ความคิดเห็นที่ 1 หาตลาดให้ได้ก่อน(ราคา+ ปริมาณที่ผลิตได้เป็นตัวแปรมาก) จากคุณ : ยิบยอง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 22:55:43

ความคิดเห็นที่ 2 เอาจากความคิดผมล้วนๆ นะครับ การปลูกผักไฮโดร หรือผักกางมุ้ง เป็นแนวคิดที่ดีมากเลยครับ แต่สำคัญคือตลาด หากสามารถขายได้ในราคาตลาดบนคือบริโภคพร้อมจะเสียเงินเพิ่มให้คุ้มกับคุณภาพ แต่ปัจจุบันหลายๆ ที่ผลิตออกมาแล้วไม่สามารถขายได้ในราคาที่ควรจะเป็นหากแต่ขายได้ในราคาปกติเหมือนผักตลาดทั่วไป ทำให้ผู้ประกอบการหลายๆราย ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า ทำให้เป็นปัญหาพอสมควรครับ เรื่องมุ้งหรือโรงเรือนพวกนี้ราคาก็ตั้งแต่หลักหมื่นปลายๆ จนถึงแสนครับ ขึ้นอยู่ว่าเราต้องการแบบไหน กรมผมก้สนับสนุนเรื่องผักกางมุ้งให้เกษตรกร แต่ผมเห็นแย้งมาตลอดถึงแม้ว่าข้อดีของผักกางมุ้งจะมีหลายข้อ แต่การตอบโจทย์ที่ไม่ชัดเจนทำให้ผมมองว่า สำเร็จในช่วงแรกๆ แต่ปลายเหี่ยว ดังนั้นถ้าคิดจะทำต้องตอบโจทย์เรื่องการตลาดให้ได้ก่อนครับ ลองหาข้อมูลเรื่องต้นทุนการผลิต เศรษฐศาสตร์การลงทุน โดยพิจารณาจาก ค่าลงทุนคงที่ (Fixed Cost) คือพวกวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงเรือน อุปกรณ์ปลูก ระบบน้ำ เป็นต้น ค่าลงทุนผันแปร (Variable Cost) คือพวกค่าใช้จ่ายๆ เช่น ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าจ้างแรงงาน Operating Cost ที่เราจะต้องจ่ายอยู่เป็นประจำ สุดท้ายจะช่วยให้เราประมาณความคุ้มค่าการลงทุนได้ว่าความคุ้มทุนอยุ่ที่กี่ปี โดยทั้งหมดต้องพิจารณาร่วมกับเงินลงทุน เงินกู้ หรือเงินเก็บ และต้องดูประสบการณ์ของผู้ลงทุนด้วยครับ เคยปลูกผักมาก่อนหรือไม่ หรือต้องจ้างคนอื่นมาดูแลให้อย่างเดียว จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 11:04:37

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องคุยกันก่อน ว่าจะเอาคุ้มทางใหน ถ้าคุ้มทางด้านสุขภาพของเรา ปลูกเอง คุมยาฆ่าแมลงเป็นสารอินทรีย์เอง คุมสารละลายอาหารที่เลี้ยงเอง   เพื่อเอามากินเอง  แบบนี้คุ้มมากๆ ครับ แต่ถามว่าคุ้มทางด้านการค้าใหม  ผมว่าสถานที่ปลูกน้อยไป ไม่ค่อยจะคุ้มครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 08:19:06 จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 12:02:00

ความคิดเห็นที่ 4 ผักกางมุ้ง ไม่ใช่ความหมายทั้งหมดของผักไฮโดรโพนิกส์นะครับ ...ผักไฮโดรโพนิกส์ ไม่ต้องกางมุ้งก็ได้นี่ครับ ...ดังนั้น หักค่าใช้จ่ายในเรื่องโรงเรือน (โครงสร้าง เสา และมุ้งกันแมลง) ออกไปได้ ...ถามว่า ยี่สิบเมตร คูณ สามสิบเมตร คุ้มไหม ...คุ้มครับถ้าวางแผนการผลิตให้ดี ซึ่งก็ต้องตอบโจทย์ในเรื่องการตลาดให้ได้ก่อน ...ถามว่าปลูกคึ่นฉ่าย แทน สลัด ได้ไหม ได้ครับ แต่คุณจะหาตลาดได้มากพอ และดีพอ เพื่อรองรับกับกำลังการผลิตที่ว่าได้หรือไม่ ...เพราะผักไฮโดรโพนิกส์ เราจำเป็นต้องทำราคาให้สูงกว่าผักดิน เนื่องจากต้นทุนที่สูงกว่า และมีจุดเด่นที่ชัดเจน แต่หากทำราคาให้เหนือกว่าไม่ได้ ก็ไม่คุ้มครับ จากคุณ : มับนะขู เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 14:17:27

