ความคิดเห็นที่ 1 ชื่นชมคนใจดีค่ะ ไม่ขอรับค่ะ เพราะเคยเพาะแล้วไม่งอกเลยค่ะ เอาวิธีมาจากในเน็ตนี่แหละ  -*- จากคุณ : gugugun เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:18:42

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าไม่รับไปดูแลจ้ะ  มาแจกกิ๊ฟท์ให้คนใจดีเฉย ๆ จ้า จากคุณ : payongm เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:19:49

ความคิดเห็นที่ 3 ลองดูใหม่ได้ครับ การงอก ก็มีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งความสดใหม่ ของเมล็ด และ ความสมบูรณ์ของเมล็ด และวิธีการเพาะ อิอิ จากคุณ : Mr.Kim Henry เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:20:36

ความคิดเห็นที่ 4 ชื่นชมความใจดีฮับ   ขอลองไปอ่านดูก่อนฮับ ว่าเพาะยังไง  ถ้าคิดว่าไม่รอด คงต้องให้ผู้มีความสามารถเพาะอ่ะฮับพี่   ใจดีมากกก๊าบ จากคุณ : ระฆังเหนือ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:22:32

ความคิดเห็นที่ 5 หม้อแดงๆสวยจัง จากคุณ : supot_menk เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:22:52

ความคิดเห็นที่ 6 ซ้ำซะงั้น แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 16:24:08 จากคุณ : supot_menk เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:23:32

ความคิดเห็นที่ 7 หม้อสวยจังเลย อยากลองเพาะบ้างจัง เคยแต่ชำ ตัดหน่อมาชำ (แบบไม่มีราก) รอดทุกต้น แต่การเพาะจากเมล็ดยังไม่เคยมีเมล็ดให้เพาะเลยไม่แน่ใจ จากคุณ : แม่น้ำตาลน้อยที่แสนซน เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:31:54

ความคิดเห็นที่ 8 สงสัยจะเพาะยากโหด...เข้ามาให้กำลังใจคนใจดีแล้วกันนะคะ ชื่นชม ๆ จากคุณ : วายร้ายยายตัวยุ่ง เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:37:58

ความคิดเห็นที่ 9 อยากลองเพาะบ้างจังเลยครับ ไม่ทราบจะขอรับด้วยคนครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ 129/438 รัชดาออร์คิด ซ.หัสดิเสวี ถ.สุทธิสารวินิฉัย แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 ขอขอบคุณมากครับ เอก จากคุณ : ลงดิ้ง (ลงดิ้ง) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:41:41

ความคิดเห็นที่ 10 ^^ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 16:47:44 จากคุณ : ซารุ โซบะ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:44:44

ความคิดเห็นที่ 11 อยากได้ แต่กลัวเพาะไม่ขึ้น จากคุณ : พี่เต๋อ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:46:25

ความคิดเห็นที่ 12 ความจริงอยากจะลองเพาะนะ แต่ไม่ดีกว่า ความกลัวว่าเพาะไม่ขึ้นมีมากกว่า ก็เลยฝากกิ๊ฟให้ จขกท.ไปเพาะแทนล่ะกัน จากคุณ : FridayPOR เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:48:22

ความคิดเห็นที่ 13 --- ซ้ำ --- แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 16:55:24 จากคุณ : FridayPOR เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:51:47

ความคิดเห็นที่ 14 ลงดิ้ง (ลงดิ้ง) : ตามกฏิกาเลยครับพี่ ^ ^ จากคุณ : Mr.Kim Henry เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:55:51

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เคยเพาะหม้อ หาข้อมูลวิธีการเพาะแล้ว ชักอยากจะลองแล้ว สิครับ จากคุณ : นัครีสโตย เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 17:03:55

ความคิดเห็นที่ 16 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 17:12:26 จากคุณ : พี่เต๋อ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 17:12:01

ความคิดเห็นที่ 17 รางวัลเร้าใจมาก ได้ยินมาว่า หม้อฯ...ต้องการความชื้นมาก กลัวเพาะไม่ขึ้น ผ่าน....ค่ะ จากคุณ : โปรแตสเซียม เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 17:12:15

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องความชื้นแก้ด้วยการอบได้ครับ เพราะเมื่ออบอแล้วความชื้นจะเป็น 100%ครับ หุๆ จากคุณ : Mr.Kim Henry เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 17:18:16

ความคิดเห็นที่ 19 เอาใหม่ๆ เข้าใจผิด  อิอิ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 18:16:58 จากคุณ : donut@animal.tree เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 17:20:50

ความคิดเห็นที่ 20 donut@animal.tree : ขอเป็นตามกฏิกา คือหลัง 18.00 น. เท่านั้นครับ เหอๆ   ^.* จากคุณ : Mr.Kim Henry เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 17:53:33

ความคิดเห็นที่ 21 อยากลองเพาะหม้อข้าวแกงลิงครับ ไม่เคยเพาะ เลย ต้องไปค้นหาวิธีการเพาะมา ครับ วิธีการเพาะเมล็ดหม้อข้าวแกงลิง 1. นำกาบมะพร้าวต้องแช่น้ำก่อน 3 วันก่อนนำมาใช้ เพื่อให้กรดที่อยู่ในกาบมะพร้าวสับเราออกไปก่อน) นำกาบมะพร้าวสับมาใส่รองก้นตระกร้าให้หนาไม่ต่ำกว่า2ซม. เกลี่ยแล้วกดให้แน่นพอประมาณ 2.หว่านปุ๋ยออสโมโคสรองก้นพอประมาณ (ใสทำไมก่อนหว่ายังไม่งอกเลย) 3.แล้วใส่ขุยมะพร้าว(ผ่านการแช้น้ำมาเหมือนกัน) ทับลงไปอีกไม่ต่ำกว่า3ซม.เกลี่ยให้เรียบใช้มือกดเบาๆแล้วรดน้ำให้ชุม 4.หลังจากนั้นก็เริ่มหว่านเมล็ดลงไป 5.ใช้ถุงพลาสติกใส สวมคลุมตะกร้าเพื่อเก็บความชื้น นำไปวางในที่รำไร(มีแสงซัก60%) หลังจากนั้นก็รอจนเมล็ดงอก ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ค้นหาเจอวฺิธีการเพาะเยอะเลย คงต้องค่อยปรับใช้อีกที ครับ จากคุณ : นัครีสโตย เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:00:02

ความคิดเห็นที่ 22 555+ รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง ... คือเคยปลูกตอนเรียนสมัย ม. ปลาย ปลูกกัน 30 เม็ด งอกมา 4 ต้น TT เหอๆๆ...แต่พอเพาะขึ้นแล้วก็หนักใจกันต่ออีก...ว่าจะเลี้ยงยังไงให้มันรอด -*- ไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะถูกต้องรึเปล่านะคะ...^^ 1. นำเมล็ดที่ต้องการเพาะ...มาแช่น้ำ 1 คืน (แต่ถ้ามีเมล็ดเยอะแต่ไม่แน่ใจว่าทั้งหมดจะขึ้นรึเปล่าหรือยังไม่ต้องการปลูกทั้งหมด  ให้แบ่งเป็นชุดๆอย่าแช่น้ำจนหมดเพราะว่าอายุของมันจะสั้นลง <--- อยากทราบเหตุผลค่า เพราะครูเคยบอกมาอย่างนี้ -*-) 2. ทำความสะอาดกะบะเพาะ หรือ กระถางที่จะใช้เพาะ โดยกะบะเพาะจะต้องมีรูระบายน้ำเพิ่งไม่ให้น้ำขังมากเกินไป 3. นำกาบมะพร้าวสับขนาดกลาง/เล็กมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืนเหมือนกัน แล้วก็ทำการฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนเพื่อกันเมล็ดขึ้นราถ้ามันยังไม่งอก (จะใช้พีทมอสหรือสแฟคนัมมอสก็แทนก็ได้) 4. นำเครื่องปลูกใส่ลงในกะบะ / กระถางแล้วลองด้วยถุง  ทิ้งไว้เพื่อให้เครื่องปลูกเย็นลงซักพัก หลังจากที่ฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อน 5. นำเมล็ดมาโรยบางๆ  ไม่ต้องห่างกันมากแล้วปิดปากถุงนำไม้มาค้ำกันถุงมันเหี่ยวลงมา แล้วนำไปวางไว้ตรงที่มีแดดส่อง ***แดดที่ส่องต้องไม่โดนตรงๆนะคะ เพราะเมล็ดอาจตายก่อนงอก - -'' *** บางคนใช้ 'จิ๊บ' เร่ง <-- ใส่ถุงมือก่อนใช้ด้วยนะคะ เพราะมันแสบถ้าโดนผิว 6. รักษาความชื้นในกะบะเพาะให้สม่ำเสมอ อย่าให้แห้งเกินไป ^^ 7. ดูแลอยู่สม่ำเสมอ ผ่านไป 10 - 30 วัน เมล็ดก็จะงอก ... ฮี่ๆๆ ต้องติดตาม !!! 8. ถ้าต้นอ่อนที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากและแน่น ให้แยกเป็นกอๆลงกระถางนะคะ... *** มิฉะนั้นมันอาจตายได้ *** หากวิธีการเพาะนี้ ผิดพลาดตรงไหนก็ขอคำชี้แนะเพิ่มด้วยนะคะ =] *** น้อมรับทุกๆความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : ซารุ โซบะ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:00:09

