ความคิดเห็นที่ 1 ช่วยพิจารณาอีต้นนะคะ ลืมบอกไปว่าต้นแรกเธอคือ pat austin ส่วนต้นนี้เธอคือClair Matin กิ่งเล็กที่ขึ้นคู่สงสัยว่าเป็น sucker ใช่ไหมค่ะ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:44:46

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อไปภาพไว้อาลัยที่ไม่น่าชมเท่าใดนัก เพิ่งได้มาไม่ถึงปี ก็เป็นเชื้อรา ขอไว้อาลัยแด่Alan Titchmarsh (Ausjive) or Huntington Rose จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:46:42

ความคิดเห็นที่ 3 บ๊ายบาย Sir Edward Elgar (Ausprima) จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:47:59

ความคิดเห็นที่ 4 ฉันจะสู้เพื่อเธอ Red Eden จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:49:12

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนMidnight blue ก็ลาจากไปแล้ว สามีเห็นเราเสียใจเลยรีบเอาไปเผาทิ้ง และ Claire Austin (Ausprior) ก็เริ่มเหลือง ยอมรับว่าเหนื่อยใจจริงๆๆ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:51:50

ความคิดเห็นที่ 6 มาวันนี้สิ่งที่ดีๆๆก็มีเมื่อยามชม มุมของChicago Peace จะสู้กับเพลี้ยยังไม่ชนะ 100% แต่ก็ยังออกดอกให้ชม ต้นนี้คุณผู้ปกครองท่านขึงเอ็นให้เลื้อยบังแดดตอนเช้าค่ะ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:54:47

ความคิดเห็นที่ 7 Old timer จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:56:46

ความคิดเห็นที่ 8 Queen of Sweden (Austiger) จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:58:07

ความคิดเห็นที่ 9 Lichfield Angel (Ausrelate) หอมมาก จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:00:12

ความคิดเห็นที่ 10 Summer of Love จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:01:46

ความคิดเห็นที่ 11 wellcome home จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:03:24

ความคิดเห็นที่ 12 lovely red จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:05:07

ความคิดเห็นที่ 13 The Wedgwood Rose Climbing (Ausjosiah) จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:07:56

ความคิดเห็นที่ 14 Charles Darwin  (Auspeet) หนีเพลี้ยมาไว้หน้าบ้านค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 09:38:06 จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:08:53

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้ากิ่งงอกจากจุดที่ต่ำกว่าส่วนที่ติดตาจะเป็นกิ่งจากตอต้องตัดทิ้งไป กุหลาบดอกสวยๆ หลายต้นเลยนะ Queen of Sweden (Austiger) หวานเบาบางมากค่ะ จากคุณ : สีมุก เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:09:00

ความคิดเห็นที่ 16 คุณสีมุกค่ะ ภาพแรกมั่นใจว่าจะตัดทิ้งค่ะ แต่ภาพที่สอง(ความเห็นที่1) อยู่ตรงตุ่มตาพอดีเลยตัดสินใจไม่ได้ค่ะ ช่วยพิจารณาให้ด้วยได้ไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 09:15:08 จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:13:57

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพแรกเป็นต้นจากตอป่าค่ะ ส่วนภาพสองค่อนข้างแน่ใจว่า เป็นของตาที่ติดมา สังเกตว่าเค้างอกบนส่วนที่มันปูดๆหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ใช่เลยค่ะ Abraham Darby ที่ปลูกไว้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ^^ จากคุณ : Orange Jasmin เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:17:50

