Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เค้าคนซื้อ VS หรือเราคนขาย ใครกันแน่ ที่ไร้น้ำใจ ติดต่อทีมงาน

  เราคนขาย อันนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว (0 คน)
  เค้าคนซื้อ อันนี้สิแน่นอนกว่า (15 คน)
  ไร้น้ำใจทั้งคู่แหละ (2 คน)
  ก็แฟร์ดีแล้ว ไม่มีอะไรต้องมาบ่น (3 คน)

 0.00%
  เราคนขาย อันนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว (0 คน)
 75.00%
  เค้าคนซื้อ อันนี้สิแน่นอนกว่า (15 คน)
 10.00%
  ไร้น้ำใจทั้งคู่แหละ (2 คน)
 15.00%
  ก็แฟร์ดีแล้ว ไม่มีอะไรต้องมาบ่น (3 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 20 คน


เพิ่มเติม ส่วนด้านบนนิดนะคะ

มาเช็คเรตติ้งเรื่อยๆค่ะ อยากฟังความเห็นท่านที่โหวต ไร้น้ำใจทั้งคู่ กับแฟร์ดีแล้วน่ะค่ะ

เอ๋อยากทราบความเห็นต่าง(จากที่เอ๋คิด)เหมือนกันว่า เพราะอะไรถึงโหวต 2 ข้อนี้คะ เผื่อเอ๋จะได้รู้ และพิจารณาตัวเองด้วยน่ะค่ะ









และเอ๋ขอแจงเพิ่มเติมนะคะ เผื่อท่านใดคิดว่าเอ๋ค้ากำไรเกินควร (ที่โหวต  2 ข้อหลังอาจเป็นเช่นนี้ก็ได้)

1. สินค้าที่ขายทุกชิ้นเอ๋นำเข้าจากไทย มีค่าใช้จ่ายที่ถือว่าเป็นต้นทุน คือ ค่าสินค้า + ค่าจ้างให้คนไปซื้อให้ + ค่าขนส่งมาเยอรมนี + ภาษีนำเข้า + ค่าหีบห่อ

2. สินค้าที่นำเข้ามาจากไทย แม้จะซื้อมาถูกมากๆ แต่น้ำหนักของมาก ก็ทำให้ต้นทุนแพงมากเหมือนกัน เพราะลวดที่เหมาะสำหรับทำดอกไม้ที่เยอรมนีไม่มีค่ะ ต่อให้ราคาลวดมัดละ 5 บาท ก็ต้องสั่งเข้ามา

3. สินค้าล๊อตที่ขายให้ลูกค้าคนไทยไป เอ๋ขายให้โดยไม่ได้คิดค่าขนส่งจากไทยมาเยอรมนี ค่าภาษีใดๆเพิ่มอีกเลย

เช่น ผ้าใยบัว ปกติที่ไทยขายส่งโหลละ 180 บาท เอ๋ขายให้เค้า โหลละ 200 บาท (กำไรโหลละ 20 บาทตรงนี้ มันไม่จบตรงนี้นะคะ เพราะค่าอื่นๆเอ๋ไม่ได้คิดจากเค้าเลย แบบนี้เค้าเรียกว่าขาดทุนป่นปี้ค่ะ) ทั้งๆที่ร้านที่ไทยขายปลีก โหลละ 300 บาทแล้ว








แต่เมื่อเค้าเอาจากเอ๋ไปขาย

- ผ้าใยบัว ทั้งสีเหลือบ สีพื้น ประมาณ 60 โหล (จากที่ให้เกินๆไปด้วย) โหลละ 27 ยูโร (เป็นเงินไทย 1160 บาท) x 60 โหล = 69,600 บาทไทย (กำไร? อะไรก็ไม่ต้องจ่ายอย่างที่เอ๋จ่าย)

- ฟลอร่าเทป เอ๋ขายให้ม้วนละ 20 บาท (ถ้าขายที่ไทยก็คงได้กำไรอ่ะค่ะ แต่นี่เยอรมนีนะคะ ค่าส่งยังไม่ได้เลย) 225 ม้วน เค้าเอาไปขายม้วนละ 2 ยูโร(86 บาท)  x 225 ม้วน = 19,350 บาทไทยสบายๆ

