ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะเป็นตระกูลเอื้อง ซักอย่าง รอผู้ร้อมาตอบดีด่า จากคุณ : Thanwarat เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 16:34:54

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นกล้วยไม้ตระกูลหนึ่งนี่แหละ ซึ่งคนไทยเรียกว่า ตระกูลเอื้อง หลังจากฟังภาษาจีนที่คนแนะนำแซ่หยางอธิบาย ท้ายสุดก็คือ ยาจีนชนิดหนึ่งที่ปกติเราจะเห็นแบบแห้ง แล้วเอามาพันเหมือนสปริงตัวเล็กๆ ภาษาจีนกลางเรียกว่า  สือหู  ภาษาแต้จิ๋วเรียกว่า  คักฮก เขียนว่า 石斛 ปกติยาตัวนี้มีราคาสูงมานานแล้ว เอามาตุ๋นยา บำรุงกระเพาะ บำรุงไต รักษาโรคกระเพาะ ทำให้คอชุ่มชื่น   วันนี้ก็เพิ่งจะรู้ว่า ต้นสดๆก่อนที่ยาตัวนี้จะเอามาทำแห้ง ที่แท้ก็เป็นกล้วยไม้สกุลหนึ่งนี่เอง โห...ถ้านักวิชาการไทย ลองศึกษาค้นคว้าดู อาจจะทำเป็นเชิงพาณิชย์ส่งขายไปประเทศจีนได้ เพราะยาสมุนไพรตัวนี้ ราคาขายแพงมากๆเลยนะฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 16:49:53

ความคิดเห็นที่ 3 ม่อนไข่ รึเปล่า? จากคุณ : wayo เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:18:03

ความคิดเห็นที่ 4 คุณแอ๊ปเปิ้ลรสพีชอยู่หนายยย จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:26:00

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่รู้จักอ่ะ แต่ชอบสวยดีค่ะ จากคุณ : บีมบัส เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:26:31

ความคิดเห็นที่ 6 ตามคลิปที่เอามาให้ดู คนที่เอามาเปิดเผยคือนักข่าวแซ่หยาง ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระเพาะมา10 ปีแล้ว กินยาสารพัดชนิดทั้งยาจีนและยาฝรั่งก็ไม่หาย จนที่บ้านมียาสารพัดชนิด สุขภาพไม่ดี ปากมีกลิ่น จนเพื่อนๆรู้กันทั่ว บังเอิญไปทำข่าวในหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกล อาการปวดท้องกำเริบ และไม่ได้พกยาติดตัว ในหมู่บ้านก็ไม่มีร้านขายยา เพราะเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ จนกระทั่งมีชายชราในหมู่บ้านเอาแท่งไม้แห้งๆนี่แหละมาให้เคี้ยวกิน จึงรู้สึกอาการดีขึ้น พอถามชายชราคนนั้น จึงทราบว่าเป็นต้นไม้ป่าที่ขึ้นเกาะอยู่บนต้นไม้หลังบ้านนี่แหละ ซึ่งคนในหมู่บ้านนั้นเรียกว่า "หญ้าเทวดา" หลังจากนั้น นักข่าวท่านนี้จึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง และกินต้นไม้นี้เป็นประจำ เอามาผัด ตุ๋นทำน้ำแกง ปั่นคั้นเอาน้ำ หรือเอามาดองเหล้า ก็สามารถทำได้ทั้งสิ้น ถ้ากล้วยไม้สกุลเอื้องบ้านเรามีคุณสมบัติเหมือนกัน รับรองรวยเละเลย เพราะยาตัวนี้แพงมากๆ เนื่องจากในประเทศจีนนั้นหายาก และตามตำรายาจีน ยาคักฮกนั้นขึ้นอยู่บนหิน จึงเรียกว่า 石斛สือหู นี่แหละฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:34:37

ความคิดเห็นที่ 7 เอื้องมัจฉานุหรือเปล่า เพราะอยู่ที่จีนมันเย็น มัจฉานุชอบ ม่อนไข่ก้านจะยาวข้อห่างกว่า ถ้าคุณปุ้มมามองปราดเดียวก็รู้ รอคุณปุ้มฟันธงดีกว่าจ้า จากคุณ : *แอ๊ปเปิ้ล รสพีช* เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:59:03

ความคิดเห็นที่ 8 เตรียมตัวไปซื้อ เจเจ หลังจากมีคนฟันธงว่ามีประโยชน์ กินได้ แฮะ ๆ จากคุณ : juckrid เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 18:09:07

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบค่ะ เขาว่ามีมากในพม่า ไทย และมณฑลยูนนานของจีน มีหลายสายพันธุ์ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 55 19:19:36 จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 19:19:06

ความคิดเห็นที่ 10 นำมาปรุงเป็นอาหาร จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 19:21:11

ความคิดเห็นที่ 11 ทำเป็นเครื่องดื่ม จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 19:25:26

ความคิดเห็นที่ 12 ตากแห้ง จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 19:25:55