ความคิดเห็นที่ 23 ....อันนี้รีบไปลอกเค้ามาครับง่ายดี แต่ยังไม่เคยลอง เป็นคลิปซะด้วย http://www.youtube.com/watch?v=srdvipIrzTE 1 เก็บเม็ด ที่สวนนี้ เค้าเก็บฝักเอามาใส่ในถุงพลาสติ­กแขวนไว้ในที่ร่มก่อน รอจนฝักแตก เม็ดจะเป็นเส้นยาว ๆ ประมาณ 1 ซม. 2 การเพาะ ใช้ขุยมะเพร้าว เอามาแช่น้ำให้หมดฝาด แล้วเอาใส่ใส่ตะกร้าหนาประมาณ 2-3 ซม. 3 โรยเม็ด จากข้อ 1 ให้ทั่ว ไม่ต้องแน่นมาก เอาพอดี ๆ ถ้าโรยมากจะขึ้นแน่นแยกปลูกยาก 4 พรมน้ำให้ชุ่ม เอาใส่ถุง พลาสติกใสปิดไว้เพื่อรักษาความช­ื้น 5 เอาไปเก็บไว้ในที่ร่มมีแสงสว่าง แต่ไม่โดนแดดโดยตรง สวนนี้เขาเอาไว้ใต้โต๊ะ วางลูกไม้ 6 รอ ๆ ๆ จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:00:52

ความคิดเห็นที่ 24 ใช้พีทมอส เป็นวัสดุเพาะ ใส่ในกล่องใสมีฝาปิด พรมน้ำลงไปให้ชุ่ม ทำการฆ่าเชื้อพีทมอสโดยการนำเข้าไมโครเวฟ แล้วทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนที่จะโรยเมล็ด   นำกล่องไปตั้งไว้ในที่มีแสง ไม่ต้องตากแดด คอยดูแลเรื่องความชื้น รอการงอก  หลังจากที่งอกแล้ว รอการเจริญเติบโต แล้วค่อยๆปรับสภาพ โดยการค่อยๆ เจาะรูที่ฝากล่อง  คอยดูเรื่องความชื้น ก่อนที่จะนำมาแยก ประมาณนี้ครับ จากคุณ : ปาสือ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:05:11

ความคิดเห็นที่ 25 วัสดุ อุปกรณ์ ที่ต้องเตรียมครับ 1. กาบมะพร้าวสับ เบอร์ละเอียดสุด 2. ขุยมะพร้าว ร่อน เอาแต่ผงที่ละเอียด 3. ตระกร้าพลาสติก ขนาดตามเหมาะสม 4. ปุ๋ยออสโมโคส 14-14-14 5. ถุงพลาสติกใส เมื่อเตรียมพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยครับ 1.นำกาบมะพร้าวสับมาใส่รองก้นตระกร้าให้หนาไม่ต่ำกว่า2ซม. เกลี่ยแล้วกดให้แน่นพอประมาณ 2.หว่านปุ๋ยออสโมโคสรองก้นพอประมาณ (ใสทำไมก่อนหว่ายังไม่งอกเลย) 3.แล้วใส่ขุยมะพร้าวทับลงไปอีกไม่ต่ำกว่า3ซม.เกลี่ยให้เรียบใช้มือกดเบาๆแล้วรดน้ำให้ชุม 4.หลังจากนั้นก็เริ่มหว่านเมล็ดลงไป (ไม่มีรูปให้ดูนะ) 5.ใช้ถุงพลาสติกใส สวมคลุมตะกร้าเพื่อเก็บความชื้น นำไปวางในที่รำไร(มีแสงซัก60%) หลังจากนั้นก็รอจนเมล็ดงอก ตามไปที่เวปนี้เลยค่ะ http://www.siamproplants.com/forums/811.html จากคุณ : นู๋ดรีม เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:11:30

ความคิดเห็นที่ 26 เพาะเองกับมือ จนเป็นต้น แต่ภายหลังก็ไม่รอด นัยว่าความชื้นโดยรอบไม่เพียงพอค่ะ จากคุณ : Susisiri เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:14:47

ความคิดเห็นที่ 27 อ้าว อ่านนึกว่าหมดเขต 18.00 น. อิอิ เอาใหม่นะค่ะ นัทเคยดูวิธีเพาะจากเนตค่ะ เคยเอามาเพาะ ขึ้นไม่กี่ต้นนานแล้ว (น้อยมาก) แต่ช่วงนั้นไม่มีเวลาเลยทำให้ต้นเล็กๆ จากไปหมดเลยอ่ะค่ะ แต่ช่วงนี้ว่างแล้วเลยอยากหันกลับมาลองเพาะเมล็ดใหม่อ่ะค่ะ (จะตั้งใจใหม่) ของนัทใช้เพาะในตระกร้าน่ะค่ะ ใส่ขุย+กาบมะพร้าวข้างล่าง มีดินข้างบน แล้วเอาเมล็ดโรยลงไปค่ะ โรยห่างๆ ทีละน้อยๆ ต่อตระกร้า เพราะถ้าเกิดงอกแล้ว เค้าจะได้ไม่เบียดกันอ่ะค่ะ แล้วรดน้ำลงไป แล้วเอาถุงอ่ะค่ะ มาคลุมไว้ มัดไว้ เอาไปตั้งที่พอมีแสงอ่ะค่ะ รอนานสักหน่อยแล้วแต่เค้าจะงอก (ดูวิธีเพาะในคลิปเห็นเค้าบอกแล้วแต่ความสดของเมล็ดด้วยอ่ะค่ะ) ส่วนเรื่องการดูแล ตอนนั้นไม่ว่างดูแลเลย เลยจากไป ช่วงนี้ว่างๆ อยากหันมาเพาะ เลยยังไม่มีประสบการณ์ด้านนี้น่ะค่ะ แต่ก็คงจะคอยแวะเวียนดู รดน้ำ ให้แสงแดด (แต่ไม่โดยตรง อิอิ) ยังไงรับพิจารณาด้วยนะค่ะ เห็นอยากลองเพาะกันเยอะ ในความคิดนัทนะค่ะ ว่าถ้าเพาะอยากให้งอก ต้องดูที่เมล็ด ความสะอาดของดินวัสดุ แสงที่ได้รับพอไหมด้วยอ่ะจ้า จะลองพยายามดูอีกครั้ง จากคุณ : donut@animal.tree เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:16:13

