 |
ผมขออนุญาตชี้แจงประเด็นที่เป็นที่พูดถึงประเด็นนี้นะครับ,,
หลังจากที่กระทู้นี้เกิดขึ้น ผมเป็นหนึ่งคนที่มีความไม่สบายใจและพยายามทำทุกวิถีทางในการต่อต้านและเรียกร้องไม่ให้มีการกระทำในลักษณะดังกล่าวนี้, จนกระทั่งเมื่อสักครู่นี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยปรับความเข้าใจให้ตรงกันกับ รศ.ดร.กิติมา อินทรัมพรรย์ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, อาจารย์ท่านได้ชี้แจง และผมจึงขออนุญาตนำข้อความทั้งหมดมาบอกเล่าขยายต่อให้บุคคลที่ให้ความสนใจต่อเรื่องดังกล่าวรับทราบทุกท่านครับ
ผมได้โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊คเนื้อหาดังต่อไปนี้ ;
"แก้ข่าว ผู้บริหารคณะฯ ไม่ได้มีนโยบายให้กำจัดสุนัขด้วยความโหดร้าย เพียงแค่ให้เลี้ยงได้ในที่มิดชิด อยู่เป็นที่เป็นทาง และไม่ออกมาต้อนรับแขก (ทุกคณะมีประจำคณะและโดนตำหนิเช่นเดียวกัน) เท่านั้นเอง .... อนึ่ง หากมีปัญหาอะไร อย่าเพิ่งไปโพสในบอร์ดข้างนอก เพราะเสื่อมเสียชื่อเสียงคณะและมหาวิทยาลัยที่คนรุ่นก่อนเขาเพียรสร้างกันมา ให้ติดต่อผ่านมาที่คณะและหาวิธีการแก้ไข หรือทำความเข้าใจร่วมกันจะดีกว่า
เราควรเชื่อและรอดูใช่หรือไม่ครับ? ถ้าเรื่องเงียบเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีประเด็นนี้ซ้ำสอง?"
เนื้อหาที่ผมโพสต์นั้นผมได้คัดลอกข้อความของอาจารย์ภูริวัจน์ เดชอุ่มอาจารย์ประจำคณะฯที่ชี้แจงแก้ข่าว และผมได้มาสอดแทรกความกังวลลงไปในย่อหน้าสุดท้าย ซึ่งเหตุการณ์ต่อไปนี้ก็เป็นการชี้แจงของรองคณบดีต่อข้อความที่ผมโพสต์ไป ดังนี้;
"ไม่เข้าใจว่าประเด็นซ้ำสองที่ห่วงคืออะไร มีประเด็นแรกแล้วหรือคะ แล้วจะปกป้องสุนัขจากอะไรกันหรือคะ คาดว่าน่าจะเกิดความเข้าใจผิดกันขนานใหญ่ละมังคะ ต้องขอบอกว่าตัวเองเป็นคนที่รักสุนัขมากคนหนึ่ง และเอ็นดูสุนัขที่คณะ ทั้งยังเห็นสุนัขที่คณะน่ารักทุกตัวโดยเฉพาะสาม ชอบมากเวลาเห็นเค้าวิ่งเร็วชนะสุนัขตัวอื่นๆ ขอยืนยันว่าผู้บริหารคณะไม่มีนโยบายกำจัดสุนัข ทุกคณะมีสุนัขกันทั้งนั้น แล้วก็โดนตำหนิเรื่องมีสุนัขต้อนรับแขกกันทั้งนั้น แต่อยากให้นึกภาพเวลามีแขกมาเียี่ยมเยียนคณะ หรือเวลาพวกเราไปเยี่ยมคณะอื่น บางทีเราก็จะเห็นหมาทั้งหลายวิ่งมาต้อนรับ ผู้มาเยี่ยมไม่มีทางจะรู้ว่าน้องหมาที่วิ่งมานั้นประสงค์ดีหรือร้าย ก็ย่อมตกใจเป็นธรรมดา มหาวิทยาลัียในฐานะเจ้าบ้านก็ต้องห่วงใยเป็นธรรมดา คณะเราไม่ค่อยมีปัญหานี้ เพราะแต่ละตัวมักไม่สนใจใคร และมักเลือกพื้นที่นอนเอกเขนกสบายอารมณ์กันตามอัธยาศัย แต่บางคณะหมาถึงกับวิ่งไล่จักรยาน รถหรือมอเตอร์ไซค์ คนผ่านไปมาก็อาจตกใจได้ง่ายหรืออาจถูกทำร้ายได้ และถ้ามีแขกต่างชาติมาเยี่ยมเยียน แขกเหล่านี้ก็อาจจะรู้สึกแปลกใจและขาดความมั่นใจที่เห็นสุนัขเพ่นพ่านทั่วไปในคณะ เจ้าภาพที่พาแขกมาก็ต้องคอยระวังทางให้ เพราะเราไม่สามารถเดาใจน้องหมา หรือเข้าใจจิตใจคนมาเยี่ยมทุกคนได้ ผู้บริหารคณะก็เพียงแต่อยากให้ผู้รักสุนัขหาวิธีดูแล เลี้ยงดูให้มิดชิด เป็นที่เป็นทาง ไม่ปล่อยเค้ามาต้อนรับบริเวณสัญจรหรือหน้าคณะ ส่วนการจะนำไปขังในกรงก็คงไม่เหมาะสำหรับสุนัขที่เคยวิ่งเล่นเป็นอิสระเพราะอาจจะทำให้เค้าอึดอัดและอารมณ์เสีย เรื่องนี้ร่วมด้วยช่วยกันคิดได้ค่ะ แต่ที่แน่ๆ ช่วงที่คณะมีงาน มีผู้หลักผู้ใหญ่มา เราก็ควรจะหาพื้นที่อื่นให้เค้าวิ่งเล่นชั่วคราว ส่วนใครคิดว่าจะพาไปวิ่งเล่นที่บ้านก็ได้ แต่ก็น่าจะต้องแจ้งคณะและผู้ดูแลกันหน่อย จะได้ไม่ห่วงกันว่าหมาหายไปเพราะใครเอาไปทำมิดีมิร้ายค่ะ"
ทั้งหมดนี้ก็หวังว่าผู้ที่สนใจติดตามทุกท่านจะเข้าใจตรงกัน และยืนยันว่าเจ้าสี่ขาหน้าขนทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องหาบ้านใหม่แต่อย่างใด รวมทั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องราวโอ้ล่ะพ่อ ไม่มีการเก็บกวาดสุนัขสักตัว และมหาวิทยาลัยก็ยังคงมีวิสัยทัศน์เช่นเดิม ไม่ได้ทารุณเหี้ยมโหดอย่างที่เป็นที่โจษจัน...
จากคุณ |
:
มาร์ก สะกดด้วยกอไก่
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ต.ค. 54 01:25:48
A:58.8.192.82 X: TicketID:332540
|
|
|
|
 |