Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แล้วเราก็ต้องจากกัน... กับ 16 ปีที่ผ่านมา.... ติดต่อทีมงาน

16 ปีที่แล้ว ผมได้ไปทำงานหลังเลิกเรียนในร้านสัตวแพทแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 109

มีอยู่วันหนึ่ง มีคนเอา พุดเดิ้ล ตัวผู้สีขาวตัวน้อยมาฝากขายในร้านในราคา 2000 บาท  ซึ่งผมเองก็นึกในใจว่าราคาเท่ากับค่าแรงผมทั้งเดือนเลย....
อยู่มาเป็นอาทิตย์มันก็ยังไม่ได้ไปไหน นอนหนาวในกรงภายในร้าน ไม่มีใครรับไปดูแลเสียที
.... ในที่สุด ไม่รู้อะไรดลใจหรือสงสาร ผมเลยบอกหมอว่า ผมขอรับเจ้าพุดเดิ้ลตัวนี้ไปเอง แต่ขอตัดเงินไปเดือนละ 1พัน นะครับ ....
   
    ผมตั้งชื่อมันว่า ปิงปอง ด้วยความที่มันเป็น พุดเดิ้ลสีขาว ตัวเล็กๆ และดูซนๆ อารมณ์เหมือนลูกปิงปองเด้งไปมา แต่ใครๆกลับชอบเรียกมันว่า "ลูกแกะ"
    พอมันอายุ 3 เดือน ผมก็ฝึกให้มันสวัสดี ซึ่งมันก็ฉลาด เรียนรู้เร็วมากๆ สวัสดีได้ทั้ง เท้าซ้ายและเท่าขวา มันน่ารักมากๆเลย
    ....แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อมันฉี่ไม่เป็นที่และชอบฉี่ในบ้าน เป็นจุดๆ (ฉี่ทำเครื่องหมายอนาเขต) ซึ่งได้พยายามฝึกให้มันมาฉี่ข้างนอก มันก็ฉี่จริง แต่ก็ยัง ชอบทำอนาเขตในบ้าน จึงโดนแม่ผมเอาสายจูงคล้องคอไว้ในบ้านตลอด แทนที่จะได้วิ่งเล่นทัั้งวัน กลับได้วิ่งแค่บางช่วง โดยส่วนใหญ่ต้องผูกไว้ในบ้านป้องกันมันฉี่เรียราด.... แต่จุดที่ผูกไว้ ก็ใกล้กับ ที่นั่งเล่นคอมผมอยู่แล้ว
    6 ปี ผ่านไป ผมต้องไปเรียนต่อที่ ตจว และกลับบ้านแค่เดือนละครั้ง จึงทำให้ ไม่เค่อยได้อยู่กับ ปิงปอง สักเท่าไหร่....
    ...... วันหนึ่ง แม่ผมโทรมา บอกให้ผมอย่าตกใจ... แล้วก็บอกว่า ปิงปอง ตาบอดทั้งสองข้าง.....  ผมอึ้งไปพักใหญ่และร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจสุดๆ ร้องอยู่นานมาก ซึ่งแม่ก็บอกว่า ตามันเป็นฝ้าขาวๆทีละข้าง ซึ่งแม่เองก็ไม่รู้ว่ามันจะมองไม่เห็น....
       .....  ผมเสียใจมากๆ ไม่รู้จะช่วยมันอย่างไร ผ่าตัดก็ไม่ไหว เพราะฐานะทางบ้านตอนนั้นก็แย่ พ่อก็ตกงาน ผมก็เรียน แม่ก็ต้องทำงาน มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะผ่าตัดตาให้มัน....  ทำไมมันถึงโชคร้ายต้องตาบอดตั้งแต่ตอนอายุแค่ 6-7 ปีเท่านั้น...
       ผมกลับมาบ้านและเห็นมันตาบอดเป็นครั้งแรก ผมนั่งน้ำตาไหล แต่มันยังคงกระดิกหางด้วยความดีใจที่ได้กลิ่นผมกลับมาบ้านและยกมือสวัสดีผมเหมือนเดิม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น .... มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิด ที่ดูไม่ได้อยู่ดูแลมันให้ดีจนมันตาบอด....
       .... ความโชคร้ายของมันยังไม่หมด เมื่อวันนึงแม่ผมเปิดประตูรั้วทิ้งไว้แล้วมันเดินออกไป โดนหมาจรจัดหน้าบ้านกัดเข้าที่คอ ซึ่งกว่าผมจะกลับมา รูแผลเล็กๆกลับกินเนื้อเพิ่มขึ้น จนเป็นช่องโหว่ขนาดเกือบเท่าลูกกอล์ฟ ผมงงมาก ที่รูเล็กๆ มันขยายและลามได้ขนาดนี้ .. แม่ผมก็บอกว่า มันกินข้าวน้อยลง มันคงไม่รอดแล้ว....  ผมเดินไปหามัน ลูบหัวมัน มันกระดิกหางแบบเบาๆ เห็นได้เลยว่ามันไม่ค่อยมีแรง ตัวร้อน และไม่ค่อยกินข้าว....
.... ผมลังเล ว่าจะนำมันไปรักษาดีหรือไม่ เพราะที่บ้านไม่มีเงินเลย แต่ผมก็ไม่อยากให้มันตายโดยไม่ทำอะไร...
   สุดท้าย ผมขอยืมเงินเพือ่นพามันไปรักษาที่ร้านสัตวแพทย์ที่ผมได้มันมานั่นแหละ ซึ่งโชคดีมากที่พี่ในร้านเขาคิดแค่ค่ายาเท่านั้น ผมจึงเสียเงินไม่มาก มันต้องถูกวางยาตัดเนื้อดึงเนื้อมาเย็บติดกันและให้ยา ในที่สุดมันก็ดีขึ้นในไม่นาน
     จนเมื่อผมย้ายบ้าน ที่บ้านใหม่เนื้อที่น้อยลง แม่ผมเริ่มหงุดหงืดมากขึ้น เพราะต้องดูแลพ่อที่เป็นอัมพาต(เมื่อก่อนไม่เป็น) แล้วไหนจะต้องมาดูแลหมาตาบอดอีก แม่ผมจึงเอามาผูกไว้นอกรั้วบ้านทุกวัน เพราะไม่อยากล้างอึ กับฉี่ เวลา มันฉี่ในรั้วบ้าน
      ผมทะเลาะกับแม่หลายครั้ง เพราะสงสารเจ้าปิงปอง แต่ทุกครั้งผมก็แพ้ เพราะผมต้องออกไปทำงาน แต่แม่ ต้องคอยดูและ ทั้งพ่อและปิงปอง จึงเหนื่อย หงุดหงิด และต้องยอมให้แม่ ผูกไว้นอกบ้าน..

แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 54 22:21:23

จากคุณ : Neomaru
เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 22:15:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com