การเลือกซื้อสัตว์เลี้ยง
สวัสดีรอบ blog ครับ

กลับมาอีกแล้วนะครับ ดีใจจังเลยที่ได้พบกับทุกคนที่ติดตาม blog
ในเนื้อหาครั้งก่อนนั้นผมพูดถึงปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อสัตว์เลี้ยงนะครับ ซื้อมีโน้น นี้ นั้นมากมายครับ ซึ่งเมื่อเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะซื้อชัวร์ๆ ขั้นตอนต่อไปก็คือการเลือกสัตว์เลี้ยงและการซื้อสัตว์เลี้ยงครับ
เพื่อนที่อยากเลี้ยงสัตว์บางคนอาจจะยังไม่รู้นะครับว่าเราจะเลือกเลี้ยง เลือกซื้อยังไงดี บางคนบอกว่าเอาอะไรมาก็ได้ขอให้มันเป็นสุนัขก็พอ อันนี้ก็โอเคครับ แต่เพื่อนๆบางคนอาจจะอยากได้ที่ถูกใจทั้งเราทั้งเพื่อนๆทั้งครอบครัว หรืออยากที่ในตัวสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการ เราก็ต้องมีวิธีการเลือกและการซื้อที่ถูกต้องนะครับ
การเลือก(Choosing) เป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับ โดยผมจะพูดถึงสุนัขเป็นส่วนใหญ่นะครับ การเลือกสัตว์ที่ดีส่งผลให้เราได้รับสัตว์เลี้ยงที่ถูกต้องตามที่เราต้องการครับ การพิจารณาว่าจะเลือกอะไรนั้นมีปัจจัยดังต่อไปนี้
(1) เพศ (Sex)
เพศเป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกครับ แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยง(สัตว์ที่มันเลี้ยงปกตินะครับ) มันก็มีอยู่แค่ 2 เพศเท่านั้น คือ ตัวผู้ (male) และตัวเมีย (female) มาดูกันว่าคุณสมบัติของตัวผู้และตัวเมียต่างกันยังไง
ตัวผู้ : มีความเป็นอิสระมากกว่า ฝึกสอนยากกว่า และจะตามตัวเมียในฤดูติดสัดครับ ซึ่งก็เหมือนกับคุณผู้ชายแหละครับ สอนยาก เอามาไว้ในอาณัติเป็นยากแน่แท้ ฮา
ตัวเมีย : มีความรับผิดชอบและยืดหยุ่นมากกว่า ฝึกสอนง่ายกว่า แต่ว่าเขาก็มีฤดูติดสัด
เพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูด้วยว่าเอาไปทำไม เอาไปฝึกสอนหรือเปล่า หรือเอาไปเลี้ยงเล่น หรือเอาไปเพาะพันธุ์ต่อ หรือเอาไปเลี้ยงแบบไม่อยากให้เกิดลูกนะครับ
(2) อายุ (Age)
ในที่นี้ก็มีอยู่ 2 แบบให้เลือกนะครับ คือ ลูกสุนัข (Puppy) และสุนัขโตเต็มวัย (Adult dog) คงไม่มีใครอยากซื้อสุนัขชราหรอกนะครับ หรือถ้าซื้อก็พิจารณาแบบสุนัขโตเต็มวัยแบบขั้นกว่าละกัน อิๆ
ลูกสุนัข : ลูกสุนัขก็เหมือนเด็กแหละครับ ซนเป็นธรรมชาติของเขา ใช้เวลาในการเลี้ยงดูสูง อาจจะใช้ระยะเวลาถึง 3 ปีเลยทีเดียวในการโตเต็มวัย การประเมินลักษณะนิสัยของลูกสุนัขนั้นส่วนมากแล้วขึ้นอยู่กับ common sense ของใครของมัน ทายกันไม่ค่อยจะได้หรอก ให้มองหาสุนัขที่สนใจคุณ
