ความคิดเห็นที่ 1 รอฟังค่ะ จากคุณ : nahmpasporn เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 01:18:39

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุนค่ะคุน nahmpasporn มาเล่าต่อค่ะ.. เพราะเจ้าหมาตัวเก่าใช้ชีวิตกับเรานานมาก เกือบ 11 ปี .. พอเราจะรับหมาตัวใหม่มาเลี้ยงเลยอยากได้น้องหมาดีๆ สักตัวค่ะ เพราะเค้าจะอยู่กับเราไปอีกนานมากๆ เราเลยเลือกที่จะเลี้ยงพันธุ์ชิวาวา เป็นตัวต่อไปค่ะ .. ใช่ค่ะ หลายๆ คน พอเล่ามาถึงจุดนี้คงนึกอยากถามว่า ทำไมไปซื้อหมาที่สนามหลวง 2 ล่ะ .. ไม่ได้เป็นความตั้งใจอะไรเลยค่ะ เราดูๆ น้องหมาชิวาวามาจากเว็บหลายๆ แห่งแล้ว แต่ก็มีความรู้สึกว่า ยังไม่ได้เจอน้องหมาจริงๆ ก็เลยยังไม่ถูกใจอะไร เราก็ดูน้องหมาจากทางเว็บไซต์ไปเรื่อยๆ จนวันนึง .. เราตั้งใจจะไปรับน้องหมาตัวนึงมาเลี้ยงค่ะ นัดกันเรียบร้อยแล้ว เค้าเป็นปอมผสมกับพุดเดิ้ลค่ะ แต่ด้วยโชคชะตาหรือยังไง สุดท้ายก็คลาดเคลื่อน เค้าเลื่อนนัดเราค่ะ .. พ่อ แม่ ลูก เลยแห้วๆ พากันไปเดินเล่นแถวๆ สนามหลวง 2 กันค่ะ เพราะว่าอยู่ใกล้ๆ บ้านเราด้วย ก่อนเข้าไปเราแวะไปที่ฟาร์มชิวาวาแห่งนึงค่ะ .. เค้ามีลูกหมาอยู่หลายตัว แต่เราก็ยังไม่ถูกชะตาค่ะ .. เลยพากันไปเดินเล่นที่สนามหลวง 2 แทน จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 02:27:44

ความคิดเห็นที่ 3 เราพ่อ แม่ ลูก เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนไปเจอร้านขายชิวาวา ร้านนึง เค้าเป็นร้านเดียวเลยค่ะที่มี ชิวาวา ขนยาวสีขาวทั้งตัว จมูกสีอ่อน ตาออกสีเทาๆ และก็เป็นตัวผู้อย่างที่เราอยากได้ซะด้วย เรียกว่าเจอปุ๊บ เราก็ถูกชะตากับหมาตัวนี้เลย .. เราลืมไปเลยค่ะว่าที่นี่คือสนามหลวง 2 .. ที่ใครๆ ก็บอกว่าห้ามซื้อหมาจากที่นี่นะ หรือห้ามซื้อหมาตามจตุจักร หรือตลาดนัดต่างๆ ลืมคิดไปจริงๆ ค่ะ เพราะตลอดชีวิตของเราที่เลี้ยงน้องหมามา เราได้มาจากแหล่งเหล่านี้ทั้งหมดเลยค่ะ แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะได้น้องหมาเป็นโรค หรือติดโรคมาเลย .. โมโม่เจ้าหมาตัวเก่าของเรา ก็ได้มาตอนที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เปิดท้ายตลาดนัดขายสัตว์เลี้ยงที่ชั้นใต้ดิน หน้า Pet Place (ตอนนั้นเมื่อสิบปีที่แล้ว) ค่ะ โม่แข็งแรงมาก ไม่เคยเจ็บป่วยเลยตลอดชีวิตของเค้า ใช่ค่ะ เพราะความเคยชิน เลยทำให้เราชะล่าใจ และลืมไปสนิทใจ .. พอถูกชะตาน้องหมาตัวนี้แล้ว เราเดินวนเวียนอยู่หลายครั้งเพื่อต่อราคา .. อยากได้น้องหมากลับบ้านเต็มทนแล้ว จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 02:35:38

ความคิดเห็นที่ 4 สภาพร้านเค้าดูดีมากๆ เลยค่ะ เค้าตกแต่งร้านดีมาก หน้าร้านก่ออิฐบล็อคสีชมพู ด้านในติดแอร์ ร้านกว้างขนาดสองห้อง น้องหมาเค้าก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ เลยค่ะ .. ชิวาวาราคาหมื่นกว่า แถมยังมีใบเพ็ดอีกด้วย เค้าบอกว่าเพาะหมาเอง ฟาร์มอยู่นครนายก โม้ร้อยแปดพันเก้า บอกเค้าไม่ขายหมาหลายพันธุ์ผสมกัน ขายแต่ชิวาวาอย่างเดียว อารมณ์ไม่มั่ว ฟังดูดีใช่ไหมคะ .. แต่พอรู้ค่าตัวน้องหมา เราก็แทบถอดใจแล้วค่ะ ตอนแรกว่าจะกลับบ้านไม่เอาล่ะ .. เราตั้งงบไว้ไม่มากมายค่ะ แต่ด้วยความอยากได้เลยเดินไปต่อราคาหลายครั้ง จากหมื่นกว่าๆ เหลือไม่ถึงหมื่น แต่ไม่ให้ใบเพ็ด เราได้น้องหมากลับบ้านมาค่ะ .. มาถึงจุดนี้ .. หลายคนคงบอกกับเราอีกว่า ทำไมไม่ทำประกันน้องหมาเอาไว้ใช่ไหมค่ะ นึกไม่ถึงจริงๆ ค่ะ แถมยังมั่นใจในสัญชาตญาณตัวเองอีกว่า เลือกหมามาได้ไม่พลาดแน่ๆ ไม่ป่วยแน่ๆ น้องหมาดูดีค่ะ ไม่มีขี้ตา ไม่ซึม กินอาหารได้ดี ร่่าเริง แต่วันนั้นรู้สึกว่าตอนเรานั่งอยู่ในร้าน น้องหมากินน้ำบ่อยค่ะ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร .. เพราะเราไม่ได้เฝ้าดูมันตลอด บางทีมันอาจกินน้ำช่วงนั้นพอดีก็ได้ ไม่ได้เอะใจอะไรเลยค่ะ .. พอดีลจบ เราก็รับน้องหมากลับมาบ้านค่ะ โดยไม่ได้ตกลงอะไรเอาไว้เลย คนขายบอกว่า มีอะไรโทรมาได้ 24 ชม. นะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 02:48:49

ความคิดเห็นที่ 5 อ่อ ลืมเล่าไปค่ะ น้องหมาอายุประมาณ 2 เดือนครึ่ง เค้ามีใบวัคซีนมาให้เราค่ะ แต่ตัวใบวัคซีนเนี่ย มีแต่ลายเซ็นกะลงวันที่ไว้เฉยๆ ว่าฉีควัคซีน พาร์โวไวรัส+โคโลน่า แต่ไม่มีสติกเกอร์แปะจากขวดแปะมาด้วย ก็ว่าไม่เป็นไร เดวมาเริ่มฉีดใหม่ตอนอยู่กับเรา ..   เอาอีกล่ะ ลืมไปสนิทใจ ไม่ได้ซื้อหมาตัวใหม่มานานมาก (สิบปีกว่า) แถมเราเนี่ยเหยื่อชั้นดี คนเลี้ยงหมามานานที่เพิ่งเสียหมาที่รักไป อยากได้น้องหมาตัวใหม่มากๆ ต้องว่าตัวเองค่ะ ประมาทจริงๆ ลืมไปได้ยังไงกัน .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 02:54:47

ความคิดเห็นที่ 6 หมาที่บ้านเราเพิ่งได้มาจากฟาร์มแท้ๆ ก็่ป่วยค่ะ โชคดีที่เค้าถึงมือหมอตอนยังไม่ทรุดหนัก พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว เสียใจด้วยนะคะ จากคุณ : พี่สาวลัคกี้ (mkjap) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 06:03:14

ความคิดเห็นที่ 7 มารอฟังเรื่องราวต่อด้วยคนครับ จากคุณ : mimicker เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 06:21:36

ความคิดเห็นที่ 8 เสียใจด้วยนะค่ะ รอฟันต่อค่ะ จากคุณ : น้องจี๊ดจ๊าด.. (จี๊ดจ๊าด-jamp) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 08:27:56

ความคิดเห็นที่ 9 รอฟังด้วยค่ะ ไปเดินซื้ออาหารแมวที่นั่นบ่อย เดินดูหมาแมวก็สุขแล้วค่ะ แต่ไม่กล้าซื้อเคยซื้อโกลเด้นจากตลาดแบบนี้แหละค่ะ อ้างโคตรตระกูลแชมป์บลาๆ ตัวหมื่นกว่าๆ ต่อเหลือแปดพัน เอามาเลี้ยงหลงรักมากฉลาดสอนนั่งหมอบขอมือได้เรียบร้อยเรียนรู้ไวมาก สุดท้ายอยู่กะเราได้อาทิตย์กว่าๆก็ตาย  คืนนั้นเรานั่งเช็ดตัวให้ตลอด เค้าร้องครางทรมานเสียงเหมือนเด็กเลยค่ะ เช็ดไปร้องไปทั้งคืนรุ่งเช้าเค้าก็จากไปแบบทรมาน ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ซื้อหมาแมวเพ่นพ่านอีกต่อไปแล้้วชีวิตนี้ จากคุณ : orm-om เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 08:58:31

ความคิดเห็นที่ 10 เคยเห็นไหมคะร้านt cup house มีหมาที่ดีน่ารักมาก จากคุณ : by iPhone (Maytaro) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 09:16:17

ความคิดเห็นที่ 11 มารอฟังด้วยคนค่ะ ขอแสดงความเสียใจกับน้องหมาที่เสียไปด้วยค่ะ จากคุณ : beoni เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 11:25:47

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ พี่สาวลัคกี้ >> จริงค่ะ เราก็ได้ยินมาว่า โรคนี้ไม่เข้าใครออกใคร หมาฟาร์มแท้ๆ ก็เป็นได้ บางทีคลอดออกมาก็เป็นได้เลย โดยที่ยังไม่ต้องไปติดโรคมาจากที่ไหน สาเหตุเพิ่งได้ทราบจากคุณหมอมะวานตอนไปรับศพน้องกลับบ้าน เดี๋ยวเราจะเขียนเล่าให้ฟังค่ะ มาเล่าต่อค่ะ .. ตอนแรกทางร้านยื่นข้อเสนอให้เราซื้อชุด Starter Kit ในการเลี้ยงชิวาวา จะมีตระกร้า และอาหารให้ (ไม่ถึง 200 กรัม) แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 1000 บาท เราก็เลยบอกงั้นไม่เอา กลับบ้านดีกว่า ไม่ซื้อแล้ว เค้าเลยลดให้เราจ่ายแค่ 500 โดยให้แค่อาหารมา แต่ไม่ให้ตระกร้า เค้าอ้างว่าถ้าไม่เอาหมาใส่ตระกร้า หมาจะติดเชื้อ เราแมู่ลูกอ่อนค่ะ ล้างมือเกือบตลอดเวลา เพราะเราอุ้มลูกไปด้วย ไม่กล้าหยิบจับอะไรสกปรก สุดท้ายเค้าก็เลยให้เราพาน้องหมากลับบ้านค่ะ เรารับเจ้า 'ไข่ต้ม' ออกจากร้าน โดยการอุ้มออกมา และแวะที่ร้านขายกระบอกกินน้ำก่อนที่จอดรถนิดหน่อย โดยให้แฟนเป็นคนซื้อให้ค่ะ และเราเป็นคนอุ้มหมา (แฟนอุ้มลูก) หลังจากนั้นก็ตรงกลับมาที่บ้านเลยค่ะ.. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:42:13

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : i_care_u เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:45:04

ความคิดเห็นที่ 14 บ้านเราเป็นอาคารพานิชย์ค่ะ มี 3 ชั้นครึ่ง ด้านล่างทำร้านค้าค่ะ ห้องนอนอยู่ชั้น 3 เจ้าโม่หมาตัวเก่า เราให้เฝ้าร้านอยู่ข้างล่าง ไม่เคยได้ขึ้นมาบนบ้าน นอกจากเวลาอาบน้ำ เราจะอุ้มขึ้นมาอาบในห้องน้ำ และอุ้มลงไป โม่ไม่เคยได้เหยียบหรือเดินบนพื้นค่ะ อีกอย่างโม่ตายไปด้วยโรค ตับวาย ไตวาย จากอาการเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะอุดตันท่อฉี่ ไม่ได้เป็นโรคติดต่อแต่อย่างใด โม่ฉีดวัคซีนครบด้วยค่ะ มาคราวนี้เราให้เจ้าไข่ต้ม นอนในห้องนอนกับเรา พ่อ แม่ ลูก ค่ะ โดยกั้นที่เล็กๆ ให้มีที่นอน ที่กิน ที่อึ ของเค้า และปล่อยให้เค้าได้วิ่งเล่นไปทั่วๆ ห้องนอนเราค่ะ เย็นวันเสาร์ ไปจนถึงวันจันทร์ เจ้าไข่ต้ม ดูเป็นปกติมาก ร่าเริง วิ่งเล่น กินอาหารได้เยอะแยะ มาขอกินเพิ่มหลายครั้ง ฉี่วันนึงเป็นสิบครั้ง และอึวันละ 3-4 ครั้ง เหมือนลูกหมาแข็งแรงทั่วๆ ไป .. จนเข้าวันอังคาร เริ่มรู้สึกว่า เจ้าไข่ต้ม หลังจากกินข้าวเสร็จ จะกินน้ำเยอะ เยอะมากกว่าหลายๆ วันที่ผ่านมา เราชักใจไม่ดีแล้วสิ หมากินน้ำเยอะไม่ค่อยดีแล้ว เพราะเจ้าโม่ก่อนจะเสียไป เค้ากินน้ำเยอะ เราไม่รู้คิดเอาเองว่า อากาศร้อนบ้าง กินอาหารเม็ดแล้วเค็มเลยกินน้ำเยอะบ้าง ปรากฎโม่กินน้ำเยอะเพราะเป็นโรคไต มาคราวนี้ใจไม่ดีเลย แต่ไข่ต้มก็ยังปกติดีทุกอย่าง เลยรอดูอาการต่อไป .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 12:52:43

