 |
ยากำจัดเห็บหมัดแบบกินและฉีด
ที่มา : http://dogclub.in.th/
ยากำจัดเห็บ-หมัดแบบกินและแบบฉีด เป็นยาในรูปแบบหนึ่งที่เจ้าของน้องหมาในบ้านเรานิยมกันมาก ซึ่งตัวยาทั้งสองแบบนี้คือตัวยาตัวเดียวกัน คือ Ivermectin นั่นเอง (ชื่อคุ้นๆกันหรือเปล่าคะ เพราะเคยพูดถึงยาตัวนี้ไปหลายครั้งแล้วในบทความอื่นๆก่อนหน้านี้) วันนี้เราจะมาดูกันค่ะ ว่ายาตัวนี้มันมีข้อดีข้อเสียยังไง ควรจะใช้ดีหรือไม่กันค่ะ Ivermectin เป็นยากำจัดปรสิตต่างๆได้ทั้งภายในและภายนอกตัวน้องหมา ปรสิตที่ตัวยานี้ใช้ได้ผลดี ได้แก่ พยาธิหัวใจ พยาธิตัวกลมหลายชนิด ไรขี้เรื้อนแห้งและเปียก และเห็บ ซึ่งปรสิตแต่ละชนิดนั้นก็จะใช้ Ivermectin ในขนาดที่แตกต่างกันออกไป ขนาดต่ำสุด คือ ขนาดที่เอามาใช้รักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจ ขนาดกลางๆ เอามารักษาไรขี้เรื้อนแห้ง ไรในหู พยาธิตัวกลมต่างๆ กำจัดเห็บ ขนาดสูงจะเอามาเพื่อใช้รักษาไรขี้เรื้อนเปียกค่ะ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับยาตัวนี้ ก็คือ Ivermectin ทุกยี่ห้อ ทุกแบบที่ได้ขอขึ้นทะเบียนยาในประเทศไทยนั้นไม่มียี่ห้อใดเลยที่ที่ผู้ผลิตขอขึ้นทะเบียนไว้ให้ใช้กับน้องหมาได้ ยกเว้นยี่ห้อ Heartgard® ที่เป็นยากินและมีตัวยาแค่ในขนาดต่ำๆเพื่อป้องกันพยาธิหนอนหัวใจเท่านั้น ไม่สามารถเอามาใช้กำจัดเห็บได้ ส่วนใหญ่จะขอขึ้นทะเบียนเพื่อใช้กับสัตว์ปศุสัตว์(เช่น วัว ควาย หมู) เท่านั้น การเอามาใช้ในน้องหมาจึงจัดเป็นการใช้แบบ extra-label used (คือเอามาใช้นอกเหนือจากที่ผู้ผลิตได้ขอขึ้นทะเบียนไว้) ดังนั้นจริงๆแล้วจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้ยา Ivermectin ค่อนข้างสูงนะคะ ไม่ควรเอาใช้ในน้องหมาโดยไม่ศึกษาข้อมูลก่อน ตามตำรายาทางสัตวแพทย์ทั่วโลกนั้น ไม่ได้ระบุให้เอา Ivermectin มาใช้ในการกำจัดเห็บนะคะ ส่วนมากจะแนะนำให้ใช้เพื่อรักษาขี้เรื้อนและเพื่อป้องกันพยาธิหัวใจมากกว่า พูดง่ายๆก็คือ ในต่างประเทศนั้นเค้าไม่เอายา Ivermectin มาใช้ในการกำจัดเห็บนั่นเอง เพราะในเมืองนอกเค้าจะค่อนข้างซีเรียสเรื่องการใช้ยาแบบ extra-label used มากๆค่ะ (เนื่องจากสัตวแพทย์หรือผู้ที่ขายยาให้เองก็จะมีความเสี่ยงต่อการโดนฟ้องร้องได้สูง ถ้าเกิดใช้ไปแล้วมีปัญหาขึ้นมา) แถมยังมียาในรูปแบบอื่นที่เป็นการใช้ตามทะเบียนยาที่ได้ขออนุญาตไว้ เอามาใช้กำจัดเห็บได้อีกหลายอย่าง เช่น ยาหยดหลัง ยาอาบราด ปลอกคอกำจัดเห็บ เป็นต้น เท่าที่เห็นมาก็มีบ้านเรานี่แหล่ะค่ะที่เอา Ivermectin มาใช้ในการกำจัดเห็บกันค่อนข้างเยอะที่สุดแล้ว ข้อจำกัดของการใช้ยา Ivermectin อีกอย่างก็คือ ไม่ควรเอามาใช้กับน้องหมาพันธุ์ที่มีความไวต่อยานี้ ซึ่งก็คือ พันธุ์คอลลี่, เชทแลนด์ ชีพด็อก, โอล์ด อิงลิช ชีพด็อก และหมายรวมถึงสุนัขที่มีเชื้อสายของพันธุ์เหล่านี้ด้วยค่ะและไม่ควรนำมาใช้ในน้องหมาที่อายุน้อยกว่า 6 สัปดาห์ (ในกรณีที่ใช้เพื่อป้องกันพยาธิหนอนหัวใจนะคะ) แต่ถ้าเอามาใช้ในขนาดที่กำจัดเห็บได้ด้วย แนะนำว่าควรจะใช้ในสุนัขที่อายุมากกว่า 3 เดือนขึ้นไปค่ะ เพราะในลูกสุนัขอายุน้อยมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากยานี้ได้มากกว่าในสุนัขโตค่ะ อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องระวังการใช้ยา Ivermectin ในน้องหมาก็คือ เรื่องผลข้างเคียงจากยา เพราะเนื่องจากว่าแม้น้องหมาของเราจะไม่ใช่พันธุ์เสี่ยงในการใช้ยา Ivermectin แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสเกิดปัญหานะคะ ซึ่งปัญหาหนึ่งที่เจอได้ในการใช้ยานี้ ซึ่งผู้เขียนเคยเจอมากับตัวเองเลย ก็คือ เคยใช้มาก่อนในน้องหมาตัวเดิมหลายครั้งก็ไม่เป็นอะไร (น้องหมาในเคสของผู้เขียนนั้นเป็นพันธุ์พุดเดิ้ล ซึ่งไม่จัดว่าเป็นพันธุ์เสี่ยงต่อการใช้ยานี้ด้วยซ้ำ) แต่จู่ๆใช้ๆไปครั้งหลังๆก็เกิดปัญหาและแสดงผลข้างเคียงจากยาออกมาทั้งๆที่ให้ยาในขนาดเท่าเดิม ยาก็ใช้ยาที่ผลิตจากบริษัทเดิม ไม่ได้เปลี่ยนยี่ห้อ โดยผลข้างเคียงหรืออาการเป็นพิษจากยานี้ที่เจอในน้องหมา คือ อาการทางระบบประสาท เช่น ตัวสั่น ยืนทรงตัวไม่ได้ เป็นต้น อาจมีอาการซึม เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสียร่วมด้วยได้ ในบางกรณีที่รุนแรงมากอาจถึงตายได้เลยนะคะ อาจจะมีคนถามว่าเอ๊ะแล้วยาตัวนี้เจอปัญหาผลข้างเคียงบ่อยหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่บ่อยค่ะ แต่เราไม่สามารถคาดเดาได้เท่านั้นเองว่าจะเกิดผลข้างเคียงหรือความเป็นพิษนี้เมื่อไหร่ค่ะ มีเจ้าของน้องหมาบางท่านถามว่า การใช้ Ivermectin ต่อเนื่องนานๆในขนาดกำจัดเห็บจะมีผลอะไรต่อตับและไตของน้องหมาหรือไม่ เท่าที่ค้นข้อมูลมา ยังไม่มีการระบุว่ายานี้มีผลเสียต่อตับและไตของน้องหมาค่ะ แต่ถ้าน้องหมาตัวนั้นๆมีปัญหาโรคตับหรือโรคไตอยู่ ถ้าต้องการใช้ยานี้ ควรปรึกษากับคุณหมอที่ดูแลน้องหมาของเราก่อนดีกว่านะคะ
การนำยา Ivermectin แบบฉีดมาใช้เพื่อกำจัดเห็บ ข้อดีก็คือ สะดวกสำหรับน้องหมาที่ป้อนยายาก ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยถูกกว่าเมื่อเทียบกับยาหยดหลัง และยังถือว่าเคลมเป็นการป้องกันพยาธิหนอนหัวใจไปด้วยในตัว ส่วนข้อเสียคือ ยาฉีดค่อนข้างแสบ น้องหมาบางตัวอาจไม่ชอบ และต้องพามาให้สัตวแพทย์ฉีดยาให้น้องหมา และอย่างที่กล่าวมาแล้วว่ายา Ivermectin แบบฉีดนี้เป็นยาที่ผลิตมาใช้ในพวกหมู วัว ควาย ดังนั้นยาจะมีความข้นสูงมาก