Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ลดต้นทุน "มันสำปะหลัง" ได้...ง่ายนิดเดียว ติดต่อทีมงาน

................................ไทยเป็นแหล่งผลิต “มันสำปะหลัง” ที่มีศักยภาพสูง แต่ปัจจุบันผู้ปลูกมันสำปะหลังส่วนใหญ่ประสบปัญหาต้นทุนการผลิต ที่ขยับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะค่าปุ๋ยเคมีที่มีราคาค่อนข้างแพง ขณะที่การใช้ปุ๋ยของเกษตรกรยังไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ทำให้ได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าการลงทุน ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะหมดไปได้ หากเกษตรกรใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำง่าย ๆ นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลังแล้ว ยังสามารถช่วยลดต้นทุนได้อีกด้วย
 
                              นายสุกิจ รัตนศรีวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังมีปัญหาการใส่ปุ๋ยไม่ถูกสูตร ไม่ถูกอัตรา ไม่ถูกเวลา และไม่ถูกวิธีส่วนใหญ่มีความเคยชินกับการใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตราตั้งแต่ 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับปริมาณธาตุอาหารในดิน และไม่ตรงกับความต้องการธาตุอาหารของมันสำปะหลัง การที่เกษตรกรไม่ได้ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ถือเป็นการใช้ปุ๋ยในปริมาณมากเกินความต้องการของพืช ทำให้สิ้นเปลืองและมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น
 
                              ดังนั้น เกษตรกรจึงควรใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยก่อนปลูกมันสำปะหลังควรเก็บตัวอย่างดินและตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้เกษตรกรใส่ปุ๋ยได้ถูกสูตรและเหมาะสมกับสภาพดินแต่ละพื้นที่ เบื้องต้นมีสูตรปุ๋ยใกล้เคียง 4 สูตร ที่เกษตรกรสามารถเลือกใช้ให้สอดคล้องกับค่าวิเคราะห์ดินในแปลงของตนเอง ได้แก่ ปุ๋ยสูตร 16-16-8, สูตร 16-8-8, สูตร 13-13-21 และปุ๋ยสูตร 15-7-18  แนะนำให้ใช้ในอัตรา 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใส่เพียงครั้งเดียวหลังจากปลูก 1-3 เดือน เมื่อดินมีความชื้นเพียงพอ โดยโรยปุ๋ยสองข้างของต้นมันสำปะหลังตามแนวกว้างของพุ่มใบ แล้วต้องพรวนดินกลบด้วย
 
                              จากการที่ได้ส่งเสริมให้ชาวไร่มันสำปะหลัง จำนวน 100 แปลง รวมพื้นที่ 760 ไร่  กระจายอยู่ใน 16 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา เป็นแปลงต้นแบบการจัดการปุ๋ย โดยให้ตรวจวิเคราะห์ดินก่อนที่จะปลูกมันสำปะหลังด้วยชุดตรวจวิเคราะห์ดินแบบรวดเร็ว (Soil Test Kit) พร้อมแนะนำเทคนิคการใส่ปุ๋ยมันสำปะหลังให้สอดคล้องตามค่าวิเคราะห์ดินแต่ละแปลง โดยให้ใส่ปุ๋ยเพียงครั้งเดียวหลังปลูก 1-3 เดือน อัตรา 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ ขึ้นกับปริมาณธาตุอาหารในดิน พบว่าเกษตรกรมีความพึงพอใจและยอมรับเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยนี้ เนื่องจากมันสำปะหลังในแปลงต้นแบบเจริญเติบโตดีกว่า ทั้งยังมีใบสีเขียวเข้มและมีความแตกต่างเมื่อเทียบกับแปลงข้างเคียงที่จัดการปุ๋ยแบบเดิมซึ่งเป็นวิธีของเกษตรกร  (ไม่ตรวจวิเคราะห์ดิน)
 
                              การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและใส่ปุ๋ยเพียงครั้งเดียว มีข้อดี คือ ช่วยประหยัดแรงงานในการใส่ปุ๋ย นอกจากนี้ยังใส่ปุ๋ยได้ทันเวลาตามความต้องการของต้นพืช ปุ๋ยไม่สลายไปกับน้ำหรือแสงแดดทำให้การใช้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยได้ค่อนข้างมาก ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรได้ถึง 300-400 บาทต่อไร่ และทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นถึง 20-25%
 
                              หากว่าผู้ปลูกมันสำปะหลังสนใจเทคโนโลยี “การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน” สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โทร. 0-4432-5048 หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน.

ที่มา  http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=346&contentID=162945

 
 

จากคุณ : ญี่ปุ่น35
เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 01:02:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com