มันมากับน้ำท่วมมมมมมมมม...Vol.#2
|
 |
หวัดดีอีกครั้งค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่พาเด็กๆอพยพไปอยู่บ้านน้าสาวเพื่อหนีน้ำท่วมเป็นเวลาชั่วคราวอาทิตย์กว่าๆ ระดับน้ำแถวๆบ้านเราเริ่มลดแล้วค่ะ เลยถึงวันที่ต้องพาเด็กๆอพยพกลับบ้านกันอีกครั้ง เฮ้อออออ ได้กลับบ้านกันแว้วววว ดีใจจังเรยยยย ช่วงที่กะลังขนข้าวของลงจากรถ ตาใบ้น้าชายเราก็เข้ามาพยายามบอกว่ามีตัวอะไรตายอ่ะค่ะ เพราะความที่แกเป็นใบ้แล้วพวกเราก็ไม่ได้เรียนภาษามือสากลกันมา อาศัยแต่ใช้ความคุ้นเคยสื่อสารกันเท่านั้น กว่าจารู้เรื่อง ฮ่วยยยยย แกพาไปดูตรงที่หลวงพี่เก็บกระถางต้นไม้สำหรับทำสวนเอาไว้ พอมองเข้าไปก้เจอลูกแมวค่ะ ตัวเล็กจิ๊ดเดียว ลุงใบ้แกพยายามบอกว่ามันหล่นลงมา (จากไหนก็ไม่รู้ เฮ้ออออออ) เราเลยรีบขนของและบรรดาแมวเหมียวทั้งหมดเข้าบ้านก่อน และรีบกลับมาเอาลูกแมวในกระถางต้นไม้เปล่าข้างที่จอดรถน่ะค่ะ ตอนแรกก็นึกว่าตายซะแล้ว เพราะไม่รู้ว่านอนตรงนั้นมากี่ชั่วโมงแระ คุยกับลุงใบ้ก็ไม่ได้ความละเอียดนัก เฮ้อออ เวรกรรม ก็พยายามลูบเนื้อลูบตัวเค้า ก็เริ่มรู้สึกตัวค่ะ ยังค่ะ ยังไม่ตาย เริ่มร้องเสียงดังแล้ว เรารีบพาไปหาแม่นกแอร์ เผื่อจะขออาศัยกินนมหน่อย แต่เพราะน้องร้องเสียงดังมาก แม่นกแอร์แกเป็นโรคประสาทอ่อนๆค่ะ ใครทำอะไรเสียงดังหน่อย แกจะนอยด์จะเหวี่ยงทันที ในที่สุดแม่นกแอร์ก็ไม่ยอมรับให้เจ้าตัวเล็กกินนมค่ะ ลุกหนีเลย โธ่เอ๊ยยย น่าจะทำเนียนๆแอบกินนมเงียบๆแบบไอ่บุญหลงก็ไม่ได้นิ เลยอดกินเรยแก เฮ้ออออ เราก็รีบชงนมทันทีเลยค่ะ แต่น้องก็ไม่ยอมกิน ดิ้นไปมาอยู่ตลอด เราเลยพลิกตัวเค้าเพื่อทำการสำรวจค่ะ เลยพบแผลที่ท้องใกล้ๆสะดือเลย ค่อนข้างใหญ่ซะด้วย ประมาณปลายนิ้วก้อยอ่ะค่ะ แผลใหญ่กว่าของยัยเก่งซะอีก หนำซ้ำดูเหมือนเค้าจะตัวเล็กกว่าตอนเราเจอยัยเก่งอีกอ่ะ ก็ยังไม่ลืมตาเหมือนกันแหละค่ะ แต่ดูเหมือนเจ้านี่จะเล็กกว่ายัยเก่งอยู่มาก ไม่น่าจะเกิน2อาทิตย์ เราพยายามสอบถามลุงใบ้อีกครั้งว่าน้องแมวเป็นอะไร เราอุ้มลูกแมวไปให้แกดูด้วย แกพยายามบอกว่าถูกหมาแม่ลุกอ่อนแถวนั้นกัดเอา เราเลยรีบพาน้องนั่งแท็กซี่ไปหาหมอ เราเรียกเค้าว่าไทเกอร์ (Tiger) ค่ะ เพราะลายเค้าสวยมาก เหมือนเสือเลย เผื่อจะได้มาเป็นเสือตัวที่11ให้บ้านเราอีกตัว พอไปถึงเรารีบบอกหมอให้ช่วยมาดูด่วน ลุกแมวถูกหมากัดมา