หู ................................. (2)
|
 |
ผลจากการตรวจละเอียด พบว่า สุนัขเป็นสารพัดโรค ตั้งแต่ขี้เรื้อน ช่องหูอักเสบ หมักหมมจนเกือบตัน กล้ามเนื้อขาทั้ง 4 ข้างอ่อนแรง พยาธิในเม็ดเลือด หนอนหัวใจ และอื่นๆ
คุณหมอท่านนั้น บอกว่าไม่อยากให้เราเสียค่าใช้จ่ายเยอะ แต่เราต้องเรียนรู้อีกมาก ซึ่งเราก็ตกลงที่จะเรียนรู้
วิธีการของหมอก็แสนจะง่าย คือ บอกการดูแล รักษา ตัวยา การให้ยา ทีละโรค บอกแม้กรัทั่ง แหล่งขายส่งยาที่หมอซื้อ
ใช้เวลาเป็นเดือน กว่าจะจดครบ และเรียนรู้ + หัดลงมือทำ
หู - เข้าเรื่องสักกะที
ขั้นแรกก็คือ หมอให้เตรียมของตามที่หมอสั่ง แล้วเอาสุนัขและผู้จะให้การดูแลไปหา
สำลีที่ผ่านการฆ่าเชื้อ-ฟอร์เซบ-น้ำเกลือ-cutton bud-และยาต่างๆ รวมทั้ง เบตาดิน
ตอนนั้น ก็เพิ่งรู้นะ ว่า ถ้าเรามือหนักไป หรือหูแฉะมาก เริ่มเปื่อย --- อาจเกิดแผลได้ ถึงต้องเตรียมยาทาแผลให้พร้อม
พอไปถึง จัดการอุ้ม "แซม" (ผมเรียกเขาอย่างนั้น) ขึ้นเตียง -- ลูกน้องหมออุ้ม ผมไม่ไหว
จากนั้นก็เป็นการสอน แหม มาจับมือเมียเรา --- สอนแบบจับมือสอนกันเลย
ทำยังสุนัขไว้ใจ --- สัตว์แพทย์คนนี้ ไม่ชอบผูกปากสุนัข เขาจึงแนะให้ทำให้สุนัขไว้ใจเราให้ได้
อันนี้ไม่ยาก สำหรับคนที่ฝึกให่้สุนัขมีวินัยเป็น ... แต่ถ้าฝึกไม่เป็น ขอบอกว่า "โคตรยาก"
อ้อ แฟนผมเขาจะลงมือเองนะครับ ด้วยเหตุผลเดียวคือ นิ้วผมใหญ่
เมื่อสุนัขเชื่อใจเรา ก็ต้องเริ่มหัดสังเกตุอาการ --- ถ้าเขาจั๊กจี้หู ขาเขาจะเหยียด แล้วกระตุกถี่ๆ แต่ไม่มาก
ถ้าเขาเจ็บ เขาจะเริ่มมีอาการหนี ... อย่าให้เขาถึงกับสะบัดหัวหละ
พอเข้าใจการสังเกตุ ก็เริ่มสังเกตุหูภายนอก --- อย่าเพิ่งจับ
สังเกตุให้ดี ตรงไหนบวมหรือเปล่า ... ถ้าดูไม่ชัด ก็ส่องไฟ
ถ้ามีอาการบวม จำไว้ -- จำให้แม่น --- แล็วโทรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที อย่าทำไอะไรต่อ
จากนั้นก็เริ่ม - โดยการสัมผัสใบหู --- อย่าเอา 2 ยิ้วจับใบหูนะครับ นิ้วเดียว ค่อยๆลูบ ... เป็นการตรวจให้แนาใจว่า เขาเจ็บที่ไหน
เอาแค่ใบหูก่อนนะครับ เพราะจะเรอ่มทำความสะอาดจากใบหูเข้าไป
จากนั้นก็จับใบหูค่อยๆพลิกดู สกปรกมากไหม มีแผลไหม