ความคิดเห็นที่ 15 เข้าเช้าวันพุธ แจ็คพ็อตแตกค่ะ .. ไข่ต้ม ซึม เริ่มไม่ทานอาหาร ไม่ทานน้ำ พอจับดูตามเนื้อตัว ข้อพับ (จักแร้) ก็รู้สึกว่าตัวร้อนๆ น่าจะเป็นไข้ เราเลยรีบโทรไปหาคนขายค่ะ หลายครั้งมาก เค้าไม่ยอมรับโทรศัพท์ เลยรีบอุ้มไข่ต้มไปหาคุณหมอแถวบ้านค่ะ .. ขอไปอาบน้ำลูกก่อนค่ะ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 13:23:48

ความคิดเห็นที่ 16 มารอฟังค่ะ จากคุณ : รักข้าวฟ่าง เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 14:56:04

ความคิดเห็นที่ 17 ที่แรกที่เราพาไปคือ รพ.มิตรสัมพันธ์ บนถนนพุทธมณฑลสายสองค่ะ .. ที่นั่นเคสเต็ม เลยให้เราไปที่อื่น (มารู้ทีหลังว่า ตั้งแต่น้ำท่วมมาที่นี่รับหมาป่วยด้วยโรคพาร์โวลำไส้มาแล้ว 60 ตัว แต่เค้ารักษารอดเยอะค่ะ ตายแค่ 4 ตัวเท่านั้น) เราเลยไปที่ รพ.พุทธมณฑลสายสอง ที่ถัดไปอีกไม่ไกลค่ะ คุณหมอสอบถามประวัติว่าฉีดวัคซีนไหม ฉีดอะไรมาบ้าง ถามว่าไข่ต้ม ถ่ายเหลว หรืออาเจียนไหม สรุปว่าตอนนั้นเค้ามีแค่อาการไข้ เลยวินิจฉัยอะไรไม่ได้ แต่คุณหมอเปรยๆ มาว่า ช่วงนี้โรคพาร์โวลำไส้ระบาดมาก โดยเฉพาะหมาที่ซื้อมาจากสนามหลวง 2 เข้ามารักษาที่นี่หลายตัวแล้ว ไข่ต้ม ได้แค่ยาลดไข้ กับวิตามิน บำรุงมากินเท่านั้น .. เราลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ที่บ้านค่ะ เพราะรีบไปมาก พอกลับมาเห็นเบอร์คนขายหมาโทรมา เราเลยโทรกลับ เราก็เล่าอาการให้ฟัง เค้าพูดแต่่ว่า ถ้าคุณพาหมาไปหาหมอแล้ว ต่อไปน้องหมามีอาการยังไงให้ถามหมอที่พาไปเลย ไม่เกี่ยวกับทางเค้า .. เค้าพูดด้วยน้ำเสียงวีนสุดๆ ทำอย่างกะเราจะไปขอเปลี่ยนน้องหมาหรืออะไร จนเราต้องบอกเค้าว่า ที่โทรถามคุณเมื่อเช้า เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หมาไม่กินข้าว เหมือนจะเป็นไข้ เราก็วัดไข้ไม่เป็น ไม่ได้โทรไปเพื่อขอเปลี่ยนหมาหรือยังไง ทำไมต้องโวยวายใส่เรา ทางนั้นเค้าก็พูดวนไปวนมาแต่ว่า ให้รักษากับหมอที่เราพาไปต่อเอง เค้าไม่เกี่ยว และรีบตัดสายวางหูทิ้งไป .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 15:43:48

ความคิดเห็นที่ 18 ของเราซื้อจากฟาร์มเค้ายังไม่รับผิดชอบเลยค่ะ โทรไปถามเค้าบอกว่า หมาไม่ได้ป่วยมาจากเค้า เราก็เลยช่างหัวมัน มาเป็นหมาบ้านเรา ก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของเรา ก็ดูแลเค้าให้ดีที่สุด โชคดีที่เค้าไม่เป็นไร วันนี้จะได้กลับบ้านแล้ว รออ่านต่ออยู่นะคะ จากคุณ : พี่สาวลัคกี้ (mkjap) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:04:59

ความคิดเห็นที่ 19 กลับมาบ้านได้สักพัก ก็ให้ทานยาลดไข้กับยาแก้อักเสบค่ะ เค้าเริ่มทานข้าวได้ แต่.. ไข่ต้มเริ่มถ่ายเหลวค่ะ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อึก็เป็นก้อนดี เค้าไม่ได้ทานอาหารเหลว หรือเปียกแล้วค่ะ เค้าฟันขึ้นแล้ว ทานอาหารเม็ดได้ตามปกติแล้ว .. ใจชักไม่ดี เลยเก็บตัวอย่างอึไว้ค่ะ แล้วก็ดูว่าถ่ายสักกี่ครั้ง บ่ายนั้นเค้า่ถ่ายเหลวรวมไปสองครั้ง แต่ยังไม่มีอาการอาเจียน เลยพาไปหาหมออีกรอบค่ะ เพื่อไปรับยาแก้อักเสบ .. ตอนนั้น ไข่ต้ม ยังไม่ซึม เหมือนไข้ลงแล้วก็กลับมากิน มาเล่นเหมือนเดิม ติดที่ว่า กินน้ำเยอะ และถ่ายเหลว .. คุณหมอบอกว่า เค้าทานน้ำเยอะเพราะเป็นไข้ ส่วนที่ทานอาหารไม่ได้ และซึม เพราะจากพิษไข้เหมือนกัน .. ให้ระวังไว้เลยนะคะ ถ้าน้องหมาเริ่มทานน้ำเยอะกว่าปกติ เป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีแล้วค่ะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:24:15

ความคิดเห็นที่ 20 ไปถึงร้านหมอ ไหนๆ ก็เอาตัวอย่างอึมาด้วยแล้ว แถมโรคพาร์โวลำไส้ก็ระบาดสุดๆ วัคซีนไข้ต้มก็ไม่แน่ไม่นอน หมอเลยถามว่า จะลองตรวจดูไหม เค้ามี Test Kit พาร์โว+โคโลน่า ค่าตรวจ 350 บาท .. เราตัดสินใจตรวจแบบไม่คิดเลยค่ะ คิดซะว่า ตรวจเจอก่อนมีสิทธิ์รักษาก่อน อาจจะหายได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงก็ตาม .. รอผลไม่นานค่ะ แจ็คพ็อตแตกรอบสอง .. Test Kit ขึ้นว่าเป็นพาร์โวลำไส้ค่ะ แต่ไม่ได้เป็นตัวโคโลน่า คุณหมอบอกว่า อย่างน้อยต้องได้รับเชื้อตัวนี้มาแล้วถึง 4 วัน Test Kit ถึงจะตรวจเจอ ปอรับน้องเค้ามาวันเสาร์ช่วงเย็น นับถึงเช้าวันพุธ ก็เกือบๆ 4 วันพอดี .. ยังไงน้องหมาก็ต้องป่วยมาจากร้านเค้าแน่นอน .. เชื้อพาร์โว ใช้เวลาฟักเชื้อ 3-7 วันก่อนจะเริ่มแสดงอาการค่ะ บางตัวเริ่มด้วยอาการเป็นไข้ ซึม ไม่ทานอาหาร บางตัวเริ่มด้วยอาการถ่ายเหลว หรืออาเจียน ระยะแสดงอาการไม่นับรวมระยะฟักเชื้อนะคะ หมายความว่า ถ้าน้องหมาเริ่มแสดงอาการแล้ว แปลว่าเค้าต้องได้รับเชื้อมาแล้วอย่างน้อย 3-7 วันค่ะ ก่อนที่เราจะรับเข้ามาในบ้าน .. คุณหมอพูดอยู่ประโยคเดียวว่า ให้เอาไข่ต้มไปคืน หรือไปเปลี่ยนเค้า เพราะโรคนี้ถ้าเป็นในลูกหมาอายุต่ำกว่า 3 เดือน โดยเฉพาะหมาเล็กอย่าง ชิวาวา ปอม ยอร์คเชียร์ โอกาสรอดแทบไม่มีเลย .. (เดี๋ยวเราจะอธิบายเพิ่มเติมตอนท้ายค่ะว่าทำไม) เราก็อึ้งค่ะ .. ตอนนั้นทำไรไม่ถูก ไข่ต้มก็ยังมีอาการไม่มาก ถามหมอแต่ว่า แอดมิทเลยได้ไหมค่ะ ให้น้ำเกลือรอไปเลย ก่อนที่น้องอาการจะแย่ คุณหมอตอบแต่ว่า ถ้าเค้ายังทานได้อยู่ ก็ให้กินยาแบบป้อน และให้ทานอาหารเองไปก่อน ถ้าเริ่มทานไม่ได้ค่อยพามาแอดมิท และฉีดยาแทนค่ะ ตอนเย็นเราได้ยาแก้อักเสบเพิ่มมาอีกสองตัว รวมกับวิตามิน และยาลดไข้ในตอนเช้า .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:32:53

ความคิดเห็นที่ 21 ตัว Test Kit พาร์โว+โคโลน่า ลำไส้ ของเจ้าไข่ต้มค่ะ คุณหมอบอกยิ่งเส้นขึ้นเข้มมากเท่าไร แปลว่าสุนัขได้รับเชื้อแรง และมากเท่านั้น ให้สังเกตว่าเข้มกว่าเส้นตัว Control มากน้อยเท่าไรค่ะ จากคุณ : ปอปอ (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:48:57

ความคิดเห็นที่ 22 รออ่านอยู่ครับ จากคุณ : LinkinArt เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:30:38

ความคิดเห็นที่ 23 พอมั่นใจแล้วแน่ๆ เราก็เลยโทรบอกทางร้านที่ขายหมาเลยค่ะ ว่าหมาคุณป่วยเป็นโรคร้ายแรง อาจจะตายรักษาไม่หายนะ เป็นโรคพาร์โว ทางนั้นรีบเถียงใหญ่เลยค่ะ ว่า ถ้าเอาอึเหลวๆ ไปตรวจยังไงก็เจอโรคนี้ ถ้าเอาอึแข็งๆ ไปตรวจก็ไม่เจอ หาว่าตัว Test มันมั่ว ว่ากันงั้น .. วีนๆๆๆ ใส่เราใหญ่ เราก็ย้ำๆ ให้เรารักษากับหมอคนที่เราพาไข่ต้มไปหาต่อไป ไม่เกี่ยวกับทางเค้า เหมือนรักษาทางไหนก็ Continue ทางนั้นไป เราก็เลยบอกว่า คุณควรแยกหมาที่ร้านแล้วนะคะ เพราะโรคนี้ติดต่อทางน้ำลาย ฉี่ อึ น้องหมาอยู่รวมกัน กินน้ำขวดเดียวกัน ยังไงก็ป่วยได้ เค้าก็ยืนยันว่า ไม่มีค่ะ ที่นี่ไม่เคยมีหมาป่วยด้วยโรคนี้ ไม่มีแน่นอน .. และรีบตัดสายวางไป จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:33:20

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะคุณพี่สาวลัคกี้ และคุณ LinkinArt คืนนั้นเครียดหนักเลยค่ะ นั่งค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตทั้งคืน ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โทรหาสัตวแพทย์ทุกคนที่พอจะโทรได้ เพื่อถามว่า จะทำยังไงดี จะเอาไงดี จะรักษาไงดี ยังไงทางนั้นก็ไม่รับคืน หรือเปลี่ยนน้องหมาให้แน่ๆ หรือถ้ารับกลับไปก็คงต้องปล่อยให้น้องหมาตาย เรายอมไม่ได้ .. เราสรุปข้อมูลคร่าวๆ ที่ได้มาเกี่ยวกับโรคนี้ และแนวทางการรักษามีประมาณนี้ค่ะ .. โรคนี้ถ้าเทียบเท่าก็คือ โรคอหิวาตกโรคคน หรือโรคห่า นั่นเอง แต่ว่าเป็นในสุนัข ความรุนแรงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะถ้าน้องหมาเป็นสายพันธุ์แท้ โอกาสรอดชีวิตจะน้อยมากๆ โดยเฉพาะในพิตบูล หรือโกลเด้น ค่อนข้างจะเป็นโรคนี้กันมาก ยิ่งในลูกสุนัขต่ำกว่า 3 เดือน ที่ไม่เคยได้รับว้ัคซีน พาร์โว+โคโลน่า แบบแยกฉีดครบทั้ง 3 เข็ม โอกาสรอดเรียกได้ว่าน้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ อาการของโรคเด่นๆ คือ ซึม เป็นไข้สูง ไม่กินอาหาร ถ่ายเหลวแบบทั้งมีเลือด และไม่มีเลือดก็ได้ ซึ่งคุณหมอบอกว่า ตอนนี้ส่วนใหญ่สุนัขที่เป็นจะถ่ายเหลวแบบไม่มีเลือดด้วยซ้ำ แต่โอกาสรอดก็แทบไม่มีเลย สุนัขจะมีอาการอาเจียนร่วมด้วย ทั้งการถ่ายและการอ้วกไม่ต้องรุนแรงก็ได้ แค่มีอ้วกและถ่ายก็ให้นับว่าเข้าค่ายโรคนี้เต็มทนแล้ว .. พอสุนัขได้รับเชื้อพาร์โวเข้าไปในร่างกายก็เหมือนกับคนเป็นโรคเอดส์ ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายจะไม่มี โรคอื่นๆ ก็จะตามเข้ามาโจมตีเพิ่มไปด้วย ในขณะเดียวกันเชื้อพาร์โวก็ค่อยๆ ทำลายส่วนอื่นๆ ของร่างกายไปเรื่อยๆ โจมตีลำไส้ กล้ามเนื้อหัวใจ และระบบต่างๆ ในร่างกาย เพราะเป็นไวรัส ไม่ใช่แบคทีเรีย เลยไม่มียารักษา หรือฆ่าเชื้อนี้โดยตรง ทำได้แค่ รักษาอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเท่านั้น .. อาการพีคสุดของสุนัขแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน บางทีจะเริ่มในวันที่ 3 ของอาการ บางตัวก็วันที่ 5 บางตัวก็วันที่ 7  แต่ระยะปลอดภัยที่เราจะแน่ใจได้แล้วว่า สุนัขเรารอดจากโรคนี้แ้ล้วแน่ๆ คือ 10 วันขึ้นไปแล้วนับจากที่เริ่มแสดงอาการ ซึ่งส่วนใหญ่สุนัขจะไม่ค่อยรอดเกินวันที่ 7 โดยสรุปแนวทางการรักษาคร่าวๆ ที่เราเจอมี 3 แบบ 1.คุณหมอจะจับสุนัขงดทุกอย่าง อาหาร น้ำ เกลือแร่ ไม่ให้สุนัขกินอะไรเลยจนกว่าจะเริ่มถ่ายเป็นปกติ ระหว่างนี้คุณหมอจะให้ยาปฏิชีวะนะ และให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดดำ เพื่อพยุงอาการ ให้กลูโคส และวิตามินทางเส้นเลือด ถ้าสุนัขมีอาการอาเจียนเยอะ ก็จะให้ยากันอาเจียนร่วมด้วย 2.รักษาเหมือนวิธีแรกทุกอย่าง แต่ยังคงให้สุนัขทานอาหารเหมือนเดิม โดยให้อาหาร A.D. อาหารสำหรับสุนัขป่วยโรคลำไส้โดยเฉพาะ หรืออะไรก็ได้ที่สุนัขสามารถทานได้ยกเว้นเป็นอาหารที่ทำจากผลิตภัณฑ์นม แต่ถ้าสุนัขเริ่มไม่ทานอาหารเองแล้ว ก็ให้เริ่มป้อนเกลือแร่ผสมไปด้วย ตามความถี่และปริมาณ คำนวณจากน้ำหนักตัวสุนัข 3.รักษาด้วยวิธีการ H.I.S คือ นำเลือดสุนัขสายพันธุ์เดียวกันที่เคยเป็นโรคนี้ และหายแล้วนำมาทำเป็นเซรุ่ม และฉีดเข้าไปในสุนัขที่ป่วย เพื่อให้เชื้อต้านเชื้อกันเอง ในขณะเดียวกันก็รักษาโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามอาการ จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:50:10