ความคิดเห็นที่ 28 วิธี การเพาะ   ใช้พีทมอส 7 ส่วน ผสมเพอร์ไลท์ 3 ส่วน   เติมน้ำจนชุ่ม คลุกเข้ากัน ใส่ไมโครเวฟ ไฟอ่อน 5 นาที ทิ้งเย็นโดยไม่เปิดฝา  จากนั้น เติมน้ำต้มสุกให้ชื้นชนิดที่ว่า ตักด้วยช้อน ตะแคง น้ำจะไหลออกมานิดๆ  ใช้ขุยมะพร้าวแช่น้ำ 1 คืน แทนพีทมอส/เพอร์ไลท์ ก็ได้ผลดีเช่นกัน นำเครื่องปลูกใส่กระถางกว้างและแบน มีรูระบายน้ำ ใส่ถุงพลาสติก  น้ำในเครื่องปลูกจะไหลลงในถุงพลาสติกเล็กน้อย  ไม่ต้องเททิ้ง ถือว่าเครื่องปลูกชื้นกำลังดี  ถ้าไม่มีน้ำเลย  ให้เติมน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วอีก  จนมีน้ำในถุงพลาสติกเล็กน้อย           เมื่อ แน่ใจว่าเครื่องปลูกเย็นดีแล้ว  โรยเมล็ดบางๆ ห่างกันมากๆ อย่าให้เกยกัน แล้วปิดปากถุงแน่น รัดยางให้ถุงโป่งเหมือนถุงใส่ปลา ปิดฉลาก ชื่อพันธุ์ จำนวนเมล็ดที่เพาะ  และวันที่เพาะ ถ้าได้แสงสว่าง เมล็ดจะงอกใน  15-25 วัน ไม่ต้องทำไร แต่ถ้าแสงน้อย งอกช้า อาจสองเดือน ซึ่งเสี่ยงกับเชื้อรา แสงแดดที่พอเหมาะควรเป็นอย่างไร ? แสงที่เหมาะกับการเพาะเมล็ด  คือแสงจ้าแต่ไม่ใช่แสงตรง  เช่นริมระเบียง มองออกไปต้องหยีตา  แต่จุดที่เรายืนไม่โดนแดดตรง อย่าให้ถุงโดนแสงแดดเต็มๆ อากาศในถุงจะร้อนจัดถึงขนาดตายนึ่งได้ เอาแถบริมชายคาหรือระเบียงดีที่สุด ตรวจสอบเสมออย่าให้น้ำระเหยแห้ง มีน้ำติดก้นถุงนิดๆ หากหาซื้อพีท+เพอร์ไลท์ ไม่ได้  สามารถทดแทนด้วยขุยมะพร้าวได้ ข้อเสียมีนิดนึงคือเป็นเชื้อราง่าย ต้องอบฆ่าเชื้อให้ดี อีกอย่างขุยมะพร้าวมีกรดแทนนิกค่อนข้างสูง สามารถยับยั้งการงอกของรากใหม่ แก้โดยแช่น้ำไว้ให้สีแดงๆ ละลายออกมา แช่ทิ้ง 3 วันจึงนึ่งก่อนใช้ ส่วน perlite ใช้ทรายแม่น้ำแทนได้ เลือกทรายหยาบ  ข้อเสียมันหนักไปหน่อย  ระวังอย่าใช้ทรายทะเลเลี้ยงปลาเพราะเกลือที่ตกค้างทำให้ดินเค็ม ต้นอ่อนตาย   เคยใช้ขุยมะพร้าว 100 % ก็โอเคครับ ไม่ต้องหาเครื่องปลูกที่ยุ่งยาก         เมล็ดจะเริ่มงอกใน2 – 3 สัปดาห์  ทิ้งไว้อีกสองเดือน  ค่อยๆ เจาะถุงพลาสติกเป็นรูทีละน้อย หรือจะทิ้งไว้จนโตก็ได้ บางครั้งเมล็ดหม้อข้าวหม้อแกงลิงอาจงอกยาก บางสายพันธุ์ใช้เวลาเป็นปี  ตำราต่างประเทศอ้างว่า GBAสามารถกระตุ้นการงอกได้ จะทำให้เมล็ดงอกเร็วขึ้นเท่าตัว  แต่ทดลองแล้วไม่ได้ผล การที่เมล็ดงอก  บอกใหรู้ว่าความชื้น  แสง อุณหภูมิ เหมาะกับพวกเขาแล้ว  เขายังต้องการสภาวะแบบนี้ไปอีก 2- 3 เดือน การอยู่รวมกลุ่มแบบ colony ในระยะแรกจะทำให้ต้นอ่อนโตเร็วมากเมื่อเที่ยบกับการแยกเดี่ยว colony ทำให้เกิดภาวะ microenvironment หมายถึง บรรยากาศแวดล้อมเฉพาะจุดเหมาะและแต่ละต้นช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  คายน้ำและก๊าซออกมาแลกเปลี่ยนกัน จนเมื่อเกิด Lichen คลุมผิว  หรือใบทับซ้อนกัน  ค่อยแยกครับ  ถ้าแยก นิยมใช้สูตรปลูกไม้เล็ก peat 4 perlite 3 ขุยมะพร้าวละเอียด(คัดไฟเบอร์ยาวๆ ทิ้ง แช่น้ำอย่างน้อย 1 คืน) 1 ส่วน  ถ่านแกลบ 0.5 ส่วน เปลือกถั่วละเอียด 0.5 ส่วน    การแยกเดี่ยวที่ดี ต้นต้องไม่เล็กกว่าเหรียญบาท   อย่าให้น้ำในเครื่องปลูกมากจนเกินไป เดี๋ยวจะเกิดโรคเน่าโคนต้น จาก http://www.neofarmthailand.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=8451&Ntype=3 ค่ะ จากคุณ : ลูกจิ๊น เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:44:10

ความคิดเห็นที่ 29 ไปหาข้อมูลใหม่ อิอิ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 19:15:23 จากคุณ : Best Bet เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 18:56:25

ความคิดเห็นที่ 30 ...มาชื่นชม หม้อ สีสดสวยมาก ค่ะ ....เจ้าของกระทู้ใจดี จัง ที่นี่อเมริกาขายต้นล่ะ 6 เหรียญเชียว.... จากคุณ : ข้ามฟ้ามาหารัก เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:04:55

ความคิดเห็นที่ 31 อยากได้เมล็ดหม้อมาลองเพาะบ้าง ...เคยแต่ชำกิ่ง กับ เพาะเฟิร์น และเลี้ยงพวกกล้วยไม้ตั้งแต่ติดฝัก ออกขวด จนได้ดูดอกมาแล้ว... ดูแล้ววิธีการเพาะไม่น่ายาก วิธีการคล้ายๆการเพาะเฟิร์น คิดว่าเพาะได้งอกชัวร์ แต่จะรอดเท่าไหร่อีกเรื่องน่ะ อิอิ วิธีการเพาะ...(แบบเพาะในกล่องพลาาสติกใส) 1..ใส่พีทมอสในกล่องพลาสติกใสประมาณหนึ่งในสามของกล่อง โรยเมล็ดหม้อให้กระจายให้ทั่ว อย่าให้หนาแน่นเกินไป 2. สเปย์น้ำให้ชุ่ม ปิดฝากล่อง นำไปวางในที่ได้รับแสงประมาณ 40 เปอร์เซนต์ 3.หนึ่งเดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหก เมล็ดจะเริ่มงอก ใบเล็กๆสีเขียวๆ เมื่อต้นกล้าโตจนเบียดกันให้ค่อยๆแง้มเปิดฝา วันละนิดให้ต้นกล้าปรับตัว ก่อนจะย้ายปลูก ระัวังอย่าให้น้ำฝนลงไปท่วมในกล่อง เด๋วต้นกล้าจะตายเสียก่อน อิอิ 4. แยกต้นกล้า ปลูกลงในตะกร้า โดยใช้ สแฟกนัมมอสเป็นเครืองปลูก อาจแยกเป็นกอเล็กๆ เพื่อให้รากกระทบกระเทือนน้อยที่สุด เว้นระยะห่างเพื่อนให้ลูกไม้ เจริญเติบโต รดน้ำให้ชุ่มชื้นแต่อย่าแฉะ 5 น้ำต้นกล้า ไว้ในตู้อบ ที่มีอากาศระบาย แต่ช่วยรักษาเรื่องความชุ่มชื้น  ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน พอต้นกล้าแข็งแรง สมบูรณ์ ย้ายตะกร้างออกนอกตู้อบ ให้ปรับสภาพ สักสองสามวัน แล้วย้ายปลูกลงในกระถางเล็กๆใส่ปุ๋ยออสโมสิทเล็กน้อยรอบๆต้น แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 09:24:55 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:18:15