ความคิดเห็นที่ 13 ยูนนานนี่ ใบอะไรกินแล้วไม่ตาย พี่น้องเอามาชงดื่มหมด แล้วก็สกัดจนหาสรรพคุณทางยาจนเจอ ว่ามีส่วนช่วยโน่นช่วยนี่ เพิ่มมูลค่าของสินค้าขึ้นไป บางอย่าง มันก็หน้าตาแปลก รสชาติประหลาด จนต่อมอยากรู้อยากลองเริ่มไม่ทำงาน ^^" จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 20:12:17

ความคิดเห็นที่ 14 งานเกษตรแฟร์ บางเขน กรุงเทพฯ ปีที่ผ่านๆมา พวกกล้วยไม้เอื้อง ออกมาขายเยอะ มาก ครับ เอื้อง คคห.9 เคยอ่านในหนังสือ ญี่ปุ่น เอากล้วยไม้ทางแถบ ไทย - พม่า ไปผสม พัฒนา สายพันธุ์ใหม่ๆจนได้ พันธุ์ แบบรูป คคห. 9 ครับ เคยไปเที่ยวแถบ ยูนนาน และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของ พม่า ตามภูเขาสูง มีแต่ พวกชาวเขา เผ่าต่างๆ พวกไทลื้อ เยอะสุด ป่าไม้แทบไม่เหลือ เป็นเขาหัวโล้น ปลูกพืช เศรษฐกิจ พวก ยางพารา , มะม่วง ก็มี และ พืชไร่ ต่างๆ ต้นไม้ สัตว์ป่า นับวันจะหายากทุกทีครับ ราคา ก็เลยแพง ยารักษาโรคกระเพาะ ญี่ปุ่น ยังมาเอาสมุนไพรไทย ชื่อเปล้าน้อย ไปสกัด เลยครับ รูปนี้ เอื้องที่บ้าน ถ่ายรูปเมื่อตอนบ่าย วันนี้ จากคุณ : Roses are Forever เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 20:55:30

ความคิดเห็นที่ 15 รูป 12 นี่เป็นแบบตากแห้ง สมุนไพรชนิดนี้ ต้นเล็กๆถึงจะดี อ้วนๆกลับไม่ดี ในภาพที่เห็นนั้นใหญ่ไป ของดีจะแพงมาก ตำลึงละหลายพันบาทเลยทีเดียว ลักษณะแต่ละตัวจะเป็นหัวมังกรหางหงส์ 龙头凤尾(ส่วนที่เป็นหัวคือรากของมันนี่เอง) ที่เห็นในภาพนั้น ตำลึงละไม่กี่ร้อยบาทเอง ลองคิดดูว่า คนไทยปลูกกล้วยไม้เก่งอยู่แล้ว ถ้าศึกษาอย่างจริงจัง แค่ทำขายคนจีนก็กำไรมากมายมหาศาลแล้วนะฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 20:57:55

ความคิดเห็นที่ 16 อยากจะบอกว่า เมืองไทยก็เป็นหนึ่งในแหล่งวัตถุดิบ แต่จะมีคุณภาพรึเปล่าไม่รู้ มีพ่อค้ามาหาซื้อตอแก่กล้วยไม้หวายตัดดอก เค้าบอกจะส่งไปจีน เอาไปทำยา เพิ่งรู้ว่ามันเป็นยาอย่างนี้นี่เอง กล้วยไม้หวายตัดดอก ถือเป็น dendrobium ชนิดหนึ่ง ที่อุดมไปด้วยยาฆ่าแมลงทั้งนั้น สรรพคุณ พวกเอื้องคงมีจริง  แต่ถ้าเห็นว่าลักษณะคล้ายกัน แล้วเอามาสวมรอยนี่ ไม่ไหว   จากคุณ : โปรแตสเซียม เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 21:54:44

ความคิดเห็นที่ 17 ฟังด้วยคนนะคะ จากคุณ : Sasemi เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 22:54:43

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเป็นแบบ คห16 ว่ามา  มันอันตรายมากจริงๆ เพราะกล้วยไม้ในประเทศไทยนั้น มีการพ่นยาฆ่าเชื้อราอยู่เสมอๆ การเอามาทำเป็นยาโดยไม่ปลูกแบบไร้สารพิษ มีโอกาสได้รับสารพิษสูงมาก ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกัน คาดว่ากล้วยไม้สกุลหวายก็น่าจะมีลักษณะใกล้เคียงกัน ถ้าคนจีนนำเข้าเพื่อเอาไปทำยาตัวนี้ มันอันตรายมากจริงๆ และถ้าลำกล้วยไม้สกุลหวาย มีสรรพคุณเช่นเดียวหรือใกล้เคียงกัน ชาวสวนกล้วยไม้อาจจะเปลี่ยนมาปลูกแบบไร้สารพิษ เพื่อเอามาทำยาได้ ยิ่งง่ายมากเลย เพราะกล้วยไม้สกุลหวายปกติจะโตเร็วกว่าสกุลเอื้องอยู่แล้วด้วย นักวิชาการด้านการเกษตรไทย อย่าช้า รีบวิจัยดูน่าจะมีประโยชน์มากเลยนะฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 06:31:39

