เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน วันนั้นสำหรับกุ๊กเหมือนอยู่ในนรก ทั้งเครียด ทั้งเศร้า สาเหตุเป็นเพราะลูกสาวสุดที่รักสุดหัวใจ "ซีอิ๊ว" อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการไม่กิน ไม่ฉี่ ไม่งอแง ตัวแข็ง แห้งเหี่ยว กุ๊กเลยรีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาอย่างด่วน ไปถึงคุณหมอเจาะเลือด สวนฉี่ แล้วก็บอกข่าวร้ายว่า ซีอิ๊วค่าไตสูงมาก 23.6 จากปกติแมวจะต้องมีค่าไตไม่เกิน 2 ปกติค่าไตสูงขนาดนี้ต้องเสียชีวิตไปแล้ว กุ๊กก็ช็อคซีนีม่าไปชั่วขณะ ตายแล้วลูกสาวชั้นทำไมถึงได้ป่วยขนาดนี้โดยที่เราไม่รู้เลย คุณหมอให้แอดมิทอยู่ 1 คืนเพื่อให้ยาและน้ำเกลือ 24 ชั่วโมง วันนั้นกุ๊กกลับบ้านพร้อมน้ำตา ในหัวคิดแต่ว่าซีอิ๊วจะเป็นอะไรมั้ย
วันศุกร์ ที่ 3 มิถุนายน คุณหมอโทรบมาแจ้งว่า ซีอิ๊วอาการดีขึ้นแล้ว อาการทรงตัว กลับบ้านได้ แต่ต้องมาให้น้ำเกลือทุกวัน ห้ามขาดแม้แต่วันเดียว กุ๊กก็ดีอกดีใจรีบไปรับกลับมาบ้านอย่างด่วน พร้อมกับฟังคำสั่งจากคุณหมอว่า ห้ามให้กินอาหารอื่นๆ โดยเด็ดขาด กินได้แต่ KD อาหารสำหรับแมวโรคไตเท่านั้น และให้เค้ากินน้ำเยอะๆ สังเกตว่าเค้าฉี่มั้ย แล้วก็ต้องพามาให้น้ำเกลือทุกวัน พูดจบคุณหมอก็ยื่นใบนัดของคลีนิคโรคเฉพาะทางให้
วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน กุ๊กก็กระเตงๆ พาซีอิ๊วออกจากบ้านแต่เช้าตรู่มายื่นบัตรนัด และไปเอ็กซเรย์ จากนั้นก็พาซีอิ๊วไปให้น้ำเกลือ ช่วงเวลา 6-7 ชั่วโมงวันนั้นไม่ได้กินอะไรเลยแต่กลับไม่หิว ในหัวคิดแต่ว่าซีอิ๊วต้องหายดี จะหาเงินมารักษาเค้าให้หายให้ได้ เพราะเครียดมากๆ เนื่องจากค่ารักษาจาก 2 วันที่ผ่านมา จ่ายไปแล้ว 4 พันบาท ลำพังเงินเดือนตัวเอง บวกกับค่าบัตรต่างๆ ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็พอจ่ายไปได้แต่ไม่เหลือแล้ว วันนั้นคุณหมอทักว่าอาการของซีอิ๊วแปลกมาก ค่าไตเค้าสูงมากแต่เค้าดูแข็งแรง ไม่เหมือนแมวป่วยเท่าไหร่ แถมยังเริ่มฉี่เองได้แล้ว กินได้บ้างเล็กน้อย ปกติแมวที่ค่าไตเกิน 2 มาแค่ 4 หรือ 5 ก็จะแย่แล้ว คุณหมอเลยกำชับว่าต้องมาให้น้ำเกลือก่อนทุกวัน จนกว่าจะครบ 1 สัปดาห์จึงจะเจาะเลือดวัดค่าไตใหม่อีกครั้ง กุ๊กพอได้ยินแบบนี้ก็ดีใจปรี๊ดเลยสิ ความหวังที่ซีอิ๊วจะหายมันพุ่งมาเลยล่ะ (KD กระป๋องแพงมว๊าก 85 บาท ป๋องนิดนึง แถมเม็ดของคะนินก็แพงเกิ๊น 290 ถุงกะปิ๊ด)
วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน กระเตงซีอิ๊วมาให้น้ำเกลือแต่เช้า ทุกวันจะเสียค่ารถไปกลับเฉลี่ย 200 บาท แต่ก็ยอมเพราะซีอิ๊วสำคัญกว่าสิ่งไหนอยู่แล้ว วันนี้ซีอิ๊วไม่ดื้อไม่ดิ้น ให้น้ำเกลือ(ยาไตสีม่วงๆ) 1 ถุงด้วยความสงบเรียบร้อย และให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง(เพื่อให้ตัวบวมและผิวหนังไม่แห้ง) อีก 100 CC ซีอิ๊วน่ารักมากๆ จะมีฮื่อๆ บ้างก็ตอนเห็นเพื่อนน้องแมวน้องหมามาทักทายอ่ะล่ะ วันนี้กลับมาถึงบ้านกุ๊กตัดสินใจกู้เงินพ่อมา 6 พัน สัญญาว่าจะผ่อนเดือนละ 2 พัน (พ่อต่อว่าว่าเลี้ยงก็เลี้ยงไปตามบุญตามกรรมสิ ทำไมต้องเดือดร้อนด้วย) กุ๊กไม่ได้ว่าพ่อเลยนะคะ แต่กุ๊กยอมให้พ่อด่า ยอมให้ทุกคนด่า ใครจะว่ายังไงก็ได้ ขอแค่กุ๊กสามารถหาเงินมารักษษลูกสาวให้หายได้ กุ๊กยอมให้ด่า ให้ว่าทุกอย่าง เพราะกุ๊กเข้าใจค่ะว่าคนเรานั้น ความรักต่อสัตว์เลี้ยงจะแตกต่างกันออกไป บางคนเมตตา รักและดูแลให้อาหารและที่อยู่แต่ก็ให้ได้ตามกำลังตัวเอง แต่สำหรับกุ๊กเป็นประเภทบ้าเกินตัว จะทำทุกอย่างเพื่อลูกสาวจนตัวเองต้องลำบาก เดือดร้อน จริงๆ นะ เงินอ่ะ ยืมมากุ๊กก็ทำงานหามาใช้คืนได้ ตราบใดที่ยังมีแรงทำงาน แต่ซีอิ๊วในโลกนี้ไม่มีอะไรจะมาแทนเค้าได้ คิดแค่นี้กุ๊กจะไปกลัวทำไมกับการเป็นหนี้ล่ะ ใช่มั้ยคะ
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน วันนี้ตื่นแต่เช้าเพราะต้องมาเตรียม KD ป้อนลูกสาว จัดการกับเด็กที่บ้าน กว่าจะออกมาทำงานได้ก็สายโต่ง (เจ้านายจะไล่ออกมั้ยชั้น?) แล้วก็ทำงาน เคลียร์งาน เลิกงานก็ตาเหลือกฝ่าการจราจรติดขัดไปโรงพยาบาล คุณแม่พาซีอิ๊วมารอให้น้ำเกลือเรียบร้อยแล้ว ระหว่างให้น้ำเกลือก็ได้เจอกับคุณพี่ คุณป้า หลายๆ คน ที่ลูกๆ เค้าเป็นโรคไตเหมือนกับเรา ทุกคนคิดเหมือนกุ๊กกันหมดเลย กุ๊กได้แต่คิดว่า น้องหมาน้องแมวเหล่านี้แม้จะป่วยเป็นโรคร้าย แต่ก็ได้รับความรักท่วมท้น ได้รับความรักอย่างบริสุทธิ์จากเหล่าบรรดาเจ้าของของเค้า ที่ไม่ว่าจะเหนื่อยยังก็ยินดีที่จะมานั่งเฝ้า ดูแล เช็ดคัว เช็ดอึ เช็ดฉี่ พยายามทำทุกอย่างให้เค้าหายป่วย ต้องบอกว่าเค้าโชคดีนะที่เกิดมามีคนรักเค้ามากมายอย่างนี้ จริงมั้ยคะ
วันอังคารที่ 7 มิถุนายน ภารกิจวันนี้เหมือนเมื่อวานเป๊ะ แต่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อย เพราะลืมกินข้าวบ้าง ลืมกินยาประจำตัวบ้าง (กุ๊กเป็นภูมิแพ้ค่ะ อาการเปลี่ยนน้ำมูกไหลตลอด) แล้วก็นั่งร้องไห้คนเดียวซะงั้นเพราะเปิดกระเป๋าตังมาเหลือตังไม่ถึง2พันบาท ค่าใช้จ่ายพาซีอิ๊วไปหาหมอให้น้ำเกลือตกวันละ 500-600 บาท(รวมค่ารถแล้ว) แล้วจะพาซีอิ๊วไปหาหมอได้ยังไงกันเต็มที่ก็ไปได้ถึงแค่วันศุกร์ น่าอายมากๆ เลยที่นั่งร้องไห้ไป มองหน้าซีอิ๊วไป ได้แต่โทษตัวเองที่ทำไมถึงได้ไม่มีเงิน แล้วจะรักษาเค้าให้หายได้ยังไง ขากลับวันนี้ไหว้ศาลตรงหน้าแผนกฉุกเฉินขอให้มีเงินมารักษาซีอิ๊วจนหาย