ความคิดเห็นที่ 25 พอค้นข้อมูลเกี่ยวกับโรคลำไส้ในสุนัขเพิ่มไปอีก ก็เริ่มเครียดค่ะ เชื้อโรคเด่นๆ ของลำไส้สุนัขมี 3 ตัวค่ะ 1.พาร์โว (รุนแรงมาก) โอกาสรอดน้อย ส่วนใหญ่จะตาย 2.โคโลน่า (ไม่รุนแรง) สามารถรักษาให้หายได้ 3.โรต้า ไม่ค่อยมีผลอะไรกับสุนัข แต่เชื้อตัวนี้คนติดได้ค่ะ หรือในกรณีอื่น ได้เชื้อสองตัวผสมกัน เช่น พาร์โว ผสมโคโลน่า อาการจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีกค่ะ เอา่ล่ะสิ เรามีลูกอายุไม่ถึงสองขวบ แถมไม่ได้ฉีดวัคซีนโรต้าซะด้วย เครียดหนักเลย เพราะตัวโรต้า เค้าไม่ผลิด Test Kit ขึ้นมาค่ะ เนื่องจากเชื้อไ่ม่เอฟเฟกต์อะไรกับสุนัข ทำไงดีล่ะเนี่ย ลูกเราเ่ล่นอยู่กับหมาหลายวัน นอนด้วยกัน เล่นด้วยกัน เครียดนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:55:01

ความคิดเห็นที่ 26 ระหว่างนี้ก็เจอข้อมูลที่ทำให้เกิดอีกหนึ่งทฤษฏีขึ้นมาคือ สุนัขบางตัวที่เพิ่งฉีดวัคซีน พาร์โว+โคโลน่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน อาจจะแสดงผลว่าติดเชื้อได้ใน Test Kit ซึ่งหากให้ไม่แน่ใจ สามารถตรวจแบบ Snap Test เพิ่มได้ แต่พอสอบถามคุณหมอเพิ่มเติมเค้าบอกต่อให้ตรวจ Snap Test ยังไงก็จะปรากฎว่าเจอเชื้ออยู่ดี .. สุนัขอาจจะป่วยได้จากสาเหตุต่อไปนี้ 1.ไม่เคยได้รับวัคซีนเลย ไม่มีภูมิคุ้มกันใดๆ เลย 2.เคยได้รับวัคซีนแล้ว แต่ยังไม่ครบ 3 เข็ม 3.ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว แต่ภูมิไม่ขึ้น 4.ต่อให้ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว แต่พ่อ แม่ ของลูกสุนัข ไม่ได้ฉีดวัคซีนตัวนี้ หรือไม่มีภูมิมา เมื่อแม่สุนัขคลอดลูก ภูมิคุ้มกันโรคนี้ก็ไม่ได้ส่งต่อมาให้ที่ลูกสุนัข 5.นอกจากจะได้รับครบ 3 เข็มแล้ว ยังต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกๆ 1 ปี อีกด้วย จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 18:01:26

ความคิดเห็นที่ 27 ที่คุณหมอบอกว่า เจ้าไข่ต้ม มีโอกาสรอดน้อยมากๆ ด้วยเหตุผลว่า เค้าเป็นลูกสุนัขอายุน้อยกว่า 3 เดือน ประวัติวัคซีนไม่แน่นอน ไม่ทราบว่าได้รับวัคซีนมาจริงหรือไ่ม่ หรือตัวพ่อ แม่ ได้ฉีดวัคซีนหรือไม่ และต่อให้ได้รับวัคซีนจริงก็ยังไม่ครบ และด้วยสายพันธุ์ชิวาวา สุนัขพันธุ์เล็ก ที่มักมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย หรือน็อคง่าย ถ้าป่วยด้วยโรคนี้แล้วถ่ายบ่อย อ้วกบ่อย ทานไม่ได้ โอกาสรอดแทบไม่มีเลย .. หลังจากที่ทราบข้อมูลคร่าวๆ แล้ว เช้าวันต่อมาเราก็โทรหาคุณหมอ ชูศักดิ์ ที่รักษาอาการสุนัขด้วยวิธี H.I.S และรับคำปรึกษาทันที และในระหว่างนั้นก็ใช้ความคิดเห็นของคุณหมอท่่านอื่นๆ ควบคู่ด้วย จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 18:11:19

ความคิดเห็นที่ 28 มารอชมต่อค่ะ เพราะของแฟนเราเคยได้ชิวาวาแท้จากฟาร์มของเพื่อนเองยังเป็นเลยค่ะ แต่ก่อนเอามาเพื่อนก็บอกอยู่ว่าให้คอยดูด้วยเพราะในฟาร์มเพิ่งมีลูกครอกอื่นเป็นและตายไป แต่หมาตัวนี้เป็นหมาของแฟนเค้าทำงานอยู่ตจว. ตอนได้มาปุ๊บก็เอามาฝากเรา เราเลี้ยงและเล่นได้อยู่ 3 วันก็มีอาการค่ะ ถ่ายทั้งวันทั้งคืน น่าสงสารมาก เวลาเค้าปวดท้องจะอึ เค้าจะเดินเอาขาหน้าที่สั่นๆมาสะกิดเราเราก็อุ้มพาไปห้องน้ำ เพราะชิวาวาเค้ารักสะอาดมาก ขนาดป่วยยังไม่อึเรื่อยราด แต่เพราะเค้ายังเล็กมากแค่ 2 เดือนเลยไม่รอดค่ะ ก่อนเค้าตายเค้าอึเหลวอยู่วันนึงกะตอนกลางคืน เราเอามานอนบนเตียงด้วยให้เค้าเรียกเวลาจะไปอึ พอตอนเช้าเราต้องไปทำงานก็ฝากพ่อแม่ดู แล้วคอยโทรถามตลอด พ่อกับแม่ก็บอกไม่เป็นไรๆ แต่พอกลับมาบ้านเค้าก็ตายซะแล้ว จริงๆ ตายตั้งแต่บ่ายแต่พ่อแม่กลัวเราเสียใจแล้วขับรถกลับบ้านไม่ไหวเลยไม่บอก เศร้าค่ะ จากคุณ : momnano (momnano) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 18:40:37

ความคิดเห็นที่ 29 มาเล่าต่อค่ะ .. วันที่ 2 กับอาการจากโรคพาร์โว ของ ไข่ต้ม เจ้าตัวเล็กตื่นเช้ามาด้วยอาการซึมๆ ค่ะ เหมือนกับมะวาน เค้ามีไข้สูง และไม่ยอมกินอาหารเหมือนเดิม กินแต่น้ำเท่านั้น เราได้ป้อนยามื้อเช้าต่อเนื่องจากเมื่อวานเย็นไปก่อนโทรหาคุณหมอชูศักดิ์ค่ะ จากคำแนะนำของคุณหมอชูศักดิ์ สั่งให้งดน้ำ อาหาร กลูโคส และยา ทุกอย่าง ให้ป้อนเพียงแต่โยเกิร์ตเท่านั้น ปริมาณ 0.5 ซีซี ทุกๆ ครึ่งชม. ป้อนไปจนกว่าจะถึงเวลาเข้านอน เราเริ่มป้อนโยเกิร์ตตั้งแต่ 9.30 น. ค่ะ เจ้าตัวเล็กเริ่มร่าเริงขึ้น มีความอยากอาหารมากขึ้น พอใกล้ๆ ครึ่งชม. เค้าจะมานั่งรออยู่หน้ากระติกน้ำแข็งที่เราแช่โยเกิร์ตเอาไว้ เพื่อรอกินเลยทีเดียว วันนั้นทั้งวัน ไข่ต้ม ฉี่อยู่สิบกว่าครั้ง เป็นฉี่แบบใสๆ ค่ะ และถ่ายเหลวประมาณ 2 ครั้ง .. ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณที่ดีใช่ไหมคะ เหมือนกับว่าไข่ต้มจะดีขึ้น (รึเปล่า) ระหว่างนี้เราก็โทรปรึกษาคุณหมอท่านแรกที่เราเข้าไปรักษา เค้าติงๆ มาว่าหยุดยาแก้อักเสบจะดีหรือ แล้วโยเกิรตเป็นผลิตภัณฑ์นมวัว ไม่น่าจะให้สุนัขป่วยโรคลำไส้กิน แต่จะทำยังไงคะ ไข่ต้มไม่ยอมทานอะไรอีกแล้ว อาหาร A.D. ก็ไม่ทาน โยเกิร์ตเป็นสิ่งเดียวที่เค้าวิ่งมากินเอง โดยที่เราไม่ต้องยัดเยียดเลย เอาน่ากินดีกว่าไม่กิน เราก็ยังคงป้อนไปเรื่อยๆ ทุกครึ่งชม. วันนั้นไม่เป็นวันทำอะไรเลย เราป้อนไปจนถึง 1 ทุ่ม ไข่ต้มเข้านอนค่ะ เราเลยหยุดป้อนไป พอสักตีหนึ่ง เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นมาฉี่ เริ่มอ๊อกค่ะ อ๊อกน้ำดีสีเหลืองๆ ออกมา ด้วยความตกใจ เลยรีบป้อนโยเกิร์ตเข้าไปอีกหนึ่งครั้ง อ๊อกออกมาอีกค่ะ ทำยังไงดี วิ่งไปเอาเกลือแร่ผสมน้ำ ป้อนไปก่อน ทิ้งไว้สักครึ่งชม. ดูว่าไม่อ๊อกแล้วก็ป้อนโยเกิร์ตเข้าไปสักสองสามที ก็เข้านอนพร้อมกันค่ะ จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 21:37:54

ความคิดเห็นที่ 30 ตั้งแต่เริ่มเข้าวันที่สอง ก็เป็นวันที่หนัก และแย่มากๆ สำหรับ ไข่ต้ม เรา พ่อ แม่ ลูก เพราะเราต้องเฝ้าร้านอินเทอร์เน็ตเอง และเลี้ยงลูกเองคนเดียว แถมยังต้องดูแลลูกหมาป่วยอีกหนึ่งตัว ทุกๆ ครึ่งชม. .. แต่เอาวะ สู้ค่ะ ยังไม่ท้อ เข้าวันที่ 3 ของโรคพาร์โว เรายังคงโทรไปปรึกษาคุณหมอชูศักดิ์เหมือนเดิม แต่ได้คำตอบว่าไ่ม่สะดวกให้การรักษาทางโทรศัพท์ ให้เราส่งน้องหมาขึ้นเครื่องบินไปรักษากับเค้าที่จ.อุดรได้ไหม ถ้าไม่สะดวกหรือยังไง ให้เรา Continue การรักษากับหมอเก่าต่อไปเลย อ้าวววว... อึ้ง งง ทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ จะทำยังไงดี วันนี้ไข่ต้มก็ซึม ไม่ยอมกินอาหารเหมือนเคย กินได้แต่โยเกิร์ต คราวนี้เราเริ่มป้อนยาปฏิชีวะนะต่อ (หลังจากที่หยุดไปมื้อนึง) ไข่ต้มฉี่ทั้งวันสิบกว่าครั้ง ยังเป็นฉี่แบบใสๆ อยู่ อึทั้งวันประมาณ 4 ครั้ง แบบเหลวแต่ยังไม่เป็นน้ำ .. แต่พอตกเย็นเนี่ยสิ เค้าเริ่มอาเจียน ทั้งๆ ที่ทั้งวันเราก็ป้อนโยเกิร์ต 0.5 ซีซีทุกครึ่งชม. คุณหมอที่รักษาไข่ต้มตั้งแต่แรกให้ความคิดเห็นว่า ที่เค้าอาเจียนอาจจะเป็นเพราะว่าหิว หรือโรคอาจจะเริ่มแสดงอาการก็ได้ เราเลยลองเพิ่มปริมาณโยเกิร์ตให้มากกว่าเดิม ปรากฎว่าไข่ต้มอ๊อกค่ะ มันมากเกินกว่ากระเพาะเค้าจะรับได้ เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เลยตัดสินใจโทรหาคนขายหมาอีกครั้ง .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 22:43:03

