เทคนิค "ติดตาเขียว" ยางพันธุ์ดี

.................................คิดเองทำเอง : เทคนิค'ติดตาเขียว'ยางพันธุ์ดี ใช้ต่างพันธุ์เสียบ-ลดเสี่ยงโรค โดย...สุรัตน์ อัตตะลัง

                               ยางพารามีราคาดีทำให้เกษตรกรจากทั่วทุกภาคหันมาปลูกกันมากขึ้น จนทำให้ผู้ประกอบการผลิตต้นกล้ายาง ผลิตไม่ทันต่อความต้องการของเกษตรกร ถึงแม้สถาบันวิจัยยางได้พยายามเร่งรัดผู้ประกอบการที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรอย่างถูกต้องเพิ่มปริมาณต้นกล้ายางมากขึ้นก็ตาม ทว่าก็ยังไม่เพียงพอ อีกทั้งที่ผ่านมาสถาบันวิจัยยางได้เพิ่มทางเลือกให้เกษตรกร โดยส่งเสริมให้เกษตรกรติดตายางเอง เพื่อลดต้นทุน และวิธีปลูกนี้ก็ทนต่อสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ลมกระโชกแรงด้ว

                             "การติดตายางมี 2 แบบคือติดตาในแปลงเพาะชำกับติดตาในแปลงปลูกโดยนำเมล็ดมาเพาะเลี้ยงก่อน จากนั้นจึงนำไปปลูกในหลุมปลูกหรือเพาะเลี้ยงในแปลงเพาะชำ ส่วนกล้าพันธุ์ยางปลูกด้วยเมล็ดที่นำมาติดตาได้ต้องมีอายุ 6-8 เดือน หรือขนาดเท่าดินสอ เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 1.0-1.2 เซนติเมตร วัดที่ความสูงจากพื้นดิน 10 ซม. เหมาะสมที่สุด" นุชนารถ กังพิศดาร นักวิชาการเกษตรเชี่ยวชาญ สถาบันวิจัยยาง แนะนำขยายพันธุ์ยางด้วยวิธีติดตาเขียว ซึ่งเกษตรกรสนใจการปลูกด้วยวิธีนี้กันมากขึ้น

                              นักวิชาการเกษตรคนเดิมเผยอีกว่า สำหรับเมล็ดที่นำมาปลูกนั้นต้องมีอายุไม่เกิน 10 วัน หลังร่วงหล่นจากต้น หากนานกว่านั้นจะมีผลต่อการงอก ซึ่งในแต่ละปีสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์จากต้นยางพาราได้ 2 ครั้ง คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคม ปัจจุบันต้นกล้าพันธุ์ยางในไทยส่วนใหญ่ใช้พันธุ์อาร์อาร์ไอเอ็ม 600 (RRIM 600) ทำให้ง่ายต่อการหาเมล็ดพันธุ์สำหรับเป็นต้นกล้าในการปลูกต่อไป

                             "ต้นกล้าพันธุ์ RRIM 600 บ้านเราปลูกกันมากที่สุด เพราะหาเมล็ดพันธุ์ง่าย แต่พันธุ์ที่นำมาติดตานั้นไม่ควรใช้พันธุ์เดียวกับต้นกล้าควรใช้พันธุ์อื่น เพราะถ้าใช้พันธุ์เดียวกันจะมีปัญหาความอ่อนแอต่อโรค ปัจจุบันนี้มีพันธุ์ยางดีๆ ที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรมากมาย เลือกตามความเหมาะสม" นุชนารถกล่าวย้ำ

                              การขยายพันธุ์ด้วยวิธีการติดตาเขียว เริ่มจากใช้เศษผ้าทำความสะอาดโคนต้น จากนั้นใช้ปลายมีดกรีดเปลือกของต้นตอในแนวดิ่ง 2 รอย ห่างกัน 1 เซนติเมตร ยาว 5-7 เซนติเมตร โดยให้รอยกรีดด้านล่างชิดพื้นดินมากที่สุด แล้วให้ตัดขวางรอยกรีดทั้งสองที่ปลายสุดด้านบนให้ต่อถึงกัน แล้วค่อยๆลอกเปลือกที่ตัดออกลงข้างล่างจนสุดรอยกรีด ตัดเปลือกที่ดึงออกให้เหลือลิ้นยาว1-1.5 เซนติเมตร แล้วทำความสะอาดกิ่งตา

                              จากนั้นใช้ใบมีดคมๆ เฉือนแผ่นตา เริ่มจากปลายกิ่งไปหาโคนให้ติดเนื้อไม้บางๆ และสม่ำเสมอ ยาว 7-8 เซนติเมตร พร้อมตัดแต่งริมแผ่นตาทั้งสองข้างให้เล็กกว่ารอยแผลที่เตรียมไว้เล็กน้อย แล้วค่อยๆ ลอกแผ่นตาออกจากเนื้อไม้ จากนั้นให้รีบสอดแผ่นตาลงในรอยแผลบนต้นตอที่เตรียมไว้ โดยสอดลงในลิ้น ตรวจดูแผ่นตาที่สอดลงไป จะต้องให้ตาอยู่เหนือก้านใบและอยู่ตรงกลางรอยแผลด้วย

                              ต่อด้วยใช้พลาสติกใสพันทับจากล่างขึ้นบน และพันขึ้นเรื่อยๆ รอยที่พันจะต้องให้ส่วนของพลาสติกทับกัน พันขึ้นเกือบถึงรอยแผลด้านบน ใช้มีดตัดแผ่นตาส่วนที่เกินจากรอยผลทิ้ง โดยให้ต่ำจากรอยแผลด้านบนเล็กน้อย จากนั้นพันพลาสติกต่อไปจนเลยรอยแผล 2-3 รอบ จึงทำเงื่อนผูกโดยสอดปลายพลาสติกเข้าไปในห่วงรอบสุดท้ายแล้วดึงให้แน่น เป็นอันเสร็จเรียบร้อยขั้นตอนการติดตายาง

                              การขยายพันธุ์ยางด้วยวิธีการติดตาเขียวจากต้นกล้าที่มาจากการปลูกด้วยเมล็ด จึงเป็นอีกทางเลือกของเกษตรกรในช่วงที่ต้นกล้ายางราคาแพง

ที่มา  http://www.komchadluek.net/detail/20110927/110186/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B5.html

จากคุณ	: ญี่ปุ่น35
เขียนเมื่อ	: 27 ก.ย. 54 01:30:55