ความคิดเห็นที่ 1 มันก็ถูกครึ่ง ผิดครึ่งแหละครับ (เฉพาะในความคิดผมนะ) อาหารเม็ดต่อให้ยี่ห้อดีแค่ไหน "ถ้ากินมากๆ" ก็คงไม่ส่งผลดี ต่อร่างกายของน้องแมวสักเท่าไหร่อันนี้ใช่แน่นอน แต่ถ้าจะไม่ให้เสียเลยน้องแมวก็อาจได้สารอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งถ้าเรามองไปที่แมวจรจัดทั่วไป.. พวกเขาก็ไม่ได้ทานอาหารเม็ด เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ได้.. แต่จะแข็งแรง หรืออายุยืนยาวหรือไม่ก็อีกเรื่อง ผมเองก็เอาสะดวกครับอาหารสดบ้าง เม็ดบ้างตามสะดวก เพราะจะเราไปทำอาหารสดให้ทุกครั้งในตอนที่ไม่มีเวลาหรือไม่อยู่ก็คงไม่ไหว ก็คงเหมือนคนแหละครับ..คนเราก็พยายามกินอาหารอร่อยๆ ดีๆ มีประโยชน์ แต่บางครั้งเมื่อต้องรีบ หรือต้องใช้เวลา ก็ต้องมีกินแบบเอาสะดวกเข้าว่าบ้างเหมือนกัน (^^) ** แถมนิดนึง..แมวผมมีบางช่วงเคยให้อาหารสดตลอด ปรากฎว่าเขาเซื่องซึมครับ ทานอาหารได้น้อยลง แต่พอลองให้อาหารเม็ดไปด้วย กลับกลายเป็นเจริญอาหารมากกว่า ขึ้นอยู่กับน้องแมวด้วยครับ..ผมว่า แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 15:19:20 จากคุณ : เอสซึ... เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:17:41

ความคิดเห็นที่ 2 อาหารเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการก่อโรคครับ  ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากที่เกี่ยวข้อง เช่น พฤติกรรม สภาพร่างกาย ความผิดปกติต่างๆ เชื้อโรค ฯลฯ ยิ่งอาการเจ็บขาอย่างนี้  หมอไม่คิดจะตรวจจะคลำ จะ x-ray อะไรเลยหรือ  หรือซักถามประวัติซักหน่อยมั้ย  มีการกัดกันมั้ย  โดนตีหรือเปล่า ตกที่สูงหรือเปล่า   อยู่ดีๆมีโทษว่าแมวเจ็บขาจากอาหารเม็ดเนี่ยนะ   ดังนั้นอยู่ดีๆจะมีบอกว่าอาหารเป็นสาเหตุของการเกิดโรคโดยไม่มีหลักฐานอ้างอิง  รู้สึกว่าเกินไปหน่อยครับ    ทำอย่างกับว่าแมวที่กินข้าวคลุกปลาทู  กินเศษอาหารแล้วไม่มีตัวไหนป่วยเลยอย่างนั้นล่ะ  ที่ป่วยเป็นไต เป็นนิ่วตายไปก็เยอะแยะ จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:22:39

ความคิดเห็นที่ 3 เอ้า...บริษัทที่ผลิตอาหารแมวขายเกรด A ทั้งหลาย กรุณามาฟังหมอเค้าว่ามา....เหอ เหอ จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:23:10

ความคิดเห็นที่ 4 ตามที่คุณเอสซีว่าเลยค่ะ.. ที่บ้านให้กินทั้งเม็ด ทั้งเปียก.. คุณหมอที่สนิทกันเคยบอกเหมือนกันว่าเม็ดไม่ว่าจะพรีเมี่ยมขนาดไหน ถ้าให้กินเม็ดเป็นอาหารหลักเลย ยังไงๆ สุดท้ายเขาก็จะเป็นโรคไตอยู่ดี.. ทางที่ดีคือ ให้สลับกันค่ะ อย่าให้เม็ดอย่างเดียว.. ที่บ้านจะตั้งเม็ดไว้ทั้งวัน แต่พอตอนเย็นจะเปิดเปียกคลุกข้าวให้เขากินด้วย.. คือให้กินเปียกด้วย ไม่ให้กินเม็ดอย่างเดียวค่ะ.. ^^ จากคุณ : เจ๊จัดให้ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:26:35