ความคิดเห็นที่ 5 ^ รับทราบครับท่าน ผักไฮโดรกับผักกางมุ้งไม่ใช่อันเดียวกัน แต่ผมไม่เคยเห็นผักไฮโดรที่ไหนปลูกพื้นที่ขนาดนี้ขึ้นไป ไม่ทำอยู่ในมุ้งหรือโรงเรือนเลย ผมเลยเหมารวมเอาว่า มันทำในโรงเรือนเหมือนกันครับ แต่ต่างกันที่การปลูก เมื่อก่อนผมเคยใช้โรงเรือนขนาดประมาณนี้แหละ หลังละเกือบ ๘ แสน ควบคุมอุณหภูมิอย่างดี แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ   และปัจจุบันระบบโรงเรือนมีอยู่ไม่กี่ที่ที่ประสบผลสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบทั้งนั้นเลย ผมก็เห็นดีเห็นงามด้วยนะ แต่ตลาดเมืองไทยตอนนี้ไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่ ถ้าทำแล้วขายได้คนละราคากับตลาดธรรมดา คงจะเห็นแบบนี้อีกเยอะ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 15:49:55

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ ขออนุญาตนะครับ ...ผมทำฟาร์มผักไฮโดรโพนิกส์ บนพื้นที่ ๒ ไร่ ก็ไม่มีมุ้งนะครับ ...พรรคพวก เพื่อนผม ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่นที่ มีนบุรี และ เขาค้อ ก็ไม่มีโรงเรือนแบบมุ้งครับ จากคุณ : มับนะขู เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 12:07:33

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้ของผมเอง ถ่ายเมื่อปีที่แล้ว จากคุณ : มับนะขู เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 12:11:58

ความคิดเห็นที่ 8 ประเด็นเรื่องโรงเรือนและมุ้ง เป็นประเด็นที่ผมพูดมานาน ...ผมเห็นว่า ไม่มีประโยชน์ ...โรงเรือนแบบนี้ใช้ในประเทศไทยเพื่อป้องกันแมลงเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงก็ป้องกันไม่ได้ ...นอกจากจะทำเป็นโรงเรือนควบคุมอุณหภูมิ ที่เรียกว่า อีแว้บ ซึ่งก็ไม่คุ้มค่าการลงทุน จากคุณ : มับนะขู เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 12:17:46

ความคิดเห็นที่ 9 ^ พึ่งเคยเห็นจริงๆ ครับทำไฮโดรไม่มีมุ้ง ที่ผ่านมาเจอแต่กางมุ้งหรือในโรงเรือนตลอด โรงเรือนอีแวปเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้วครับ ที่เคยใช้ก็รื้อหมดแล้ว อย่างที่เอารูปที่ผมเอาลงก็ไม่ถึงกะอีแวปแค่ใช้ไอน้ำปรับอุณหภูมิและความชื้น แต่ก็เป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่   ผักในโรงเรือนหรือกางมุ้งตอนนี้กำลังมาแรง ผมเองก็ไม่ได้ขวาง แต่ภาวนาให้ประสบผลสำเร็จเพราะเสียดายงบประมาณ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 14:34:56