- ลวดเอ๋รับมาถัวเฉลี่ยแล้ว กิโลละ 350 บาท อันนี้จำเป็นต้องคิดค่าส่งลงไปด้วย ขายให้เค้ากิโลละ 800 บาท 16 โล เค้าขายตกกิโลละ 40-50 ยูโร( ่1,720-2,150บาท)  x 16 โล = 27,520 - 34,400 บาท(เค้าเอาไปเำพิ่มอีก 2-3 โล รวมเป็น 18-19โล)

แค่คิด 3 อย่างนี้นะคะ ที่เหลือก็ ขายหมดนั่น ก็เศรษฐีเลยล่ะค่ะ ถ้าขายตามราคาที่เอ๋เคยขายนะคะ เพราะเค้าบอกจะขอขายราคานี้

ถ้าเค้าเลือกจะขายต่ำกว่า ก็ได้กำไรน้อยลง แต่ถ้าหมดล็อตนี้แล้วยังจะขายราคาต่ำกว่าที่เอ๋เคยขายอีก จะไม่ได้กำไรแล้วค่ะ เพราะต้นทุนที่เค้าจะนำเข้าเองจากไทยจะสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว เรียกว่าฟันกำไรครั้งเดียวจบ แล้วปิดกิจการไปเลย....














สำหรับของที่แบ่งอีกส่วนให้ลูกค้าต่างชาติ ก็ขายไม่ได้ราคาแล้ว เพราะของทำราคา ลูกค้าไทยเค้าเอาไปหมด สรุปคือ ไอ้ที่หวังว่าจะได้ทุนคืนบ้าง ก็กลายเป็นขาดทุนยับ

แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ช่วยให้เอ๋มองเห็นความสำคัญของเงินลดลง จากที่จะขายทุกอย่างในบ้าน เพื่อให้ได้เงินไปตั้งต้นใหม่ที่ไทย

ตอนนี้ เอ๋ก็เปลี่ยนเป็น ไม่คิดขายอะไรแ้ล้ว ใครอยากได้ก็มาเอาไปเลย ใครมีน้ำใจจะให้ค่าขนมลูกๆเอ๋ก็ขอบคุณ ถือว่าทำบุญ ทำทาน เพื่อให้การกลับไปใช้ชีวิตที่ไทยราบรื่น มีความสุขยิ่งๆขึ้นไป

คิดได้อย่างนี้ มีความสุขจัง เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคิดได้อย่างนี้มาก่อนเลย เพราะปกติจะทำบุญทีไร คิดจนบุญหดเหลือนิดเดียว 555...







----------------------------------
นานๆ จะตั้งกระทู้สักที เพราะมัวยุ่งหัวฟูอยู่กับการเคลียร์ข้าวของในบ้าน ปลายๆเดือนหน้านี้แล้ว ก็จะได้กลับถิ่นเกิดซะที โดยคุณสามีที่น่ารักคนเดิมยินดีที่จะละทิ้งบ้านเกิดของเค้าไปอยู่กับเราด้วยความเต็มใจ

หลังจากที่ทุกอย่างลงตัว คงมีโอกาสได้พบปะ ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆในห้องนี้มากขึ้น (อย่างที่ใจต้องการซะที เก็บกดมานาน 555)


วันนี้ไม่มีฮาวทู ไม่มีอวดคลังสมบัติใดๆ แต่เอ๋มีเรื่องไม่สบายใจมาขอระบายกับเพื่อนๆหน่อยนะคะ เหตุที่ขอนำเรื่องนี้มาระบายที่นี่ เพราะเรื่องนี้มันติกค้างในใจตลอดตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงเดี๋ยวนี้ นอนไม่หลับเลยค่ะ คือเอ๋น่ะเป็นคนคิดมาก คิดเยอะ ถ้าเป็นเรื่องดีๆ ก็จะพาสุขใจ หน้าตาสดชื่น กินได้ นอนหลับ ฝันดี

แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สบายใจก็ทำให้เครียดถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไมเกรนขึ้นกันเลยทีเดียว เลยขอระบายหน่่อยค่ะ เผื่อได้ยิน ได้ฟังข้อคิด คำติติงตากเพื่อนๆ แล้วจะทำอะไรๆในใจมันเบาบางลง...


