สีเทา... ลูกหมาลักษณะดูดี มีชาติตระกูล ขนเกรียน หูตั้ง หลวงพี่บอกว่า มีคนมาทิ้งไว้ที่หน้าวัด ตอนที่เห็นสีเทาครั้งแรก ...ตอนนั้นในใจเราคิด ...ลูกหมาตัวนี้ตาเศร้าจัง โบราณเขาว่าจะอายุไม่ยืน ...แล้วสิ่งที่กลัวก็เป็นจริงจนได้
เวลาที่ได้ยินเสียงรถมอไซด์ของเรา หมาหน้าวัดจะวิ่งตามผ่านเมรุไปที่หลังวัด แต่...หมาก็มีอาณาเขตของตัวเองนะจ๊ะ หมาหน้าวัดจะตามมาถึงหลังวัด แต่จะไม่ออกจากรั้วเมรุเป็นอันขาด ...ส่วนหมาหลังวัด จะวิ่งผ่านเมรุไปหน้าวัด ด้านที่ติดกับถนน แต่ไม่ออกจากรั้วเมรุเหมือนกัน ...เสมือนหนึ่งว่า ในรั้วเมรุนั้นเป็นดินแดนร่วม ที่ใคร ใครก็สามารถใช้ได้...บางครั้งเราก็ขำ หมาหน้าวัดวิ่งตามมา พอถึงหลังวัด เหมือนติดดิสเบรค แต่สีเทาอาศัยเนียน ๆ วิ่งตามเข้าไปกินในโรงเรือน ดดยที่เราไม่รู้ จนเมื่อปิดประตู จะกลับบ้าน เสียงตะกายประตู สลับกับเสียงร้องโอดครวญ ทำให้เราต้องเดินกลับไปดู พร้อมกับถามมัน...เข้าไปตอนไหนฟะเนี่ยะ
แล้ววันหนึ่ง เราสังเกตุเห็นสีเทาผอมลง ทั้งที่เป็นลูกหมาที่กินเก่ง ...อ้อ ถูกหมาใหญ่แย่งนั่งเอง เวลาที่ให้อาหารสีเทา เราจะยืนคุมอยู่ ส่งสายตาไปกำหราบนักเลงประจำหน้าวัด ...ถ้าแสลนเข้ามา เจอตบนะยะ...สงสัยรังสีอำมหิตจะไม่ค่อยได้ผล เพราะก็ยังเห็นพวกมันวิ่งกรูกันเข้ามา เหมือนหนึ่งจะบอกว่า ...พวกหนูก็หิวน๊า
อังคารที่แล้ว เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เร่งส่งงานให้ทันกำหนด เราเข้าไปที่วัดพระอาทิตย์เกือบจะตกดิน 6 โมงครึ่ง สีเทา ที่ปกติจะวิ่งมาหา แต่วันนี้สีเทานอนอยู่ข้าง ๆรถกระบะคันหนึ่ง มีเพียงหางที่กระดิก และหัวที่พยายามจะผงกแต่ไม่ยอมลุก ลักษณะการหายใจแรง จนเราต้องแวะเข้าไปดู ...ที่ขามีรอยถลอก สังหรณ์ใจ ทำให้เราเปิดเหงือกสีเทาดู...ซีดจนไม่มีสีเหลือง ...ต้องมีเลือดออกภายใน ...เราบอกสีเทารอก่อน รีบไปให้ยาหมาป่วยที่โรงเรือน ก่อนที่จะกลับบ้านไปเปลี่ยนรถกระบะพาสีเทาไปหาหมอ
ทุ่มเศษ รถเราเป็นรถเก่า ที่หมอนัทแห่งโรงพยาบาลสัตว์พีอีที ชอบแซว ...รถเราไม่เสียบ้างเหรอ...หมอปากเสียว่ะ...เราตัดสินใจไปสุพรรณ เครื่องมือและยาที่พร้อมกว่า เวลาไม่ถึงชั่วโมง ถ้าไปเส้นทางปกติอาจจะไม่ทัน ตัดสินใจไปทางลัด ย่นระยะทางไป 10 กว่ากิโล ก่อนออกรถ เราขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง รถอย่าเสีย ขอให้เรากลับบ้านโดยปลอดภัย ...40 กว่ากิโลที่เป็นทุ่งนาตลอดสาย ถนนกำลังทำ เราบอกสีเทา อดทนนะ...เราบอกกับตัวเอง ไม่ว่าสีเทาจะรอดหรือไม่ เราก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว
ผลการเอ็กซเรย์ กระดูกที่สะโพกทั้ง 2 ข้างหลุดจากเบ้า กระดูกขาหักออกจากกัน ความแรงที่ชน หมอบอกว่ากระดูกบิดเป็นเกลียว มีเลือดออกในปอดเต็มเลย ตอนนั้นสีเทามีอาการทุรนทุรายแล้ว หมอฉีดยาระงับปวด กับยาห้ามเลือดให้ ...ถ้าพ้น24 ชั่วโมง พรุ่งนี้ค่อยมาดูเรื่องกระดูกที่หัก
พอขึ้นรถ สีเทามีอาการดิ้นจนเรากลัวน้ำเกลือหลุด ต้องเลี้ยวรถกลับไปให้คุณหมอฉีดยาให้สีเทาหลับ แต่คุณหมอบอกว่า มันอันตราเกินไป คุณหมอฉีดยาแก้ปวดเพิ่มให้ เราขับรถกลับช้า ๆ มือข้างหนึ่งคอยปลอบเขาไว้ จำได้ว่าจอดรถ 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเราบอกสีเทา นอนตักเราก็ได้ แล้วทุกอย่างก็สงบ...ทั้งที่ใจเสีย แต่ลึก ๆ ยังหวังว่าเขาแค่หลับไป
ถึงบ้าน กว่าจะให้ข้าวหมาตัวเองเสร็จ 5 ทุ่ม น้ำเกลือหมดถุง สีเทาจากไปตั้งแต่ยังไม่ออกจากสุพรรณ ...เราพาสีเทากลับไปฝังที่หน้าวัดในวันรุ่งขึ้น มีพี่ที่มาตัดหญ้าเขาฝังให้ แล้วเราก็เจอเรื่องแปลก...วันศุกร์ที่ผ่านมา เราเห็นหมาแว๊บ ๆตรงที่กำแพงวัด ลองขี่มอไซด์เข้าไปดู เอาอาหารเม็ดเทไว้ให้ เราได้กลิ่นเหม็นเน่า ในใจคิดว่า พวกพี่เขาคงฝังไม่ลึก จนเมื่อกลับออกจากวัด ประมาณ 2 ทุ่ม ด้วยใจที่เป็นห่วงหมาตัวที่ข้างกำแพง จะได้กินอาหารเม็ดหรือเปล่า เลยแวะไปดูใหม่ ยืนตั้งนานไม่ได้กลิ่นอะไรเลย...ในใจคิด สีเทาคงแวะมาทักทาย ครบ 3 วันที่ตายพอดี ...แต่เมื่อกลับมาบ้าน มานั่งคิด สีเทาจริงเปล่า(วะ) เพราะตรงนั้นมันมีที่เขาเก็บกระดูกเรียงตามยาวของกำแพงวัดเลย ...