วันพุธที่ 8 มิถุนายน เช้านี้อารมณ์ดีเกินไปเพราะซีอิ๊วกิน KD เองไม่ต้องป้อน กุ๊กรีบโทรหาแม่เล่าให้ฟังใหญ่ เห่อสุดๆ 555+ ลืมปัญหาเมื่อวานไปหมด วันนี้คุณหมอบอกว่า ซีอิ๊วอาการดีขึ้นไม่น่าเชื่อ เค้าแข็งแรงมาก กุ๊กเลยกลับบ้านไปด้วยอารมณ์ดีแบบสุดๆ ฉุดไม่อยู่
วันพฤหัสที่ 9 มิถุนายน วันนี้ฝนตกหนักแต่เช้ายันมืด กุ๊กไม่กล้าพาซีอิ๊วออกไปหาหมอเพราะฝนตกยังกับพายุ กุ๊กไม่มีรถส่วนตัว เอาเค้าออกมาโดนฝนเดี๋ยวจะไปกันใหญ่ เลยตัดสินใจไม่พาไปให้น้ำเกลือ 1 วัน (ไม่ดีนะคะใครอย่าทำตามเชียว)
วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน รีบพาซีอิ๊วมาให้น้ำเกลืออย่าไว เลิกงานแล้วก็พุ่งดิ่งมาทันที วันนี้ทุกอย่างดีไปหมด ซีอิ๊วแข็งแรง ฉี่เองได้ กินเองได้ อึเองได้ วิ่งซน กระโดดโลดเต้นได้แล้ว คุณหมอก็บอกว่าเก่งมาก แต่ทุกอย่างจบสิ้นตอนจ่ายตัง เพราะจ่ายเงินแล้วเหลือเงินกลับบ้านแค่ 200 บาท น้ำตาจะไหลอีกรอบ คิดในหัววนไปวนมาว่าจะเอายังไงดี จะเอายังไงดี
วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน สิ่งแรกที่คิดก็คือขอยืมเงินจากเพื่อนที่ทำงานก่อนซัก พันสองพัน เอามาติดตัวไว้พาซีอิ๊วไปโรงพยาบาลก่อน แล้วก็มีคนให้ยืมจริงๆ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี วันนี้คุณหมอเจาะเลือดซีอิ๊วไปวัดค่าไตรอบ 2 แล้วให้มาหาหมอให้น้ำเกลือเรื่อยๆ ผลเลือดน่าจะได้ประมาณวันอังคาร วันนี้กุ๊กกลับบ้านด้วยอาการเพลียมากๆ จนเพื่อนๆ บอกว่า แกต้องดูแลตัวเองด้วย อย่าเอาแต่ดูแลแมวจนลืมตัวเอง แล้วก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์สุดๆ เกิดขึ้น คือเพื่อนสมัยมัธยมเค้าเห็นกุ๊กโพสท์ขาย BB ในเฟซบุ้คเพื่อเอาเงินมาหมุนรักษาซีอิ๊ว เค้าเลยรวบรวมเงินกันส่งมาช่วย แม้จะไม่มากแต่กุ๊กเองตื้นตันไปทั้งใจ ไม่นึกไม่ฝันว่าเพื่อนๆ จะมีน้ำใจงดงามให้เราขนาดนี้ ตอนกลางคืนก็นอนนึกไปถึงที่เราไหว้ศาลแล้วขอไว้ เลยคิดในใจว่าซีอิ๊วยังมีบุญอยู่เลยมีคนช่วยเค้ามากมายเต็มไปหมด ต้องเอาพวงมาลัยไปไหว้ศาลแล้วล่ะ
วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน ลุกจากที่นอนแทบไม่ขึ้นเพราะสงสัยโดนฝน ตัวหนักๆ หนาวๆ ร้อนๆ แต่ก็กระเด้งตัวเองพาซีอิ๊วไปให้น้ำเกลือจนได้ วันนี้ผ่านไปแบบราบเรียบมากๆ คุณหมอบอกว่าจะเร่งผลเลือดให้ แล้วก็ชมว่าซีอิ๊วไม่เหมือนแมวป่วยเลย เก่งมากๆ อิอิ
วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน อีกแล้ว วันนี้พายุเข้าอีกแล้ว กุ๊กเลยนิสัยไม่ดีอีกครั้ง งดให้น้ำเกลือ 1 วัน
