Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คุณยายโอลีฟ คอกเกอร์แก่ ตาบอดทั้ง 2 ข้าง หลงทาง โชคดีได้พบผู้ใจบุญช่วยเหลือจนได้กลับบ้านอีกครั้ง ติดต่อทีมงาน

น้องโอลีฟ เป็นคุณยายคอกเกอร์ อายุมากกว่า 10 ปี ตาบอดทั้งสองข้าง หายออกจากบ้านที่ อ.ศรีราชา ชลบุรี ในคืนวันเสาร์ที่ 23 ก.ค. โดยที่เจ้าของน้องโอลีฟไม่ทันเห็นว่า น้องโอลีฟเดินหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อไหร่

 

น้องโอลีฟเดินคลำทางสะเปะสะปะมาไกลมาก ข้ามทางรถไฟ เดินผ่านทางเปลี่ยวที่ข้างทางมีแต่ป่าหญ้ารกไม่มีบ้านคน น้องเดินด้วยความตื่นตกใจมาจนถึงหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตรงกลางทาง ในสภาพที่มีดอกหญ้าติดอยู่เต็มหัวและขนบริเวณหูทั้งสองข้าง โชคดีที่น้องน้ำได้ยินเสียงน้องหมาในหมู่บ้านเห่ากันเสียงดัง จึงเดินออกจากบ้านมาดู

 

น้องน้ำเห็นน้องโอลีฟพยายามเดินชิดริมกำแพงบ้านหลังต่างๆในหมู่บ้าน พอน้องเดินผ่านบริเวณประตูของบ้านแต่ละหลัง ซึ่งจะมีช่องว่างด้านใต้ประตู น้องก็พยายามจะมุดเข้าไป เหมือนพยายามจะหาทางเข้าบ้าน ดูน่าสงสารมาก

 

ตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่มแล้ว น้องโอลีฟคงทั้งตื่นกลัว ตกใจและหิวน้ำ เพราะลิ้นของน้องห้อยยาวออกมาจนเกือบจะถึงพื้นเลย น้องน้ำจึงรีบเอาน้ำ เอาข้าวไปวางไว้ใกล้ตัวน้อง แต่น้องไม่ยอมแตะทั้งน้ำและอาหาร ทั้งที่น้องน้ำพยายามยกน้ำจ่อให้ที่ปากแล้ว น้องโอลีฟมีอาการกลัวและไม่ไว้ใจ ส่งเสียงขู่ตลอดเวลา น้องน้ำจึงยังไม่สามารถเข้าใกล้ตัวน้องได้มากกว่านี้

 

หลังจากที่ให้คนในบ้านออกมาช่วยเฝ้าน้องไว้ น้องน้ำก็รีบออกไปตามคุณหมอที่คลินิกประจำมาดู และพาน้องไปพักอยู่ที่คลินิกก่อน คุณหมอบอกว่า วันรุ่งขึ้น คงต้องพาน้องไปร้านตัดขน เพื่อโกนขนที่มีดอกหญ้าติดจนขนพันกันยุ่งไปหมดแกะไม่ออกเลย

 

วันรุ่งขึ้นคุณหมอตรวจร่างกายน้องอย่างละเอียด และต้องให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง เพราะน้องมีอาการอ่อนเพลียและกินอาหารไม่ได้ ฉีดยาแก้ไข้และยากันเห็บหมัดให้พร้อมตรวจเลือด พอวันจันทร์ก็ทราบผลเลือด ปรากฏว่า น้องเป็นพยาธิในเม็ดเลือด เกร็ดเลือดต่ำและมีอาการของโรคผิวหนัง คือ เป็นเชื้อรา ซึ่งถ้าไม่ได้พาไปอาบน้ำตัดขน จะดูไม่รู้เลยว่าน้องมีโรคผิวหนังซ่อนอยู่

 