ความคิดเห็นที่ 18 จากที่ผมได้นำกุหลาบทั้งพันธุ์ไทย และ ตปท ลงดิน โดยที่ไม่ให้ปุ๋ยเคมีเลย มีแต่ปุ๋ยคอก หรือน้ำหมักบ้าง นานๆที หลังจากผ่านน้ำท่วม น้ำแช่รากสักเดือน ไม่ตาย แต่ไม่ให้น้ำตาย มาถึงวันนี้ ให้ดอกไปสัก 2 รอบแล้ว ไม่พบศัตรูพืชรุนแรง ส่วน Evelyn ที่ยังอยู่ในกระถางใหญ่ ก็ออกดอกเล็กลงกว่าตอนที่ซื้อมามาก กำลังคิดจะตอนแล้วนำสักกิ่งไปลงดินดูว่าจะเป็นอย่างไร ต้นด้านข้างบ้านกำลังจะบานอีกแล้วครับ ไม้กระถาง ผมเลี้ยงไม่ค่อยงามครับ แต่ลงดินแล้วดูแข็งแรงกว่า เพียงแต่อากาศและความชื้นไม่เหมาะสม ก็ติดดอกยากทีเดียว สำหรับไม้ดอก ที่สังเกต บ้านตรงข้าม เขาให้น้ำอย่างเดียว แต่ฝั่งเขามีแดดปีละแปดเดือนได้ พวกไม้ดอกเช่นกุหลาบงาม ออกดอกบ่อยๆเลย และดอกโต จึงสรุปเอาเองว่า ไม้ดอก ต้องการแดด น้ำ บรรยากาศที่เหมาะสม มาแชร์ครับ กุหลาบสวยครับ อยากไปขอตอนบ้างจัง หากบ้านอยู่ไม่ไกลกัน (ผมยังลงรูปไม่เป็น ไว้ฝึกก่อน ต่อไปจะลงให้เพื่อนๆได้ดูกัน) จากคุณ : bhisake เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:26:28

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยที่กุหลาบชอบน้ำและแดด โดยเฉพาะ Abraham Darby จะชอบแดดเป็นพิเศษ จากคุณ : สีมุก เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:32:17

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ คุณสีมุก,คณbhisakeและคุณOrange Jasmin ที่บ้านเพิ่งได้ Abraham Darby แบบล้างราก จากคุณลุงจิระมาเมื่อวันเสาร์ค่ะพร้อมกำลังใจอีกเพียบ(7ต้น) เพิ่งลงกระถาง ปลูกลงดินไม่ได้เพราะมีพื้นที่น้อยค่ะ (ที่บ้านทั้งหมดลงดินไปแค่ 6 ต้น ที่เหลือลงกระถาง) แต่ส่วนตัวแล้วถ้าลงกระถางทำให้จัดสวนได้ง่ายกว่าค่ะ คุณผู้ปกครองท่านชอบโยกย้ายเปลี่ยนแปลงสวนอยู่ตลอดเวลา ที่บ้านจึงลงแต่กระถางค่ะ แม้แต่เยอร์บิร่าก็ลงกระถางค่ะ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:46:10

ความคิดเห็นที่ 21 ดูจากอาการแล้ว เราสงสัยเรื่องนึงว่า เครื่องปลูกที่ใส่ในกระถางแน่นเกินไปหรือเปล่า เหมือนเมื่อก่อนที่เราไม่รู้เรื่องการเตรียมเครื่องปลูกกุหลาบจากห้องต้นไม้ ใส่แต่ดินต้นก็ดูอ่อนแอแบบนั้น แถมใช้ดินกระสอบที่เหมือนดินเหนียวด้วย กุหลาบรากไม่ค่อยทนสภาพที่มีน้ำในดินมากๆและอากาศระบายไม่ดีน่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ลองดู ทำให้ดินโปร่งมากๆ ใส่ขุยมะพร้าวเกือบทั้งหมดเลย ใส่ดินเจียไต๋(มอสพีท)ไปนิดหน่อยและเวอร์มิคูไลท์ พอรดน้ำทีน้ำผ่านยังกะไม่มีอะไรกั้น คิดว่ามันจะโตเหรอเนี่ยดินก็แทบจะไม่มีแล้วต้นไม่ขาดน้ำเหรอ แต่ผิดคาดตามที่เค้าว่าเป้ะเลย กุหลาบกลับโตได้ดีกว่าการใส่ดินมากๆอีก เลยรู้อีกเรื่องว่าถ้าดินมีความชื้นอยู่ต้นจะไม่แห้ง (มาจากเวอร์มิคูไลท์และขุยมะพร้าวที่เก็บความชื้น) ส่วนปุ๋ยเองมีเวอร์มิคูไลท์ดูดเก็บไว้ให้ (เดี๋ยวจะลองภูไมท์ซัลเฟตว่าจะช่วยดูดปุ๋ยได้แค่ไหน) ส่วนเรื่องแสงก็มีผลต่อกุหลาบจริงๆแหละมาเห็นชัดก็ตอนที่ตัดต้นไผ่ที่บังแสงออกเพื่อให้แสงส่องลงมาได้มากขึ้น หลังสงสัยที่เห็นกุหลาบทุกต้นงอกกิ่งยาวไปทางเดียวกัน แล้วเดาว่าแสงไม่พอเลยงอกเข้าหาแสง กุหลาบก็แตกใบเยอะขึ้นหลังตัดไม่กี่วัน แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 10:05:50 จากคุณ : คนดูแลบ่อปลาและสวน (คนดูแลบ่อปลาและสวน) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:57:43