ความคิดเห็นที่ 32 วัสดุและอุปกรณ์ ที่ใช้ 1. ขุยมะพร้าวสับ 3. ตระกร้าพลาสติกหรือถาดรองกระถางเบอร์ใหญ่ 4. ปุ๋ยออสโมโคส 14-14-14 5. ถุงซิบพลาสติกใส วิธีเพาะ 1.นำขุยมะพร้าวสับที่แช่น้ำค้างคืนมา 1 คืน บีบให้หมาดมาใส่รองก้นตะกร้าให้หนาประมาณ 1-2 ซม. เกลี่ยให้เรียบ เอาไม้จิ้มเป็นร่องเอาไว้ 2.หว่านเมล็ดลงร่องที่จิ้มเอาไว้ 3.แล้วใส่ขุยมะพร้าวทับลงไปประมาณ 1-2 ซม.เกลี่ยให้เรียบใช้มือกดเบาๆแล้วรดน้ำให้ชุ่ม 4.ใช้ถุงซิบพลาสติกใส สวมคลุมตะกร้าหรือถาดรองก้นกระถางเพื่อเก็บความชื้น นำไปวางในที่รำไร(มีแสงซัก 60%) 5. เมื่อเมล็ดงอกผ่านไป 15-30 วัน เริ่มเปิดถุงซิบและโรยปุ๋ยออสโมโค๊ท 4-10 เม็ด ขึ้นกับจำนวนที่งอก ค่อยหมั่นฉีดน้ำเมื่อขุยมะพร้าวแห้ง แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 19:21:16 จากคุณ : Nunjack เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:20:08

ความคิดเห็นที่ 33 ขุยมะพร้าวแช่น้ำไว้ให้น้ำสีแดงๆไหลออกมา(3วัน) นำไปนึ่งก่อนใช้ นำมาใส่กระถางกว้างและแบนมีรูระบายน้ำ ใส่ถุงพลาสติก จะมีน้ำใหเครื่องปลูกไหลออกมาไม่ต้องเททิ้ง แต่ถ้าไม่มีให้เติมน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วลงไปในถุงเล็กน้อยเมื่อเครื่องปลูกเย็นดีแล้ว โรยเมล็ดบางๆห่างๆกันอย่าให้เกยกันปิดปากถุงให้แน่นและโป่งเขียนฉลากระบุชนิดเมล็ด จำนวนวัน ที่เพาะแปะไว้ วางถุงในที่มีแสง60%ห้ามโดนแสงแดดโดยตรงทิ้งไว้ให้เมล็ดงอก ประมาณ20-25วันจะงอกทิ้งไว้2เดือนเจาะถุงพลาสติกเป็นรูที่ละน้อย หรือทิ้งไว้จนโตก็ได้คะ จากคุณ : กราเซียร์ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:22:22

ความคิดเห็นที่ 34 อืม จากที่เคยไปฝึกงานมาจากสวน ไม้กินแมลงกระถางแดง ชื่อสวนเป็นตัวอังกฤษสองตัวพิมพ์บนกระถาง ที่มีผู้ค้านำเข้ามาขายในประเทศไทยกันเป็นล่ำเป็นสัน เค้าให้ผมเพาะเมล็ดดังนี้ครับ -ตัดสแฟกนั่มมอสเป็นชิ้นเล็ก ประมาณว่าเอากรรไกรซอยยิบๆสองรอบ แล้วบรรจุลงในทัพเพอร์แวร์ แบบฝาใส -ฉีดน้ำเป็นละอองฝอยๆให้สแฟกนั่มมอสอมน้ำ สังเกตจากสีจะเข็มขึ้น เพื่อเวลาโรยเมล็ด เมล็ดจะติดบนผิวหน้าของเครื่องปลูกเลยไม่ร่วงลงร่องไปเน่าใต้เครื่องปลูกให้เป็นที่น่าอนาถใจ -เอาเมล็ดอันกระติ๋ว ผสมทรายละเอียดกะเอาเท่าตัว คลุกแล้วโรยบางๆบนเครื่องปลูกที่พรมน้ำแล้ว กะให้กระจายทั่ว เวลางอกจะได้มีที่หายใจ และได้รับแสงอย่างทั่วถึง -จากนั้นฉีดน้ำเป็นละอองบางๆ เน้นว่าบางๆ บางเป็นหมอกเลยยิ่งดี แล้วปิดฝา -ตั้งในที่มีแสงแดดรำไร ประมาณว่าสว่าง แต่ไม่ใช่กลางแจ้ง ที่บริษัท เค้าตั้งใต้หลอดโกรไลท์ เปิดไฟ 24 ชั่วโมง -ทุกๆเช้าเปิดฝาวันละห้านาทีให้อากาศถ่ายเท ถ้าระหว่างนี้หากสังเกตว่าเครื่องปลูกแห้งให้พรมน้ำบ้างเป็นครั้งคราว -เมื่อต้นกล้างอกโตพอที่จะย้ายได้ก็ย้ายลงกระถางใช้สแฟกนั่มเพียวๆ อนุบาลไปจนโต อันนี้เป็นสูตรที่บริษัทนี้ใช้อ่าครับ ไปฝึกมาเดือนนึงได้อะไรมาที่ไม่เหมือนเมืองไทยเยอะครับ หลายคนพยายามถามว่าที่บริษัทนี้ให้ปุ๋ยอะไรทำไมไม้งามจัง เค้าไม่ได้ใช้ปุ๋ยอะไรเลยครับ เทคนิคคือน้ำต้องบริสุทธิ์เค้าใช้น้ำฝนรดต้นไม้ครับผม อีกอย่างอากาศเค้าเย็นชื้นตลอดเวลา แต่แปลกว่าพอผมบอกก็ไม่มีใครเชื่อ คนไทยอยากใส่ปุ๋ยอย่างเดียว เฮ้อ 555 อ่อถ้าเทคนิคพอได้ขอเมล็ดมาหวนรำลึกวิธีเพาะด้วยนะครับผม อิอิ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 19:25:10 จากคุณ : ก้องครับ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:23:11

ความคิดเห็นที่ 35 ขั้นแรก เอาขุยมะพร้าวมาแช่น้ำไว้1-2วัน เพื่อให้อุ้มน้ำ และที่สำคัญแทนนินจะได้ละลายออกมา (ว่ากันว่าแทนนินจะทำให้เมล็ดงอกยากขึ้น) และถ้าเราไม่แช่ไว้ก่อน บางทีเวลาเพาะ ขุยมะพร้าว ก็อาจจะเน่าได้แต่ถ้าไม่มีเวลา จะแช่แป๊บเดียวแล้วใช้เลยก็พอไหว ขุยมะพร้าวที่แช่น้ำก็บีบๆเอาน้ำออก แล้วเปลี่ยนน้ำใหม่(ถ้าขยัยจะทำหลายรอบก็ดี) บีบออกพอหมาดๆ จะโรยง่ายกว่าเปียกๆ โรยแล้วเกลี่ยให้เรียบๆ เอาเมล็ดโรยลงไป โรยห่างๆ เวลางอกจะได้ไม่เบียดกัน  เสร็จแล้วก็สเปรย์น้ำจนชุ่ม จากนั้นก็เอาถุงพลาสติกมาสวม มัดปาก(หรือครอบไว้ไม่ต้องมัดก็ยังได้) เพื่อรักษาความชื้นไว้ จะได้ไม่ต้องรดน้ำ ตั้งไว้ในที่มีแสงแดด ไม่ต้องตากแดดเอาแค่มีแสงก็พอ จากคุณ : ซูชิ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:42:30

ความคิดเห็นที่ 36 จากคุณ : kug (AttaponKUK) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:43:23

ความคิดเห็นที่ 37 ขออนุญาตขี้โกงครับ โดย copy เอาจากคุณก้องครับนี่แหละ -ตัดสแฟกนั่มมอสเป็นชิ้นเล็ก ประมาณว่าเอากรรไกรซอยยิบๆสองรอบ แล้วบรรจุลงในทัพเพอร์แวร์ แบบฝาใส -ฉีดน้ำเป็นละอองฝอยๆให้สแฟกนั่มมอสอมน้ำ สังเกตจากสีจะเข็มขึ้น เพื่อเวลาโรยเมล็ด เมล็ดจะติดบนผิวหน้าของเครื่องปลูกเลยไม่ร่วงลงร่องไปเน่าใต้เครื่องปลูกให้เป็นที่น่าอนาถใจ -เอาเมล็ดอันกระติ๋ว ผสมทรายละเอียดกะเอาเท่าตัว คลุกแล้วโรยบางๆบนเครื่องปลูกที่พรมน้ำแล้ว กะให้กระจายทั่ว เวลางอกจะได้มีที่หายใจ และได้รับแสงอย่างทั่วถึง -จากนั้นฉีดน้ำเป็นละอองบางๆ เน้นว่าบางๆ บางเป็นหมอกเลยยิ่งดี แล้วปิดฝา -ตั้งในที่มีแสงแดดรำไร ประมาณว่าสว่าง แต่ไม่ใช่กลางแจ้ง ที่บริษัท เค้าตั้งใต้หลอดโกรไลท์ เปิดไฟ 24 ชั่วโมง -ทุกๆเช้าเปิดฝาวันละห้านาทีให้อากาศถ่ายเท ถ้าระหว่างนี้หากสังเกตว่าเครื่องปลูกแห้งให้พรมน้ำบ้างเป็นครั้งคราว -เมื่อต้นกล้างอกโตพอที่จะย้ายได้ก็ย้ายลงกระถางใช้สแฟกนั่มเพียวๆ อนุบาลไปจนโต ที่เลือก copy อันนี้เพราะคิดว่าเข้าท่าดีครับ จากคุณ : มะโรง เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:05:58