แต่เราเดาว่าไม่น่าจะเป็นหมาแม่ลูกอ่อน เพราะถ้าใช่ แผลน่าจะลึกกว่านี้ ลุกแมวคงตายไปแล้ว น่าจะเป็นลูกหมาที่พึ่งอายุ2-3เดือนแถวนั้นมากกว่า กะลังซนๆพอดี เห็นตัวอะไรดุ๊กดิีกๆก็เลยฟัดเอา แต่แผลแค่นี้ก็ใหญ่พอดูสำหรับลูกแมวแรกเกิดแล้วค่ะ คุณหมอรีบทำการล้างแผล เพราะแผลค่อนข้างสกปรกมากค่ะ เนื่องจากลุงใบ้เก็บลูกแมวไว้รอเราในกระถางต้นไม้ ถึงจะเป็นกระถางเปล่าแต่ก็ยังมีเศษดินเศษผงเยอะอยู่ดี เฮ้ออออ รอบๆแผลก็เริ่มดำแล้วด้วยค่ะ มีฝุ่นเยอะเลย แล้วก็ไม่รู้โดนมานานเท่าไหร่แล้วด้วย หลังจากนั้นคุณหมอก็เริ่มโกนขนให้น้องค่ะ ไทเกอร์ร้องเสียงดังมาก คงจะตกใจน่าดูสำหรับลูกแมวอายุขนาดนี้ ยังไม่ลืมตาเลยลูกเอ๊ยยยย พอคุณหมอโกนขนรอบๆแผลเสร็จก็เริ่มตัดหนังบริเวณรอบๆแผลออก เพราะมันสกปรกมาก ตอนนั้นเราเบือนหน้าหนีเลยค่ะ จะเป็นลม เสียงร้องเค้าบาดใจเรามาก เจ็บแทนไปด้วยจริงๆ หลังจากนั้นคุณหมอก็ต้องเย็บแผลให้ค่ะ ตัวแค่นี้โดนเย็บตัง3เข็มเลยลูกกกก เราคิดว่าน้องจะน็อคไปตั้งแต่โดนตัดหนังแล้วค่ะ ถึงคุณหมอจะฉีดยาแก้ปวดให้เค้าตอนแรกแล้วก็เถอะ เห็นแล้วเราเจ็บแปล๊บบบที่ใจเลยยย เฮ้อออ อดทนไว้นะลูกนะ เด๋วเราก็กลับบ้านกันแล้วไทเกอร์เอ๊ยยย พอคุณหมอจ่ายยาเสร็จก็บอกให้พาน้องมาล้างแผลทุกวันเหมือนของยัยเก่งแหละค่ะ เราเลยขอใบเสร็จหมอไว้ เพราะถ้าหากมีการรักษาต่อเนื่องยาวนานก็อาจต้องขอความอนุเคราะห์จากโครงการรักษ์แมว หรือโครงการอื่นๆอ่ะค่ะ เพราะตอนนี้เราเองต้องดูแลแมวๆที่เพิ่มจำนวนขึ้นมาเป็น10กว่าตัวแล้ว กลัวไม่ไหวจะเคลียร์อ่ะค่ะ แต่ถ้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายเท่าไหร่เราก็จะออกเงินของเราเองค่ะ ไม่อยากเป็นภาระให้ใคร เพราะข้างนอกก็มีหมา-แมวบาดเจ็บมากมายอยู่แล้ว ช่วงที่รอยาจากคุณหมอ มีลุงกะป้าคู่นึงพาแมวมาเข้าตู้อบยารมควันแก้หวัดด้วยค่ะ เค้าขอดูน้องไทเกอร์ในตะกร้า แกยังบอกเลยว่าน้องน่ารักมาก ลายสวยมากเหมือนเสือเลย ถ้าไม่มีเจ้าของแกจะขอไปเลี้ยงนะ เราเองก็ยังดีใจที่ยังมีคนเมตตาน้องอยู่ ก็เลยขอบคุณแกไปค่ะ รับยาเสร็จก็พาไทเกอร์กลับบ้าน ดูเหมือนว่าเค้าจะเหนื่อยและเจ็บกับการทำแผลมาก นอนหลับมาตลอดทางเลยค่ะ จนเราต้องคอยเปิดตะกร้าดูตลอดว่าน้องยังอยู่รึเปล่า พอถึงบ้านก็รีบไปชงนมเตรียมไว้ให้น้อง แต่....