ความคิดเห็นที่ 31 เราถามเค้าว่าจะทำยังไงดี อย่างน้อยเค้าต้องเคยเจอหมาป่วยแบบนี้มาบ้าง ช่วยบอกเราด้วยจะทำยังไงดี จะปล่อยให้น้องหมาตายหรอ .. เค้าพูดแต่ว่า ก็ทางคุณพาไปรักษากับหมอแล้ว คุณก็ต้องถามหมอต่อว่าจะทำยังไง รักษายังไงต่อไป เราก็บอกเค้าไม่รับแอทมิทจะทำยังไง ไปไม่ถูกแล้ว จะให้น้องหมารอความตายหรอ เค้าก็ยังคงพูดกับเราด้วยน้ำเสียงแบบวีนๆ และถามเราว่า จะเชื่อเค้าไหมล่ะ เราก็บอกเอาเถอะ เราทำทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรที่เราไม่เชื่อแ้ล้ว บอกมาเุถอะต้องทำยังไง ..เค้าเลยแนะนำเราให้พาไปที่คลินิคหมอใหญ่ หรือเศรษฐกิจสัตวแพทย์ .. เค้าบอกว่าคุ้นเคยกับที่นี่ดี และที่นี่ก็รู้จักเค้า คืนนั้นเราอุ้มลูก หิ้วหมาใส่ตระกร้า รีบพาไข่ต้มไปที่คลินิคหมอใหญ่ช่วงหัวค่ำ .. ไปถึงที่นั่นเราก็เอาัตัว Test Kit พาร์โว กับยาต่างๆ ไปให้เค้าดู ตอนแรกเค้าก็ยังไม่อยากแอดมิทให้ ถามว่าจะให้ฉีดน้ำเกลือเข้าใต้ผิวหนังให้ รวมถึงฉีดยา และให้พากลับบ้านไปดูเอง .. เราก็ยืนยันว่า ถ้าไม่ได้น้ำเกลือทางเส้นเืลือดดำ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ยังไงขอให้รับแอดมิทไว้ด้วยเถอะ .. วันนั้นสรุปวิธีการรักษาของที่นี่ นอกจากฉีดยาปฏิชีวะนะ ให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดดำ ให้กลูโคส วิตามินซี แล้ว ยังมีข้อเสนอยาต้านไวรัส และยากระตุ้นภูมิให้ สนนราคาที่เข็มละ 3500 บาท ซึ่งต้องฉีดทั้งหมด 4 เข็ม และไม่รับรองด้วยว่า ยาจะกระตุ้นภูมิสำเร็จ หรือต้านไวรัสสำเร็จหรือไม่ อาจจะฉีดฟรี น้องหมาเจ็บฟรี หรือน็อคตายคาเข็มได้ .. เราเลยตัดสินใจไม่ฉีดค่ะ และฝากเจ้าไข่ต้มแอดมิทไว้ที่นั่น โดยฝากทางนั้นไว้ว่า ช่วยป้อนโยเกิร์ตให้เค้าทุกๆ ครึ่งชม. เหมือนที่เราทำด้วย เพราะเค้าทานอะไรไม่ได้เลย .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 22:49:54

ความคิดเห็นที่ 32 น่าสงสารจัง จากคุณ : 1231ivy_nnnn เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 23:24:30

ความคิดเห็นที่ 33 ในวันที่ 4 ของพาร์โว เราพ่อ แม่ ลูก ไปเยี่ยมไข่ต้มกันที่ร้านหมอค่ะ เจ้าตัวเล็กยังดูทรงๆ ค่ะ ถ่ายไม่เกินวันละ 4 ครั้ง อ้วกบ้างแต่ไม่เกิน 4 ครั้ง ทั้งวัน ไม่ทรุดลง แต่ไม่ดีขึ้น วันนั้นเราไปเยี่ยมเจ้าไข่ต้มสองครั้ง ช่วงเที่ยงๆ กับหัวค่ำ คุณหมอบอกว่า เค้าป้อนโยเกิร์ตให้ แต่ว่าไม่ได้ทุกชม. ให้เข้าใจเค้าด้วย เพราะหมาป่วยเค้าเยอะ คนเค้าไม่พอ .. คืนนั้นนอนไม่หลับอีกคืนค่ะ ไม่อยากได้ยินใครโทรมาตอนดึกๆ เลย กลัวจะเป็นสายโทรศัพท์ที่บอกว่าหมาเราเป็นอะไร .. หลับๆ ตื่นๆ ทุกครึ่งชม. เลยค่ะ พอเข้าวันที่ 5 ของพาร์โว วันนั้นตกวันอาทิตย์พอดี เอาล่ะสิวันนี้เป็นวันพีคของเจ้าไข่ต้ม เค้าเริ่มอาเจียนถี่ขึ้น ถ่ายถี่ขึ้น หนักไปถึง 6-7 ครั้ง (รวมทั้งวัน) ไม่รู้จะทำไง วันนั้นเลยบอกให้แฟนช่วยดูแลลูกแทนทั้งวันค่ะ แล้วเราไปนั่งจ๋องอยู่ข้างๆ กรงหมาในร้านหมอ นั่งป้อนโยเกิร์ตเค้าทุกๆ ครึ่งชม. อยู่เกือบหมดวัน มาถึงจุดนี้ หลายๆ คนอาจจะว่าเราเพี้ยนๆ บ้าๆ บอๆ แต่เราลองทุกอย่างแล้วค่ะ อาหาร A.D. ป้อนปุ๊บ อ๊อกพุ่งเลยค่ะ อาหารหมาทั่วไปที่ทาน ป้อนปุ๊บอ๊อกค่ะ น้ำซุปกระดูกหมูก็อ๊อกค่ะ กลูโคสยังไม่วาย อ๊อกเหมือนกัน ที่ตลกคือ มีแต่โยเกิร์ต กับนมแม่ (นมเราเอง เรายังให้นมลูกอยู่ค่ะ ยังมีน้ำนมเหลืออยู่้บ้าง) ที่เจ้านี่กินเข้าไปแล้วไม่อ๊อกค่ะ   วันนั้นบอกกับแฟนว่า กลัวเจ้าไข่ต้มจะไปเสียวันนี้ ดูเค้าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว บวกกับว่าตลอดระยะเวลาที่ไปฝากไว้ที่รพ. ตั้งแต่คืนวันศุกร์ถึงกลางวันวันอาทิตย์ เค้าไม่ได้รับโยเกิร์ตทุกๆ ครึ่งชม.เหมือนตอนอยู่บ้าน เค้าเริ่มฉี่ขุ่นแล้วค่ะ และก็ฉี่น้อยลงมากๆ มาถามคุณหมอ หมายถึงว่า เค้าเริ่มมีอาการขาดน้ำแล้วค่ะ เรานั่งอยู่ในรพ.อย่างนั้นจนถึงประมาณเกือบทุ่ม เลยตัดสินใจว่า ต้องพาเค้ากลับบ้านกับเราค่ะ เพราะถ้าไม่มีใครนั่งป้อนโยเกิร์ตให้เ้ค้าทานได้ทุกครึ่งชม. แบบนี้ คืนนี้เค้าตายแน่ๆ ค่ะ แต่ติดตรงที่ว่า เราต้องดูแลสายน้ำเกลือเอง น้ำเกลือหยด 1 หยดทุก 20 วินาที ช้ามากๆ ไม่รู้ว่าจะไหวกันไหม ไม่เคยมาก่อนเลยค่ะ .. แต่สุดท้ายก็ลองเสี่ยงดวงดู ดีกว่าปล่อยเจ้าตัวเล็กตายอยู่ที่รพ. .. เราพาเจ้าไข่ต้มกลับบ้านมาด้วยในคืนวันอาทิตย์ค่ะ จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 23:47:59

ความคิดเห็นที่ 34 ผมติดตามอ่านมาตลอด อ่านมาก็หลายกระทู้ รู้สึกร้านที่ไปซื้อมาที่สนามหลวง 2 น่าจะเป็นร้านเดียวกันทุกราย เพราะจะเจอวิธีการตอบเหมือนกันหมด นึกว่าร้านนี้ปิดไปแล้วซะอีก   น่าสงสารน้องหมาจัง จากคุณ : คุณชายฮะ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 00:08:22

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ คุณชายฮะ >> เราไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าร้านนี้เปิดเมื่อไร เพราะแต่ก่อนร้านตรงนี้เคยเป็นที่ตัดขนหมาค่ะ เราพาโมโม่ พุดเดิ้ลตัวเก่าที่ตายไป ตัดบ่อยๆ เลยค่ะ จนน้ำท่วมก็ไม่ได้ไปเดินอีกหลายเดือน มาอีกทีก็เจอเป็น ร้านนี้ค่ะ แล้วได้ยินมาว่า เจ้าของร้านนี้มีสองร้านในสนามหลวง 2 ด้วยค่ะ แต่อีกร้านเราไม่ทราบชื่อค่ะ ร้านนี้ชื่อ "Hip Hip Huray" ค่ะ เล่าต่อค่ะ .. ตลอด 5 วัน ที่ผ่านมาเราว่าทรมานแล้ว เพราะต้องคอยป้อนโยเกิร์ตทุกๆ ครึ่งชม. ไม่ได้หลับได้นอนเลย เลี้ยงลูก เอง เฝ้าร้านเน็ตช่วงกลางวันเอง งานบ้านนี่เน่าสนิท แฟนก็อดนอนช่วงกลางคืน เพราะสลับกันเฝ้าหมา พอหมาไป แอทมิทรพ. ก็ต้องคอยพาไปเยี่ยม หรือโทรถามอาการบ่อยๆ แต่คืนวันที่ 5 ของพาร์โวนี่สิ แทบจะถอดใจกันแล้วค่ะ นึกภาพตามนะคะ น้ำเกลือหยด 1 หยดทุกๆ 20 วินาที แบบไม่มีเครื่องคอยดูให้ พอขนน้องหมาขึ้นมาถึงห้อง นอน น้ำเกลือกลับไม่หยดซะงั้น แถมไข่ต้มเมารถ ทั้งอ้วกและถ่ายออกมาหมด ทั้งๆ ที่ไม่อ้วกและถ่ายมาหลายชม. แล้ว ตอนนี้อึเค้าเป็นน้ำแบบหยดๆ แล้วค่ะ ถูลู้ถูกังกันสุดๆ วินาทีนั้น ตกใจรนกัน ทั้งเราทั้งแฟนผลัดกันปรับ น้ำเกลือ ทำไงดี ทำไงดี ก็ไม่เป็น 1 หยดต่อ 20 วินาที เลยตัดสินใจโทรหาคุณหมอข้างบ้านค่ะ เค้าไม่ค่อยอยู่ร้านค่ะ ทิ้งร้านไว้ว่างๆ แบบนั้น มีอะไรต้องโทรเรียก แล้วเค้าจะขับรถมาที่ร้านค่ะ โชคดีเค้ากลับมา พอดี เราเลยรีบอุ้มหมา อุ้มน้ำเกลือไปที่ร้านเค้า ให้เค้าช่วยปรับให้ ขากลับได้อาหารแบบเจลมาค่ะ เผื่อไข่ต้มจะทานได้ไม่อ้วก หมอก็ลองป้ายปากมาให้หน่อยนึง เรายังคงป้อนโยเกิร์ตเค้าต่ออีกสองสามครั้ง จนกระทั่งตีหนึ่ง ดูสภาพเค้าไม่ดีเลยค่ะ เค้าเริ่มนั่งคอตก จับนอนยังไง ก็ไม่ยอมนอน .. เราคุ้นเคยกับสภาพนี้ดีมากๆ เลยค่ะ .. วันที่โม่จะจากไป เค้านั่งค่ะ นั่งทั้งคืนไม่ยอมนอน พอเค้าล้มตัวนอนปุ๊บ ก็เริ่มชักค่ะ และก็เข้าสู่โคม่าสองวัน และก็ จากเราไปค่ะ .. อดนอนมาร่วมอาทิตย์ ทำให้เราผลอยหลับไปสักสองชม.ได้ค่ะ ตื่นมาเห็นน้องหมาชักค่ะ มองน้ำเกลือ น้ำเกลือไม่หยด เค้าคงขยับตัวไปมา ไปพับสายเข้าค่ะ เรารีบเรียกชื่อเค้า เอามือลูบๆ ตามตัว ระหว่างนั้นก็ให้แฟนโทรถามรพ.ที่เปิด 24 ชม. ว่าควรทำไงดี .. หมอที่รพ. พีเอส บอกว่า อาการชักไม่น่าจะมาจากพาร์โว แต่มาจากน้ำตาลในเลือดต่ำ ให้ผสมน้ำหวานเข้มข้น และป้อนก่อนพามาที่รพ. .. ก่อนจะถึงรพ. ไข่ต้ม ชัก 3 ครั้งค่ะ แต่เค้ายังสบตาเราอยู่ ยังมีสติ .. ใจไม่ดีเลยค่ะ ทำไมเหตุการณ์ช่างเหมือนตอนโม่มากๆ พ่อ แม่ ลูก หมา พากันไปรพ.ตอนตี 3 หมอจับเจาะเลือดดูน้ำตาล อัดกลูโคสให้ สักแป๊บเจ้าตัวเล็กก็ฟื้นขึ้นมานั่ง บ่นและเห่า เพราะโดนคนจับไว้หลายคน ตอนนั้นโล่งใจเลยค่ะ .. รอดแล้ววุ้ย วันนี้เข้าวันที่ 6 ของพาร์โวแล้ว คุณหมอบอกว่าถ้าหมารอดได้ถึงวันที่ 7 ส่วนใหญ่จะรอดค่ะ ลุ้นทุกลมหายใจเลยค่ะ กับเจ้าไข่ต้ม .. พอหมาฟื้น ก็เลยคุยกับแฟนว่าเอาไงดี เราคงดูแลน้ำเกลือแบบไม่มีเครื่องอัตโนมัติไม่ได้ นอกจากจะปรับไม่เป็นแล้ว ยังเผลอหลับกัน ไม่มีใครผลัดเวรใครได้ สุดท้ายเลยตัดสินใจฝากที่รพ. พีเอส เอาไว้ และให้เค้ารับเคส รักษาเจ้าไข่ต้มต่อไปเลย ช่วงเช้าของวันที่ 6 ของพาร์โว เราสบายใจกันมากเลยค่ะ ถึงมือหมอแล้ว ที่นี่มีหมอ 24 ชม. ไข่ต้มรอดแน่ เพราะหมอ และผู้ช่วยสัญญาเราดิบดีว่าจะป้อนโยเกิร์ตให้ทุกๆ ครึ่งชม. ตอนนี้ไข่ต้มไม่ยอมทานเองแล้วค่ะ ไม่ทานเองมาตั้งแต่เข้าพาร์โววันที่ 4 แล้ว ต้องเริ่มบังคับป้อนแล้วค่ะ เช้าวันนั้นเราหลับสบายจริงๆ รอช่วงเที่ยงๆ แฟนบอกว่าจะลางานมาพาไปเยี่ยมมา วันนั้นตัดสินใจปิดร้านเน็ตค่ะ รอไปดูอาการน้องหมาค่ะ จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 00:31:20