ความคิดเห็นที่ 38 ยังทันมั้ยน้า...มาเห็นเอาเมื่อช้าไปซักกะนิดแล้วซะด้วย.. ........ 1.นำพีตมอสใส่กล่องประมาณหนึ่งในสามของกล่องแล้วโรยเมล็ดลงไป กระจายให้ทั่ว ไม่หนาแน่นมาก 2. สเปรน้ำจนทั่ว ปิดฝากล่อง วางในที่มีแสงประมาณ 40 % 3. ภายในหนึ่งเดือนเมล็ดจะงอก ให้ค่อยๆเปิดฝากล่องวันละนิด เพื่อให้เค้าปรับตัว 4. ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน ระวังอย่าให้น้ำเข้าไปท่วมกล่อง 5. เมื่อต้นโตพอประมาณ ค่อยย้ายลงกระถางต่อไป .... แก้ไขพิมพ์ผิดมากมายค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 20:24:00 จากคุณ : mom's garden (beau_7152htm) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:18:03

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ Mr.Kim Henry ครับ   ผมไม่ค่อยรู้เรื่องสายพันธ์เท่าไหร่นัก  ที่คุณผสมขึ้นมานี้ เคยมีการผสมและลองเพาะเมล็ดดูบ้างรึยังครับ ?  (อยากรู้ว่าจะได้เป็นคนที่เพาะสายพันธ์ผสมใหม่ คนแรก ๆ รึป่าว) วิธีเพาะ อย่างแรกเลยต้องรู้ว่า เมล็ดของหม้อ มีอายุสั้นประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น หากไม่รีบเพาะก้อจะไม่สามารถนำมาเพาะได้อีก    การเพาะใช้ได้ทั้งเครื่องเพาะ พีท 7 เพอร์ไลท์ 3 เติมน้ำจนชุ่ม นำไปอบ 5 นาที อิ้งไว้ให้เย็นโดยอย่าเปิดฝา หากน้ำน้อยไม่ชื้นพอ เติมน้ำต้มสุกลงไป เอาใส่กระถางกว้างแบน โรยเมล็ดห่าง ๆ หุ้มด้วยถุงพลาสติก  รัดยางให้แน่น ให้ถุงโป่ง ๆ ติดชื่อพันธ์ จำนวนเมล็ดและวันที่    ถ้าหากหาพีทกับเพอร์ไลท์ไม่ได้ ใช้ขุยมะพร้าวแทนได้  แช่น้ำ 3 คืน และอบให้แห่ง (ปลูกด้วยขุยมะพร้าวก้อดีครับ แต่ เป็นเชื้อราง่าย การนำไปอบให้ดี จึงสำคัญ) หลังจากโรยเมล็ดแล้ว รอดูในถุงอย่าให้น้ำที่เกาะถุงแห้งไป และให้อยู่ในที่แสงจ้าพอเหมาะแต่ไม่ตากแดดนะครับ  เมล็ดจะงอกประมาณ 2-3 สัปดาห์  หากนานกว่านี้อาจเพราะแสงไม่พอ ก้ออาจจะเป็นเชื้อราได้ ต้องระวัง    พองอกแล้ว ค่อย ๆ เจาะรูที่ถุงทิ้งไว้อีก 2-3 เดือน (อยู่รวมกัน จะดีต่อการเจริญเติบโต เพราะจะคายน้ำและก๊าซมาแบ่งปันกัน ลักษณะ ช่วยเหลือกัน)  อ่อระวังไลเคนด้วยครับ   พอดูใบเริ่มซ้อนทับกันแล้วจึงแยกออก   ก้อปรับสูตรเครื่องปลูกใหม่ให้เหมาะกับการเพาะต้นอ่อนครับ พีท 4 พาไลท์ 3 ขุยมะพร้าว 1 ถ่านแกลบ 1/2  เปลือกถั่ว 1/2  แยกเดี่ยวต้องให้ต้นใหญ่กว่าเหรียญบาท และอย่าให้น้ำในเครื่องปลูกเยอะเกินไปอาจเป็นโรคเน่าโคนได้   สังเกตหากแข็งแรงดี แม้ขนาดเล็กมาก ก้อจะเป็น หม้อชัดเจน  พอใบจริงขึ้นสองใบต้นแข็งแรงดี  ก้อค่อย ๆ เจาะรู ค่อย ๆ ปรับให้ชินกับอากาศข้างนอก ค่อย ๆ ถอดถุงออก วันละหน่อย ตั้งในที่ร่ม ดูความชื้น ให้มั่นใจ  (2 เดือนขึ้นไป)  และมันก้อจะโตขึ้น และได้หม้อข้าวหม้อแกงลิง สมใจครับ ผมหาข้อมูลอ่าน และทำความเข้าใจครับ (คล้ายข้อสอบอัตนัย) ไม่รู้ทันรึป่าวว  แต่ขอด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Take me drunk! เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 21:44:51

ความคิดเห็นที่ 40 ดูเหมือนว่ามีหลายท่านตอบตามตำรากันเยอะแล้ว  อันนี้ขอตอบจากที่เพาะจริงอยู่ตอนนี้ค่ะ -โรยเมล็ดในขุยมะพร้าวที่แช่น้ำไว้ก่อนแล้ว  บางครั้งก็อาจผสมพีทมอสลงไปบ้าง -สเปรยน้ำที่ผสมน้ำยาเร่งราก หรือบี1 ลงบนเมล็ดที่เพาะ แล้วนำภาชนะที่เพาะใส่ถุงพลาสติกใส มัดปากถุง วางไว้ในที่มีแสงรำไร -พอต้นโตขนาดสักเหรียญบาทก็จะค่อยๆ เปิดปากถุง โดยบางครั้งก็ใช้วิธีเจาะรูถุง ทีละรู   ค่อยๆให้ต้นอ่อนชินกับอากาศภายนอกที่ละน้อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 22:01:27 จากคุณ : snv เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 21:58:58

ความคิดเห็นที่ 41 ขออณุญาติพี่ xir007 จากเว็บhttp://nepenthessiam.wordpress.com/  มาให้ความรู้นะครับ การเพาะเมล็ดหม้อนับเป็นวิธีการขยายพันธุ์ อีกวิธีหนึ่งที่ง่ายแสนง่าย แต่หลายๆ คนกลับกังวล ก็เลยจัดทำไว้ให้ดูเล่นครับ เผื่อใครมีโอกาสได้เมล็ดมาเพาะ ก็ลองปฏิบัติตามขั้นตอนพวกนี้ดูกันเลยเมล็ด หม้อข้าวหม้อแกงลิงมีขนาดเล็กประมาณเข็มหมุดที่เคยเห็นยาวมากๆ ก็ไม่น่าเกิน 3 เซนติเมตร เมล็ดที่สมบูรณ์ตรงกลางจะป่อง ฝักตัวเมียที่ไม่ได้รับการผสมก็จะมีเมล็ดเช่นกัน แต่นำมาเพาะไม่ขึ้นจ้ะ เมื่อได้เมล็ดหม้อมาแล้ว อย่ามัวแต่อ้อยสร้อยอยู่ ให้รีบปลูก เพราะยิ่งนานวัน เปอร์เซ็นต์การงอกจะยิ่งน้อยลง ใน ที่นี้ผมเตรียมเครื่องปลูกไว้ให้ดู 3 ชนิดคือ(เรียงจากซ้ายไปขวา) peat moss, กาบมะพร้าวสับผสมกับขุยมะพร้าว, sphagnum moss ดูสัก 3 แบบน่าจะเพียงพอ ส่วนใครอยากจะใช้เครื่องปลูกที่นอกเหนือและพิสดารไปจากนี้ก็เชิญตามสบาย ทุกเครื่องปลูกให้นำไปแช่น้ำให้อุ้มน้ำก่อน อย่านำแห้งๆ มาปลูก สำหรับกาบมะพร้าวสับ และขุยมะพร้าว ยังแนะนำเหมือนเดิมคือขอให้หาที่แก่และแห้งมาใช้งาน ถ้าเห็นว่ายังสดอยู่ ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะความพินาศจะมาเยือนท่าน ฮ่ะๆๆ ส่วนกระถางที่ปลูกก็พิจารณาว่าจัดหามาใช้ได้สะดวก อาจเป็นถ้วยชามเก่าๆ แก้วพลาสติกใส่กาแฟสด โอ่ง กาละมัง หรืออ่างยากุชชี่ ก็ได้ หากท่านต้องการแบบนั้น ใครจะห้ามได้ โปรย หรือวางเมล็ดให้ทั่วกระถาง จากนั้นปัก tag บอกชื่อพันธุ์ ลงวันที่ หรือรายละเอียดอื่นๆ ตามต้องการเช่นได้จากใคร หรือขโมยใครเค้ามาวันไหน กี่โมง จากนั้นก็รดน้ำซะ 1 ที นำ ใส่ลงในถุงพลาสติกใส ในที่นี้ผมใส่น้ำผสมเกอมาร์ หรือนำปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำ หรือปุ๋ยปลา หรือ EM หรือสิ่งอื่นใดที่คุณคิดว่าเป็นปุ๋ย ซึ่งต้นไม้สามารถดูดเอาไปใช้ได้ ก็ใส่ลงไปด้วยเลย แต่ขอย้ำว่าให้ผสมแบบเจือจางที่สุด และขอร้องว่าอย่าโลภใส่ไปเยอะ เพราะนั่นอาจจะทำให้เมล็ดไม่งอกหรืองอกปุ๊บตายปั๊บก็เป็นได้ ทั้งนี้ เนื่องจากเครื่องปลูกที่ว่ามา ไม่ค่อยมีธาตุอาหารมากมายนักหรอก ช่วยเค้าหน่อยนะ จะได้โตเร็วๆ อีกอย่างก็เป็นการแก้ปัญหาใบเหลืองได้ดีนักแล จากนั้นก็มัดปากถุงและนำไปวางไว้ในที่ที่มีแสงมาก ขอย้ำนะว่าคำว่า “แสงมาก” กับ “แดดมาก” นั้น ต่างกันโดยสิ้นเชิง ส่วนใครอยากวางตรง window sill ในห้องนอน ห้องน้ำ หรือวางบนสวรรค์วิมาน ก็ตามใจ แต่ขอให้แสงมากเป็นพอ ห้ามโดนแดดจ้ะ บางท่านไม่อยากอบในถุงก็ทำได้นะ แต่หล่อน้ำไว้ อย่ารดน้ำลงไปตรงๆ ล่ะ เพราะเมล็ดมันเล็ก มันก็เคลื่อนตัวออกนอกกระถางหมดแหละ ดูในภาพสิ ขนาดผมใช้บัวรดน้ำรดเบาๆ ตำแหน่งเปลี่ยนเห็นๆ หลังจากกระบวนการนี้เรียบร้อย ก็รอผม update ครับ เดี๋ยวภาพไม่ต่อเนื่อง มันไม่เจ๋ง และ แล้ว…วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง ผมโปรยเมล็ดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2552 วันนี้ 11 เมษายน 2552 โอ๊ะโอว..งอกกันแล้วครับ งอกกับเครื่องปลูกทั้ง 3 แบบซะด้วย แสดงว่าเครื่องปลูกพวกนี้ใช้ได้สบายมาก ก็ใช้เวลาไปเกือบๆ เดือนนะครับ นี่ถ้าไม่งอกผมคงต้องเปลี่ยน นายแบบนางแบบใหม่เป็นแน่แท้ ดีเลยจะได้พิมพ์ๆ ซะให้จบในวันนี้ อิ…อิ อ้ะ…มา ดูกันใกล้ๆ เริ่มแรกที่งอกก็จะมีแค่ใบเลี้ยงขึ้นมาก่อน 2 ใบ จากรูปจะเห็นหวกตะใคร่น้ำเริ่มขึ้น เนื่องจากเครื่องปลูกทั้งสามชนิดนี้ ผมไม่ได้เอาไปเข้าเตาไมโครเวฟ เพื่อฆ่าเชื้อก่อนนำมาใช้ครับ ถ้าเอาไปเข้าเวฟสักนิด เจ้าพวกตะไคร่น้ำนี้ก็จะเกิดได้ช้าขึ้นครับ จาก นั้น ใบถัดไปก็สร้างหม้อกันเลยครับ แต่เป็นหม้อจิ๋วๆ ช่วงนี้ก็จะมีวัชพืชที่ไม่พึงประสงค์ ขึ้นแซมมาบ้าง ก็หมั่นถอนกันหน่อยครับ น้ำเกอมาร์ที่ใส่ไว้ก็ควรเปลี่ยนเดือนละครั้ง อย่าปล่อยให้น้ำดำและเน่าล่ะ สำหรับเรื่องรา หรือไลเคนขาวๆ และตะไคร่ที่ขึ้นในเครื่องปลูกนี้ มักจะเป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ สำหรับนักเพาะเมล็ดแบบควบคุมความชื้น ถ้ามีพวกนี้เยอะ คุณสามารถเปิดถุงออกได้ประมาณ 50% ครับ เจ้าพวกนี้จะยุบลง พอยุบเราก็ปิดถุงใหม่ ก็ทำสลับไปเรื่อยๆ อีกวิธีหนึงก็คือย้ายลงเครื่องปลูกใหม่ไปเลยครับ ก็จะได้กล่าวต่อไปตามลำดับ ปัญหาที่พบอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อเลี้ยงไม้เมล็ดไปได้ระยะหนึ่งคุณจะสังเกตุเห็นว่า เจ้าต้นเล็กๆ นี้จะมีอาการใบเหลือง ดังที่ผมได้กล่าวไว้ในตอนต้นๆ เราสามารถแก้ได้โดยผสมปุ๋ยกับน้ำแบบเจือจางรดลงไปได้ครับ อาการใบเหลืองจะหมดไป ถ้า คุณโรยเมล็ดหนาแน่นมาก ต้นอ่อนจะโตช้า ให้ทำการแยกออกมา ดูจากภาพด้านบนจะมีบางส่วนที่ขึ้นอยู่ติดๆ กัน ผมใช้วิธีควักดินลงมาแกว่งในน้ำ ดินจะละลายออกและหลุดลงไปด้านล่าง หม้อจะลอยอยู่ด้านบน ระบบรากจะเสียหายน้อยหน่อย (อย่างไรก็น้อยกว่าการดึงขึ้นมาแบบซื่อๆ ก็แล้วกัน) จากนั้นจึงย้ายลงเครื่องปลูกที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำไปวางในเครื่องปลูกที่จัดไว้ให้ใหม่ กว้างกว่า และสบายกว่า นำ เกอมาร์มาผสมน้ำ นำมารดลงไปอีกที แล้วจับใส่ถุงอบเช่นเดิม คุณอาจสงสัยว่าทำไมผมเชียร์เกอมาร์จังเลย ผมได้ตังค์หรือไม่ ก็ขอตอบว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผลิตภัณฑ์นี้แม้แต่น้อย ที่ผมใช้เพราะใช้สะดวกครับ คุณอาจจะใช้ปุ๋ยปลาผสมน้ำ หรือใช้ปุ๋ยเกล็ดแทนก็ยังได้ หรือนอกเหนือจากที่กล่าวมาก็ได้ ถ้าคิดว่าสามารถทำให้ไม้โตเร็วๆ ได้ยิ่งดีเลยครับ แต่ก็แล้วแต่ชอบและไอเดียกันนะครับ หยิบภาพมาให้ดูนิดนึง อันนีหลังจากย้ายและให้ยาบำรุงกันแล้วประมาณ 2 เดือน แหล่มๆ นะจ๊ะ อีก ต้นหนึ่งที่โดนเกอมาร์เข้าไปเต็มๆ เจ้านี่ผมย้ายลงกระถางเดี่ยวแล้วครับ และเจ้าหม้อน้อยๆ ก็พร้อมที่จะเจริญเติบโตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย กลายเป็นหม้อต้นใหญ่ต่อไปอีกครา สำหรับเรื่องเครื่องปลูกนี้ คุณสามารถประยุกต์เอาวัสดุอื่นๆ มาใช้ได้อีก เช่นอาจใช้สำลี เศษผ้าเก่าๆ หรือกระดาษคราฟท์ ที่ใช้ทำกล่องเบียร์ กล่องน้ำปลา หรือกระดาษทิชชู มาเป็นวัสดุปลูกก็ได้ ทั้งนี้ก็สังเกตุอัตราการอุ้มน้ำ การเสียรูปทรงของวัสดุว่าใช้ๆ ไปแล้วจะเละตุ้มเป๊ะหรือไม่ หรือปลูกไม้โตแล้ว ง่ายต่อการแยกไม้หรือไม่ ต้องใส่ปุ๋ยหรือธาตุอาหารช่วยด้วยหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คุณต้องหมั่นสังเกตุด้วยตัวคุณเอง ถ้าคุณหมั่นดูแล หมั่นแยก และให้แสงที่เหมาะสมกับเจ้าหม้อน้อยๆ นี้เป็นอย่างดี ที่เค้ากล่าวไว้ว่าปลูกหม้อต้องใช้เวลาถึง 2 ปี กว่าจะต้นจะใหญ่นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผมประมาณว่า แค่ 12-15 เดือนเท่านั้น คุณก็จะเห็นผลตอบแทนจากความเอาใจใส่ของคุณ ที่มีให้เจ้าหม้อน้อยๆ นี้แล้ว หากไม่เชื่อ…ลองดูสิครับ แล้วคุณจะเห็นคำตอบด้วยตัวของคุณเอง บทความนี้เป็นแค่เพียง Guide นำทางพื้นฐานให้คุณเท่านั้น จากคุณ : xXx009 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 22:42:36