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะคุณคนดูแลบ่อปลาและสวน จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา (กุหลาบบานที่บูรพา) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:07:02

ความคิดเห็นที่ 23 รูป 1 เป็น กิ่งตอป่าคะ รูป 2 เป็นกิ่งกระโดง แต่เห็นด้วยคะ ดินแน่นไป เป้เลยคิดว่า อาจเป็นเพราะระบบรากมีปัญหา เพราะเครื่องแปลูกแน่น ทำให้เกิดอาการ dieback ได้คะ เรื่องอื่นๆ คิดว่าคุณ กุหลาบบานที่บูรพา รู้อยู่แล้วละ ชิมิ อิอิ ป.ล. อยากจะให้กำลังคะ เป้ก็ปลูกกุหลาบมานานพอสมควร แต่ละปีเจอปัญหาไม่เหมือนกันเลยคะ ปีนี้เจอเพลี้ยหอยเหมือนกันคะ เหนื่อยมากๆ แต่อย่าได้แคร์ มันมาแล้วก็ไป จากคุณ : pupaeblossom เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:08:23

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะคุณปูเป้ เรื่องอื่นๆอีกมากมายที่ไม่รู้ค่ะ คงต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆๆ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:11:21

ความคิดเห็นที่ 25 เพิ่มเติมเรื่องเพลี้ยนอกจากเพลี้ยไฟแล้ว ลองหาสตาเกิ้ลจีแบบใส่ดินมาโรยดูสิ ไม่เคยลองเพลี้ยหอย แต่เพลี้ยอ่อนไล่ไปได้ ลองใช้ดูอยากรู้ว่ามันฆ่าได้ไหม เพราะตอนนี้เราก็ใช้เพราะเพลี้ยหอยบุกเหมือนกัน อยากรู้ว่ามันจะตายไหม เค้าว่ามีผลกับพวกแมลงปากดูดทุกอย่างยกเว้นเพลี้ยไฟ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 10:16:04 จากคุณ : คนดูแลบ่อปลาและสวน (คนดูแลบ่อปลาและสวน) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:15:15

ความคิดเห็นที่ 26 ใส่สตาเกิ้ลจีแล้วค่ะ เอาอยู่ค่ะ(เพลี้ยหอยอยู่เพียบค่ะ) สรุปไม่ได้ผลค่ะ ฟูราดานก็ไม่ได้ผลเช่นกันค่ะ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:24:35

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่มีผลคะ เพลี้ยหอยต้องใช้ white oil พ่นคะ พ่นเสร็จใบจะร่งเพราะเบสน้ำมัน สตาร์เกิ้ลเป็นยาดูดซึมก็จริง แต่ไม่ทันเพลี้ยคะ เหมาะกับต้นไม้ต้นเล็กๆ มากกว่าคะ แต่ของเป้ ใช้วิธีธรรมชาติ คือเอาน้ำมันชุบลำสี ขูดๆ ไปกับต้นคะ ใบจะไม่ร่วง แต่ต้องทำทุกกิ่งเลยคะ ป.ล. วิธีไม่สามารถฆ่าสปอร์ได้ ต้องบ่อยๆ แล้วจะหายคะ ต้องอดทนนิดนุง จากคุณ : pupaeblossom เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:24:54

ความคิดเห็นที่ 28 ได้ผลกับมด แค่นั้นน แต่ฟูราดาลห้ามใส่ของกินนะคะ พวกพริกไรงี้ ห้ามเลย สารตกค้างนานมากๆ จากคุณ : pupaeblossom เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:27:06