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาอ่าน เพราะกำลังทุกใจ เด็กที่บ้าน ฉี่ไม่ออก ต้องไปสวนสองครั้งแล้ว จากคุณ : เช้านี้ยังมีเธอ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:44:26

ความคิดเห็นที่ 6 ผมมองว่า อาหารเม็ด = อาหารเสริม ครับ จากคุณ : ประกายเพชร เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:45:41

ความคิดเห็นที่ 7 ปลาสดนึ่งให้กินดีที่สุดค่ะ แต่ไม่ใช่ปลาทูนึ่งจากตลาดนะคะอันนี้เค็มมากๆ จากคุณ : joeymydear เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:46:47

ความคิดเห็นที่ 8 ตามความเข้าใจ คนเมืองให้อาหารเม็ดเพราะสะดวก ไม่มีเวลา แต่คนชนบท ต่างจังหวัด มีเวลา ปรุงอาหารทีเดียวกินได้หมด คน แมว หมา แต่ที่บ้าน ตอนเช้า อาหารเปียกนิดหน่อย ก่อนไปทำงานเทอาหารเม็ดให้พอประมาณ ตอนเย็นมีเวลาปรุงอาหาร ให้กินข้าวคลุกปลาโอนึ่ง+กุ้งนึ่ง จากคุณ : อ.กรร เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:52:56

ความคิดเห็นที่ 9 ของเราก็พึ่งพาพี่พลับไป รพส.เกษตรมา เนื่องจากฉี่ไม่ออก พี่พลับเป็นแมวพิการ อายุประมาณ 9 ปี เมื่อก่อนมักเป็นกระเพาะปัสสวะอักเสบ หลังจากแปลงเพศ จากผู้ชายเป็นผู้หญิง อาการฉี่ไม่ออกก็หาย แต่ช่วงนี้เห็นมีเกล็ดสีขาวปนออกมากับฉี่ ก็คิดว่าเป็น นิ่ว แต่หมอบอกว่า ไม่ใช่นิ่ว แต่เป็นโปรตีน ที่เกิน แล้วขับออกมาพร้อมฉี่ หมอแนะนำให้ผสมข้าวปนกับอาหารเปียกที่ให้ แต่พี่พลับไม่เคยกินข้าวหรืออาหารของคน หมอก็แนะนำว่า ให้กินน้ำเยอะ ๆ ไม่เห็นบอกว่าอาหารแมวไม่ดี ให้ลดจำพวกโปรตีนลงบ้าง จากคุณ : ร้อยชั่ง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:56:31

ความคิดเห็นที่ 10 อาหารเม็ดที่ไม่ดีก็คงมี แต่อยากให้ทดลองเอาเอง ลองเอาอาหารเม็ดเกรดดีมาเคี้ยวดู แล้วเปรียบเทียบกับเคี้ยวปลาทู อย่างไหนเค็มกว่ากัน ลองดูครับ สัตว์แพทย์ที่ผมรู้จักให้อาหารเม็ดพรีเมี่ยมสำหรับลูกแมว ให้กับแมวหิมาลายัน เธออยู่ได้ถึงอายุ 20 กว่าปีนิดหน่อยเท่านั้นเอง จากคุณ : แมวนุ่มนิ่ม เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:56:59

