เข้ามาแจ้งข่าวการสำรวจและเชิญหลายๆท่านเพื่อการพัฒนาสุขอนามัยน้องหมาคลอง 12 ค่ะ{แตกประเด็นจาก J10970449}
|
 |
ขอแตกประเด็นจากกระทู้ก่อนน่ะค่ะ
จากครั้งแรกที่ดิฉันแจ้งว่า จะเชิญท่านผู้หนึ่งเข้ามาดูการเป็นอยู่ของน้องหมาคลอง 12 จากครั้งแรกเราตกลงกันว่า เราจะไปกันวันศุกร์นี้ แต่ เมื่อวานนี้ดิฉันโทรไปแจ้งท่านว่า ดิฉันได้แจ้งทางเทศบาลและทางคุณหมอสุรพงษ์เรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า ท่านก็บอกดิฉันว่า คุณมณฑ์ งั้นเราไปกันวันนี้เลยแล้วกัน หลังจากที่ดิฉัน คุยกับท่านแล้ว ดิฉันก็ถามว่า ถ้าดิฉัน นำชื่อของท่านลงกระทู้ ท่านจะอนุญาตหรือปล่าวค่ะ ท่านก็อนุญาต
ท่านผู้นี้ชื่อ คุณนิดา ค่ะ ทำงานอยู่สมาคมสงเคราะห์สัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ค่ะ หลังจากที่เราไปถึงที่คลอง 12 ได้เจอคุณหมอสุรพงษ์ และได้ร่วมพูดคุยกัน ดิฉันก็แจ้งท่านว่า สิ่งแรก ที่ดิฉันอยากทำ คือ อยากติดเครื่องสูบน้ำ และต่อท่อประปา เข้าไปกรงกลางก่อน เพราะที่นั่นไม่มีน้ำสะอาดทาน และไม่สามารถที่จะล้างพื้นที่รอบๆ ได้ คุณหมอก็ได้อธิบายว่า ปกติถ้าจะล้างก็หมายถึงจะมีรถขนน้ำของเทศบาลเข้าไปและต่อท่อเข้าไปล้าง แต่จาก 6 อาทิตย์ที่ดิฉันเข้าไป พื้นตรงนั้นดูหนาโดยไม่ผ่านการล้างเลย แต่เราก็ต้องเข้าใจด้วยน่ะค่ะ ว่า คนของทางราชการมีน้อย และมีอีกมากมายที่ไม่รักน้องหมา เพราะฉะนั้น ดิฉันก็เข้าใจว่า อาจจะมีบางคนที่ไม่พอใจที่จะเอางบประมาณมาใช้จ่ายเพื่อน้องหมาค่ะ อันนี้ต้องยอมรับว่าต่างจิจต่างใจกันค่ะ
ดิฉันก็บอกแล้วว่า เราก็ควรมองทุกๆอย่างอย่างเป็นกลาง และจะต้องเรียนรู้ภายใต้จิตใจของคนในเวลาเดียวกัน เหมือนกับบางท่านทำงานกับน้องหมาเพื่อหวังผลประโยชน์ สำหรับดิฉัน ดิฉันพยายามมองด้วยความเป็นกลาง ดิฉันเคยเข้าไปเยี่ยมป้าสำรวย และถามหลายๆเรื่อง กับป้าสำรวย ดิฉันเห็นคุณป้า สุขภาพก็ไม่ค่อยดี และเห็นมีคนทำความสะอาดที่นั่น ประมาณ 4-5 คน ถามป้าสำรวย คุณป้าท่านก็บอกว่า ต้องจ้างเขาวันละ 200 บาท ลองคิดดูซิค่ะว่า ตกวันละ 1,000 บาท แล้ว ไหนค่าอาหาร ค่าอะไรอีกจิปาถะ คุรป้าก็บอกอีกว่า บางที ช่วงไหนที่ไม่มีคนบริจาค ท่านก็ติดค่าอาหารทางร้านไว้เหมือนกัน นี่คือสิ่งหนึ่งที่ดิฉันคิดว่า ถ้าหาก มีคนบริจาคกับป้าแล้ว ป้าจะเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายจิปาถะ ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะจะมีอีกสักกี่คน ที่มีความสามารถ มาดูแลน้องหมาได้ตลอดชีวิต มันเป็นงานที่หนัก และ ต้องอดทน ประกอบด้วยความรักเป็นพื้นฐานไปด้วย ที่ดิฉันเล่าให้ทุกท่านฟัง เพราะ ดิฉันว่า คงมีคนหลายร้อย ที่มองว่า ป้าสำรวยหากินกับหมา นั่นเป็นเพราะคนๆนั้น ไม่เปิดใจกว้าง คนที่ว่าคนอื่น มีความสามารถ ทำได้อย่างคุณป้าได้หรือปล่าว ก็ไม่ทราบได้
