ความคิดเห็นที่ 1 Imidacloprid เป็นป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟที่อยู่ในกลุ่มนิโคติน แม้จะมีกลไกออกฤทธิ์แบบดูดซึม แต่ก็ปลอดภัยเมื่อเทียบกับพวกไซเพอมิทริน อะบาเม็กติน ฟิโปรนิล หรือพวกไดโนทีฟูแรนครับ นิโคตินเป็นอัลคาลอย์ ออกฤทธิ์โดยตรงต่อกล้ามเนื้อระบบประสาทในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาการเมื่อรับพิษจะทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง อ่อนล้า หมดแรง ถ้ารับปริมาณมากทำให้หัวใจล้มเหลวครับ จากคุณ : น้าโหด เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 15:51:33

ความคิดเห็นที่ 2 ค่าความเป็นพิษ หรือ LD 50 (Lethal Dose 50)  (ซึ่งขอดู MSDS  ของสารเคมี จากบริษัทกำจัดแมลง)  ที่ได้จากการทดสอบกับสัตว์ทดลองประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึงโดยทั่วไปใช้กับหนูหรือกระต่าย เป็นต้น ค่าตัวเลข LD 50 ของสารเคมียิ่งน้อย แสดงว่าสารเคมีนั้นๆมีระดับความเป็นพิษสูง (อันตรายมาก) จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 16:08:56

ความคิดเห็นที่ 3 "นิโคตินเป็นอัลคาลอย์ ออกฤทธิ์โดยตรงต่อกล้ามเนื้อระบบประสาทในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาการเมื่อรับพิษจะทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง อ่อนล้า หมดแรง ถ้ารับปริมาณมากทำให้หัวใจล้มเหลว" T T ถึงจะมีผลกับมนุษย์เราน้อยที่สุดในบรรดาสารกำจัดแมลง แต่เมื่อได้รับสะสม เป็นระยะเวลานานทำไมอันตรายจังเลยครับ T T เราพอจะมีทางเลือกอื่นไหมครับน้าโหด แล้วขอสอบถามเพิ่มเติมครับ ที่เค้าเอาสเปรย์ฉีดยุงสูตรน้ำมาฉีด ช่อดอก ไล่มดนี่เป็นกลุ่มสารเคมีกลุ่มไหนครับ แล้วสามารถเอามาฉีดเพลี้ยไฟแทนได้ไหม จากคุณ : yoshiko_no1 เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 18:16:53

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้านหมาแมวเพียบเลยค่ะ แต่ก็ใช้ตัวนี้ค่ะ... แล้วสลับกับเอส 85 และใช้น้ำหมักยาฉุนผสมน้ำยาล้างจานเป็นประจำมากกว่า เพราะปลูกกุหลาบด้วยถ้าไม่ฉีดอิมิดา...ก็ไม่ได้เห็นดอกค่ะ ใช้มาสองสามปีแล้ว...ดูมันก็ลัลล้าดีทุกตัวค่ะ จากคุณ : noklekkaa (papagearna) เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 18:33:34

ความคิดเห็นที่ 5 พี่ชัดเจนตัวจริงหรือเปล่าเนี้ย ทำไมไม่มี "สวัสดี" อิอิ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 54 21:37:39 จากคุณ : เด็กคลอง เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 21:36:58