ความคิดเห็นที่ 11 หมอจับนิดเดียวค่ะแล้วแมวดิ้นๆ แง่งๆใส่ แม่ก็บอกว่ามันดุนะ มันกัด หมอก็บอกให้จับเอง พอจับเค้าก็ดิ้นหงายท้อง หมอก็เลยให้ใส่ตะกร้าเลย แล้วก็บอกว่าเปอร์เซียเค้าดุแบบนี้แหละ ไม่เป็นไร ไม่ต้องดูละ ไม่ดูเลย 5555+ แล้วก็ให้ยากินมาหลอดนึง ไม่ฉีดยาอะไรทั้งสิ้น แทบไม่ดูแมวเลยด้วยซ้ำ 240 บาท เดินออกจากร้านแบบงงๆ 55555+ แถมยาที่ให้มา แมวไม่กินอีก จับป้อน ปล้ำกันตั้งนาน วิ่งหนี หลบเข้าใต้โต๊ะ เลยเลิก 55555+ จากคุณ : Xiao Bai Tu เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:58:46

ความคิดเห็นที่ 12 เราคิดว่าก็เหมือนคนเรากินแต่อาหารกระป่อง + อาหารสำเร็จรูป  อย่างเดียว เป็นเวลานาน ๆ  ต่อให้เป็นอาหารราคาแพง ๆ  ก็ตาม   ยังงัยก็ไม่ดีต่อร่างกายแน่ ๆ เพราะร่างกายรับแต่สารอาหารเดิม  ๆ  จึงทำให้เกิดโรคต่าง ๆ  ตามมา   การให้อาหารที่หลากหลาย ทำให้แมวได้รับสารอาหารดีกว่าอาหารเม็็ดแบบเดียว เหมือนกับที่คนเราต้องกินให้ครบ 5 หมู่  อาหารสด ปรุงเองค่ะ ถึงจะปลอดภัยต่อร่างกาย คือ อาหารเม็ดก็กินได้ตามปกติ แต่ควรให้อาหารอื่นเสริมด้วยประมาณนั้น แมวเราก็กินอาหารเม็ด 24 ชม.  แต่กินข้าวคลุกกะอาหารสดทุกวันด้วยเหมือนกันค่ะ   อาหารสดก้เปลี่ยนเมนูเกือบทุกวัน  ไก่  ตับ  ปลา  อาหารประป๋อง  แล้วแต่ห้าง มีโปรโมชั่นลดราคา   แหะ ๆ  ๆ  ( บ้านอยู่ใกล้โลตัส ) จากคุณ : tooktikกะjenny เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:03:41

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องอาหารไม่รู้นะ แต่อยากแนะนำให้เปลี่ยนหมอเถอะ >.< จากคุณ : จีโอ ฟรีด เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:18:41