น้องคงไม่มีโอกาสได้กินนมแล้วค่ะ เพราะน้องไทเกอร์ได้จากไปแล้ว อย่างเงียบๆ เฮ้ออออ ไทเกอร์เอ๊ยยยย ป้าก็พยายามช่วยหนูเต็มที่แล้วนะลุก เกือบจะได้เป็นเสือตัวที่11ให้ป้าแล้วเชียว เฮ้อออ หมดเวรหมดกรรมซะทีนะลูกนะ ขอให้หนูไปเกิดในชาติภูมิที่ดีๆนะลูก เด๋วป้าจะพาหนูไปนอนในโอ่งต้นพุดหน้าบ้านนะลูก ไทเกอร์หลับให้สบายนะลูกนะ นี่ก็บ้านของหนูเหมือนกัน เราเอาไทเกอร์ไว้ในห้องก่อนค่ะ ยังไม่ได้ฝัง เพราะเด๋วต้องรีบให้อาหารเด็กๆที่เหลือนี่ก่อน ทั้งหมาทั้งแมว พอให้อาหารแมวเสร็จ ก็เอาข้าวไปให้หมาหน้าบ้านค่ะ แล้วหูเราก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้อง (อีกแล้วเว้ยเฮ้ยยยยย จะอะไรกันนักหนานิ) ก็พยายามเดินหาที่มาของเสียงค่ะ พยายามเอาไฟฉายส่องหาดุด้วย พอเดินตามเสียงไปก็ไปหยุดอยู่ที่บริเวณข้างกำแพงโบสถ์ ในส่วนที่เค้าเก็บกระดูกกันอ่ะค่ะ ก็เห็นลูกแมวตัวจิ๊ดเดียวกะลังเดินเตาะแตะอยู่บนพื้น เอ๊ะ ลายเดียวกันกับไทเกอร์เลย เราเดาว่าเป็นคลอกเดียวกันแน่นอนค่ะ สีเดียวกัน ลายเดียวกันเป๊ะ อายุก็คราวเดียวกัน แต่นี่เป็นเด็กผู้หญิงค่ะ ไทเกอร์เค้าเป็นผู้ชาย น่าเสียดายมาก เฮ้ออออออ ทีนี้เราเลยพยายามเดินสำรวจบริเวณนั้นให้ทั่วๆเลยค่ะ ว่ายังมีหลงเหลืออีกกี่ตัวกันแน่ เดินไปก็สวดมนต์ไป บอกเจ้าที่เจ้าทางไปด้วยว่าเราไม่ได้มีเจตนาเข้ามารบกวนนะคะ เราต้องการมาช่วยลูกแมวจริงๆ ขอให้เราหาพวกเค้าให้เจอให้หมดด้วยนะคะ สาธุฯ แล้วเราก็พยายามฉายไฟไปทั่วๆค่ะ ก็เลยเห็นว่ายังมีอีกตัวนึง นอนนิ่งอยู่ในช่องเก็บกระดูกที่ยังว่างอยู่อ่ะค่ะ ยังไม่มีการบรรจุกระดูกเลยทำให้เป็นโพรงเป็นช่องที่แม่แมวน่าจะคาบลูกมาไว้ในนั้นอ่ะค่ะ เพราะบริเวณกำแพงช่วงนั้นจะมีครอบครัวแมวเหมียวอยู่เกือบ10ตัวที่หลวงลุงเดินเอาข้าวมาให้ และบางวันเราก็ยังไปช่วยแจกข้าวเด็กๆที่อาศัยกันอยู่บนกำแพงช่วงนั้นด้วยค่ะ คงเป็นจังหวะที่ลูกแมวเดินเตาะแตะแล้วตกลงมาที่พื้น ก้เลยร้องเสียงดังไปถึงหน้าบ้านเราเลย ทำให้เรารู้ว่ายังมีลูกแมวอยู่แถวนั้นอีก ส่วนอีกตัวนึงยังคงนอนนิ่งอยู่ก็เลยยังไม่ตก เราพยายามมองหาแม่แมวแล้ว และพยายามร้องเรียกเมี้ยวๆตั้งนาน แต่ก็เห็นเพียงลุงส้มยักษ์แก่ๆตัวเดียวที่อยู่บนกำแพงเท่านั้นค่ะ เราตัดสินใจอุ้มลุกแมวกลับบ้านทั้ง2ตัว เพราะขืนปล่อยไว้ เด๋วพวกเค้าคลานเตาะแตะตกลงมาจากช่องเก็บกระดุกอีก อาจจะบาดเจ็บล้มตายหรือไม่ก็ถุกหมากัดตายอีกแหละค่ะ เลยต้องอุ้มเข้าบ้านไปก่อน เฮ้ออออ งานเข้าอีกแระช้านนนนน ลูกแมวลายเสือ หน้าตาจิ้มลิ้ม ตะหมูกชมพู เราเรียกเค้าว่าน้องพลอยใสค่ะ เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักมากๆ ส่วนอีกตัวนึงดำปิ๊ดปี๋ เราเรียกว่าน้องสาธุนะคะ ก็พาพวกเค้ามาเจอไทเกอร์เพื่อร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ จากนั้นก็รีบชงนมให้เด็กๆกิน หลังจากนั้นจึงเอาไทเกอร์ไปฝังค่ะ เด็กๆแข่งกันร้องประสานเสียงดังมากๆเลยค่ะ ตอนแรกยัยพลอยใสท่าจะกินเก่งกว่า แข็งแรงกว่า แต่ไปๆมาๆเค้าก็กินนมน้อยลง เราก็ไม่เอะใจ พอวันรุ่งขึ้นก็เปิดตะกร้าดูตอนเช้าก็พบว่าน้องพลอยใสท้องเสียและจากไปแล้วค่ะ เราเลยรีบพาสาธุมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวและป้อนนมให้เค้าค่ะ ก็ยังพอกินๆได้อยู่ค่ะ แล้ววันต่อมาก็กินน้อยลงอีกละ แถมยังมีอาการท้องเสียอยู่อีก บางครั้งก็ถ่ายออกมาคล้ายๆมีมูกเลือดปนด้วยค่ะ พอวันถัดมาเจ้าสาธุร้องเสียงเบาลงกว่าเดิมอีก เราร้อนใจทนไม่ไหวเลยรีบพานั่งแท็กซี่ไปหาหมอค่ะ พอเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณหมอฟังว่าทั้ง3ตัวเป็นพี่น้องกัน แต่ไทเกอร์ตายไปเพราะถุกหมากัด แต่ยัยพลอยใสตายเพราะท้องเสียค่ะ คุณหมอเลยสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากหัดแมวอ่ะค่ะ ให้เราทำใจไว้หน่อย เพราะเล็กขนาดนี้ค่อนข้างเลี้ยงยาก และเรากะคุณหมอก็เห็นตรงกันว่ายังไม่อยากให้น้ำเกลือหรือฉีดยาให้สาธุอีกแล้ว เพราะกลัวจะทนเจ็บไม่ไหวเหมือนไทเกอร์ค่ะ เลยให้ยาฆ่าเชื้อผสมยาบำรุงมาให้เราคอยป้อนให้น้องเค้ากินแทนดีกว่า แต่สาธุป้อนนมยากมากๆเลยค่ะ เค้าไม่ยอมดูดนมจากขวดเลยอ่ะ อมไว้เฉยๆ เราเลยต้องป้อนด้วยไซริงค์อันจิ๋วๆแทน อยากให้เค้ารอดอ่ะค่ะ ไม่รู้จะเป็นน้องยัยเก่ง ลูกแม่โกร๋นรึเปล่าก็ไม่รู้ เหลือรอดแต่ตัวดำๆ ฮ่วยยย วันนี้ก้เลยตั้งกระทู้ถามเพื่อนๆไปอ่ะค่ะ ว่าลูกแมวเล็กขนาดนี้สามารถป้อนแบรนด์จูเนียร์ให้เค้าได้มั้ย ถ้าไม่ได้ก็ต้องไปหาหมอกันอีกรอบอ่ะลูก อยากหายาหรืออะไรมาบำรุงให้หนูเพิ่มจังเลย สู้ๆนะสาธุ พี่เก่งกะพี่บุญหลงรอเป็นเพื่อนเล่นกะหนูอยู่นะลูก ทีนี้บ้านเราคงมี3ดำ 3หน่อเลยค่ะ มีของเล่น มีเพื่อนๆเยอะแยะเลยลูก สู้ๆนะสาธุ.... 
จากคุณ |
:
พุดตาน
|
เขียนเมื่อ |
:
28 พ.ย. 54 17:54:04
|
|
|
|