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณค่ะคุณปูเป้ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:44:01

ความคิดเห็นที่ 30 มาคอนเฟิร์มอีกเสียงว่ารูปแรกใช่ซักเกอร์แน่ๆ เพราะงอกแถวตอติดดิน ของผมตะก่อนก็มีสองต้นที่เป็นแบบนี้ โตไวเลื้อยสวยใบงามมากๆ 55+ ตอนแรกเก็บไว้เพราะดูเก๋ดี แต่นานวันเข้ากลับพบว่ามันทำให้ต้นกุหลาบติดตาของเราโตช้าเพราะโดนเจ้าซักเกอร์แย่งอาหารไปซะหมด หุหุ สุดท้ายเลยตัดทิ้ง ส่วนรูปที่สองคิดว่าไม่น่าจะใช่ซักเกอร์ แต่เป็นกิ่งใหม่ที่งอกออกมา ที่บ้านก็มีหลายต้นที่เป็นแบบนี้ และสังเกตได้ว่ากิ่งใหม่พวกนี้มักเป็นกิ่งที่ใหญ่อวบให้ดอกที่สวยสมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนพวกเชื้อรานี้ ตอนนี้ผมก็กลัวอยู่เหมือนกัน มีต้นหนึ่งเป็นกุหลาบเลื้อยสีแดง เริ่มมีอาการเหมือนจะแห้งตายไปทีละหน่อย(จากเชื้อราหรือะไรสักอย่าง) อาการแบบนี้ไม่เคยเจอเลยกับตอนที่เลี้ยงน้อยต้น แต่ช่วงหลังๆ กุหลาบผมเริ่มเยอะขึ้นมาก (เกือบ 80 ต้น) ไม่รู้ทั้งเพลี้ยไฟไรแดงและเชื้อรามาจากไหน รุมกินโต๊ะซะเกือบแย่ เล่นเอาเครียดไปหลายวัน ตอนนี้เลยใช้วิธีกำจัดและควบคุมแบบผสมผสาน ใช้เคมีกับชีวภาพพวกสะเดา น้ำส้มควันไม้โดยฉีดสลับกันสัปดาห์ละครั้ง เพลี้ยไฟใช้อะบาแมคติน เลนเนต พอสซ์ (ใช้สลับกันไม่ให้ดื้อยา) ไรแดงใช้ออทุส (ฉีดคนละวันกับยาเพลี้ยไฟ ฉีดครั้งเดียวกันได้เกือบเดือน) ส่วนเชื้อราได้ยามาใหม่ที่เจ้าของร้านเกษตรฯ แถวเจเจแนะนำมาชื่อ ฟังกูราน (คอปเปอร์ ไฮดรอกไซด์) ซึ่งผมผสมกับยาฉีดเพลี้ย หลังจากฉีดได้สองครั้งในสิบกว่าวันที่ผ่านมาพบว่าอาการกุหลาบดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ใบไหม้ใบหงิกงอใบเหลืองใบร่วงใบจุดใบสนิมหายเกือบหมด พวกเคมีภัณฑ์นี้ว่าไปใช้ให้ถูกก็สบายดีเหมือนกัน 55+ ส่วนเรื่องดินปลูกตอนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่เหมือนกันครับ เพราะต้นกุหลาบผมทั้งหมดก็ปลูกลงกระถาง (เพราะพื้นที่น้อยและง่ายต่อกันขนย้าย) บางต้นในกระถางที่ใช้ดินมากหน่อยเหมือนมันจะโตได้ไม่ดี ดอกเล็ก แต่กระถางไหนใส่ขุยมะพร้าวเยอะหน่อย สังเกตว่ามันโตได้ดีกว่าซะงั้น ตอนนี้เลยได้วิธีหมักเครื่องปลูกให้เก่าจากคนขายกุหลาบมาว่า ให้ใช้น้ำ EM ราดกับพวกขุยมะพร้าว + เปลือกถั่ว + ปุ๋ยคอกอย่างละส่วนในถังปิดฝาเพื่อการย่อยสลายของเครื่องปลูก อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาค่อยนำไปใช้ผสมกับดินถุงในอัตราส่วนสองต่อหนึ่ง ว่าจะลองดู ไว้ได้ผลประการใดไว้จะมารายงานอีกที ^^ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 10:50:44 จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:50:22