ความคิดเห็นที่ 42 นี่ก็น่าสนใจลองดูนะครับ http://www.siamproplants.com/forums/811.html จากคุณ : xXx009 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 22:53:01

ความคิดเห็นที่ 43 เขียนจากประสบการณ์ที่เคยเพาะงอกมาแล้ว  1. นำขุ้ยมะพร้าวไปต้ม เพื่อก่อนเพื่อฆ่าเชื้อราต่างๆ  2. ทิ้งให้เย็น จากนั้นนำขุยมะพร้าวมาใส่กะบะ หรือถาดเล็ก  3. นำเมล็ดมาโปรย ให้กระจายให้ทั่วๆ  4. ใช้กระบอกฉีดน้ำ ฉีดให้ชื่นๆ  5. นำใส่ถึงพลาสติก มัดปากถุงไว้ เพื่อรักษาความชื่น 6. รอจนตันหม้อข้าวใหญ่สักเหรียญ 10 แล้วจึงแยกออกมาปลูกลงกระถาง    ใช้ดินผสมขุยมะพร้าว โดยให้ดินโปร่งระบายน้ำได้ดี วางในที่แดดจัดหน่อย    รอให้โต ถ้าจะให้หม้อสวยๆ ก็อย่าใส่ปุ๋ยให้มาก เติมน้ำลงในหม้อด้วย จากคุณ : Teammatch (Teammatch) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 22:58:01

ความคิดเห็นที่ 44 อยากได้เหมือนกัน แต่ทุกคนก็หาคำตอบได้กันหมดแล้ว ผมก็มีอยู่หลายต้น ซื้อมาต้นละ 20 สิบ 3 ต้น 50 บ. ปัจจุบัน มันแตกน่อเองเลยมีหลายต้น แต่เป็นต้น ธรรมดาๆ ย้ายกระเช้า 2 ครั้งแล้ว ผมเคยกระทู้เรื่อง ต้นไม้กินแมลง ครั้งหนึ่ง ใครเพราะได้เป็นการบ้าน นำมาชมกันบ้างนะ จากคุณ : khun12 (khun12) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 23:18:21

ความคิดเห็นที่ 45 โอ้ว ของยาก ไม่เคยเล่นหม้อเลย แต่อย่างที่ คุณก้องครับ  ใช้ สเปกนั่มมอสแล้วไม่ต้องใส่ปุ๋ยนั้นเป็นไปได้เพราะตัวสเปกนั่มมอสเอง คือปุ๋ยชั้นดีเลยคะ ขออนุญาต ก๊อปนะคะ -ตัดสแฟกนั่มมอสเป็นชิ้นเล็ก ประมาณว่าเอากรรไกรซอยยิบๆสองรอบ แล้วบรรจุลงในทัพเพอร์แวร์ แบบฝาใส -ฉีด น้ำเป็นละอองฝอยๆให้สแฟกนั่มมอสอมน้ำ สังเกตจากสีจะเข็มขึ้น เพื่อเวลาโรยเมล็ด เมล็ดจะติดบนผิวหน้าของเครื่องปลูกเลยไม่ร่วงลงร่องไปเน่าใต้เครื่องปลูกให้ เป็นที่น่าอนาถใจ -เอาเมล็ดอันกระติ๋ว ผสมทรายละเอียดกะเอาเท่าตัว คลุกแล้วโรยบางๆบนเครื่องปลูกที่พรมน้ำแล้ว กะให้กระจายทั่ว เวลางอกจะได้มีที่หายใจ และได้รับแสงอย่างทั่วถึง -จากนั้นฉีดน้ำเป็นละอองบางๆ เน้นว่าบางๆ บางเป็นหมอกเลยยิ่งดี แล้วปิดฝา -ตั้งในที่มีแสงแดดรำไร ประมาณว่าสว่าง แต่ไม่ใช่กลางแจ้ง ที่บริษัท เค้าตั้งใต้หลอดโกรไลท์ เปิดไฟ 24 ชั่วโมง -ทุกๆเช้าเปิดฝาวันละห้านาทีให้อากาศถ่ายเท ถ้าระหว่างนี้หากสังเกตว่าเครื่องปลูกแห้งให้พรมน้ำบ้างเป็นครั้งคราว -เมื่อต้นกล้างอกโตพอที่จะย้ายได้ก็ย้ายลงกระถางใช้สแฟกนั่มเพียวๆ อนุบาลไปจนโต จากคุณ : คุณนุ่มนิ่ม เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 02:39:17

ความคิดเห็นที่ 46 + ใช้ขุยมะพร้าวอย่างเดียว (แต่ถ้าได้เพาะอีก จะใช้สแฟ็กนั่มมอส พีทมอส ผสมกับพวกเวอมิคูไลท์ด้วย...---แอบไฮโซ 555+) คลุกกับยากันรา *(นำพวกขุยมะพร้าว สแฟ็คนั่มมอส และพีทมอส แช่น้ำให้วัสดุปลูกให้อุ้มน้ำก่อน แล้วค่อยน้ำมาคลุกผสมกัน)* + รองก้อนกระถางด้วยหินภูเขาไฟผสมสแฟ็คนั่มมอส + ใส่วัสดุปลูกไปประมาณ 3/4 ของกระถาง(4") + โรยเมล็ดหม้อบนหน้าวัสดุปลูก + รดน้ำให้ชุ่ม + นำถุงพลาสติกใส(ถุงใส่แกง)ที่มีขนาดใหญ่กว่ากระถางพอสมควร มาห่อกระถางไว้ + มัดปากถุง นำ tag ป้ายชื่อ ที่เขียนชื่อด้วยดินสอ พร้อมระบุวันที่มาคล้อง (ที่เคยเพาะใช้ปากกา permanent เขียนแป๊บเดียวก็เลือน...) + นำไปไว้ในที่มีแสงรำไร + รอจนงอกถ่ายรูปเป็นระยะๆ ... (นานมากกกกกกกกกกกกกกกก) ราวๆสัก 4 หรือ 6เดือนเนี่ยแหละครับกว่าจะงอก เห็นเป็นเล็กๆจิ๋วๆ ... + พอเริ่มเห็นว่าขนาดหม้อใหญ่ขึ้นพอสมควรแล้ว ก็ค่อยๆแกะปากถุง (เป็นช่องเล็กๆก่อนให้ต้นกล้าได้ปรับตัว) + เมื่อปรับสภาพอากาศได้ดีแล้ว เอาถุงออก และทำการแยกลงกระถางต่อไปโดยใช้เครื่องปลูกเป็นสแฟ็กนั่มมอส ผสมหินภูเขาไฟเบอร์เล็ก และ เวอมิคูไล อิอิ ... หวังว่ามันจะโตนะครับ... +++ (การบ้านของ คุณปีกน้ำค้าง เมื่อนานมาแล้ว)... น่าจะปีกว่าเกือบ2ปีแล้วอายุอานาม ... N. (Viking x raff.) ขอบอกว่าต้องอดทนครับ... กว่าจะงอกใช้เวลานานมาก ที่งอกมา7-8ต้นเหลือจริงๆอย่างที่เห็นประมาณ 4-5ต้นครับ... จากคุณ : ScreamChorus เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 09:12:37

