"เครือข่ายคนรักนก" ร้องบก.ปทส.เอาผิด "กบนอกกะลา" ละเมิดพ.ร.บ.สัตว์ป่าสงวนฯ
ซึ่ง นำเสนอเนื้อข่าว ถึงการดำเนินการของ คนไทย ที่ตั้งคำถามต่อ รายการ "กบนอกกะลา" ในทางกฎหมาย ถึงเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยง มุมมองความคิด และ ผลกระทบที่จะติดตามมา ในสังคมไทย ภายหลังจากนำเสนอข้อมูล อันไม่รอบด้าน ไม่ครบถ้วน ที่นำมาซึ่งปัญหาในอนาคต เสมือนหนึ่ง ยอมรับต่อหลักการ และ ความรู้อันผิดพลาด จนก่อปัญหาระยะยาว
ประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งชวนให้คิดตามว่า
ต้องร่วมกันอธิบายความต่อเนื่อง
ซึ่งไม่ใช่เพียง การด่าทอ
ตำหนิ ติเตียน หรือ วิพากษ์วิจารณ์ รายการ "กบนอกกะลา" หรือ ทีวีบูรพา หรือ แม้แต่แบ่งแยกฝักฝ่ายว่า การดำเนินการดังกล่าว เกี่ยวพันถึงเนื้อหาสาระอื่น ในการทำงานของ ทีวีบูรพา กระทั่งกระทบต่อความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะทำงานดีดี เพื่อสังคมไทย และ คนไทย
ประเด็นสำคัญ
ไม่ใช่การพุ่งเป้าโจมตี
ว่าเลวทราม หรือ ต่ำช้า ในเชิงวิชาชีพ
แต่ ควรเป็นคำถาม จากใจกัลยาณมิตร ซึ่งถามไถ่ให้ฉุกคิดว่า สิ่งที่คิดว่าทำดี ตั้งใจดี ตั้งใจนำเสนอ และ มุ่งมั่นทำงานนั้น กลายเป็นการจุดชนวนปัญหาใหม่ ในสังคมไทย เป็นชนวนอันซับซ้อนซ่อนเงื่อน และ เจือผลด้วยผลประโยชน์มากมาย จากผู้คนซึ่งอ้างว่า รักธรรมชาติ แต่พร้อมจะหากินกับธรรมชาติ อ้างว่า ต้องการอนุรักษ์ เท่ากับการหาโอกาสฉกฉวย
สำหรับธุรกิจ การค้าสัตว์ในโลกสมัยใหม่
ซึ่งอ้างไปเรื่อยเปื่อยถึงสิ่งผูกพัน
หรือ แม้แต่อ้างวัฒนธรรม
อ้าง ว่า การจับนกจากป่า เป็นวิถีธรรมชาติ เป็นวิถีชุมชน เป็นความผูกพันของผู้คน ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย กระทั่งสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ คือ การดำรงวิถีชุมชน ในขณะที่ความเป็นจริงก็คือ โลกเปลี่ยน ธรรมชาติเปลี่ยน และ มนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ด้วยการฉกฉวย จนกระทั่งสมดุลย์ของธรรมชาติเปลี่ยนไป ไม่นับรวมคำอ้างแบบ ไขว่นิ้วมืออยู่เบื้องหลัง
จากภาพของผู้คน
ซึ่งยืนลุ้นเมามัน กับ การประชันขันต่อ
ด้วยวงเงินเดิมพัน ซึ่งขับเคลื่อนการล่าลูกนก
เพราะ สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ โอกาสในการได้มาซึ่งนกแข่ง นกประชันเสียง ไม่ใช่โอกาสเท่าเทียมของผู้เล่นหน้าใหม่ ที่อยากเผชิญโชค หรือ อยากได้เงินเดิมพัน ในธุรกิจซึ่งหากินกับธรรมชาติ โอกาสของ ผู้เล่นที่ไม่มีเงินถุงเงินถัง ไม่มีช่องทางซื้อนก จากฟาร์มเพาะเลี้ยง ซึ่งมักจะเป็นคำกล่าวอ้างอยู่เสมอว่า ไม่ได้ไปขโมย หรือ หาของจากป่าอนุรักษ์
ดังนั้น ประเด็นสำคัญอันซับซ้อน ในความเป็นสื่อ
จึงต้องเข้าใจ และ แยกแยะรายละเอียด
ก่อนจะสร้างผลกระทบต่อเนื่อง
โดย มิใช่การกระตุ้นตลาด ให้เกิดความต้องการ หรือ ปั่นให้เกิดมูลค่า ซึ่งเพิ่มสูงขึ้น ตามแผ่น VCD หรือ DVD ซึ่งผู้ค้าสัตว์ป่า นำมาจากรายการ ทั้งเพื่อจำหน่ายจ่ายแจก ประชาสัมพันธ์ อ้างอิงความชอบธรรม โดยผู้หากินกับธุรกิจสัตว์ พยายามสร้างค่านิยม หรือ เบี่ยงเบนให้เชื่อว่า ไม่เกิดผลกระทบต่อสังคม หรือ ต่อผู้คน ดังนั้นข้อสรุป จึงควรทำธุรกิจเช่นนี้ แลหากินเช่นนี้ต่อไป
มิแตกต่างแต่ประการใด