ความคิดเห็นที่ 36 เช้านั้นเราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ประมาณ 10 โมง เพราะร้านหมอใหญ่เปิดตอนนั้น จะได้โทรไปถามเค้าค่ะว่าฉีดยาอะไร ให้เจ้าไข่ต้มบ้าง จะได้ให้ทาง รพ.พีเอส Continue ต่อ ก่อนจะไปเอาใบส่งตัวมาให้ค่ะ พอโทรไปบอกทาง พีเอส เค้าก็ได้จัดการไปเรียบร้อยหมดแล้ว แถมยาปฏิชีวะนะ ก็คนละตัวกันด้วย เลยตัดสินใจว่าจะไปรับยาตัวเก่า จากหมอใหญ่ไปให้ทางพีเอสฉีดต่อในตอนบ่ายค่ะ ตอนนั้นคุณหมอถามเราว่า จะมาเยี่ยมหมาเมื่อไร เค้าเริ่มนั่งคอตก อาการไม่ค่อยดี เราบอกคงไปได้บ่ายๆ ค่ะ แฟนจะว่างจากงานตอนนั้น .. จนกระทั่งประมาณบ่าย 3 แฟนเรามารับที่บ้านค่ะ .. พร้อมกับ เบต้า กลูแคน อูเรโอะ เค้าบอกลองดู มีคนแนะนำ มา ว่าเป็นกลูโคสแบบใช้ได้เลย จะช่วยกระตุ้นภูมิน้องหมา ซองนิดเดียว ซองละ 200 ไข่ต้มยังพอจะป้อนได้ ไม่ อ๊อกไปซะหมด ลองก็ลอง .. พอออกจากบ้านเลยต่อไปที่หมอใหญ่ ไปรับยา 'เซ็ปโฟ' และใบส่งตัว ยา 'เซ็ปโฟ' คุณหมอหลายท่านบอกว่าเป็นยาที่ดีที่สุดในการใช้รักษาโรคลำไส้อักเสบ ตั้งแต่น้ำท่วมมา ยาตัวนี้ก็ขาดตลาด รพ.สัตว์หลายๆ แห่งไม่มียาตัวนี้ค่ะ เพราะหาซื้อไม่ได้ ได้ของทุกอย่างครบแล้ว .. สบายใจค่ะ นี่ก็เย็นวันที่ 6 ของพาร์โวแล้ว สู้กันอีกวันนะไข่ต้ม พรุ่งนี้ก็วันที่ 7 แล้ว จะรอดแล้วลูก .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 00:41:34

ความคิดเห็นที่ 37 เฝ้าอ่านอยู่เรื่อยๆตั้งแต่ที่ทำงานตอนเช้า กลับมาถึงบ้านก็ยังตามอยู่ สงสารไข่ต้มมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 00:45:46 จากคุณ : 1231ivy_nnnn เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 00:44:50

ความคิดเห็นที่ 38 ใช่ค่ะคุณ 1231ivy_nnnn สงสารที่สุดเลยค่ะ หมาเด็ก ก็เหมือนเด็กค่ะ เราเลี้ยงลูกมาเองกับมือ เวลาลูกหมาป่วยก็ไม่ต่างกับลูกเราป่วยเลย เด็กๆ จะเหมือนกันเวลาป่วยจะซึม กินไม่ได้ พอไข้หายก็ร่าเริงเหมือนไม่ได้ป่วย ไข้มาก็ซมอีก น้ำตาจะไหลตลอดเลยค่ะ แต่ต้องแข็งใจสู้ก่อน ถ้าเราหมดแรง หมาไม่รอดแน่ๆ .. พ่อ แม่ ลูก ไปถึงรพ.พีเอสกันประมาณบ่าย 3 กว่าๆ ค่ะ สภาพแรกที่เจอคือ ช็อคค่ะ ไข่ต้มโคม่า อะไร ยังไง ตอนไหน ทำไมไม่มีใครโทรบอกเราเลย แถมน้ำเกลือที่เคยเจาะอยู่ที่เท้าหน้า บัดนี้ย้ายมาเจาะอยู่ที่คอแทน พาดไปแปะเทปกาวไว้บนหัว สภาพดูไม่ได้เลย 'ไข่ต้ม' เห่าตลอดเวลาที่โคม่า ขาก็วิ่งยุกยิกๆ ไปตลอด เราถามหมอว่า เค้าโคม่าจริงๆ หรอคะ เค้าเจ็บรึเปล่า รำคาญสายน้ำเกลือ และเข็มที่เจาะอยู่ที่คอรึเปล่า ก้นเค้าเกรอะกรังไปด้วยขี้ น้ำตาเปียกจนแฉะอยู่ใต้ตาที่โปนๆ ออกมา เนื้อตัวแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เหงือก ซีดจนเกือบขาว เท้าเย็น เนื้อตัวเย็นไปหมด ใจเสียแล้วค่ะ 'ไข่ต้ม' เหงือกเค้าเริ่มซีดมาตั้งแต่ป่วยเข้าได้วันที่ 2-3 แล้วค่ะ แต่คราวนี้มันทั้งซีดและเย็น เรา เลยถามหมอว่า คุณหมอคะ ถ้าหมาตัวเย็นต้องทำยังไงคะ ปล่อยให้เย็นอย่างนี้ต่อไปหรอคะ เค้าเลยเอาุถุงมือใส่ น้ำอุ่นมาอังไว้ข้างๆ ระหว่างนั้นเราก็พูดกับไข่ต้มไปเรื่อยๆ พลางเช็ดขี้ที่เปียกอยู่ที่ก้น เช็ดน้ำตา และเอามือลูบๆ เค้า จากที่เห่า เค้าก็เริ่มสลับร้องคราง จากประสบการณ์ที่เสียโม่ไป เรารู้แล้วค่ะว่า ถ้าน้องหมาเริ่มเข้าสู่สภาวะโคม่าเมื่อไร คุณทำใจได้เลยค่ะ โอกาส แทบเป็น 0 ที่จะได้เค้ากลับคืนมาแล้ว หรือถ้าเค้าฟื้นขึ้นมาได้จริงๆ เค้าก็ไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ ความสูญเสียของครอบครัวเรา ไม่ใช่แค่หมาเพียงหนึ่งตัว เค้าคือสมาชิกในครอบครัวเราอีกคนค่ะ เค้าคือเพื่อนของลูกเรา คือลูกของเราอีกคน ตลอดเวลาที่ไข่ต้มอยู่รพ. ลูกเราจะถามหาน้องหมาตลอด เดินไปดูที่บ้านน้องหมา ชี้ถามว่าไปไหน ตอนเรากลับไปเอายาที่ร้านหมอใหญ่ ลูกยังวิ่งเข้าไปที่ห้องด้านหลัง ที่ที่เราเคยไปนั่งป้อนโยเกิร์ตเจ้าไข่ต้มตรงนั้น ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาด้วยกันไม่กี่วันก็ตาม ลูกจำเจ้าหมาได้แล้วค่ะ เค้าเ่ล่นด้วยกันทั้งวัน นอนด้วยกัน นั่นล่ะค่ะ เป็นความรู้สึกที่คนเป็นแม่อย่างเราเจ็บปวดที่สุด .. บาดแผลจากการสูญเสีย ความรู้สึกของลูก เราทนไม่ได้จริงๆ ค่ะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 01:15:28

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออกจริงๆ ค่ะ ได้แต่เช็ดเนื้อเช็ดตัวเค้าให้แห้ง พูดกับเค้าไปเรื่อยๆ พยายามป้อนทั้งโยเกิร์ต และเบต้ากลูแคนที่เอามา เหมือนกับคนบ้า เค้ากลืนอาหารเองไม่ได้แล้ว เค้าโคม่า แต่เราก็พยายามป้อนไป ภาวนาให้เกิดปาฏิหารย์ขึ้นค่ะ .. สักพัก 'ไข่ต้ม' ส่งเสียงขึ้นมา เหมือนพยายามจะลุกขึ้น คุณหมอลองจับนั่งดู เค้ายังโคม่าอยู่ค่ะ แต่หัวใจเค้าเต้น อ่อนลงไปเรื่อยๆ คุณหมอเลยต้องจับไปดมออกซิเจน ปั้มหัวใจ สักพักใหญ่ๆ เลยค่ะ เราถอดใจแล้วค่ะ ปล่อยใจแล้ว แต่แฟนเรายังทำใจไม่ได้ เราเสียน้องหมาสองตัวติดกันเกินไป เร็วเกินไป .. ประมาณสิบนาที เจ้าไข่ต้มก็เริ่มกลับมา แต่ยังโคม่าอยู่ คุณหมอยังบอกว่าเค้าใจสู้จริงๆ ระหว่างที่นั่งในร้าน ไข่ต้มยังคงส่งเสียงเห่า และขาวิ่งยุกยิกตลอดเวลาที่โคม่าอยู่ .. เราบอกเค้า แม่ไม่ปล่อยหนูไปนะ หนูต้องสู้นะ เพราะแม่ก็สู้ แม่รอหนูฟื้น ไม่ต้องเหมือนเดิมก็ได้ แต่ฟื้นขึ้นมาเถอะนะลูก .. พ่อ แม่ ลูก ไม่รู้จะทำยังไงกันต่อ ไม่กล้ารับเจ้าไข่ต้มกลับไปดูที่บ้านเอง เพราะคุณหมอบอกว่า ถ้าถอดสายน้ำเกลือ เค้าก็ตายเลย เราเลยตัดสินใจข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปกินข้าวกัน แล้วค่อยๆ คิดไปพลางๆ .. กลับมาถึงร้านเกือบสามทุ่ม .. เค้ายังโคม่าอยู่เหมือนเดิม เราเลยกลับบ้านกัน .. ใจเสียกันหมดแล้วค่ะ จากข้อมูลที่เราได้อ่านมาเยอะแยะ น้องหมาส่วนใหญ่ถ้าโคม่าไปแล้วไม่เกินสองวัน ถ้าเค้าไม่ฟื้น มักจะไม่รอดค่ะ ระบบร่างกายเค้าจะล้มเหลวไปหมด .. คืนนั้นลุ้นกันอีกยกค่ะ นอนไม่หลับ นั่งภาวนาทั้งคืน ขอให้มีปาฏิหารย์ ให้ไข่ต้มฟื้นก่อนที่จะหมดสองวันถัดไป .. ฟื้นเถอะนะลูก ไข่้ต้มน้อยของแม่ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 01:23:57

ความคิดเห็นที่ 40 คืนนั้นก็เหมือนกับอีกหลายๆ คืนที่ผ่านมา ไม่อยากได้ยินเสียงโทรศัพท์เลยค่ะ แต่ก็ต้องเปิดไว้ .. ผลอยหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้จนตีหนึ่ง คุณหมอโทรมาบอกว่า ไข่ต้ม จากไปแ้ล้ว เหมือนกับฝันอยู่เลยค่ะ วางหูไป ยังงงๆ ทำใจไม่ได้ ปลุกแฟนแล้วบอกเค้า ทำไงดีตอนนี้ตีหนึ่ง ลูกก็หลับแล้ว หรือจะขับรถออกไปคนเดียวไปรับ หมามาตอนนี้เลยดี งง ทำอะไรไม่ถูก ทางรพ.เค้าบอกจะแช่เย็นไว้ให้ก่อน งั้นไว้พรุ่งนี้ล่ะกัน เพราะยังไงแฟนก็ ลางานพรุ่งนี้ให้อยู่แล้ว .. คืนนั้นทรมานค่ะ .. คิดทั้งคืน เราเคยถามคุณหมอค่ะ ว่าถ้าน้องหมาอาการแบบไหน ที่คุณหมอจะไม่ปั้มเค้าขึ้นมาอีกแล้ว ถ้าเค้าหยุดหายใจ คุณหมอบอก ถ้าหมาหายใจถี่ๆ สักพัก แล้วหายใจฟื้ดยาวๆ พร้อมกับยืดตัว และหยุดหายใจนั่นแปลว่า ระบบร่างกายเค้า้ล้มเหลวหมดแล้ว หมอจะไม่ตัดสินใจปั้มเค้าขึ้นมา เพราะถึงแม้ว่า ปั้มเค้าสักกี่ครั้ง เค้าก็จะหยุดหายใจได้อีกหลายครั้ง .. เราหวนคิดถึงตอนโม่จากไปเลยค่ะ ตอนนั้นโม่โคม่า ยังไงก็ไม่ฟื้นอีกแล้ว เราเองที่เป็นคนปล่อยเค้าไปไม่ได้ ยังคง ให้ใส่สายน้ำเกลือ และวิ่งวุ่นย้ายรพ.หาที่รักษาไปเรื่อยๆ ระหว่างทางไปอีกรพ.นึง รถขับไปถึงร้านแล้ว แฟนกำลัง เดินลงจากรถไปเรียกคนมาช่วยยกโม่ เรานั่งอยู่ในรถกับโม่สองคน โม่หายใจถี่ค่ะ (มาสักพักแล้ว) เค้าโคม่าอยู่ จู่ๆ โม่ก็ผงกหัวขึ้นมามองหน้าเรา จากที่เค้าไม่มีแววตามานาน ตั้งแต่เค้าเริ่มชัก เค้ามองหน้าเรามีแววตาอยู่ไม่กี่วินาที เราดีใจมากคิดว่าโม่จะฟื้นแล้ว และโม่ก็หายใจฟื้ดยาวๆ ก่อนยืดตัวแบบสบายๆ และหยุดหายใจไป เราปล่อยโม่ไปได้ตอนนั้นค่ะ .. ไม่ขอให้คุณหมอปั้มเค้าขึ้นมาอีก .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 01:32:34