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณค่ะคุณโจโฉ จะรีบไปหา ฟังกูราน มาลองใช้ดูค่ะ จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 10:57:15

ความคิดเห็นที่ 32 การใช้ยาชนิดดูดซึมมากๆ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังนะคะ จากคุณ : pupaeblossom เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:08:02

ความคิดเห็นที่ 33 ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ เย็นๆๆจะมาตามเปิดอ่านคำตอบจากเพื่อนๆๆค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบและทุก comment จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:08:56

ความคิดเห็นที่ 34 รูปแรก Pat austin กิ่งที่เกิดใหม่เป็น sucker แต่ต้นตอของคุณไม่ใช่กุหลาบป่าครับ เพราะใบของกิ่งที่งอกออกมารูปร่างไม่เหมือนใบของกุหลาบป่าที่ใช้เป็นต้นตอในไทย  ถ้ากลัวว่าจะทำให้ Pat Autin ตายก็ตัดออกได้เลยครับ รูปที่สอง Clair Matin กิ่งที่เกิดใหม่เป็นกระโดงของกุหลาบพันธุ์ดีครับ โดยเฉพาะแตกมาจากรอยติดตาถือว่าดีมากครับ ส่วน Red Eden ควรจะตัดกิ่งที่เป็นโรคออกไปนะครับดีกว่าปล่อยให้ลามลงมาเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะหมดต้นเอา สำหรับเรื่องดินเห็นด้วยกับเพื่อน ๆ ว่าดินแน่นเกินไปแล้วครับ จากคุณ : ม่อนแสงดาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:57:16

ความคิดเห็นที่ 35 พี่ม่อน เพราะมันไม่มี 7 ใบชิมิ จากคุณ : pupaeblossom เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 12:26:55

ความคิดเห็นที่ 36 กิ่งที่มันมี 7 ใบก็มีในรูปแรกนะครับน้องปูเป้ แต่ที่ว่าไม่ใช่กุหลาบป่าเพราะลักษณะรูปทรงของใบมันไม่ใช่ครับใบกุหลาบป่ามันจะเรียวแคบกว่านี้ครับ จากคุณ : ม่อนแสงดาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 12:49:53

ความคิดเห็นที่ 37 โอ้ววว ลง Detail เยอะเลย ขอบคุณสำหรับควมรู้ใหม่ๆค๊า จากคุณ : pupaeblossom เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 13:02:41

ความคิดเห็นที่ 38 -ขอวิจารณ์นิดครับ    ภาพแรกเป็น ซักเกอร์แน่นอนครับ  ใช้มีด ตัตเตอร์คมๆ ตัดทิ้งเสียครับ ต้ดให้ลึกๆหน่อย   คห.1 เป็นกระโดง เป็นกิ่งที่จะทดแทนต้นเดิม   มีประโยชน์มาก แต่พลิกดูใต้ใบซิครับคาดว่าจะเป็น ไรแดง นะครีบ  ขอ วิจารณ์ว่า ดินปลูกเสื่อมตุณภาพ ตวรตัดแต่งแล้วเปลี่ยนดินใหม่   ขอ้สันนิฐานอีกอย่างหนึ่งคือ น้ำที่รดนั้นคงจะกล่อย   ควรเปลี่ยนน้ำรดคงดีขึ้น   ขอโทษที่วิจารณ์ครับ จากคุณ : Uncle Rose เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 18:45:55

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบพระคุณมากค่ะคุณลุง น้ำกร่อยนี่หมายความว่าเป็นกรดหรือด่างค่ะ หรือว่ามันมีน้ำเค็มปน หนูจะได้ผ่านเครื่องกรองก่อนรดค่ะ ตอนนี้รดด้วยน้ำประปาค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 20:50:21 จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:05:06

ความคิดเห็นที่ 40 น้ำมี CL มากคะ ส่วนมากถ้ามี Cl แตกตัวเป็นกรดเกลือคะ ความเป็นกรดอ่อนมีผลดีต่อกุหลาบ แต่ Na ไม่ดีนะคะ ยังไงรอพี่ม่อนมาตอบอีกทีคะ เป้ได้แค่เคมีพื้นฐาน จากคุณ : มี่แสงเดือน อิอิ (pupaeblossom) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:23:27