ถ้าน้องหมามีน้ำหนักตัวน้อย เช่น พันธุ์ชิวาวา หรือปอมเมอราเนียนบางตัว ยาที่ใช้จะมีปริมาณน้อยมาก เวลาดูดยาใส่ไซริงค์มาฉีด บางทีจะมีความเสี่ยงเรื่องการดูดยามาเกินขนาดได้ง่ายกว่าน้องหมาตัวใหญ่ๆ โดยส่วนตัวของผู้เขียนเองนั้นจะไม่ฉีดยานี้ให้น้องหมาที่น้ำหนักตัวน้อยกว่า 2 กิโลกรัมค่ะ จะเลือกให้ไปใช้ยากำจัดเห็บในรูปแบบอื่นมากกว่าค่ะ ส่วนการใช้ยา Ivermectin แบบกินนั้น ต้องบอกเลยว่าถ้าเป็น Ivermectin ที่ผลิตในแบบเป็นยาเม็ดที่ระบุที่ฉลากว่าสามารถเอามาใช้กำจัดเห็บ-หมัดในน้องหมาได้นั้น จะเป็นยาเถื่อนที่ไม่มีการขึ้นทะเบียนยาทั้งหมด ไม่ว่าจะกับสัตว์ชนิดใดๆก็ตาม (ซึ่งยากำจัดเห็บหมัดทุกยี่ห้อที่เป็นแบบกินในบ้านเราจะเป็นตัวยา Ivermectin นี้ซะแทบจะทั้งหมดล่ะค่ะ) ทำให้ความน่าเชื่อถือในการใช้ยาน้อยลงมาก แต่เจ้าของหลายท่านก็ไม่รู้ว่ายาเหล่านี้คือยาเถื่อนค่ะ อีกจุดหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ยา Ivermectin แบบเม็ดกินนี้ หลายๆครั้งที่ผู้ขายไม่ใช่สัตวแพทย์ และไม่มีความรู้เรื่องยาดีพอ พอเอายานี้มาขายให้น้องหมา ก็ไม่ได้อธิบายเรื่องขนาดการใช้ยาให้เจ้าของทราบ เจ้าของบางท่านเลยป้อนยาเกินขนาดไปก็มี บางตัวโชคดีที่ไม่มีอาการข้างเคียงอะไร แต่บางตัวก็เกิดความผิดปกติตามมาได้นะคะ ดังนั้นการใช้ยา Ivermectin แบบเม็ดกินเจ้าของควรพิจารณาให้ดีๆก่อนนะคะ ว่าจะใช้ยาแบบนี้ดีหรือไม่ ถ้าจะให้สรุปว่าควรใช้ยา Ivermectin นี้เพื่อกำจัดเห็บดีหรือไม่ ตัวผู้เขียนเองจะแนะนำให้ลองใช้ยาหยดหลังร่วมกับยาอาบราดดูก่อน ถ้าไม่ได้ผล ค่อยแนะนำให้ใช้ยาฉีด หรือถ้าเจ้าของอยากใช้ยาฉีดเลยก็จะอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของยา Ivermectin ให้ฟังก่อน ถ้าเจ้าของรับทราบก็จะฉีดยานี้ให้ค่ะ และเมื่อถามว่ายาฉีดกับยาหยดหลังอันไหนดีกว่า ถ้าตอบจากประสบการณ์ของผู้เขียนนั้น ขอบอกว่าตอบยากเพราะมันแล้วแต่บ้านจริงๆ น้องหมาบางบ้านใช้ยาฉีดได้ผลดีกว่า บางบ้านยาหยดหลังได้ก็ผลดีกว่าค่ะ อาจจะด้วยเนื่องจากบางครั้งเห็บอาจจะดื้อยาบางชนิด บางบ้านอาบน้ำหมาบ่อยเกินไปก็ทำให้ยาหยดหลังได้ผลลดลงได้ เพราะเนื่องจากยาหยดหลังหลายยี่ห้อตัวยาจะถูกขับมากับไขมันที่มาเคลือบผิวหนังกับเส้นขน การอาบน้ำบ่อยๆ ก็จะเป็นการชะเอาไขมันเหล่านี้ออกไป ก็เท่ากับล้างเอายานี้ออกไปด้วย ทำให้ใช้ยาหยดหลังแล้วได้ผลไม่ดีก็เป็นได้ค่ะ ส่วนการใช้ Ivermectin แบบเม็ดกินนั้น ผู้เขียนเองไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ เพราะเนื่องจากความไม่น่าเชื่อถือของยาและบริษัทที่ผลิตยาค่ะ
จากคุณ |
:
Ban_me_rak
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.ย. 54 10:39:50
|
|
|
|
 |