ความคิดเห็นที่ 41 สภาพเช้าวันถัดมาหดหู่มากๆ เลยค่ะ เราตื่นกันแต่เช้า แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี จะทำยังไงดี เมื่อคืนเหมือนความฝัน ยังไม่ค่อยจะเชื่อกันว่า เจ้าไข่ต้ม ได้เสียไปแล้ว .. แฟนเราก็เลยบอกว่า พาลูกกินข้าวให้เรียบร้อย แ้ล้วไปที่ร้านขายหมากัน .. เที่ยงนั้น เราพ่อ แม่ ลูกก็ตรงดิ่งไปที่สนามหลวง 2 แบบไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทำไม หมดอาลัยตายอยาก ซึม และใจหดหู่มาก ร้านนั้นยังไม่เปิดค่ะ แต่แถวๆ นั้นเปิดกันหมดแล้ว เลยถามเค้าว่าจะเปิดเมื่อไร เค้าก็ตอบว่าประมาณไม่เกินบ่ายโมง แต่บ่ายโมงก็แล้ว บ่ายโมงครึ่งก็แล้ว บ่ายสองก็แล้ว ร้านก็ยังคิดปิดอยู่ .. ลูกเราตัวนิ่มไปหมดแล้ว อากาศร้อนมากๆ เวลาเรามีจำกัด จะรอนานมากๆ ไม่ได้ นึกในใจ หรือว่าร้านแถวนั้นเค้าโทรบอกร้านนี้ไปว่ามีคนมารอ เพราะระหว่างที่รอ ร้านอื่นๆ ก็ถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เล่าให้ฟังค่ะ .. สุดท้ายเลยตัดสินใจโทรหาเค้าค่ะ และถามเค้าว่าวันนี้จะเปิดร้านไหม จะมากี่โมง เค้าไม่ยอมตอบค่ะ ถามเราย้อน กลับว่า เราคือใคร เราเลยแกล้งบอกไปว่าจะมาซื้ออาหารหมา เปิดกี่โมง เค้าก็ไม่ยอมตอบอีกค่ะ ถามวนไปวนมา จะรู้ให้ได้ว่าเราคือใคร สุดท้ายอารมณ์มันขึ้นค่ะ เลยบอกว่า ที่หมาเป็นพาร์โวน่ะ จะมาไหม ไม่มาจะเอาศพหมามา ทิ้งไว้ให้หน้าร้านแล้วนะ ปลายสายตอบมาว่า ก็อยู่ที่ร้านแล้วไง เราบอกไหนล่ะ เรายืนอยู่หน้าร้าน เค้าบอกจอดรถอยู่ รอนะ เดี๋ยวจะไป .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 01:39:55

ความคิดเห็นที่ 42 สองคนทอมดี้ ชื่อ ปอ กับ กัล เจ้าของร้านมาถึงแล้ว เค้ายังไม่พูดกับเราค่ะ ดี้เดินไปที่อื่น ส่วนทอมก็เปิดร้าน .. สภาพต่อจากนี้ สาบานได้ว่าถ้าเราได้เห็นก่อนมารับไข่ต้มไป เราคงไม่อยากได้น้องหมาแล้วค่ะ  .. เค้าเปิดประตูเหล็กร้านขึ้น ข้างในประตูกระจกมีน้องหมานั่งอยู่เต็มร้านเลยค่ะ .. อ้าวไหนคุณบอกว่ารักหมา บอกว่า ฟาร์มหมาคุณอยู่นครนายก คนรักหมา เค้าทิ้งลูกหมาไว้ในร้านหรอคะ นั่งกันเต็มทุกกรง สภาพอากาศสนามหลวง2 ก็ร้อนมากๆ เปิดพัดลมดูดอากาศทิ้งเอาไว้ กว่าจะมาให้ข้าวหมาอีกทีก็บ่ายสองครึ่ง สุดยอดค่ะ .. มองเข้าไปในร้าน เจอยอร์คเชียร์ กับปั๊ก ซึ่งคราวที่แล้วที่มารับไข่ต้มไป เค้าโม้กับเราดิบดีว่า เค้าขายแต่ชิวาวา ไม่มั่วเหมือนร้านอื่นๆ เค้าเพาะเอง ทำมาสิบกว่าปีแล้ว โชว์รูปให้ดูจากมือถือ ว่าขายได้ดาราคนโน้นคนนี้ไป ..สรุปยังไงคะเนี่ย .. สภาพชิวาวาตัวนึงในกรงสโลสเลมาก ซึมเลยทีเดียว ตัวนี้ลายเหมือนชิสุค่ะ ดำขาว เราไม่แน่ใจว่าเป็นตัวเดียวกับ ตอนที่รับเจ้าไข่ต้มมารึเปล่า ตัวนี้ซึมค่ะ ดูก็รู้ว่าป่วย มีอึติดก้น อึไปติดที่ัตัวน้องหมาอีกตัวที่อยู่กรงเดียวกันด้วย หมาหลายตัวในร้านถ่ายเหลวค่ะ ดูจากอึที่อยู่ในถาดรองกรง .. เค้าเริ่มเก็บกวาด ล้างถาดรองกรง เอายาฆ่าเชื้อมาฉีดพ่น (เราเห็นไฮเตอร์หน้าร้านเค้าค่ะ) ไหนคุณบอกว่าหมาคุณ ไม่ป่วยไง มาป่วยที่เรา แล้วทำไมคุณมีไฮเตอร์ล่ะ (ที่ใช้ฆ่าเชื้อพาร์โว) .. เค้าก้มลงไปหยิบขวดน้ำมาเทให้หมากินค่ะ ข้างๆ ขวดน้ำเราเห็นขวดยา (แบบน้ำ) ตั้งอยู่ใกล้ๆ สักพักเค้าก็เอา อะไรไม่รู้ใส่ไซริงค์ป้อนหมาค่ะ ซึ่งเค้าอ้างว่าเป็นน้ำผึ้ง แต่เราว่าน่าจะเป็นยามากกว่า เพราะน้องหมาตัวนั้นดูป่วย จริงๆ ค่ะ เดินเซ ซึมไปแล้ว อึก็ติดก้น .. ถัดไปน่าตกใจยิ่งกว่า เค้าจับน้องหมาตัวที่เราว่าเหมือนจะป่วยอาบน้ำค่ะ ก่อนที่จะเอามาเช็ดขน และวางไว้ตรงที่โชว์ หมา แล้วก็เปิดไฟสีส้มๆ .. นี่หรอคะคนรักหมา เค้าบอกว่าเค้าเป็นคนรักหมา แต่ทุกอย่างที่เค้าทำ ก็คงตอบได้แล้วว่าเค้าเป็นอย่างไร .. ตอนนั้นช็อคค่ะ อึ้งด้วย รู้สึกสมเพชเค้ามากๆ และก็สงสารหมาในร้านจับใจสุดๆ จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 02:10:59

ความคิดเห็นที่ 43 โคดเล.. เลยค่ะ อะโหคนหนอ ทำมาหากินกะหมาแล้วยังไม่ดูแลหมาให้ดีอีก  หมาเลี้ยงคน จริง ๆน่าจะกราบมันทุกเช้าด้วยซ้ำนะ เพราะมันทำให้เค้ามีตังอยู่กินได้เนี่ย อ่านแล้ว สุดๆ จากคุณ : เอ้_ดอลล่า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 02:33:28

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ อ่านแล้วเศร้าเลย จากคุณ : แพทตี้ (PinkyPrettyPatty) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 11:50:51

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านแล้วของขึ้นเลยค่ะ เราไปเดินสนามหลวง 2 ทีไร เราไม่ค่อยอยากสบตาน้องหมาเลยค่ะ ทำใจไม่ได้ สงสารหมา เพราะเราเดาว่าหมาส่วนใหญ่ป่วยทั้งนั้น ไปซื้อของให้หมาเสร็จ กลับมาบ้านยังต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะเล่นกับหมาที่บ้านเลยค่ะ กลัวหมาที่บ้านติดโรค ยังไงก็สู้ๆ นะคะ ไข่ต้มเค้าไปสบาย ไม่ต้องทรมานแล้วค่ะ จากคุณ : may-indy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 12:50:44

ความคิดเห็นที่ 46 แฟนก็เคยไปซื้อที่สนามหลวงสองมาเหมือนกัน อยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์ก็ตาย เสียเงินค่าหมอ ค่ายาไปเยอเะเหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกค่ะ จากคุณ : long_distance (long_distance) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 13:11:17

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ตามอ่านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คนเราเดี๋ยวนี้หนอ.. น่าสงสารเจ้าไข่ต้มและสุนัขตัวอื่นๆจริงๆ จากคุณ : bring me that horizon เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 13:27:49

ความคิดเห็นที่ 48 ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ สู้ เราเองก็เคยเสียน้องหมามาก่อน น้องเป็นไข้หัดแต่ไปหาหมอหมอก็ไม่บอกเราว่าเป็นหัด บอกแค่เป็นไข้ หลายวันเลยค่ะ เสียเงินค่อนหมื่น วันที่น้องตัวแรกเสียเรากำลังพาเค้าไปหาหมอ เค้าชักตอนที่เรากำลังใส่รองเท้าพอเห็นเราไม่สนแล้ว  อุ้มเค้าไปทั้งเท้าเปล่าวิ่งไปได้ครึ่งหมู่บ้านเค้าก็จากเราไป  วินาทีนั้นเราแบบใจสลายเลยเดินอุ้มเค้ากลับมาบ้านนั่งร้องให้อยู่หน้าประตูรั้วเป็นชั่วโมง  ถึงได้ตั้งสติได้แล้วเอาเค้าไปฝังไว้หลังบ้าน ถัดจากนั้นแค่วันเดียวน้องหมาตัวสุดท้ายของเราก็เริ่มมีอาการคล้ายกันเราเลยหอบหิ้วไปโรงบาลทันที หมอบอกเป็นหัดโอกาสรอดน้อยมาก ตอนนั้นก็เริ่มจะสติแตกแล้วค่ะ น้องเค้าอาการแย่มาก น้ำท่วมปวดนอนครางตลอดเวลาเราเฝ้าเค้าทั้งวันทั้งคืน ไม่หลับไม่นอน ไม่กิน คือไม่ได้เวอร์นะ เราเป็นแบบนี้จริงๆ 4 วันเต็มๆ เช้าไปหาหมอ  เย็นไปหาหมอ สารพัดจะหาของที่เค้าพอจะทานได้ แต่สภาพน้องเค้าแย่ลงทุกวัน จนวันที่4เราพาเค้าไปหาหมอ แต่หมอช้ามาก จนเค้าจากเราไปทั้งๆที่เราอุ้มรอหมอ ตายในอ้อมแขนตัวที่2 เป็นอะไรที่ใจสลายมาก ออกมาโบกแท็กซี่กลับบ้านทั้งน้ำตา  นั่งกอดเค้าค่อนวันจนตัวเค้าแข็ง ถึงได้เอาไปฝังไว้ข้างๆหลุมพี่ชายเค้า ของกิน ยา ของเล่น เสื้อ ผ้าเราฝังลงไปให้เค้าหมด  เราทำใจอยู่นานเกือบปี กว่าจะทำใจได้  ตอนนี้ก็เพิ่งเสียไปอีกตัวเมื่อตอนน้ำท่วม ไม่รู้ว่าเค้าป่วยเพราะอะไร แต่ช็อคที่เค้าตายทั้งๆที่นอนซบเท้าเราโดยที่เราไม่รู้ตัว  มันเป็นการสูญเสียที่เร็วมาก  ตอนนี้ก็มีเจ้าแก่ของบ้านที่เพิ่งไปตัดขาเพราะเป็นมะเร็งมา ครึ่งเดือนกว่าๆแล้วแผลยังไม่หายเลย กลุ้มใจ จากคุณ : skymoo เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 14:31:27

ความคิดเห็นที่ 49 ทำไมคนขายเลวขนาดนี้ จากคุณ : ปู่ย่าเอื้ออาทร เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 16:29:33

ความคิดเห็นที่ 50 เคยเจอแบบเดียวกันค่ะ เข้ามาให้กำลังใจนะคะ จากคุณ : thezita เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 18:06:59