ความคิดเห็นที่ 41 น่าจะเป็นคลอรีนตามที่คุณปูเป้อธิบาย เพราะมันเป็นน้ำประปา ซึ่งน่าจะมาจากแหล่งน้ำอ่างเก็บน้ำบางพระ ก็คงจะเป็นตัวคลอรีนมากกว่าตัวอื่น ขอบพระคุณนะคะ จะลองดูว่าเครื่องกรองตัวนอกบ้านจะมีคุณสมบัติกรองคลอรีนได้แค่ไหนหรือไม่อย่างไร จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:49:39

ความคิดเห็นที่ 42 คลอรีนในน้ำประปาที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคปกติแค่รองใส่ภาชนะทิ้งไว้กลางแจ้งทิ้งไว้สักวันก็จะระเหยออกหมดไปเองไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวายครับ น้ำกร่อย หมายถึงน้ำที่มีเกลือ(TDS)ละลายปนอยู่มากกว่า 1000 mg/l ทำให้มีรสชาดฝาดลิ้น  ในกรณีของคุณกุหลาบบานที่บูรพา น้ำที่คุณใช้คือน้ำประปาจากอ่างเก็บน้ำบางพระซึ่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำบางพระเป็นน้ำผิวดินที่มาจากน้ำฝนดังนั้นน้ำนี้ไม่ใช่น้ำกร่อยครับเพราะน้ำกร่อยจะมาจากแม่น้ำหรือน้ำบาดาล นอกจากนี้น้ำประปาเขาจะมีมาตรฐานการผลิตว่ามีเกลือที่ละลายอยู่ไม่เกิน 600 mg/l  และความกระด้างไม่เกิน 300 mg/l  ซึ่งน้ำที่มีมาตรฐานตามนี้ยังถือว่าเป็นน้ำจืดที่บริโภคได้อยู่ ส่วนที่ลุงจีระถามว่าเป็นน้ำกร่อยหรือไม่ ? ผมเข้าใจว่าคุณลุงอาจใช้ศัพท์ผิดคำ คุณลุงน่าจะถามว่าเป็นน้ำกระด้างหรือไม่มากกว่าเพราะใบกุหลาบของคุณเหลืองมีอาการเหลืองเหมือนขาดธาตุเหล็กซึ่งอาการนี้เกิดได้กับดินที่มีสภาพเป็นด่าง ซึ่งน้ำกระด้างจะมีสารไบคาร์บอเนตที่เป็นหินปูนละลายอยู่ทำให้เกิดความเป็นด่างและตรึงธาตุอาหารไว้ได้ครับ ดังนั้นผมคิดว่าคุณสามารถใช้น้ำประปารดได้อยู่ ที่บ้านผมก็รดน้ำประปาเช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 22:12:26 จากคุณ : ม่อนแสงดาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 22:10:43

ความคิดเห็นที่ 43 มากระทู้นี้ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : ต่าย (สาวกลางกรุง) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 00:15:41

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณค่ะคุณม่อนแสงดาว จากคุณ : กุหลาบบานที่บูรพา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 00:52:21

ความคิดเห็นที่ 45 เป๊ะมาก อยากให้กีบจัง แต่หมดแว้วว จากคุณ : pupaeblossom เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 08:05:53

ความคิดเห็นที่ 46 ที่บ้านอยู่บางพระเหมือนกัน ใบสภาพเหลืองประมาณนี้เลยค่ะ ไม่ทราบว่าต้องให้ปุ๋ยอะไรเสริมธาตุเหล็กคะ? จากคุณ : Terabithia เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 10:53:46

ความคิดเห็นที่ 47 นั้นซิ อยากให้กิ๊ฟพี่ม่อนซัก 1000 กิ๊ฟ ^^ จากคุณ : nucha2005 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 11:58:39

ความคิดเห็นที่ 48 ขอขอบคุณๆม่อนแสงดาวที่ให้ความกระจ่างในปัญหานี้ จากคุณ : Uncle Rose เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 22:10:38