วันอังคารที่ 14 มิถุนายน วันนี้ลางานเพื่อพาซีอิ๊วไปฟังผลเลือด วันนี้เป็นครั้งแรกที่ไปในเวลาคลีนิค เจอกองทัพคุณหมอนักศึกษาสัตวแพทย์กำลังมาเรียนพร้อมกับอาจารย์หมอ ซีอิ๊วกลายเป็นเคสศึกษาไป คุณหมอ 5-6 คนรุมถามกันจ้าละหวั่น ตรวจทุกอย่าง ทุกซอกทุกมุม เล่นเอาซีอิ๊วเหนื่อย ทำหน้าเซ็งใส่ทั้งวัน 555+ ผลเลือดซีอิ๊ว ค่าไตลดลงมาเหลือ 7 (ก็ยังสูงอยู่) เรียกว่าอาทิตย์เดียวลดลงมาแบบไม่น่าเชื่อ คุณหมอให้ไปเก็บฉี่มาให้ แต่ก็ลืมให้หลอดมาเก็บฉี่ กุ๊กเองก็ลืมขอ 555+ แล้วก็กลับมาเครียดอีกรอบ เพราะยังต้องไปให้น้ำเกลือต่อเนื่องอยู่ เงินที่เพื่อนๆ ช่วยมาก็เหลือแค่พันเดียว นอนน้ำตาไหลอีกวัน
อัพเดทวันพุธที่ 15 มิถุนายน วันนี้กุ๊กมีเรื่องราวใหญ่โตที่บ้านค่ะ เพราะฝนตกหนักมากจนไม่สามารถออกจากบ้านได้ ปกติจะขอร้องให้คุณแม่เอาซีอิ๊วไปหาคุณหมอก่อนที่โรงพยาบาลเพราะคุณแม่จะเลิกงานก่อน แต่พอเห็นว่าเค้าแข็งแรงคุณแม่ก็ไม่ยอมไปอีกแล้ว แถมยังเอาปลานิลบ้าง แอบเอาไก่ต้มบ้างให้กินอีก (คุณแม่จะตามใจมากกว่ากุ๊กอ่ะค่ะ) โอย กุ๊กไม่รู้ทำยังไงเลย ถ้าไม่เอาไปให้น้ำเกลือคุณหมอก็จะดุอีก แถมยังต้องเคลียร์กับคุณแม่อีกว่าอย่าเพิ่งแอบป้อนอะไรเค้า ถ้าคุณหมอเค้าไม่คิดว่ามันไม่ดี เค้าจะห้ามทำไมกัน กลุ้มใจอีกเรื่องก็ตรงที่ใครจะช่วยพาน้องไปโรงพยาบาล กุ๊กเองทำงานพระราม 3 กว่าจะเลิกก็ 6 โมงเย็น ถ้าไปโรงพยาบาลเลยก็ยังใกล้หน่อย แต่ถ้าต้องกลับบ้านแล้วมาโรงพยาบาล ไม่ทัน 2 ทุ่มแน่ๆ (ไปหลัง 2 ทุ่มจะต้องเข้าฉุกเฉิน มันจะเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกเกือบ 300-400 บาท) เลยต้องมานั่งคิดหาวิธีกันหัวแตก สรุปแล้วกุ๊กคงต้องสู้ต่อคนเดียวก่อนมั้งคะ ฮ่าๆ
อัพเดท 16 มิถุนายน วันนี้ฝนตกหนักมว๊ากอีกครั้ง เศร้ามากๆ ที่ไปหาคุณหมอไม่ได้ แต่ซีอิ๊วกิน KD เองได้ซะงั้น กินซะเยอะด้วย ดีใจแทบสลบ จบวันด้วยความสุข
วันนี้จะเป็นยังไงต่อไปยังไม่รู้ แต่จะพยายามมาบอกเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันนะคะ อยากแชร์ให้ทาสแมวด้วยกันรู้ว่าโอกาสที่ลูกรักของเราเป็นโรคนี้มีเยอะ แต่ก็สามารถรักษาหายได้ด้วยความรัก การดูแลเอาใจใส่ ใครที่มีลูกเป็นโรคไตเหมือนกันอย่าท้อนะคะ
แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 54 11:48:51
แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 54 11:46:47
แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 12:41:30
ลูกสาวเป็น "โรคไต"...เรื่องร้ายๆที่หายได้ด้วยความรัก!!
เข้ามาเป็นกำลังใจนะคะ สู้สู้ ค่ะ
สู้ ๆ ๆ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ 