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณทุกคนค่ะ .. วันนี้เจ้าตัวเล็กงอแงจริงๆ .. เพิ่งได้เข้ามาเล่นค่ะ เล่าต่อค่ะ .. พอทอมเจ้าของร้านทำความสะอาดร้านเสร็จแล้ว ดี้ก็เดินมาที่หน้าร้านค่ะ ก็พูดกับเราว่า ทำไมต้องโกหก เค้าไม่หนีอยู่แล้ว ปกติเค้าก็เปิดร้านเวลานี้อยู่แล้ว และก็ถามเราต่อว่า วันนี้มาทำอะไร.. ก็อย่างที่เราเ่ล่ามาแต่ต้นค่ะ ไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปทำไม หมดอาลัยตายอยากกันหมดบ้าน สิ้นหวังและหดหู่มากๆ .. เราบอกคนขายหมาว่า หมาเราตายแล้ว ศพยังอยู่ที่รพ. ยังไม่ได้ไปรับเลย คุณขายหมาป่วยมาให้เรา คุณจะช่วย รับผิดชอบอะไรให้เราได้บ้าง .. ทางนั้นตอบแต่ว่า ก็คุณพาไปรักษากับหมอเอง ไม่ได้ให้เรารักษาให้แต่แรก พอหมาตาย ทางเราต้องรับอะไรล่ะ.. เราก็อ้าว ก็โทรบอกคุณแล้ว คุณก็บอกเองว่าให้เรารักษากับหมอต่อ ทางคุณไม่เกี่ยว แต่มาทีนี้กลับตอบว่า ไม่ให้ คุณรักษาเลยไม่รับผิดชอบ เราเสียค่าหมาเกือบหมื่น ค่าหมออีกเกือบหมื่น คุณจะไม่ช่วยอะไรเลยหรอ เค้าตอบ ก็คุณพาไปหาหมอเอง ไม่รู้ไปรับเชื้อเพิ่มที่ร้าน หรือป่วยเพราะพาไปหาหมอรึเปล่า ยังไงหมาก็ไม่ได้ป่วย จากเค้า ป่วยจากที่เราแน่นอน เราก็ เป็นไปไม่ได้ค่ะ เรารับหมาไปสี่วัน หมาแสดงอาการป่วยแล้ว หมอทุกคนลงความเห็นว่า ป่วยมาตั้งแต่ซื้อ คุณจะบอกได้ยังไงว่า ไม่ได้ป่วยมาจากคุณ ทั้งทอม ทั้งดี้ ต่างตะโกนใส่หน้าเราอยู่หน้าร้าน เสียงดังมากค่ะ ทั้งตะโกน ทั้งตะคอก แฟนเราเป็นคนอุ้มลูก ยืนอยู่ด้วยกันข้างๆ .. ตอนนั้นวันอังคารประมาณบ่ายสามโมงค่ะ ถ้าใครอยู่แถวๆ นั้นก็จะเห็นเราพ่อ แม่ ลูก ค่ะ เค้าพูดวนไปวนมาค่ะ บอกหมาเค้าไม่ป่วย มาป่วยที่เรา เราเลี้ยงหมาไม่ดีเอง หมาเลยตาย ไม่น่าขายหมาให้เราเลย ทำหมาเค้าตาย เค้าไม่รับอะไรทั้งนั้น เพราะเค้ารักษาหมาได้เอง ยาเค้ามีที่ร้านหมด ไม่ต้องพาไปหาหมอ ไม่มีการ เปลี่ยนลูกหมาตัวใหม่หรืออะไรให้ทั้งนั้น .. ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น แถมยังให้เราเดินไปขอโทษทุกร้านแทนเค้า ด้วย ที่พูดว่าเค้าขายหมาป่วย เราตอบ ทำไมเราต้องขอโทษ เพราะเป็นเรื่องจริง เราเสียหมา เสียเงิน เสียเวลา เสียความรู้สึก เสียทุกอย่าง   แล้วเค้ายังอุ้มลูกหมาตัวที่เราบอกว่าซึมๆ มาแหวกเหงือกให้ดู แล้วตะโกนถามเราว่า ดูสิ ที่ว่าป่วย เหงือกซีดไหม .. เราตอบ ซีด ไม่ได้ตอบแบบใส่ความอะไรนะคะ เพราะอยู่กับหมาป่วยมาร่วมอาทิตย์ ซีดจริงๆ ค่ะ แล้วเค้าก็ตะโกนด่าๆ เรา หาว่าใส่ความร้านเค้าว่าขายหมาป่วย ใส่ร้ายว่าหมาในร้านเค้าป่วย บอกดูสิ หมาป่วยหรอ นี่ไง ผมนี่ล่ะจับหมาที่คุณว่าป่วยอาบน้ำ แล้วเค้าก็จับน้องหมาราดน้ำล้างตัวต่อหน้าต่อตาเลยค่ะ .. อึ้งสุดๆๆๆ ... ด่าเราว่าเลี้ยงหมาไม่ดี ชีวิตนี้เราเลี้ยงหมามากี่ตัว .. เค้าเลี้ยงเป็นร้อย .. ถ้าเรามีหมามาเยอะก็ต้องดูออกสิว่า หมาป่วยหรือไม่ป่วย เราตอบ ปีนี้เราอายุ 31 คิดว่ามีหมามาแล้วกี่ตัวล่ะ แถมเรายังเรียนตัดขนหมาอีกด้วย ก่อนหน้าจะท้องลูก เราก็ ตัดขนหมาค่ะ จับหมา มีหมามาตลอดชีวิต อาจจะไม่ถึงร้อยตัว แต่ก็มากกว่า 20-30 ตัวค่ะ อาเราก็เพาะหมา เป็นพันธุ์ ลอตไวเลอร์ กับโกลเด้น ก็อย่างว่าค่ะ ไม่ว่าจะพูดอะไร ก็ออกทะเลไปหมดไม่ตรงประเด็น .. เราเลยถามว่า ตัดประเด็นหมาป่วย พาไปรักษากับหมอ และหมาตายออกไปเลย ถามว่า คุณจะรับผิดชอบยังไง เราโง่เองที่ไม่ได้ทำประกันหมาไว้ อย่างร้านอื่นๆ เค้าจะประกันหมา 7 วัน ถ้าป่วยจะเปลี่ยนตัวใหม่ให้ หรือยังไง เค้าย้อนถามเราว่า ร้านไหน ไม่มีหรอกในสนามหลวง 2 เนี่ย ทุกร้านก็แบบนี้ล่ะ แบบเค้าเนี่ย .. เราชี้เลยค่ะ มีสองร้านที่เราคุยด้วยเมื่อเช้า เค้าบอกร้านเค้าจะมีประกันหมาแบบที่เล่าค่ะ .. เค้าก็เถียงๆๆๆ ว่าไม่มี ทุกร้านเหมือนเค้าหมด .. เราบอก เราต้องการให้เค้าช่วยค่ารักษา เค้าตอบไม่จ่าย เค้ารักษาได้เอง เราไปเสียเงินเอง ไม่เกี่ยวกับเค้า เราบอก งั้นเอาค่าหมาคืนหมา เค้าบอกไม่เกี่ยว เอาไปแล้วเลี้ยงตายเอง เราบอก งั้นจะให้หมาตัวใหม่ฟรีๆ ไหม เค้าก็ไม่ให้ บอกถ้าจะเอาหมาใหม่ เค้าให้เราจ่ายครึ่งราคา เค้ายังด่าเราต่อด้วยค่ะว่า ซื้อหมาถูกแล้วจะมาเอาประกันอะไร ใบเพ็ดยังไม่คิดจะเอา (เค้าคิดค่าใบเพ็ดเราเพิ่มอีก สองพันค่ะ) เราตอบคุณรู้ได้ไงว่าเราจะไม่เอาใบเพ็ด เรายังไม่ได้ตั้งชื่อหมากัน มาอยู่บ้านได้สองสามวันยังไม่แน่ใจชื่อ พอจะมา เอาใบ หมาก็ป่วยซะก่อน คุณบอกคุณขายหมาถูก แต่หมาป่วยและตาย สู้เราไม่ซื้อเลยไม่ดีหรอคะ จะได้ไม่ต้อง เสียอะไร แถมต้องมาเสียค่ารักษาหมาเพิ่มด้วย คุณก็รู้ว่าเราเพิ่งเสียหมาตัวเก่าไป หมดค่ารักษาเป็นหมื่นๆ ตัวนี้ป่วย เราต้องรูดบัตรไป คุณจะไม่ช่วยอะไรเลยหรอ คำตอบเค้าก็วนไปวนมาค่ะ อย่างที่เล่าตอนต้น .. วนลูบไป ไม่ได้ข้อสรุปอะไร เป็นไงคะ สุดๆๆๆๆ ... เราบอกคุณจบง่ายดีจังนะ คุณไม่เสียอะไรเลย เราเสียทุกอย่าง คุณได้แต่เงิน และยังจะได้เงินอีก คุณขายหมาได้เงิน หมาตาย คุณก็จะเอาเงินค่าหมากับเราอีกครึ่ง เราบอกคุณ ไม่มีทางได้เงินจากเราอีกแล้ว หมาคุณในร้านที่เหลืออยู่เราก็ไม่เอา มองก็รู้่ว่าหมาป่วย เอามาก็ตายอีก เค้าก็หยิบเก้าอี้พลาสติกมาสองตัวค่ะ มาโยนกระแทกอยู่หน้าเรา แล้วเริ่มขึ้นเ ม ิง ขึ้นก ูว่า เ ม ิงนั่งมองหมากูไปเลยนะ มองให้มันละลายไปเลย ก ูให้เ ม ิงนั่งมองทั้งวันเลย แล้วก็สบถคำหยาบมากมายตามมา .. (ไม่ได้พิมพ์เพราะเดี๋ยวโดนแบนค่ะ) เราก็ อ้าวๆ เริ่มพูดไม่เพราะล่ะ .. คราวนี้ทั้งทอม ทั้งดี้ เดินหนีเราไปที่อื่นค่ะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 00:57:04

ความคิดเห็นที่ 52 ไร้สามัญสำนึกสุดๆเลย มาให้กำลังใจ จขกท นะคะ จากคุณ : ปุ้ม หญิง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 01:05:18

ความคิดเห็นที่ 53 ยังมีอีกหลายๆ ประโยคที่เค้าด่าเราค่ะ .. เราก็ถามเค้าดีๆ ค่ะว่า เราเองก็เป็นเจ้าของกิจการเหมือนกัน เป็นแม่ค้า เหมือนกัน เราเปิดร้านอินเทอร์เน็ต แต่นี่เราเป็นลูกค้าเค้า เราถามเค้าว่าคุณทำกับลูกค้าแบบนี้หรอคะ .. เค้าบอกถ้าเรามาพูดดีๆ กับเค้า เค้าอาจจะให้ลูกหมาเราฟรีไปเลยตัวนึง แต่เราพูดไม่ดีกับเค้าก่อน .. หรอคะ .. ถ้าคุณกลับไปย้อนอ่านที่เราเล่าแต่ต้น เค้าวีนเราแต่ต้นเลยค่ะ ใครกันแน่ที่พูดไม่ดีก่อนคะ .. เราว่า เค้าทำยังไงก็ได้ ให้เราอับอาย และไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดโดยที่เค้าไม่ต้องเสียอะไรเลย เพราะเราไปจาก ตรงนั้น กลับบ้าน เรื่องก็จบค่ะ แต่เค้ารู้ไหมคะ ว่าบ้านเราอยู่แถวๆ สนามหลวง 2 เราไปเดินเที่ยวที่นี่มาเกือบ 12 ปีแล้ว มีแค่ช่วงท้อง และหลังคลอดลูกที่ไม่ได้ไปอีก เราพ่อ แม่ ลูก ไปเดินเล่นกันที่นั่นอย่างน้อยเดือนละครั้งค่ะ เรายังมีกระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงอีกตัว ยังไงเราก็ต้องไปซื้ออาหารกระต่าย หรือไปเดินเล่นอยู่เรื่อยๆ เค้าไม่คิดบ้างหรอ คะ ว่าเราจะได้เจอกันอีกบ่อยๆ เราไม่อายหรอกค่ะ เราไม่ได้ทำอะไรผิด เรามองหน้าเค้าได้อีกโดยไม่รู้สึกอะไร หลังจากที่เค้าทิ้งเรายืนอยู่หน้าร้าน เราพ่อ แม่ ลูก ก็ยืนนิ่งๆ กันต่ออีกสักห้านาที ถามแฟนว่า เอายังไง จะกลับแล้วนะ ลูกไม่ไหวแล้ว .. แฟนบอก ก็เป็นอย่างที่คิด คงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้ ความร้าวรานของครอบครัวเรายังไม่จบค่ะ .. เรายังไม่ได้ไปรับไข่ต้มกลับบ้านเลยค่ะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 01:06:34

ความคิดเห็นที่ 54 ช่วงนี้อากาศร้อนจริงๆ ค่ะ .. ยังตัดสินใจกันไม่ได้เลยว่าจะทำยังไงกับศพไข่ต้มดี จำได้ว่าคราวโม่พอเค้าสิ้นลมปุ๊บ ขุดหลุมฝังยังไม่ทันเสร็จ แมลงวันมารอตอมกันเยอะแยะแล้ว ไข่ต้ม เป็นลำไส้พาร์โว ติดต่อได้ทางฉี่ อึ และน้ำลายสุนัขค่ะ เชื้อนี้อยู่ได้นานถึง 6 เดือน วิธีกำจัดต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ แบบแรงๆ ที่เค้าใช้ตามรพ. หรือใช้ไฮเตอร์ฉีดพ่นทิ้งไว้หลายชม. ก่อนเช็ดออก อีกอย่างระหว่างพาไข่ต้มไปรักษาหลายที่ คุณหมอทักค่ะว่า เค้าอาจจะเป็นไข้หัดด้วย ให้ Test ดูไหม ตอนนั้นเราไม่กล้า Test ค่ะ กลัวถอดใจไม่รักษาเค้าต่อค่ะ .. ถ้าไข่ต้มได้รับเชื้อไข่หัดด้วยยิ่งหนักเลยค่ะ เพราะโรคนี้ ติดต่อได้ทางอากาศ หรือทางหายใจค่ะ   คราวนี้จะพาเจ้าตัวเล็กไปฝังที่บ้านอีกหลัง (ที่มีบริเวณ) ก็ไม่กล้าค่ะ เพราะที่นี่มีบางแก้วอายุเกือบ 15-16 ปี อีก 5 ชีวิต บางแก้วขุดหลุมได้ลึกค่ะ กลัวเค้าจะได้รับเชื้อจากไข่ต้มไปด้วย .. ใจจะขาดจริงๆ ค่ะ ไม่เคยเสียน้องหมาด้วยโรคร้าย และเป็นโรคติดต่อแบบนี้มาก่อน คิดอยู่ในใจ ทำไมเราพาศพ เค้ากลับมาฝังที่บ้านไม่ได้นะ ทำไม .. ทำไม รพ. มีทางเลือกให้เรา 3 ทางค่ะ .. 1.พากลับไปฝังที่บ้าน แต่ต้องขุดหลุมให้ลึก เน้นว่าลึกมากๆ 2.ฝากเทศบาลไปกำจัด ด้วยการเผาที่เตาความร้อนสูง เราจะไม่ได้กระดูกน้องกลับมาค่ะ 3.ให้นำศพไปทำพิธีเองที่วัด ค่าใช้จ่ายประมาณ 1500-2000 ใช่ค่ะ ใจเราอยากเลือกข้อที่ 3 แต่ว่างบมันสุดๆ แล้วค่ะ เดือนนี้เราเจอมาเยอะจริงๆ สุดท้ายเราเลยต้องฝาก เทศบาลไป ด้วยค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 400 ค่ะ .. ไม่พอคุณหมอยังกำชับมาว่า เชื้อนี้อยู่ได้นานนะ ถึงแม้ว่าจะกำจัดด้วยยาฆ่าเชื้อ หรือไฮเตอร์แล้ว ก็ยังไม่ควรนำ น้องหมาตัวใหม่มาเลี้ยงอีกอย่างน้อย 2 เดือน เอาให้ชัวร์เป็นครึ่งปีไปเลย แล้วข้าวของเครื่องใช้ไข่ต้ม ถ้าทำได้ ให้ทิ้งให้หมด อย่าเสียดาย .. เราทราบดีค่ะ เพราะเจ้าไข่ต้มอยู่ในห้องนอนเรา วิ่งไปทั่วห้อง แอบมาฉี่บนที่นอนด้วยซ้ำ เฟอร์นิเจอร์หลายอย่างเค้าก็ดม เลีย สัมผัส ครึ่งปีเรายังรู้สึกว่าไม่พอเสียด้วยซ้ำ .. ทรมานมากค่ะ .. ใจมันช้ำไปหมด แค่เราอยากมีหมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวสักตัว ทำไมมันยากอย่างนี้นะ เราโดนขนาดนี้ แล้วเราก็ยังมีหมาใหม่ไม่ได้ไปอีกนานมากๆ (ครึ่งปีในความรู้สึก ทรมานมากค่ะ) ขนาดศพน้องยังพากลับมาฝังที่บ้านไม่ได้ เค้าจากไปก็ไม่ได้บอกลา ไปดูอีกที เค้าก็ห่อไข่ต้มอยู่ในห่อพลาสติก แช่เย็นแล้วค่ะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 02:15:26