แต่กว่าที่คุณหมอและน้องน้ำจะพาน้องไปตัดขนได้สำเร็จ คุณหมอและน้องน้ำต้องพาน้องตระเวนหาร้านตัดขนถึง 6 ร้าน เพราะ 5 ร้านแรกปฏิเสธไม่มีร้านไหนยอมรับตัดขนให้น้องเลย เพราะน้องแก่มากแล้ว ขนก็พันกันยุ่งมีดอกหญ้าติดเต็มไปหมด ตัดขนยากมาก จนมาถึงร้านที่ 6 คือ ร้านตัดขน “แฟมิลี่ เลิฟ ด็อก” ที่อยู่วัดท่าค้อ ต.สุรศักดิ์ ที่รับตัดขนให้น้องด้วยความสงสารน้องหมาจริงๆ แถมยังคิดค่าตัดขนให้น้องในราคาปกติไม่บวกเพิ่มค่าความยากด้วย ขอขอบคุณร้าน แฟมิลี่ เลิฟ ด็อก ที่เมตตาน้องคอกเกอร์แก่ที่น่าสงสารตัวนี้นะคะ      

 

คุณหมอบอกว่า จากภายนอก สภาพร่างกายโดยรวมของน้องเป็นปกติ ตาทั้งสองข้างบอดสนิท การใช้งานของหูไม่ค่อยดีแล้ว บางครั้งได้ยิน บางครั้งก็ไม่ได้ยิน แต่น้องจะรับรู้จากการสัมผัสได้ดี

 

น้องโอลีฟโชคดีมากที่เดินมาถึงหมู่บ้านที่น้องน้ำอยู่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางทางได้โดยไม่ถูกรถชนหรือถูกน้องหมาเจ้าถิ่นรุมกัด เพราะระหว่างทางนับเป็นกิโลๆ จะไม่มีบ้านคนเลยนอกจากทางเดินรถและป่าที่มีแต่ต้นหญ้าขึ้นรก

 

ตอนแรกน้องน้ำคิดว่า น้องโอลีฟจะต้องถูกเจ้าของพามาปล่อยทิ้งอย่างแน่นอน เพราะจุดที่เจอน้องเดินหลงมานั้น เป็นทางเปลี่ยวซึ่งข้างทางก็มีแต่ป่ารก ไม่น่าที่น้องจะเดินมาเองได้ แต่น้องน้ำก็ได้ฝากบอกคนแถวบ้านว่า หากมีคนมาถามหาน้องให้มาติดต่อที่น้องน้ำ

 

จนถึงวันพฤหัสที่ 28 ก.ค. ก็มีคุณยายคนนึงติดต่อมาหาน้องน้ำ บอกว่าเป็นเจ้าของของน้องโอลีฟ และได้เดินทางมาหาน้องน้ำ

 

พอคุณยายเห็นและเรียกชื่อของน้องโอลีฟ ปรากฏว่า น้องโอลีฟดีใจมาก คุณยายก็ร้องไห้กอดน้องโอลีฟใหญ่เลย

 

น้องน้ำบอกว่า คุณยายเป็นชาวบ้านที่รับจ้างเกี่ยวหญ้า มีรายได้น้อย คุณยายได้น้องโอลีฟมาเนื่องจากลูกสาวเป็นคนนำมาให้เลี้ยง คุณยายเลี้ยงน้องโอลีฟแบบปล่อยให้เดินไปเดินมาในบริเวณบ้าน ซึ่งไม่มีรั้วรอบขอบชิดอะไร และไม่ทันเห็นว่า น้องโอลีฟเดินหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อไหร่

 

เนื่องจากน้องโอลีฟยังอยู่ระหว่างการรักษาและต้องกินยาอยู่ น้องน้ำจึงขอร้องคุณยายให้น้องโอลีฟได้รักษาอยู่ที่คลินิกก่อน แต่คุณยายอยากรับน้องกลับไปที่บ้านทันที คุณยายบอกว่า จะป้อนยาให้น้องกินที่บ้านเอง ซึ่งคุณยายมีท่าทีกังวลกับค่าใช้จ่ายในการรักษาน้องที่ผ่านมา