เหมือนที่ดิฉัน เคยลงกระทู้ดูหมอ และ ดิฉันแจ้งว่า เงินบางส่วนนำไปช่วยน้องหมา ก็มีคนหาว่าดิฉันโฆษณา ทำไมไม่ให้ทั้งหมดล่ะ นั่นเป็นเพราะเขาไม่มองโลกในความเป็นจริง เพราะดิฉันต้องจ่ายค่าน้ำมันในการติดต่อประสานงานทุกอย่าง ดิฉันก็ยังต้องดูแลลูก แถมน้องหมาอีกตั้ง 17 ตัวอีก นี่ไงค่ะ คือตัวอย่างง่ายๆ ของจิตใจแต่ละคน และการที่เราเป็นหมอดูทำให้อ่านจิตใจคนมาเป็นร้อย คำพูดของแต่ละคน ทำให้ดิฉันเห็นสัจธรรมมากขึ้น ดิฉันไม่ได้โกรธเขาหรอกน่ะค่ะ เพราะเข้าใจดี ก็ได้แต่มอง และปลง ก็แค่นั้น มีอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับน้องหมาคลอง 12 แต่ไม่อยากเล่าค่ะ ให้คนที่เป็นคนพูด กลับไปคิด และ พิจารณา การกระทำของตนเอง คงจะดีเสียกว่า
กลับมาพูดถึงเรื่องน้องหมาดีกว่าค่ะ ดิฉันก็ได้ถามคุณหมอว่า การเดินท่อประปาเข้าไปกรงกลางจะได้มั๊ย ท่านก็บอกว่า แค่ต่อท่อเข้าไปก็ได้แล้ว และดิฉันก็บอกว่า มีผู้ที่มีจิตอาสามาช่วย และเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง เอาไว้ใช้จะเพียงพอ ที่จะใช้ไปก่อน ได้หรือไม่ ท่านก็บอกว่า ได้ และท่านก็บอกว่า จะติดเครื่องกำจัดยุงให้น้องหมาด้วย ดิฉันก็ถามว่า น้ำในแอ่งเนี่ยมีโอกาสหมุนเวียนหรือปล่าว เพราะจากกรณีที่สุนัขตายเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ดิฉันกลัวว่าน้ำจะสกปรกและมีเชื้อโรค ท่านก็บอกว่า ท่อดิฉันเห็นนี่ สามารถเปิด ปิดได้ โดยเปิดท่อ และให้น้ำในคลองข้างนอกไหลเข้ามา ดูปริมาณเพียงพอก็ปิด แต่เขาจะเปิดสักกี่วัน ดิฉันก็ไม่ได้ถามน่ะค่ะ เพราะบางเรื่อง เราก็ต้องละเว้นไปบ้าง เป็นการให้เกียรติไปในตัว อย่างที่ว่า แหละค่ะ แค่เขามีใจที่ดูแล น้องหมาบ้าง ก็ดีแล้ว ค่ะ เพราะท่านเป็นหมอคนเดียว ที่ดูแลน้องหมา ตอนนี้ท่านบอกว่า 400 ตัวแล้วค่ะ
ทางคุณนิภา ท่านก็บอกว่า เดี๋ยวท่านจะไปแจ้งนายกสมาคมให้ทราบ ส่วนดิฉัน อาทิตย์จะเข้าไปร่วมประชุมกับสโมสรโรตารี เพื่อขอความร่วมมือ ในการจัดซื้อ เครื่องสูบน้ำ อาจจะต้องใข้เวลา แต่ดิฉันก็จะพยายามทำให้ น้องหมามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นค่ะ และดิฉันก็ได้บอกท่านไปว่า ดิฉันไปลงคอร์สเรียน อาบน้ำ ตัดขนหมาที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน แล้วด้วย เพื่อมาตัดขนน้องหมา คลอง 12 ด้วย อาบน้ำ ตัดขน และขออนุญาตท่านที่จะแยกกรงน้องหมา เหล่านั้นออกมา เพื่อหาบ้านให้เขาต่อไป สุนัขที่ดิฉันจะตัดขน จะเป็นสุนัขที่มีพันธุ์ และน่าจะพลัดหลงเจ้าของมา การที่ดิฉันทำอย่างนี้ เป็นการให้เกียรติคุณหมอ ดังนั้น เป็นผลดี ที่ดิฉันได้รับความร่วมจากคุณหมอเต็มร้อยเลยทีเดียว ท่านยังบอกว่า ดีจังที่ดิฉันไปเรียนตัดขนหมา ท่านก็อยากส่งคนไปเรียนด้วย ดิฉันจึงเรียนว่า เรียนฟรีค่ะ อาจารย์ที่สอนก็มาจาก สถาบัน ด็อก ทู โฮม รอบที่แล้ว ลงเรียน 40 คน แต่มาเรียน แค่ 20 กว่าคน ดิฉันว่า ไม่สะดวกการเดินทางมากกว่า ยังไงก็ขอเชิญชวน ท่านผู้ใดสนใจไปเรียน คอร์ส อาบน้ำ ตัดแต่งขนสุนัข ก็เชิญได้ค่ะ เรียนฟรี แถมมีที่พักสำหรับ ท่านที่มาจากต่างจังหวัดด้วยค่ะ
อาทิตย์หน้าดิฉันก็คงต้องเข้าไปที่น้องหมาคลอง 12 อีกค่ะ เพื่อถ่ายรูป และ ทำรายงาน เพื่อเสนอ ต่อทางสโมสรโรตารี ในอาทิตย์หน้าอีก และ จะเข้ามาแจ้งข่าวอีกครั้ง
และขอขอบคุณ คุณนิดา มา ณ โอกาสนี้ด้วยน่ะะ เราก็ร่วมกันคนละไม้คนละมือ เพราะ งานทุกแก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 54 10:34:41
จากคุณ |
:
ปมณฑ์
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ส.ค. 54 10:31:52
|
|
|
|