ความคิดเห็นที่ 6 LD50 ความหมายก็คือ ปริมาณที่ให้สัตว์ทดลอง คิดเทียบต่อน้ำหนักของสัตว์ทดลอง 1 kg.กินแล้วตายเป็นจำนวน 50% ของสัตว์ทดลองที่ใช้ทั้งหมด เช่น rat 450 mg./kg. คือเมื่อป้อนปริมาณสาร 450 mg. เทียบต่อน้ำหนักตัวหนู 1 kg. แล้วหนูตายลงครึ่งหนึ่ง... คือถ้าป้อนน้อยกว่า 450 mg. ก็จะตายไม่ถึงครึ่ง (ไม่ได้หมายความว่าไม่ตายเลยสักตัวนะครับ)   ดังนั้น ยิ่งปริมาณสารน้อย เช่น LD50 45 mg./kg. ก็แสดงว่าแค่กิน 45 mg. ก็ตายไปครึ่งแล้ว แสดงว่าอันตรายกว่าสารแรกเยอะ... ส่วน Skin/eye LD50(24 hr.) rat >5000 mg./kg. ก็น่าจะหมายถึงปริมาณที่ให้สัมผัสผิวของหนูที่ผ่านการโกนเอาขนออก แล้วใส่สารเทียบปริมาณเท่ากับ 5000 mg.ต่อน้ำหนักตัวหนู 1 kg. ทำให้หนูตายลงครึ่งหนึ่ง(ภายในระยะเวลา 24 ชม.)  ปกติการสัมผัสจะมีค่าสูงกว่าการกิน หรือการหายใจเยอะมากครับ ส่วนข้ออื่น ๆ ไม่รู้เหมือนกันครับ ส่วนการสัมผัสนาน 20-30 ปี จะมีโอกาสเป็นมะเร็งไหม ผมว่าถ้าเราไม่ได้แพ้สารนี้ จนถึงขนาดผื่นขึ้นหรือคันทุกครั้งที่ใช้สารนี้แล้ว การใช้งานปกตินั้นเราไม่ได้สัมผัสทุกวัน อาจจะแค่อาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งสองครั้ง ปีหนึ่งก็ไม่น่าจะเกิน 30 ครั้ง ครั้งหนึ่งก็ไม่น่าจะเกินชั่วโมงสองชั่วโมง  ไม่ได้สัมผัสติดต่อกันตลอดเวลา แล้วถ้าเรามีการป้องกันโดยใส่ถุงมือยาง เสื้อผ้าแขนยาว หมวก หน้ากาก รองเท้าบู๊ทให้ดี ถ้ากลัวมากก็ใส่ให้เหมือนชุดนักอวกาศ เมื่อพ่นเสร็จก็รีบอาบน้ำสระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้ดี โอกาสที่จะสัมผัสสารนี้ ก็น่าจะไม่น่าจะมากจนเกิดอันตรายขึ้นถึงขนาดเป็นมะเร็งได้มั้ง.... แต่ถ้าเราใช้สารแบบไม่ป้องกันเลย คือใช้สารเคมีแบบที่เทสารผสมน้ำ ใช้มือกวน ใส่เสื้อกล้ามหรือไม่ใส่เสื้อ ใส่กางเกงขาสั้น ไม่สวมหมวกหรือหน้ากากใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อพ่นยาแล้วลมตียาใส่ตัว หรือถังอุปกรณ์พ่นยาชำรุด เมื่อพ่นยาแล้วเปียกโชกร่างกายเหมือนอาบน้ำด้วยยา แล้วพ่นยาแบบกว่าจะเสร็จกินเวลาทั้งวัน (แบบว่าสวนใหญ่เป็นสิบ ๆ ไร่) ก็เปียกโชกอยู่แบบนั้นทั้งวัน พอเหนื่อยก็กินน้ำ กินข้าวกินขนม หรือพักสูบบุหรี่ระหว่างพ่นยา ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ว่ายาจะปลอดภัยขนาดไหนก็ตาม หรือแม้แต่สารชีวภาพ หรือใช้พวกน้ำหมัก น้ำสมุนไพรต่าง ๆ ก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงแก่กระมังครับ จากคุณ : บ้านค่าย เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 21:58:23

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ น้าโหด,พี่ชัดเจน,คุณnoklekkaa, พี่บ้านค่าย มากครับสำหรับความรู้ดีๆที่มอบให้ครับผม จากคุณ : yoshiko_no1 เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 09:55:23

ความคิดเห็นที่ 8 โดยทั่วไป ดูง่ายๆที่ฉลากที่กระป๋องยา  ถ้าตรงข้างล่างมีแถบสีน้ำเงินคาด ก็สบายใจว่า ยาไม่ค่อยมีพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากนัก   แต่การใช้ก็คงต้องระวังเป็นอย่างมาก      ส่วนใหญ่จะมีพิษมากๆก็ตอนฉีด  ใหม่ๆราว 24 ชั่วโมง  พออีกวันเรารดน้ำก็จะชะเอายาลงดินไป พิษที่ตกค้าง ก็จะน้อยลงมากๆ จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 12:05:35

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาขอเก็บความรู้ และขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากการใช้สารเคมีทั้งหลายนะครับ จากคุณ : แทน (pastellist) เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 00:08:09