ความคิดเห็นที่ 55 มาถึงจุดนี้แล้ว .. เราเลยไม่อยากให้ใครได้มาเจอะเจอเหตุการณ์แบบครอบครัวเราอีกเลยค่ะ สำหรับคนรักหมาแล้ว ไข่ต้มไม่ใช่แค่หมาตัวเดียวค่ะ เค้าคือสมาชิกในครอบครัวคนนึง เมื่อสมาชิกในครอบครัวป่วย หรือตาย ในครอบครัวนั้นมีแต่ความสูญเสีย และเสียใจค่ะ .. เราไม่ได้โทษตัวเอง หรือโทษใครเลย หรือแม้แต่สถานที่ (สนามหลวงสอง) ที่เรารับไข่ต้มมา เรื่องราวทั้งหมด มันเกิดขึ้นเพราะแค่เส้นบางๆ ในความมีจรรยาบรรณ กับธุรกิจค้าขายสิ่งมีชีวิตค่ะ .. ถ้าทุกคนระวังตัว .. ก็จะไม่ต้องมีใครสูญเสียค่ะ คนขายหมา .. ฉีดวัคซีนให้หมาครบก่อนนำมาขาย หรือไม่นำหมาเด็กที่เสี่ยงจะป่วยก่อนได้รับวัคซีนครบมาขาย หรืออะไรก็ตามที่รักษาชีวิตหมาไว้ได้ แค่วัคซีนไม่เท่าไรหรอกค่ะ ถ้าเทียบกับชีวิตหนึ่งชีวิตแล้ว มาเก็บที่เราก็ได้ค่ะ เราจ่ายให้ได้เลย อย่างน้อยน้องหมาไม่ป่วย คุณก็ไม่เสียรายได้ของคุณไปใช่ไหมคะ คนมาซื้อต่อคุณไปก็ไม่เสีย ความรู้สึก หรือเสียหายไปด้วย คนซื้อหมา .. ต้องบอกว่ายากจริงๆ ค่ะ คุณไม่มีทางรู้เลยว่า หมาที่คุณได้มาจะผ่านอะไรมาบ้าง จะได้รับวัคซีน อะไรมาบ้าง และได้รับวัคซีนจริงไหม .. ถามเราคราวต่อไป อย่าเรียกว่าซื้อน้องหมาเลยค่ะ เรียกว่าซื้อใจคนขายดีกว่า ไม่ว่าจะหมาบ้าน หมาฟาร์ม หมา สวน เจอคนขายไม่ดี ไม่มีจรรยาบรรณยังไง เราว่าก็รอดยากค่ะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 02:25:45

ความคิดเห็นที่ 56 ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากครอบครัว "JG" เราได้สูญเสีย "โมโม่" น้องหมาพุดเดิ้ล เกิด 27 ก.ค. 2001 เสีย 13 ก.พ. 2012 เวลา 14.00 น. ด้วยโรคตับวาย และไตวาย ไปอย่างไม่มีหวนกลับ .. และในวันที่ 13 มี.ค. 2012 เวลา 1.00 น. เราได้สูญเสีย "ไข่ต้ม" ลูกชิวาวา เกิด 20 ธ.ค. 2011 ไปด้วยโรคพาร์โวลำไส้ ไม่ว่าตอนนี้ลูกหมาตัวน้อยทั้งสองของแม่จะอยู่ที่ไหน แม่เชื่อว่า สุนัขทุกตัวจะได้ขึ้นสวรรค์ .. หลับสบาย วิ่งเล่น อยู่บนนั้น แม่เชื่อว่า พระเจ้าจะช่วยดูแลลูกหมาของแม่ ให้สุขสบาย ไม่ต้องทุกข์ร้อน กังวลใจ อะไรอีกแล้ว .. ถึงแม้ว่าแม่จะรักษาสัญญาที่จะพาโมโม่ และไข่ต้ม ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังใหม่ไม่ได้ แม้กระทั่งศพของลูกแม่ก็ยัง พาไปด้วยไม่ได้ .. แต่แม่สัญญาว่าตลอดชีวิตของแม่ โมโม่ และไข่ต้ม จะอยู่ข้างในนี้ ในใจของแม่เสมอ .. คำระลึกถึง "โมโม่" หมาที่ดีที่สุดที่แม่เคยมีมา ไม่เคยกัดทำลายข้าวของในบ้าน ไม่เคยอึฉี่ในที่นอน หรือห้องนอนเลย คอยเห่าเตือน ทุกครั้งที่มีคนมาหน้าบ้าน หรือเดินเข้าบ้าน เป็นหมาที่สร้างแรงบันดาลใจให้แม่ไปเรียนตัดขนหมาจนสำเร็จ รักโม่ ตลอดไปนะลูก .. หลับให้สบายไม่ต้องห่วงแม่อีกแล้วนะ คำระลึกถึง "ไข่ต้ม" เราพบกันสั้นไป ยังไม่ทันได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ยังไม่ทันจะจำชื่อตัวเองได้ ไข่ต้มก็จากแม่ไปด้วยโรคร้ายซะแล้ว ถึงแม้ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่นาน ไข่ต้มก็เป็นหมาที่ฉลาด และรักสะอาดมากๆ เพราะไข่ต้มจากไปเร็วเหลือเกิน ทำให้ แม่ต้องคอยจินตนาการอยู่เรื่อยว่า ไข่ต้มโตมาจะหน้าตาเป็นยังไง จะหล่อเหลาเอาการเหมือนตอนนี้ไหม อาป๊ายัง ถามแม่ว่า ทำไมต้องชื่อไข่ต้ม ก็หนูตัวสีขาวทั้งตัว มีแค่หลังหูที่เป็นสีครีมอ่อนๆ แม่บอกอาป๊าว่า หนูสีขาวเหมือน ไข่ต้ม และก็มีไข่ เลยให้ชื่อนี้ ไม่เป็นไรนะลูก ถึงชีวิตจะสั้นนัก แต่แม่ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้ไข่ต้มมาเป็นสมาชิก ครอบครัวอีกคน .. แ่ม่จะจำไข่ต้มไปจนกว่าจะหมดลมหายใจของแม่เลยนะ .. สุดท้ายนี้ซึม และเศร้าสุดหัวใจ ตัวนึงรัก เพราะเราอยู่ด้วยกันนานเกินไป ส่วนอีกตัวยังไม่ทันจะเกิดความรัก ก็จากกันไปซะแล้ว R.I.P นะลูก .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 02:38:59

ความคิดเห็นที่ 57 เสียใจด้วยนะ่ค่ะ จากคุณ : เหลยเซิ่ง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 12:27:56

ความคิดเห็นที่ 58 เสียใจกับไข่ต้มด้วยค่ะน้องปอ คนทำดีทำชั่วย่อมรู้อยู่แก่ใจค่ะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 19:32:57

ความคิดเห็นที่ 59 เศร้ากันหมดบ้านเลยค่ะพี่แดง .. กว่าจะมีน้องหมาใหม่ได้อีกนานเลย พอดีค่ะบ้านใหม่ปอเสร็จก็ปีหน้าโน้นพอดี T T จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 01:26:35

ความคิดเห็นที่ 60 ตามมาอ่านค่ะปอเสียใจด้วยนะ เค้าไปสบายแล้วอย่าคิดมากน้า ปล. คนขายเลวได้อีก สงสารไข่ต้มหลับให้สบายนะเด็กน้อย จากคุณ : patty babeby เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 02:58:50

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณค่ะ คุณ patty babeby จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 03:28:45

ความคิดเห็นที่ 62 นั่งอ่านมา น้ำตาคลอดเบ้าตามเลยค่ะ เสียใจด้วยนะคะ ส่วนคนขายหมาก็น่าจะมีสามัญสำนึกบ้าง แต่นี้ไม่มีเลย แย่มากๆ  คิดว่าจะขายอย่างเดียว อย่างนี้ต่อไปทำอะไรก็ไม่เจริญอ่ะค่ะ ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน เพราะไม่มีความซื่อสัตย์ ส่วนน้องไข่ต้ม ถือว่าน้องเค้าไปสบาย ไปในภพภูมิที่ดีแล้วนะคะ ตอนนี้เค้าคงเป็นเทวดาน้อยๆที่มองเราอยู่บนสวรรค์อยู่ก็ได้ค่ะ จากคุณ : rabbittynont เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 17:53:26

ความคิดเห็นที่ 64 ใช่ค่า ร้านนี้มีแม่ค้าแอบเดินตามหลังมาบอกเราว่า เพิ่งเปิดได้ไม่นานค่ะ แถมยังมีสองสาขาในนี้ด้วยค่ะ เพราะแต่ก่อนเราจำได้ตรงนี้เป็นร้านตัดขนหมาค่ะ ตั้งแต่มีลูกก็พาไปตัดร้านตรงนี้ค่ะ แต่พอน้ำท่วมก็เปลี่ยนร้านค่ะ เรื่องประกันเราก็ไม่แน่ใจค่ะ แม่ค้าก็มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป .. รู้แต่ว่าอีกนานจริงๆ กว่าจะได้เลี้ยงหมาตัวใหม่ T T จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 01:34:19

ความคิดเห็นที่ 65 คราวหน้าขอให้ได้ลูกหมาที่น่ารัก สุขภาพดี และมาจากผู้ขายที่มีความรักและเมตตาให้น้องหมาจริงๆนะคะพี่ปอ อย่างน้อยไข่ต้มก็ไปดีแล้ว และเค้าก็ได้ใช้ช่วงเวลาสั้นๆอยู่กับคนที่รักและดูแลเค้าสุดชีวิตแล้วค่ะ ถึงทรมาน แต่เชื่อว่าเค้าต้องมีความสุขกว่าตายอยู่ที่ร้านนั้นแน่ๆ ปล ว่างๆจะไปดูหน้ามัน อยากเห็นหน้าคนใจร้าย จากคุณ : petite_poochi เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 11:54:23

ความคิดเห็นที่ 66 เอ่อ จะบอกว่าร้านที่ปอได้เจ้าไข่ต้มมา มีเนื้อเรื่องคล้ายๆ กันเลยค่ะ เค้าบอกว่าพ่อเค้าเพาะหมาขายมาสิบกว่าปีแล้ว ฟาร์มอยู่นครนายก เค้ารักหมามาก หวงหมา ก่อนจะเข้าร้านให้ถอดรองเท้า ก่อนจับหมาให้ล้างด้วยยาฆ่าเชื้อ เค้าบอกร้านขายหมาร้านอื่นๆ ในนั้น ก็มารับหมาเค้าไปขายต่อ ประมาณเค้าขายราคาส่งให้ มีดาราชอบมาซื้อร้านเค้า เค้าโชว์รูปในมือถือให้ดูค่ะ เรื่องราวคล้ายๆ กันเลยนะคะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 12:06:47

ความคิดเห็นที่ 67 คห.สต.นะคะ เรื่องประกันหมา เปลี่ยนหมาได้ หรือแม้แต่มีประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตให้ ไม่ได้เป็นหลักประกันอะไรเลยนะคะว่า หมาที่ซื้อมาจะปลอดโรค อายุยืน คือ คนอาจจะคิดว่า คนขายต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการเปลีย่นตัวแน่ๆเพราะหมาเค้าแข็งแรง บลาๆ ถึงกล้ารับประกัน กล้าทำประกันให้หมา เรากลับมองว่า การประกันหมา น่าจะเป็นเพียงคำโฆษณาสวยๆน่ะค่ะ บรีดเดอร์คอกดังๆบางคนก็ไม่มีตรงนี้ให้ แต่หมาเค้าแข็งแรง ไม่ป่วย ไม่ตาย แต่ร้านรึคอกที่มีประกันตรงนี้ มีปัญหาตลอดๆ ทั้งอาจจะเปลี่ยนให้จริง รึ กลายเป็นซื้อตัวใหม่ในราคาพิเศษ (อาจจะไม่ทุกที่ แต่ก็เยอะที่เป็นแบบนี้) คนซื้อต้องศึกษา ถามเยอะๆ และอาจจะต้องรู้จักสกรีนให้มากขึ้น ยอมไปดูหลายๆที่ทั้งที่ๆถูกและแพง เปรียบเทียบกัน เสียเวลา เสียค่ารถหน่อย แต่น่าจะคุ้มค่ากว่านะคะ เพราะถ้าได้ลูกหมาที่แข็งแรง สมบูรณ์มาเลี้ยง เค้าจะอยู่กับคุณไปเป็นสิบปีเลยค่ะ (ถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดๆน่ะนะคะ) จากคุณ : ^^' (~sugarsour~) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 23:54:41

ความคิดเห็นที่ 68 จริงค่ะคุณ ~sugarsour~ ประกันก็ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจเนาะว่าน้องหมามาจะแข็งแรงไหม เหมือนเป็นแค่คำให้เรา มั่นใจว่าอาจจะได้น้องหมามาแทนถ้าตัวนี้ป่วยหรืออย่างไร แต่พอรับน้องหมามาที่เราจริงๆ แล้ว เงินเข้ามือเค้าไปแล้ว คิดหรอคะว่า จะได้น้องหมาตัวใหม่จริงๆ ถ้าเกิดป่วยหรือตายขึ้นมา .. น้องหมาเป็นสิ่งมีชีวิตค่ะ ตัวที่เราเลือกคือเราถูกชะตา ตัวใหม่เราอาจจะไม่อยากได้ก็ได้ ความรู้สึกก็เสียไปแล้ว สู้เอาให้ชัวร์มากันแบบปลอดภัยดีที่สุดค่ะ .. จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 00:22:42

ความคิดเห็นที่ 69 2ร้านที่เราบอกอ่าค่ะ  เค้าไม่มีการเดินตามลูกค้าแน่นอน ครั้งแรกที่เราไปซื้อน้องหมาตัวแรก ก็สิบกว่าปีแล้วนะที่นามหลวง2อ่า ร้านเก่าๆที่ยังอยู่มีไม่กี่ร้านหรอก ที่เหลือเป็นขาจรมากกว่า มีปัญหาก็หนีไปขายที่อื่น ส่วนฟาร์มเพื่อนที่บอก เค้าอยู่พุทธมณฑลสายสี่ แล้วเรื่องน้องหมาที่นั่น แม่ค้าทอมได้ติดต่อมาอีกไหมอ่าคะ จากคุณ : henyanazevi (henyanazevi) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:06:25

ความคิดเห็นที่ 70 ไม่มีเลยค่ะคุณ henyanazevi เงียบหายไปเลยค่ะ จากคุณ : ปอปอ BABY-JG (LovePorPor) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 19:59:16