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับ คคหที่16 และคิดว่าเรื่องสวมรอยที่เมืองไทยมีผู้นำมาขายแล้วจริงๆ วันก่อนไปซื้อที่ร้านยาจีน ถูกมาก คนขายบอกว่ามีรสขม ซื้อกลับมาแล้วไม่กล้านำมาต้ม ไม่มั่นใจ สรรพคุณครอบจักรวาล บำรุงผิวพรรณ ต่อต้านริ้วรอย ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น รูปที่นำมาลงคล้ายความคิดเห็นที่ 14 มาก จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 14:10:31

ความคิดเห็นที่ 20 หืมเราอยากจะบอกว่า รายการที่คุณ นางฟ้านะยะ #6  เล่าให้ฟัง เป็นรายการเดียวกับที่แม่เราเคยดู เค้าเล่าให้เราฟังแบบนี้เป๊ะๆๆเลย แล้วตอนดูรายการ เค้าก็จดชื่อสมุนไพรตัวนี้ไว้ เพราะว่าช่วงนี้เราเป็นแผลในกระเพาะ ปวดกระเพาะบ่อยมาก เต้าเลยสนใจสมุนไพรตัวนี้ แล้วเมื่อคืนเราปวดมากกสุดๆ แม่เราก็รีบๆหาใหญ่เลยว่าจดชื่อสมุนไพรตัวนั้นไว้ไหนน้า ปรากฏว่าเป็นตัวนี้แหละ เราก็เลยเอาตัวพินอิน Xi Hu มาเสริชในเนท แล้วก็รู้ว่ามันคือกล้วยไม้สกุล Dendrobium แล้วก็ลิ้งไปลิ้งมาจนเจอเพจนี้อ่ะค่ะ ว้าวรู้สึกดีจัง แต่หาซื้อในไทยแพงมากใช่มั้ยคะ มันราคาประมาณท่าไหร่ ใครพอรู้ข้อมูลบ้าง อันนี้เป็นลิ้งที่เราเจอก่อนจะมาดูหน้านี้ คือตัวเดียวกันใช่มั้ยคะ http://www.thaiyinyang.com/index.php?option=com_content&view=article&id=133%3Aeucommia-bark-du-zhong&catid=44%3A2011-03-27-16-06-04&Itemid=1&lang=en จากคุณ : I forgive ,just not forget เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 15:58:43

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ สะกดผิดอ่ะ ต้อง Shi Hu ชาวบ้านเรียกกัน Shen xian cao (แม่บอกมา) จากคุณ : I forgive ,just not forget เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 16:00:25

ความคิดเห็นที่ 22 ความจริงราคายาตัวนี้มันแพงมานานมากแล้ว รองจากโสมเลยทีเดียว ดังนั้น แถวเยาวราชมีคนจีนเอามาขายถูกๆ ต้องระวังให้ดี ถ้าจะให้ชัวร์ต้องไปซื้อร้านยาจีน แต่ร้านยาจีนเดี๋ยวนี้ก็เชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะราคามันต่างกันเยอะนี่แหละ หากปวดกะเพาะมากๆ หิวก็ปวด ทานอิ่มก็ปวด อยากแนะนำให้ใช้วิธีของหมอไทยลองไปรักษาก่อน 1 หาซื้อมะเขือขื่น (รูปร่างเหมือนมะเขือเปาะ แต่สีเหลือง ที่แม่ค้าส้มตำชอบเอามาตำนี่แหละ)ประมาณ 50 ลูก หั่นและปั่นเพื่อคั้นเอาน้ำออกมา ซึ่งจะมีอยู่น้ำอยู่ไม่มาก ส่วนกากนั้นไม่ใช้ 2 เอาข้าวสาร 1 กำมือหุงพร้อมกับน้ำมะเขือขื่นที่คั้นออกมานี่แหละ จะเพียงพอให้ข้าวสุกพอดี ลองเอามาทดลองทานตอนท้องว่างเพียงไม่กี่วันดู คนที่เป็นโรคกระเพาะ ทานยาสูตรนี้ หายจากโรคกระเพาะมาเยอะแล้วนะฮ้า ป.ล. เท่าที่ฟังจากนักข่าวคนนั้นอธิบาย เขากินแท่งสด ไม่ใช่แบบตากแห้ง เพราะลำต้นของกล้วยไม้หรือหญ้าเทวดานั้น ก็เหมือนจะมีเมือกเล็กน้อยเช่นกัน ส่วนที่ทำแห้งแล้ว ถ้าเป็นชนิดคุณภาพดี เวลาเคี้ยวก็จะเหมือนมีเมือกวุ้นอยู่ข้างในเช่นกัน และสันนิษฐานว่า เมือกวุ้นนี่แหละที่เป็นตัวรักษากระเพาะจนนักข่าวคนนั้นหายเป็นปกตินี่แหละฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 16:31:14

ความคิดเห็นที่ 23 ฝากลิ้งค์นี้ให้กับคุณแม่ของความคิดเห็นที่ 20ค่ะ http://jiankang.cntv.cn/jiankang/zhonghuayiyao/classpage/video/20120209/102018.shtml เรื่องที่ 3 เหมาะสำหรับผู้เป็นโรคกระเพาะ จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 19:35:57