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆอยู่ที่ว่าต้องทำความเข้าใจกลไก และสาเหตุของการเกิดโรคครับ เช่นโรคไต  เกิดได้จากหลายสาเหตุเช่น - อาหารที่เกลือสูงเกินไป - ภาวะที่ทำให้เลือดไปเลี่ยงไตไม่พอ  เช่นโลหิตจาง พยาธิเม็ดเลือด - ยาหรือสารเคมีบางอย่าง - ความผิดปกติที่ไตเอง เช่น ซีสต์ ฝี เนื้องอก นิ่วในไต - ไตเสื่อมตามอายุ ตรวจเลือดมาปุ๊บค่าไตสูง   ก็ต้องตรวจหาสาเหตุกันต่อไปว่าน่าจะเกิดปัญหาจากอะไร  เช่นผลเลือดปกติมั้ย  โลหิตจางหรือเปล่า  มีการติดเชื้อในกระแสอเลือดมั้ย  ซักถามประวัติการใช้ยา สารเคมี  ตรวจเพิ่มเติมเช่น x-ray หรือ ultrasound เพื่อหาความผิดปกติที่ไต   เพื่อหาสาเหตุให้ได้ว่าเกิดจากอะไร    ไอ้ประเภทโยนความผิดให้อาหารโดยที่ไม่ได้ตรวจอย่างละเอียดจนครบถ้วน   ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องครับ  (แต่มันง่ายดี  ในการโยนความผิดให้อาหาร) หรืออย่างกลุ่ม FLUTD โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว สาเหตุการเกิดก็มีเยอะแยะเช่น - อาหาร : ระดับแร่ธาตุบางชนิดที่สูงเกินไปจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลึกนิ่วในปัสสาวะ   - พฤติกรรม : การขาดการออกกำลังกาย การถูกกักขัง การกินน้ำน้อย การอั้นปัสสาวะ สภาพร่างกาย : แมวที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนเนื่องจากอาหารและปัจจัยแวดล้อม มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง - เพศ : แมวทั้งเพศผู้และเพศเมียมีความเสี่ยงในการเกิดโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างเท่าๆกัน  แต่แมวเพศผู้มีความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันมากกว่าแมวเพศเมีย  เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของท่อทางเดินปัสสาวะที่เล็กกว่าแมวเพศเมีย - ความเครียด : การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม หรือการมีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ ยกตัวอย่างแมวบางตัวเครียดเรื่องการย้ายที่อยู่หรือเรื่องการมีแมวตัวมาเข้ามาในบ้าน  เลยอั้นฉี่ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ   ถามว่ากรณีนี้เกี่ยวข้องกับอาหารตรงไหน? จริงๆที่ว่าอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการก่อปัญหาทั้งเรื่องนิ่วและไตครับ  แต่ไม่ได้หมายความว่า เวลาเกิดปัญหาขึ้นมา  จะเกิดจากอาหารทั้งหมด ปล.แก้คำผิด 2 รอบ   แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 16:26:21 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 16:24:22 จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:23:36

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับคุณ จีโอ ฟรีด 5555+ จากคุณ : เอสซึ... เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:29:58

ความคิดเห็นที่ 16 เราว่าตั้งแต่อ่านมา ให้กินอาหารเม็ดหรือไม่เม็ดประเด็นรองค่ะ ประเด็นใหญ่คือ...คุณหมอทำหน้าที่ตรวจรักษาเต็มที่แล้วหรือยัง จากคุณ : PusZehCat เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:56:38

ความคิดเห็นที่ 17 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 17:26:25 จากคุณ : นิทานกริมม์ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:24:56

ความคิดเห็นที่ 18 ได้ความรู้เยอะเลย ลูกชายที่บ้านให้กินทั้งสองอย่างทั้งอาหารเม็ด และอาหารเปียกข้าวคลุกปลา จากคุณ : นิทานกริมม์ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:26:02

ความคิดเห็นที่ 19 ลูกสาวชอบกินน้ำ เลยไม่ค่อยเป็นห่วงเค้าสักเท่าไหร่ เค้ากินแต่อาหารเม็ด เราใช้วิธีซื้อมาทีละหลายยี่ห้อ หลายสูตร เอามาผสมๆ เปลี่ยนสัดส่วนไปเรื่อยๆ.... ให้รสชาดไม่ซ้ำซาก แล้วก็กันสารตกค้างจากการกินอาหารชนิดเดียวต่อเนื่อง ....คิดเองเออเองทั้งนั้นแหละครับ.... จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:36:03

ความคิดเห็นที่ 20 เราเห็นด้วยจากการสังเกต พี่พลับ เมื่อก่อนที่พี่พลับเป็นกระเพาะปัสสวะอักเสบ หรือฉี่ไม่ออก ไม่ได้เนื่องจากอาหาร หรือเพราะว่าพี่พลับเป็นแมวพิการ แต่เนื่องจาก อาการเครียดของพี่พลับมีผลค่อนข้างมาก  ตอนแรกเลี้ยงตัวเดียว หมอบอกว่าแมวเครียดทำให้เป็น พอมี 2 ตัว อาการก็หาย พอมีลูกแมวมาเพิ่ม ตัวที่ 3 เป็นแมวซน พี่พลับไม่ชอบก็เกิดการเครียด ก็มีอาการไม่สบายอีก เราถึงรู้ว่าไม่ใช่จากอาหาร เพราะหมอก็บอกว่าไม่ได้เกิดจากอาหาร แต่เกิดจากสภาพแวดล้อมด้วย จากคุณ : ร้อยชั่ง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:50:50