 

น้องน้ำจึงบอกคุณยายว่า น้องน้ำไม่ได้คิดที่จะเรียกเงินค่ารักษาของน้องจากคุณยาย  เพียงแต่ขอร้องให้คุณยายระมัดระวังในการดูแลน้องโอลีฟให้ปลอดภัย อย่าให้น้องเดินหลงออกมาอีกก็พอ เพราะหากมีครั้งต่อไป น้องโอลีฟอาจจะไม่โชคดีอย่างในครั้งนี้ ซึ่งคุณยายก็รับปากและได้พาน้องโอลีฟกลับบ้านในวันนั้นเลย

 

น้องน้ำผูกพันและเป็นห่วงน้องโอลีฟมาก 5 วันที่น้องต้องหลงมา น้องน้ำได้ไปเยี่ยมทุกวันเช้า-เย็น พาไปเดินเล่น จนน้องโอลีฟคุ้นเคยและดีใจที่ได้ยินเสียงน้องน้ำเรียกน้องว่า “คุณยาย” ช่วงที่ยังไม่เจอเจ้าของ น้องโอลีฟจะวางใจเฉพาะคุณหมอยุวดีและน้องน้ำเท่านั้น น้องน้ำจึงได้ขอตามไปส่งน้องโอลีฟที่บ้าน เพื่อติดตามการรักษาของน้องโอลีฟที่ยังไม่เสร็จสิ้นด้วย โดยคุณหมอได้นัดให้พาน้องมาตรวจเลือดอีกครั้งในวันที่ 15 ส.ค.

 

น้องน้ำเป็นเด็กที่มีจิตใจดีและเมตตาต่อน้องหมามากค่ะ ก่อนที่น้องโอลีฟจะได้เจอเจ้าของ น้องน้ำบอกว่า จะรับดูแลน้องจนกว่าจะหาบ้านใหม่ให้น้องได้ ทั้งที่บ้านของน้องน้ำก็มีน้องหมาอยู่ถึง 5 ตัวแล้ว ล่าสุดน้องน้ำเพิ่งรับเลี้ยงลูกหมาพิการขาหลังถาวร ต้องใช้รถเข็นจากห้องพันทิปมาอีก 1 ชีวิต

 

และน้องน้ำซึ่งมีลูกอ่อน ก็เพิ่งจะได้งานทำ และจะต้องย้ายไปอยู่บ้านเช่าใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค. อันที่จริงน้องน้ำเองก็ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในการรักษาน้องโอลีฟ แต่ด้วยความสงสารน้อง จึงต้องไปขอยืมเงินจากเพื่อนมาเป็นค่ารักษาของน้องก่อน

 

น้องโอลีฟรอดชีวิตจนมีโอกาสได้กลับไปอยู่ที่บ้านกับคุณยายอีกครั้ง ด้วยความใจดีมีเมตตาของน้องน้ำอย่างแท้จริง

 

น้องน้ำตั้งใจว่าจะติดตามดูแลน้องโอลีฟต่อไป เนื่องจากการรักษาของน้องยังไม่เสร็จสิ้น และคุณยายเจ้าของน้องโอลีฟก็ไม่มีเงินในการรักษาน้อง

 

หากท่านใดต้องการให้คำแนะนำช่วยเหลือเพื่อให้กำลังใจน้องน้ำที่มีจิตเมตตาต่อน้องหมา ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีกำลังเพียงพอ สามารถติดต่อน้องน้ำได้ที่เบอร์ 082 713 2836 หรือคุณหมอยุวดี คลินิกยุวดี สัตวแพทย์ เบอร์มือถือ 085 229 4018 เบอร์โทรคลินิก 038-324-957 นะคะ ขอบคุณค่ะ

 
 

จากคุณ : คัทลียาสีชมพู
เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 19:23:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com