Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นำมาจากห้องศาสนาค่ะ--> พระทำนาในวัด-ปลูกข้าวเลี้ยง"หมา-แมว" ติดต่อทีมงาน

ขออนุญาตคุณหมาป่าดำเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10818302/Y10818302.html


เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลืองเมืองนนท์ ทำนาปลูกข้าวกว่า 40 ไร่ เลี้ยงดูสุนัขและแมวจรจัดกว่า 200 ตัว ที่มีคนนำมาปล่อยวัด เผยสู้ค่าอาหารค่ายาเดือนละครึ่งแสนไม่ไหว เลยทำนาปลูกข้าวเอามาเลี้ยงสัตว์ ใช้ที่ดินรอบวัดที่คนใจบุญให้ใช้ประ โยชน์ทำนาแบบครบวงจร หมา-แมวในวัดกินอยู่อย่างดี สร้างกรงติดมุ้งลวด พัดลม จ้างคนงานทำความสะอาดทุกวัน เจ้าคณะอำเภอชี้ พระทำนาไม่ผิดวินัยสงฆ์ เพราะสัตว์ก็มีชีวิตเหมือนกัน

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดไผ่เหลือง ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังมีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า พระ ครูสมุห์สิทธิโชค อภินันโท เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง ทำนาปลูกข้าวกว่า 40 ไร่ เลี้ยงสุนัขและแมวที่อยู่ในวัดหลายร้อยตัว เป็นที่ฮือฮาในความใจบุญของทางวัด ที่มีต่อสุนัขและแมวจรจัดเหล่านี้

เมื่อไปถึงพบบริเวณหน้าวัดเป็นทุ่งนา กว้าง ภายในวัดมีสุนัขและแมวอาศัยอยู่จำนวนมาก เดินไปมาทั่ววัด ที่ด้านหน้ากุฏิพบว่าทางวัดสร้างกรงให้สุนัขและแมวอย่างดี ก่ออิฐบล็อกกั้นเป็นห้อง 5-6 ห้อง แยกออกเป็น 4 โซน คือโซนด้านหน้าวัด ด้านข้าง และด้านหลัง ทุกห้องติดมุ้งลวดและพัดลมระบายอากาศเพื่อความสะอาด ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็น

พระครูสมุห์สิทธิโชค เปิดเผยว่า สุนัขและแมวที่อยู่ในวัด มีมาตั้งแต่สมัยพระคุณเจ้าพระภาวนาวรานุศาสตร์ (สิงห์) เจ้าอาวาสรูปก่อน เพราะท่านเป็นคนรักสัตว์ ซึ่งในช่วงนั้นอาตมาเป็นพระเลขาฯท่าน จนกระทั้ง ท่านพระอาจารย์มรณภาพ อาตมาจึงได้สานต่อเจตนารมณ์ของท่าน เพราะเป็นคนรักสัตว์ เมตตาสัตว์อยู่แล้ว สำหรับการปลูกข้าวเลี้ยงสุนัข ได้แนวคิดมาจากเจ้าอาวาสองค์ก่อน เพราะท่านทำมาตลอด เนื่องจากสุนัขและแมวในวัดน่าสงสาร มีคนนำมาปล่อยหลายร้อยตัว ทำให้ทางวัดต้องแบกรับภาระเลี้ยงสุนัขและแมวเหล่านี้กว่า 200 ตัว แยกเป็นสุนัขร้อยกว่าตัว แมวอีกกว่า 20 ตัว ค่าอาหารในแต่ละเดือน ทั้งอาหารเม็ด อาหารคาว ใช้เงินเดือนละกว่า 5 หมื่นบาท ไม่รวมค่ารักษาพยาบาลยามสัตว์เจ็บป่วยและค่าฉีดยาป้องกันโรคต่างๆ

พระครูสมุห์สิทธิโชค กล่าวต่อว่า ส่วนที่ดินที่ใช้ปลูกข้าวเลี้ยงสุนัขและแมวนั้น มีผู้ใจบุญให้ใช้พื้นที่ว่างที่ติดกับวัดจำนวน 43 ไร่ ให้ทางวัดได้ปลูกข้าวไว้เลี้ยงสัตว์เหล่านี้ โดยผลผลิตส่วนหนึ่งจะเก็บไว้เลี้ยงสุนัข ส่วนที่เหลือนำไปจำหน่ายให้กับโรงสีข้าว กำไรที่ได้ก็จะนำมาเป็นค่าอาหารเม็ดและค่ารักษาพยาบาลสุนัขและแมวที่ป่วย ซึ่งการทำนานั้นทางวัดอาศัยแรงจากชาวบ้านที่ใจบุญและอาสาสมัคร รวมทั้งพระเณรและลูกศิษย์ช่วยกัน เมื่อชาวบ้านเห็นก็สงสารมาลงแขกช่วยตลอด สำหรับข้าวที่ปลูกเราเน้นเรื่องปลอดสารพิษ ใช้ปุ๋ยขี้ไก่ และขี้วัวแห้ง ผสมกับน้ำหมักอีเอ็มที่ทางวัดทำเอง หากมีแมลงมารบกวนก็พยายามหลีกเหลี่ยงการใช้สารเคมี

