ความคิดเห็นที่ 1 รูปถ่ายจากด้านบน จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 01:15:01

ความคิดเห็นที่ 2 ใกล้มาอีกนิดนึง ท้องสองข้างมันบวมหรืออ้วนไม่เท่ากันค่ะ จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 01:15:44

ความคิดเห็นที่ 3 อีกภาพ จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 01:16:14

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพสุดท้าย  ส่วนตัวสีส้มล้วน ตาข้างนึงมันเหมือนมีลูกโป่งอันเล็กๆๆขึ้นมา มันจะเป็นอันตรายกับปลามั้ยคะ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 54 01:17:27 จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 01:16:39

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตัวนี้ รูปนี้จะเห็นชัดเลยว่ามีลูปโป่งอันเล็กๆๆขึ้นที่ใกล้กับตาปลาทองค่ะ จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 01:20:07

ความคิดเห็นที่ 6 ...ปลามีอาการอื่นร่วมมั้ย เช่น ถ่ายผิดปกติ ว่ายผิดปกติ กินอาหารน้อยลง เป็นต้น... ...แล้วสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่เมื่อไร เพราะไม่แน่อาจเป็นความผิดปกติของปลามาแต่แรก... ...ส่วนปลาตัวที่มีถุงพองเล็กๆใกล้ตา จากที่เห็นไม่เป็นอันตราย... ...อาจจะลองเจาะถุง แต่ต้องระวังเรื่องการติดเชื้อ... ...หรือจะรอสังเกตว่า ถุงมีการพองโตขึ้นเรื่อยๆหรือไม่ ถ้าไม่พองโตขึ้น อาจจะปล่อยไว้ก็ได้... ...โดยรวมไม่ทราบว่าใช้ระบบกรองแบบไหน และดูแลสภาพน้ำยังไง... ...ระหว่างนี้ใช้วิธีพื้นฐาน คือ ดูแลสภาพน้ำไม่ให้สกปรกหมักหมม... จากคุณ : Kryro เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 02:12:00

ความคิดเห็นที่ 7 ใช้กรองฟองน้ำ ที่มันวางอยู่บน ตู้ปลาค่ะ ไม่รู้เรียกว่าอะไร ส่วนปลาที่บวมๆๆ เห็นมานานแล้ว แต่พึ่งมาสังเกตุท้องใกล้ๆๆ มันดูอ้วนๆๆบวมๆๆ กลัวมันเป้นโรค เลยถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ ส่วนเรื่องน้ำ เดือนนึงเปลี่ยนประมาณ สามครั้ง แต่ตอนนี้ลดอาหารปลาลง ดูสภาพน้ำจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 02:22:06

ความคิดเห็นที่ 8 ...อย่าเพิ่งวิตกมาก ถ้าไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน ดูแลสภาพน้ำให้ดีไปก่อน... ...เป็นไปได้ อยากเห็นรูปกรองที่ใช้... ...ปลาทองเป็นปลาที่ขึ้นชื่อเรื่องความเปราะความบอบบาง... ...และต้องการสภาพน้ำที่สะอาด อ๊อกซิเจนมากเพียงพอ... ...ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำให้บ่อยขึ้น อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งๆละ 30%... ...อาหารอย่าให้เหลือค้าง ถ้าปลากินไม่หมดใน 5 นาที ควรตักออก... ...หรือถ้ามีเวลาอยู่กับปลาทั้งวัน อาจให้ครั้งละน้อยๆแต่บ่อยก็ได้... ...มีหลายคนที่เลี้ยงปลาโดยไม่รู้หรือไม่ได้ใส่ใจเรื่องสภาพการเลี้ยงเท่าที่ควร... ...และการที่ปลาไม่ได้แสดงอาการของโรค ก็ทำให้เข้าใจไปว่าปลานั้นสบายดี... ...แต่จริงๆแล้ว ปลาจะค่อยๆอ่อนแอลง จนเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะแสดงอาการของโรคออกมา... จากคุณ : Kryro เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 03:38:30

ความคิดเห็นที่ 9 ปลามันก็ว่ายน้ำปกติ นะคะ แต่ช่วงนี้เราลดอาหารให้น้อยลง น้ำก็ใสขึ้น ปกติ จะสองวันก็ขุ่นเขียวแล้ว เราเลี้ยงตู้ 24 นิ้ว ในตู้มีปลาสองตัว  ส่วนปลาทองอีกตัวเลี้ยงในกะละมัง ใส่ฮีตเตอร์ กับ เทอโมมิเตอร์วัดอุณหภูมิแล้ว อายุปลาทองก็ สามปีแล้วค่ะ หางมันตกเลือด ง่ายมากเลย ไม่รุ้จะรักษายังไงแล้ว ไว้จะถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ ขอคำปรึกษา ช่วงนี้อากาศที่บ้านเย็นลงมาก เลยเปลี่ยนน้ำในตู้ปลาลำบากมากกค่ะ เดี๋ยวจะถ่ายรูปที่กรองมาให้ดูค่ะ เป็นกรองฟองน้ำธรรมดาวางอยุ่บนตู้ ในตู้ก็มีปั๊มน้ำที่พ่นน้ำออกมา ค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 54 01:24:32 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 54 21:57:58 จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 21:55:21