ความคิดเห็นที่ 10 ผักท่านมับนะขู สีเข้มสวย ครับ ที่แปลงท่าน โดนน้ำเยอะใหมครับ แถวนั้นผมว่าน่าเป็นห่วงเหมือนกัน นะครับ บ้านผมที่ บางเขน กทม. เป็นบ้านชั้นเดียว ทุกอย่างเกี่ยวกับผัก แทบจะเรียกว่าต้องนับหนึ่งใหม่ครับ โรงเห็ด จมน้ำไปครึ่งโรง ตอนนี้ได้แต่เก็บของทิ้ง ครับ แปลง DRFT และ NFT ถังสารละลายอยู่ต่ำ แช่น้ำอยู่ สองเดือน เรียบร้อย ไปเลย ตอนนี้ขนของและปุ๋ย มาจากราชบุรี มาเริ่มใหม่   ใจคิดไว้ว่าที่ กทม. จะทำเป็น outlet ผักจากราชบุรี เพราะแถวบ้านราชบุรี ขายไม่ดี ครับ ตอนนี้มีใหม่ๆขึ้นหลายเจ้า ครับ ท่านฟ้าสีหมอก แปลงผักของผมก็ปลูกกลางแจ้งเหมือนกัน แต่มีสแลน หน้าร้อนก็กางสแลนเต็มที่ กันแดดตอนเที่ยง หน้าหนาวก็รูดสแลนไปไว้ข้างๆเปิดเอาแสงให้ผักสีสวย หน้าฝนเปิดบ้างปิดบ้าง ถ้าผักโดนฝน ช้ำบาน ก็อัด ยาทันใจ ได้ความรู้จากท่านมับนะขูนี่แหละ ภูมิปัญญาชาวบ้าน แต่เวิคดี ครับ ผมใช้วิธีตั้งเวลาสเปรย์น้ำเป็นละอองเล็กๆ ไล่แมลง ผลพลอยได้ก็ได้ลดอุณหภูมิแปลงผักตอนกลางวันลงด้วย ครับ ตอนแรกก็จะคิดทำมุ้งเหมือนกัน แต่ไปดูแปลงของเพื่อนๆหลายๆท่าน ส่วนใหญ่จะไม่กางมุ้งครับ เล่นกันเปลือยๆกับสแลน นี่แหละครับ มีแต่รูปเก่าๆ   ถ่ายรูปใหม่แปลงผักกำลังสวยๆ จะส่งมาอวดสีผัก  บ้างครับ ตอนนี้อาจจะห่างเพื่อนๆไปบ้างครับ เพราะกำลังตัดสินใจ จะทุบบ้านที่ กทม. แล้วปลูกใหม่   หรือจะซ่อมไปเรื่อยๆ ดี ได้เงินช่วยมา ห้าพัน แต่บ้าน ช่างมาตีราคาปลูกใหม่ รวมทุบของเก่า สองล้าน     ปวดตับ ครับเพื่อนๆ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 11:28:29

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ แหะ แหะ ครับพี่ ...แปลงผักบ้านผม ไม่มีผลกระทบครับ น้ำไม่ท่วม แต่มีเสียวนิดหน่อยตอนท่าน นายกฯ ปู มาเยี่ยมพร้อมสั่งรื้อคันดินริมถนนคลอง ...ตอนนี้ไม่มีผักโชว์ครับ เพราะกำลังตัดสินใจรื้อแปลงปลูกย้ายไปทำที่อื่นอยู่เหมือนกันครับ ว่าจะเล่นทั้ง ไฮโดรโพนิกส์ ทั้ง ออร์แกนิกส์ พร้อมกันเลยครับ จากคุณ : มับนะขู เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 12:59:58

ความคิดเห็นที่ 12 ขอถามหน่อยคะ เพราะรู้น้อยมาก คือเคยลองปลูกนิดเดียว แค่ลองดู แบบเสียบไฟให้น้ำไหล พบว่าค่าไฟแพง  แต่ว่าตอนผสมน้ำยา 2 อย่าง ให้เป็นสีม่วงๆ แล้วใส่ลงในน้ำ สงสัยว่าจะปลอดภัยจริงๆ ใช่ไหม ในการกินผักนั้นเอง และ ส่วนผสมน้ำยานั้นต่างอย่างไร จากการปลูกจากดิน จากคุณ : tamara เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 11:55:27

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ ถ้าทำเป็นระบบไม่ใหญ่ ส่วนมากจะใช้ปั๊มตู้ปลา ซึ่งกินไฟไม่มาก และเปิดทิ้งไว้ได้ ตลอด 24 ชั่วโมงครับ และถ้าใช้สลับกันเปิดตัวพักตัว จะใช้ได้นานเลยครับ สำหรับปลอดภัยหรือมีสารตกค้างหรือไม่ อยู่ที่การตรวจสอบความเข้มข้นของสารละลาย ว่าเข้มข้นมากน้อยพอดีหรือไม่  ครับ เคยเขียนตอบรายละเอียดไว้นานแล้วครับลองอ่านดูตามลิงค์ ครับ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2011/05/J10529907/J10529907.html จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 55 15:10:34

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ ๑๒ ครับ ...ปุ๋ยครับ มันคือปุ๋ย ไม่ใช่น้ำยา จากคุณ : มับนะขู เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 12:11:40