เข้าเรื่องเลยละกันเนาะ ก่อนที่จะน้ำท่วมทุ่งไปกว่านี้

เมื่อวาน เสาร์เช้า มีลูกค้าคนหนึ่งมารับอุปกรณ์ทำดอกไม้ที่เอ๋ขายให้ จะเรียกว่าเทคโอเว่อร์ ก็ไม่เชิงนะ เพราะเอ๋ถือว่าเอ๋ขายให้เค้า ต่อไปเอ๋ก็ยังจับกิจการตรงนี้อยู่ เพียงแต่ย้ายที่ทำการไปไทยเ่ท่านั้น ถ้าเรียกว่าขายถูกๆจะโอกว่า

แต่สรุปก็คือ เค้ามาซื้อล็อตใหญ่ทีเดียว

เริ่มแรกที่มา 9 โมงนิดๆ บรรยากาศดีทีเดียว ทุกคนหน้าตาสดชื่นแจ่มใส เฮฮาปาทิงโก๊ะกันไปตามสไตล์ นานๆจะเจอคนไทยสักที เพื่อนๆในนี้ที่เคยเจอเอ๋ ก็คงจะพอทราบบ้างว่ามันน่าจะเป็นไงนะคะ

แฟนเอ๋อยู่เป็นเพื่อนจนแน่ใจแ้วว่าทุกอย่างโอเค ก็ขอตัวไปช่วยน้องชายย้ายของเข้าบ้านใหม่ (ช่วงนี้เป็นเทศกาลย้ายบ้านของครอบครัวค่ะ) เอาแรงเขาไว้ เราก็ต้องไปช่วยเขา

ระหว่างขนขนขึ้นรถ จนเสร็จ ทุกอย่างก็ปกติ ราบรื่นดี จนพร้อมที่จะกลับ เอ๋ก็ยังเสนอน้ำให้เค้าเอาไปไว้ดื่มระหว่างทาง อันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้คิดว่าเป็นน้ำใจใหญ่หลวงอะไร

เรื่องมันมาหักมุมเอาตอนจ่ายตังค์อ่ะค่ะ คนซื้อคนนี้ เค้าไม่ยอมจ่ายทันที ขอต่อราคา เอ๋ก็บอกไม่ได้ เพราะที่ขายให้ก็ต้นทุนก็ไม่ได้ กำไรก็ไม่มีแล้ว

เค้าเลยค้นที่กล่องที่เอ๋จัดไว้ให้ลูกค้าต่างชาติอีกคนที่จองไว้ แต่เผอิญว่าเค้าติดปัญหาเรื่องเงิน ยังไม่สามารถจ่ายได้ทันที แล้วลูกค้าต่างชาติคนนี้ไม่ได้วางมัดจำ เพราะซื้อขายกันมานานพอสมควร เราเอ๋ก็บอกเค้าเข้าใจแล้วว่า ถ้ามีคนขอซื้อระหว่างที่เค้ายังไม่พร้อม เอ๋ขอแบ่งเอาของไปขายก่อนนะ ก็เป็นอันเข้าใจกัน

แล้วขอลวดเมทัลลิคที่แพ็คแล้วมัดรวมไว้ น่าจะราวๆ 2 - 3 กิโลได้

เอ๋ก็บอกว่าให้ไม่ได้ เพราะเป็นของลูกค้าเค้าจองไว้แล้ว รอจ่ายเงิน เค้าก็ไม่ยอมท่าเดียว ยืนยันจะเอาไปให้ได้ ยืนต่อแบบนั้นอยู่ครึ่งชั่วโมงกว่าเกือบชั่วโมงได้มั๊ง ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ว่านานมาก เจ้าตัวเล็กเอ๋อุ้มๆอยู่หลับคาไหล่เลยทีเดียว

แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 54 22:44:27

แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 54 22:32:56

จากคุณ : ปรีชญา
เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 10:55:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com