ความคิดเห็นที่ 21 หมอเค้าได้ชั่งน้ำหนักน้องแมวไหมคะ เพราะปกติ เท่าที่รู้มา เวลาจ่ายยา เค้าต้องคำนวณน้ำหนักแมวนะ แอบเป็นห่วงน้องแมวจัง ... ว่าแล้วก็นะ... ลองเปลี่ยนหมอด้วยอีก 1 เสียงค่ะ ป.ล. รู้สึกว่าไม่เกี่ยวกับคำถามที่ถามมาเท่าไหร่ แต่อ่านแล้วนะ...อดไม่ได้จริงๆ (^ ^')> จากคุณ : นะหนิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 18:19:10

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องอะไรดีอะไรไม่ดี เราว่าก็นานาจิตตังนะคะ โดยส่วนตัว ไม่เชื่อว่าอาหารสังเคราะห์สำเร็จรูปอะไร จะมีคุณค่าเท่าของสดค่ะ ไม่ว่าจะเป็น นมผงเด็ก ที่พยายามใส่สารนู่นสารนี่ แต่ก็สู้นมแม่สดๆไม่ได้ ไข่อบแห้ง ก็สู้ไข่สดเป็นฟองๆไม่ได้ ลองคิดว่า ผักอบแห้งแล้วเติมสารพัดสารเคมีที่บอกว่าเป็นคุณค่าบลาๆๆ กับกินผักสดเป็นใบๆ อะไรจะมีคุณค่ากว่ากันหนอ สารนู่นสารนี่ที่เติมลงไป เติมไปเยอะแยะแล้ว ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่เราก็ไม่คิดว่า ใครเป็นโรคอะไรจะพาลไปโทษแต่อาหารนะคะ เชื่อว่าอาหารเม็ดสู้อาหารสดไม่ได้ แต่ก็ไม่เชื่อว่าเป็รอะไรแล้วไปโยนสาเหตให้อาหาร มันเป็นการหาสาเหตุที่ง่ายไปหน่อย ตัวเราเอง ถึงคิดว่าอาหารสดดีกว่าอาหารสำเร็จรูป (ไม่ว่าจะเม็ดหรือเปียก) แต่ทุกวันนี้ก็ซื้ออาหารสำเร็จรูปให้แมวค่ะ เลือกยี่ห้อดีๆหน่อย ถ้ามีโอกาสก็จะเสริมอาหารสดให้ แม้ว่าอะไรจะดี ไม่ดี ก็ไม่ซีเรยส เพราะคนเราเอง รู้ว่าอะไรไม่ดียังกินเลย ใช่มั้ยคะ? น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ คาเฟอีน ผงชูรส อาหารใส่สีใส่กลิ่นสังเคราะห์ อาหารอมน้ำมัน ฯลฯ อู้ยยย อาหารคนน่ากลัวกว่าอาหารแมวหลายเท่าน้า สรุปว่า ... จขกท เปลี่ยนหมอเถอะค่ะ จากคุณ : ปานิปานิ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 19:29:34

ความคิดเห็นที่ 23 นอกประเด็นนะ ขอชมว่าหมอห่วยมาก หมอแบบนี้เจอเราได้หน้าหงายไปแล้ว ดูท่าจะกลัวแขนเป็นรอยโดนแมวกัด รักที่จะเป็นสัตวแพทย์จริงหรือเปล่าหนอ จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 22:57:22

ความคิดเห็นที่ 24 *** ดูท่าจะกลัวแขนเป็นรอยโดนแมวกัด มากกว่าที่จะรักการรักษา จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 23:00:45