ปล่อยใบหู ให้เขานอนนิ่งๆ แล้วหันมาเตรียมยา และอุปกรณ์
เรามักจะเริ่มทำความสะอาดด้วยการใช้สำลีจุ่มน้ำเกลือ ค่อยๆเช็ด เช็ดจากขอบใบหูเข้าไป
อย่าให้สำลีเปียกโชกนะครับ เอาแค่หมาดๆ
พอเช็ดบริเวณใบหูเสร็จ ก็เอาสำลีแห้ง เช็ด เพื่อให้แห้ง
ถ้ามีเห็บหมัด ก็ค่อยๆเอาออกมา ค่อยๆ เอานิ้วลูบตัวมันออกมา หรือจะทำอย่างอื่นก็ได้ แต่ระวัง อย่าให้เกิดแผลในใบหู
ถ้ามีคราบสกปรก เรามักจะใช้สำลีพันนิ้วมือ จุ่มน้ำเกลือ ค่อยๆเช็ด .. ไม่เร่งให้ต้องออกมาเร็วๆ เพราะถ้ามำแรงเพื่อให้ออกเร็ว เดี๋ยวสุนัขเจ็บ แล้วครั้งต่อไปจะทำยาก อีกทั้งอาจทำให้เกิดแผล
ค่อยๆทำแบบนี้ ค่อยๆทำลึกลงไป
ลึกแค่ไหน ลึกพอหรือยัง --- ผมอธิบายไม่ถูกครับ -- เอาเป็นว่า หูสุนัข ไม่เหมือนหูคน เช็ดได้ลึกกว่าหูคน
เมื่อเช็ดพอแล้ว ก็อย่าลืม เช็ดด้วยสำลีแห้ง จากนั้นก็หยอดยา ยาตามที่สัตวแพทย์สั่ง
ผมไม่ได้ทำมานับ 10 ปีแล้ว จึงไม่รู้ว่า ปัจจุบัน มียาอะไรบ้าง
การเช็ดหูทำเมื่อ
1. หลังการอาบน้ำ อย่าไว้ใจร้าน ทำเองแน่ใจกว่า
2. เมื่อสัตวแพทย์เห็นสมควรให้ทำ ข้อนี้ ต้องถามสัตวแพทย์ให้ละเอีดนะครับ ว่า ทำกี่วัน ถึงจะมาให้ดูอาการอีก
ถ้าสัตวแพทย์บอกให้ทำไปเรื่อยๆ ... ผมว่า มันขอบกลอยู่นะ
สัตวแพทย์แต่ละคน ก็เก่งคนละด้าน
สัตวแพทย์ที่สอนเรามา -- เป็นสัตวแพทย์ทั้งสามี-ภรรยา
สามีเก่งโรคทั่วไป และพาโว ดีสเทอเปอร์ --- เคยรักษาพาโวให้สุนัขที่บ้านผมจนหาย
ภรรยาเก่งศัลยกรรม
ป.ล. เวลาไปหาสัตวแพทย์ถามให้ละเอียดนะครับ
เป็นอะไร ทำไมถึงเป็น ป้องกันยังไง
ให้ยาอะไรมั่ง ยาตัวนี้แก้อะไร มีผลข้างเคียงไหม
ยาบางตัวเช่น ยาถ่ายพยาธิตัวแบน, ด็อกซี่ไซคลิน .... ควรให้อย่างถูกต้อง
โดยเฉพาะ ด็อกซี่ ต้องกินให้ครบโดส ม่ายงั้น ต่อไปจะเกิดการดื้อยา
ด็อกซี่นี่แหละ เป็นยากินแก้หนอนหัวใจ
อย่าถามแค่ เท่าไหร่
---------------------------------------------------------------------
เช่นเคย กระทู้นี้ โพสเพื่อแหย่ให้สมาชิกท่านอื่น เอาประสบการณ์มาแบ่งปันกัน
อย่าเชื่อผม --- อ่านแล้วพิจารณา
กาลามสูตร
| จากคุณ |
:
เฒ่าวัย 56  
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 ส.ค. 54 09:01:25
|
|
|
|