ความคิดเห็นที่ 10 ...อาการตกเลือด แทบจะเรียกได้ว่าเป็น เครื่องหมายการค้า ของ ปลาทอง... ...ซึ่งเกิดจากการ ติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด... ...และมักพบว่าปลาเป็นโรคนี้แบบเรื้อรัง หรืออยู่ในสภาวะเป็นพาหะ... ...ซึ่งเมื่อปลาเกิดความเครียดหรืออ่อนแอ จากสภาพการเลี้ยงหรือปัจจัยอื่นๆก็ตามแต่... ...สามารถทำให้แสดงอาการแบบเฉียบพลันและถึงขั้นรุนแรงได้... ...ก็อย่างที่บอกๆไป ดูแลเรื่องสภาพน้ำให้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... ...ส่วนเรื่องปัญหาการเปลี่ยนถ่ายน้ำ ในช่วงอากาศเย็น... ...พูดถึงในกรณีที่มีการใช้ ฮีตเตอร์ ในที่เลี้ยงปลา หรือมีฝาตู้ปิดมิดชิด... ...อาจใช้วิธีเตรียมน้ำที่จะเปลี่ยนใส่ภาชนะพักไว้ในตัวบ้านหรือห้องที่ไม่เปิดแอร์... ...และเปลี่ยนถ่ายน้ำในช่วงเที่ยงหรือบ่าย หรือในช่วงเวลาที่อากาศร้อนหรืออบอุ่น... ...หรืออาจจะค่อยๆเติมน้ำใหม่ โดยเว้นช่วง 5 นาที (วิธีนี้จะทำให้เสียเวลา)... ...หรืออาจจะถอดปลั๊ก ฮีตเตอร์ ออกก่อนจะทำการเปลี่ยนน้ำ 1 ชั่วโมง... ...ซึ่งพอจะช่วยไม่ให้อุณหภูมิต่างกันมาก... ...ก็ลองประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสม... ...อุณหภูมิของน้ำที่ไม่ได้แปรปรวนต่างกันเกิน 1 องศาเซลเซียส/ชั่วโมง หรือ 10 องศาเซลเซียส/วัน นั้นถือว่าไม่เป็นอันตราย... จากคุณ : Kryro เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 00:43:17

ความคิดเห็นที่ 11 แตกประเด็น จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 23:13:31

ความคิดเห็นที่ 12 รูปกรอง ถ่ายตอนก่อนเปลี่ยนน้ำ ตอนนี้ปลาตัวที่ถามว่าท้องบวมมั้ย มันมีอาการว่ายเอียงๆๆด้วยค่ะ พอเราชะโงกหน้าไปมองมันก็จะทำเป็นว่ายปกติค่ะ มันเป็นไรมั้ยคะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 54 23:28:56 จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 23:23:34

ความคิดเห็นที่ 13 ...ปลาท้องบวม... ...รักษาโดยการแช่ยาเลี้ยงตลอด จนกว่าจะหายหรือดีขึ้น... ...ใช้ยา แบคทริม ( ชื่อการค้า ) 20 มิลลิกรัม/น้ำ 1 ลิตร ( ใช้ยา อ๊อกซีเตทตร้าซัยคลิน หรือ อิริโธมัยซิน แทนได้ )... ...ร่วมกับ เมโทรนิดาโซล 20 มิลลิกรัม/น้ำ 1 ลิตร... ...ร่วมกับ ดีเกลือฝรั่ง 0.2 กรัม/น้ำ 1 ลิตร... ...เปลี่ยนน้ำและยา 30% ทุก 2-3 วัน... ...ยาหาซื้อได้จาก ร้านยาคนทั่วไป... ...ดีเกลือฝรั่ง หาซื้อได้จาก ร้านยาแผนโบราณ/สมุนไพร... ...ถ้าหายา เมโทรนิดาโซล ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร... ...ให้เพิ่มขนาดยาตัวแรกเป็น 30 มิลลิกรัม แทน... จากคุณ : Kryro เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 05:36:59

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่บ้านเป็นร้านขายยาพอดี จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 22:16:29

ความคิดเห็นที่ 15 ...อัพเดทอาการเป็นระยะๆด้วย... จากคุณ : Kryro เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 01:37:50

ความคิดเห็นที่ 16 ไข่คาท้องหรือเปล่า ??? ถ้าไข่คาท้อง เปลี่ยนน้ำใหม่ ร้อยเลย แล้วหาตัวผู้มาหน่อย ถ้าไข่ไม่หมด ก็รีดๆ มันออกหน่อย หรืออาจไม่เป็นอะไรเลย หน้าตารูปร่างมันเป็นแบบนี้เอง ปลาทองพวกนี้อย่าซีเรียสมาก  อย่างเดียวสำหรับปลาประเภทนี้  น้ำสะอาดปราศจากคลอรีน  พอครับ จากคุณ : fillerneck เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 10:44:08

ความคิดเห็นที่ 17 ลองจับมารีดท้องแล้วไม่มีไข่ออกมาเลย น่าจะเป็นตัวผู้นะคะ แต่ยังดูไม่ค่อยออก ส่วนสิงห์ส้มล้วนตัวผู้ค่ะ ไม่เห็นมันไล่กันเลย จากคุณ : Memorize626 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 04:31:34