จากความรับผิดชอบ ในเชิงวิชาชีพ
ซึ่งคนทำงานสื่อ พึงต้องตระหนัก และ จดจำ
โดย ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง ข้างๆคูๆว่า ต้องนำเสนอความจริง นำเสนอความรอบด้าน ในบรรยากาศของรายการสารคดีใสซื่อ บริสุทธิ์ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี แต่คนทำสื่อกลับไม่ดูให้ดีว่า ในน้ำตาลของความบริสุทธิ์ผุดผ่องเหล่านั้น คือ การขยับขับเคลื่อนให้ธุรกิจ และ อุตสาหกรรมเหล่านั้น ยังคงหาประโยชน์ต่อไป ภายใต้ช่องว่างจากข้อกฎหมาย ในสังคมอันลักลั่น
ประเด็นในความเป็นสื่อ ซึ่งนำเสนอ
เพื่อกำหนดวาระ แล Agenda
ของความเปลี่ยนแปลงใหม่
หาก พิจารณาได้ว่า ประเด็นเนื้อหาความจริง ในคำกล่าวอ้างของคนทำสื่อนั้น กำลังกัดกินตัวเอง กัดกินสังคม และ บ่อนทำลายธรรมชาติ อันละเอียดอ่อน ที่มิใช่แค่ทำความเข้าใจ หรือ มองสังคมอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ต้องมองถึงเล่ห์เหลี่ยม และ ค่ายกลในทางธุรกิจ ซึ่งผู้ค้าสัตว์เหล่านี้ กำลังหาประโยชน์ จากรายการน้ำดี ซึ่งกล่าวอ้างว่า เยาวชนไทยพึงดู
โดยที่ต้องเข้าใจด้วยว่า
การสร้าง Story ใหม่ของวงการค้าสัตว์
เป็นกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก อย่างต่อเนื่องยาวนาน
ไม่ นับรวม การเชื่อมโยงวัฒนธรรมการค้าสัตว์ใหม่ๆ นำวัฒนธรรมชนเผ่านู่น รวมกับชนชาตินี้ เพียงเพื่อรองรับความชอบธรรม เพื่อสรุปความว่า ดังนั้นฉันจึงมีสิทธิ์ขายของได้ ฉันสามารถจะนำสายพันธุ์สัตว์ข้ามโลก มาเพื่อเพาะพันธุ์ขายได้ โดยไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ หากผู้ซื้อเบื่อหน่าย ไร้ความสามารถ หรือ ปล่อยปละสัตว์เหล่านั้น สู่แหล่งธรรมชาติ
อันเป็นสาระสำคัญ ของ ปัญหาสัตว์ต่างถิ่น
ซึ่งไล่งับสัตว์พื้นถิ่นให้สูญพันธุ์
จนเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ
ประเด็น ความซับซ้อน หรือ ความแย้งย้อน ระหว่างการนำเสนอความจริง อันอ้างอิงว่ารอบด้าน กับ การกำหนดวาระสำคัญ แห่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพื่อสร้างสิ่งใหม่ หรือ แม้แต่เพื่อตั้งคำถาม กับ ธุรกิจที่หากินบนความทุเรศทุรัง ล้วนเป็นพื้นที่ของคนทำงานสื่อ ที่วันนี้ ต้องเผชิญหน้า และ ทำงานในวิชาชีพนี้ อย่างรับผิดชอบเท่าทัน มากกว่าอ้างว่า ตนเองชอบธรรม
ประเด็นปัญหา
ในการใช้ปัญญาตอบคำถาม
หรือ สร้างโจทย์ ก่อนขยายความเนื้อหา
ล้วน เป็นภาระหน้าที่ ของคนทำงานวิชาชีพ ซึ่งควรได้รับการท้วงติง ตรวจสอบ วิพากษ์ จากผู้คนในสังคมเดียวกัน ในประชาสังคมเดียวกัน อันเป็นความชอบธรรมยิ่ง ของโลกในทุกวันนี้ ดังนั้น การสร้างสรรค์รายการทางปัญญา ด้วยความเชื่อว่า เป็นจุดแห่งการสร้างสังคมที่ดี สร้างคนรุ่นใหม่ เพื่อที่จะก้าวพ้น จากวังวนของปัญหาในสังคมปัจจุบัน จึงควรต้องสติ ควบคู่กันไป
ดังนั้น ก่อนที่ผู้ผลิตรายการ ผู้ควบคุมรายการ
หรือคนทำงานใน ทีวีบูรพา จักเข้าใจผิด
ถึงคดีความดังกล่าวที่เกิดขึ้น
จึงควรตั้งสติ ถึงคำถามกัลยาณมิตร ในครั้งนี้ เถิด
ผู้ชายในคลิปรายการไตรภพคนนี้ ....บอกว่า.ราคานกตัวละเกือบล้าน
แก้ไขข้อความ
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 55 09:09:20
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 55 05:49:14