ความคิดเห็นที่ 47 คห.ที่ 42 ซำ้กับ คห.ที่ 25 ของคุณนู๋ดรีม ขอโทษครับ จากคุณ : xXx009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 09:15:12

ความคิดเห็นที่ 48 -ตัดสแฟกนั่มมอสเป็นชิ้นเล็ก ประมาณว่าเอากรรไกรซอยยิบๆสองรอบ แล้วบรรจุลงในทัพเพอร์แวร์ แบบฝาใส -ฉีด น้ำเป็นละอองฝอยๆให้สแฟกนั่มมอสอมน้ำ สังเกตจากสีจะเข็มขึ้น เพื่อเวลาโรยเมล็ด เมล็ดจะติดบนผิวหน้าของเครื่องปลูกเลยไม่ร่วงลงร่องไปเน่าใต้เครื่องปลูก -เอาเมล็ด ผสมทรายละเอียดกะเอาเท่าตัว คลุกแล้วโรยบางๆบนเครื่องปลูกที่พรมน้ำแล้ว กะให้กระจายทั่ว เวลางอกจะได้มีที่หายใจ และได้รับแสงอย่างทั่วถึง -จากนั้นฉีดน้ำเป็น ละอองบางๆ เน้นว่าบางๆ บางเป็นหมอกเลยยิ่งดี แล้วปิดฝา -ตั้งในที่มีแสง แดดรำไร ประมาณว่าสว่าง แต่ไม่ใช่กลางแจ้ง -ทุกๆเช้าเปิดฝาวันละห้านาที ให้อากาศถ่ายเท ถ้าระหว่างนี้หากสังเกตว่าเครื่องปลูกแห้งให้พรมน้ำบ้างเป็นครั้งคราว -เมื่อ ต้นกล้างอกโตพอที่จะย้ายได้ก็ย้ายลงกระถางใช้สแฟกนั่มเพียวๆ อนุบาลไปจนโต เทคนิคคือน้ำต้องบริสุทธิ์เค้าใช้น้ำฝนรดต้นไม้ จากคุณ : ขามป้อม เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:52:34

ความคิดเห็นที่ 49 ขอโทษทีครับมาช้าไปหน่อย เนื่องจากรางวัลที่แจกมีเพียงแค่ 10 ไม่มีสำรอง ไม่มีรางวัลปลอบใจ สำหรับท่านที่ไม่ได้ในรอบนี้  ก็ติดตามนะครับว่ารอบหน้าจะมีอะไรมาแจก ขอประกาศไล่มาจากอันดับแรกเลยนะครับ  สำหรับท่านที่มีชื่อ หลังไมค์ที่อยู่มาได้เลยครับ 1.นัครีสโตย 2.ซารุ โซบะ 3.dansivilai 4.ปาสือ 5.นู๋ดรีม 6.donut@animal.tree 7.ลูกจิ๊น 8.panmai 9.Nunjack 10.กราเซียร์ ยินดีด้วยสำหรับผู้ที่ได้รับเมล็ดชุดนี้ไป  สำหรับท่านที่ไม่ได้ติดตามในโอกาสหน้าครับ  รับรอง ถ้ามาแจกต้องสวยแน่ๆ อิอิ ขอบคุณทุกท่านมากครับ สำหรับการเพาะของผมไม่มีอะไรมาก วัสดุที่สะดวก เช่น ขุยมะพร้าว,กาบสับ,sphagnum,peat moss,พวกฟาง เศษไม้ใบหญ้าก็ยังได้ เตรียมวัสดุเพาะให้เรียบร้อยถ้าเป็นขุย และกาบสับก็แช่น้ำเอา แทนนินออกให้เรียบร้อย peat moss ก็จัดการเวฟซะ หรือไม่ก็ได้ อันนี้ไม่ว่ากัน sphagnum ก็แช่น้ำซัก 5-10 นาที แล้วก็โรยเมล็ดลงไปอย่าให้ชิดกันมาก แน่นมาก พ่นยากันเชื้อราตามได้ก็ดีไม่งั้น % ราขึ้นตอนเอาเข้าถุงจะเป็น 100% ตามความชื้น นั่นแล ถ้าจะลด% ราให้เจาะถุงพอให้มีอากาศระบายบ้าง เล็กๆ แต่หลายๆรูหน่อย วิธีนี้ช่วยได้ครับ โดยมากจะใช้พวกกล่ององุ่นจากโลตัสนั่นแหล่ะครับ เจาะรู มารอบกล่องให้เรียบร้อย ไม่ก็กล่องแพ็คขนมปังขนมหวานที่ได้มาจากห้าง ถ้าไม่มีรูก็เจาะซักหน่อย การงอกของเมล็ดจะอยู่ที่10วัน-6เดือนโดยประมาณ แล้วแต่สายพันธุ์ และความสดใหม่และการดูแลของผู้ลงมือเพาะเองด้วย แดดร่มถึงรำไร เมืองไทยแดด 100ไม่ไหว สุกแน่ๆ เมื่อลูกไม้เริ่มมีใบจริง 2-3 ใบก็สามารถเริ่มให้ปุ๋ยสูตรเสมออ่อนๆได้เลยครับ ปู๋ยใช้ปุ๋ยทางใบเวิร์คกว่าครับ ลูกไม้งอกใหม่ๆไม่มีราก บางพันธุ์รากออกช้ามากงอกมา5เดือนแล้วยังหารากไม่เจอเลย - -" เน้นว่าควรให้ครับ  อย่างภาพที่ 26 ของคุณ Susisiri นั่น คือลูกไม้ที่มีรารับทาน ราหรือไลเคนอะไรซักอย่าง ต้นไม้จะเน่าตายหากไม่แก้ไข สามารถใช้เคปเทนได้ครับ ตัวนี้ได้ผลค่อนข้างดี เมื่อลูกไม้โตได้ขนาดต้นที่ใหญ่สุดในภาพ26 ก็เอาออกแยกปลูกได้แล้วครับ  ของผม มีใบแค่ 3ใบก็แยกมาแล้ว ชิวๆ ไม่มีปัญหาครับ  การออกถุง ใช้วิธีการเปิดปากถุงได้ครับ  ถ้ากลัวลูกไม้คายน้ำมากเปิดแค่ 1/2 ถุงก่อนก็ได้  ไม่ต้องตัดถุง ถุงจะได้นำกลับมาใช้ได้ เป็นการลดขยะพลาสติกด้วย คร่าวๆของผมประมาณนี้ครับ จากคุณ : Mr.Kim Henry เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 14:43:29

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากๆ นะค่ะ จะหลังไมค์ไปหานะค่ะ จากคุณ : donut@animal.tree เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 15:46:23

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณ สำหรับเมล็ดและวิธีการเพาะ ค่ะ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 18:08:27

ความคิดเห็นที่ 52 ดีใจจังค่ะที่ได้ ขอบคุณมากๆนะคะ ^^ จากคุณ : ลูกจิ๊น เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 18:26:58

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณคะดีใจจังที่ได้ จากคุณ : กราเซียร์ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 19:37:17

ความคิดเห็นที่ 54 เย้ๆ ดีใจกับคนที่ได้ด้วยนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ คะ ไม้ของคุณคิม สวยแน่นอนคะ จากคุณ : คุณนุ่มนิ่ม เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 19:45:27

ความคิดเห็นที่ 55 ส่งให้เรียบร้อยทั้ง 10ท่าน เช้าวันที่ 26/04/54 ครับ ยังไง ถ้าได้รับกันแล้ว หลังไมค์บอกด้วยนะครับ ^ ^ จากคุณ : Mr.Kim Henry เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 23:19:15

ความคิดเห็นที่ 56 ยินดีด้วยครับกับผู้โชคดี จากคุณ : Teammatch (Teammatch) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 09:34:03