค่าใช้จ่ายในการดูแลน้องทุกวันที่คลินิคใกล้บ้านวันละ 150 บาท (นับมาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมเลยค่ะ) และยังไม่รู้
จะถึงเมื่อไหร่ แต่งวดแรกจะขอพี่เค้ารวบยอดจ่ายทีเดียวตอนสิ้นเดือนนี้ คือถึง 31 มีนาคม รวมเป็น 14 วัน คิดเป็นเงิน 2,100 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นที่แน่นอนตอนนี้ก็ 7,870 บาทละค่ะ (แอบเข่าอ่อนอยู่เหมือนกัน T^T)
คงต้องขอความช่วยเหลือจากโครงการ 4 ขา 1 หางด้วยนะค่ะ เอยต้องทำยังไงบ้างคะเนี่ย T_T
จากคุณ |
:
Romantic Kitty
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มี.ค. 54 00:18:14
|
|
|
|