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่าอาหารเม็ดหรืออาหารที่เค็มจัดๆ มันก็เป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคนิ่วโรคไตทั้งนั้นแหล่ะค่ะ  แต่ก็ไม่ได้แปลว่า 100% จะมาจากอาหารสักหน่อย สภาพแวดล้อม อุปนิสัยการกินน้ำและสุขภาพของแมว ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เราพยายามให้ลูกชายเราหม่ำเม็ดคานิน กับ อาหารเปียกสลับสับเปลี่ยนกันไป กันเบื่อ กันเซ็งให้เค้า  เพราะอาหารเปียกมีน้ำเป็นส่วนผสมเยอะกว่าอาหารเม็ด และอาหารเม็ดก็มีสารอาหารครบกว่าอาหารเปียก ก็เลยพยายามให้เค้าหม่ำทั้งสองอย่างปะปนกันไป ยามว่างก็มีไก่ต้ม กุ้งต้มให้อีก 2 รายการ *แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 08:30:29 จากคุณ : ลูกแมวน้อยของคุณแม่ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 08:27:55

ความคิดเห็นที่ 26 ตายแล้ว น้องแมวที่บ้าน(เก็บมา) ไม่เคยออกนอกบ้าน  เค้าไม่ยอมกินอาหารเปียกอ่ะ ปลาดุกก็ไม่กิน ปลาทูกินนิดเดียวก็ไม่กินต่อ ปลากระป๋องก็กินแต่น้ำซอสมะเขือเทศไม่กินเนื้อปลา  เคยให้ปลาทูน่าในน้ำแร่ก็เลียแต่น้ำ ยิ่งคลุกข้าวไม่ต้องพูดไม่แตะเลย สรุป เค้ากินแต่อาหารเม็ด แบบเม็ดเล็กๆพวก royal canin จะทำไงดีคะ กลัวน้องแมวป่วยเป็นไตวาย ปล.ตอนนี้ 4 ขวบ แข็งแรง เพิ่งไปตรวจวมา แต่แอบน้ำหนักมากไปนิด 4.8 kg จากคุณ : OJ (orangii_oj) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:52:32

ความคิดเห็นที่ 27 เหมือนกับคุณ OJ (orangii_oj) เลยค่ะ ลูกสาวไม่ยอมกินอะไรนอกจากอาหารเม็ดเลย (นอกจากจิ้งจกจับได้เอง) แต่ก็ดูแข็งแรงดี ตอนแรกก็คิดว่ากินแต่อาหารเม็ดก็น่าจะดีเพราะทำมาเฉพาะสำหรับแมว พอเข้ามาอ่านเลยเริ่มกังวลขึ้นมาด้วยคนค่ะ จากคุณ : PiPoPiPoPP เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 18:47:46

ความคิดเห็นที่ 28 เคยคิดเหมือนกันว่าอาหารแมวน่าจะดีที่สุดเพราะทำมาเฉพาะสำหรับแมว แต่มาเห็นกระทู้นี้ชักไม่แน่ใจแล้วล่ะ  ที่บ้านเราก็เลี้ยงแมวแบบให้ทานอาหารเม็ด สลับกับอาหารสดนะคะ อาหารเม็ดจะใส่จานวางคู่กับน้ำสะอาดไว้ทั้งวัน ไม่เคยขาด ส่วนปลาทูหรือกุ้งจะต้มหรือนึ่งเองแบบไม่ใส่เกลือคลุกกับข้าวสวยให้กินเช้า เย็น น้องเหมียวบ้านเราทุกตัวชอบข้าวคลุกปลาทูมากกว่าอาหารเม็ดค่ะ บางครั้งยังกลัวน้องจะน้ำหนักเกินเพราะได้รับแป้งมากเกินไปซะอีกแน่ะ เพราะตอนนี้แมวที่บ้านน้ำหนักเกินพิกัดทุกตัวค่ะ จากคุณ : สาวน้อยแตงไทย เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 13:05:32