แล้วเราจะเลือกลูกสุนัขอายุเท่าไหร่ดีละ? อายุที่เหมาะสมในการหาลูกสุนัขคือ 10 สัปดาห์ ซึ่งช่วงนี้จะเรียกว่า Critical socialization period เป็นช่วงที่สุนัขเปิดรับสิ่งที่เขาเจอมา ถ้าเขาเจอสิ่งที่น่ากลัว เขาก็จะกลัวไปตลอดชีวิต ถ้าเขาเจอสิ่งที่เขารัก เขาก็รักไปตลอดชีวิตเลย
สุนัขโตเต็มวัย : เห็นยังไงได้ยังงั้น ลักษณะนิสัยส่วนมากจะคงที่แล้ว ทำลายล้างบ้านน้อยกว่าลูกสุนัข เนื่องจากการดูแลมายาวนานทำให้ฝึกสอนได้ง่ายกว่า และอย่าลืมขอประวัติสุขภาพของสุนัขมาด้วย
ลูกแมว : การบำรุงเลี้ยงดูสูงกว่า ต้องการความเอาใจใส่มาก ต้องการการดูแลทางสัตวแพทย์ซึ่งประกอบด้วย vaccine การถ่ายพยาธิ การทำหมัน ลูกแมวนั้นเราไม่รู้ลักษณะนิสัยเลย
(3) สถานะทางสุขภาพ (Health Status)
ควรจะทำการตรวจสอบโดยทั่วด้วยการใช้มือในการสัมผัส ถ้าเป็นไปได้ต้องขอข้อมูลทางการแพทย์มาด้วย และควรที่จะตรวจสอบสุขภาพทั้งหมดของแต่ละสุนัขในคอก
สิ่งที่ควรจะดูคือ ตา, หู, จมูก, ปาก(รวมทั้งฟัน การหายใจและการขยับของกราม), บริเวณทวารหนัก, การเดินและการวิ่ง, น้ำหนัก, อารมณ์, คุณภาพและสภาพของขน, อุปนิสัยในการหายใจและการกิน
เมื่อเราไปเจอสุนัขที่ต้องการควรจะเจอลักษณะเหล่านี้
- มีความสุขและกระตือรือร้น
- หูและจมูกสดใส
- ขนควรที่จะสะอาดและเป็นมันเงา
- ไม่มีเห็บและหมัด
- ตรวจสอบสิ่งคัดหลั่งที่มาจากบริเวณลึกๆ ตรวจสอบอาการไอและจามเรื้อรัง
- ไม่ควรซื้อสุนัขหรือแมวที่ป่วยมาเลี้ยง เดินจากก่อนที่คุณจะเข้าใกล้สัตว์และบอกตัวคุณเองว่าคุณสามารถเลี้ยงสัตว์ป่วยได้
แล้วอีกอย่างก็คือควรนำสัตว์เลี้ยงไปให้สัตวแพทย์ตรวจด้วย ถ้าเป็นไปได้ควรที่จะขอใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate) ด้วย ถ้าจำเป็นก็ต้องมีการรักษาเพิ่มเติมโดยสัตวแพทย์
(4) พันธุ์ (Breed)
เพื่อนๆหลายคนที่กำลังจะเริ่มเลี้ยงคงยังลังเลระหว่างจะเลือกพันธุ์ไหนดี ตัวนี้ก็สวย ตัวนี้ก็ดี ตัวนี้ก็น่ารัก โว้ยย มันเยอะหลายแท้ เราก็ต้องตัดสิ้นใจก่อนว่าเราจะเลือกพันธุ์อะไร ระหว่างพันธุ์แ ท้(Purebreed breed) และพันธุ์ผสม (Mixed breed)
พันธุ์แท้ เพื่อนๆหลายคนอาจจะอยากที่จะซื้อเป็นแน่เพราะส่วนมากแล้วใครๆก็อยากจะเลี้ยงอะไรที่เป็นของจริง ใช่ไหมครับ ในการเลือกสุนัขพันธุ์แท้นั้นเราสามารถรู้ได้ว่าสุนัขตัวนี้ถูกปรับปรุงพันธุ์มาเพื่อนอะไร รู้คุณลักษณะทั่วไปทางกายภาพและนิสัยของลูกสุนัขหรือลูกแมว เพราะในพันธุ์เดียวกันก็จะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน
พันธุ์ผสม ก็คือการที่พันธุ์แท้มาผสมกันหรือว่าพันธุ์ผสมมาผสมกันหรือการผสมมั่วๆ หรือการผสมที่ไม่รู้ที่มาที่ไป เค้าบอกว่าเลือกพันธุ์ผสมก็เหมือนการทอยลูกเต๋า ไม่ลูกจะออกมาหน้าไหน ไม่รู้นิสัย ไม่รู้ว่าโตขึ้นจะเล็กเหมือนแรคคูนหรือโตเหมือนหลินปิงกันแน่ แต่ว่าสิ่งที่ดีคือการที่มีปัญหาสุขภาพลดลง
สายพันธุ์ที่แตกต่างกันก็ต้องการประเภทและจำนวนของการดูแล การฝึก อาหารและการออกกำลังกายที่ต่างกันไป
การเลือกพันธุ์ที่ถูกใจเรานั้นใช้เวลาและความพยายามของเรามาก สำคัญที่สุดก่อนเพื่อนๆที่จะซื้อคือต้องทำการวิจัยก่อนที่จะนำมาเข้ามา เพราะเราจะได้รู้ว่ามันเหมาะกับเราหรือเปล่า
American Kennel Club เป็นสมาคมสุนัขของสหรัฐอเมริกา แบ่งสุนัขออกเป็น 7 ชนิดสายพันธุ์
1) Toy dogs breeds เป็นสุนัขที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อนเล่น
2) Terriers breeds เป็นสุนัขที่พัฒนาขึ้นมาใช้สำหรับขุด หรือกำจัดพวกสัตว์ที่เป็นศัตรูของพืชไร่
3) Sporting breeds เป็นสุนัขที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการกีฬา
4) Hounds breeds เป็นสุนัขที่พัฒนาขึ้นมาใช้ในการล่าเหยื่อ ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ sight hound และ scent hound
a. Sight hound คือสุนัขพันธุ์ที่ใช้สายตาในการล่าเหยื่อ
b. Scent hound คือสุนัขพันธุ์ที่ใช้ประสาทดมกลิ่นในการล่าเหยื่อ
5) Working breeds เป็นสุนัขที่พัฒนาขึ้นมาเป็นสุนัขที่ใช้ช่วยในการทำงาน
6) Herding breeds เป็นสุนัขที่พัฒนาขึ้นมาเป็นสุนัขที่ใช้ไล่ต้อนฝูงสัตว์
7) Non-sporting breeds เป็นสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มที่กล่าวมา
หลังจากเราทำการเลือกเสร็จแล้วก็ต้องทำการซื้อครับ การซื้อผมจะเอามาอัพครั้งหน้าละกัน หลายคนตอนนี้อาจจะคิดแล้วว่าการหาสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงมาตัวนึงนี้มันคิดเยอะจริงๆ ผมอยากจะบอกเพื่อนๆว่ามันก็เหมือนเรามีลูกแหละครับ ทุกอย่างต้องคิดมากเป็นธรรมดานี้น่า
ส่วนพันธุ์สุนัขนะครับ เพื่อนบางคนอาจจะอยากรู้ ผมก็จะอัพมาให้ blog หน้าๆละกัน เพราะว่ามันเยอะมากจริงๆ แต่ต้องขอออกตัวก่อนนะครับเพราะว่าผมไม่ค่อยจะสันทัดพันธุ์สุนัขกับแมวซักเท่าไหร่ คนที่จะให้คำตอบน่าจะเป็น breeder น่าจะดีที่สุดนะครับ
ยังไงก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่มาอ่านนะครับ ฝากติดตามผลงานต่อไปด้วยนะครับ
ปล. ท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์นะครับ ขอฝาก โรงพยาบาลสัตว์ปศุอาธร มหาวิทยาลัยมหิดล ครับ