"ความเป็นอยู่ของสุนัขและแมวในวัด เราเลี้ยงดูอย่างดี เพราะถือว่าสัตว์ก็มีชีวิต เหมือนกัน ทำกรงเป็นห้องๆ อยู่กันอย่างไม่แออัด ใช้งบประมาณก่อสร้างหลังละกว่า 1 แสนบาท กั้นห้องอย่างดี มีคนงานประจำทำความสะอาดวันละ 2 คน ให้อาหารวันละ 2 มื้อ เช้า-เย็น อาบน้ำอาทิตย์ละครั้ง และมีการฉีดยาป้องกันโรคตลอด ทางวัดเลี้ยงแบบปล่อยในตอนเช้า และจะให้เข้ากรงในตอนเย็น สุนัขที่มีคนนำมาปล่อยมีเกือบทุกพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ พิตบูลเทอร์เรีย ฮัสกี้ไซบีเรีย พุดเดิ้ล และสุนัขพันธุ์ไทย" พระครูสมุห์สิทธิโชค กล่าว

และว่า อาตมาได้รับการสั่งสอนมาจากพระอาจารย์สิงห์เสมอว่า "ยิ่งให้ยิ่งมา ยิ่งเมตตายิ่งรวย" เพราะสัตว์นั้นเลือกเกิดไม่ได้ เมื่อมาอยู่กับเราแล้วต้องดูแลเป็นอย่างดี หากเขาจับเราไปขัง เราก็ไม่ชอบ เช่นเดียวกับสุนัขและแมว ก็ต้องการชีวิตอิสระเหมือนกัน

ด้านพระครูกิตติวิริยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่า การที่พระทำนาเลี้ยงดูสุนัขและแมว ไม่ถือว่าผิดวินัยสงฆ์ เพราะเป็นการทำบุญกับสัตว์ ที่ผ่านมา ทางวัดไผ่เหลืองเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้อย่างจริงจังและทำมานาน จนมีคนนำสุนัขและแมวมาปล่อยที่วัดจำนวนมาก เมื่อมีคนปล่อยทิ้งพระก็ต้องเลี้ยงไว้เพราะความสงสาร และเลี้ยงอย่างดี ค่าใช้จ่ายก็มากเพราะมีหลายตัว

"มีคนเอาหมาแมวมาปล่อยที่วัด ถ้าพระไม่เลี้ยงแล้วใครจะเลี้ยง คนส่วนใหญ่พอเห็นว่าสัตว์มีรูปร่างสวย น่ารัก ก็เลี้ยงไว้ดู แต่พอเป็นขี้เรื้อน ไม่สวย ไม่ถูกใจ ก็เอามาปล่อยวัด พระก็ต้องเลี้ยงดู เพราะสัตว์ก็มีชีวิตเหมือนกัน" พระครูกิตติวิริยาภรณ์ กล่าว

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakUyTURjMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdOeTB4Tmc9PQ==

ฝากถึงประชาชนธรรมดาครับ คิดจะเลี้ยงหมาแมวควรมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่หมดสนุกไม่อยากเลี้ยงก็ไปปล่อยวัด เป็นภาระให้ทางวัด

จะเอาอะไรถวายพระถวายวัด หรือไปฝากไปปล่อย ควรคิดถึงพระบ้างว่าเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่

ของบางอย่างไปถวายพระ อาจเป็นของดีสำหรับเราคนธรรมดาแต่จะของที่ไปเพิ่มกิเลสให้พระ เช่นอาหารการกิน รถยนต์เครื่องอำนวยความสะดวกเกินความจำเป็น บางอย่างก็เพิ่มภาระให้ทางวัดอย่างเช่นกรณีข่าวนี้

แต่ต้องขออนโมสาธุพระวัดนี้ ที่ท่านมีใจเมตตาสัตว์โลกและหาวิธีแก้ไขที่ดีได้

ว่าแต่ประชาชนอย่างเราจะไปช่วยท่านทำนากันหรือบริจาคเงินค่าเลี้ยงสุนัขหรือจะเอาสุนัขไปปล่อยเพิ่มให้วัดกันอีก

จากคุณ : jenas79
เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 17:29:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com