โดยส่วนตัวนะคะ ถ้าคิดจะทำเริ่มต้นควรจะทำคู่กับงานประจำก่อนแล้วหาร้านที่เราค้าส่งได้ อาจจะรวมกลุ่มกันทำเพื่อต่อรองเรื่องราคาและสามารถส่งให้ในปริมาณมากๆได้คะ
ส่วนทำเลเราอาจจะไม่มีหน้าร้านก็ได้คะ ทำเป็นร้านออนไลท แต่เราต้องทำโปรโมทดีๆอาจจะโพสข้อความในบอร์ดหรือกระทู้ต่างๆที่เค้าชื่อชอบสินค้าประเภทนี้
และสินค้าควรแตกต่างกับตลาดทั่วไปด้วย ตัวอย่างนะคะ
สมมติว่าเราเก่งงานถักถักเป็นเสื้อเป็นเสื้อของสุนัขหรือแมว หรือ ตลาดสัตว์อื่นๆ ลองไปเดินสวนจตุจักรดูคะ แล้วไปฝากขายในร้านสัตว์ ทำเป็นพวกที่นอนหรือกระเป๋าก็ได้คะ ทำการค้ากับสัตว์เลี้ยงจะดีตรงที่เจ้าของที่รักสัตว์จะชอบแต่งตัวให้สัตว์เลี้ยงของตนเองคะ และเจ้าของจะชอบที่เวลาพาไปเดินเล่นแล้วมีคนเข้ามาทักสัตว์เลี้ยงของตนที่แต่งตัวสวยๆและแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงของคนอื่น (แต่ต้องทำใจเรื่องการลอกเลียนแบบนะคะ)
เอาตัวอย่างนี้เป็นแนวทางแล้วลองหาตลาดแนวอื่นดูก็ดีคะ หรือ ถ้าเรารู้จักร้านอื่นๆที่เป็นร้านขายงานฝีมือใหญ่เราๆเราก็ไปฝากขายเค้าก็ได้คะ
แต่ที่กำไรดีๆคือการเปิดสอนคะ แต่เราต้องมั่นใจว่าเราชำนาญพอตัว แต่การทำแบบนี้ต้องขยันท่องเวปต่างประเทศคะ และมีหัวครีเอทเก่งที่จะเอามาดัดแปลงให้ใช้งานได้
ส่วนใหญ่ที่ตันกันเพราะเห็นว่าฮิตก็ทำตามๆกันไม่ทำให้สินค้าโดดเด่นและบางคนมองว่าเป็นงาน Handmade ราคาต้องสูงซึ่งความจริงแล้วควรตั้งราคาแบบเราอยู่ได้มากกว่าอย่างต้นทุนมา 100 เราต้องการกำไร 50 บาท เราก็ขาย 150 แต่บางคนเห็นเค้าขายกัน 250 เราก็จะเอาแบบเค้าบ้างอย่าลืมว่าคนที่ตั้งราคาแบบนั้นได้เค้าจะต้องมีตลาดเกรดนั้นหรือมีทำเลที่ดีกว่าเรา ส่วนเรามองว่าเราส่งเค้าเค้าจะไปเอากำไรเท่าไหร่ก็เป็นส่วนของเค้า เอาที่เราอยู่ได้แต่กินนานๆดีกว่าคะ ^ ^
เป็นแค่อีก 1 แนวคิดนะคะเพราะเคยคุยกับร้านงานฝีมือใหญ่ๆหลายร้านเค้าก็ขาดแรงงานที่ฝีมือดีๆเยอะเหมือนกันแต่บางคนเค้ามองว่าเป็นเจ้าของธุรกิจเองจะดีกว่า แต่ถ้าเรามองว่าส่งที่นี้เราได้น้อยแต่เราก็ได้ ส่วนที่เราเอากำไรได้เต็มๆก็ส่วนนึง ธุรกิจมันต้องหมุนเวียนคะ ได้กำไรน้อยแต่ก็ได้ ก็เหมือนกับการกระจายความเสี่ยงนั้นแหละ มองอย่าง CP. ทำไหมเค้าถึงมีธุรกิจที่หลากหลายเพราะเค้ากระจายความเสี่ยงนั้นเอง 1 ปีไม่ได้หมายความว่าธุรกิจที่ทำทุกอย่างมันจะดีหมด เดือนนีั้ธุรกิจ A อาจจะดีกว่า B C แต่เดือนหน้า ธุรกิจ C อาจจะดีกว่า A B ฉะนั้นต้องถ้่วๆ กันคะ ^^
ปล.เป็นแค่ความเห็ฯส่วนตัวนะคะ