Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นับจากวันนี้จะไม่มีปีโป้ให้เราได้กอดอีกแล้ว แต่จะรักและคิดถึงหนูตลอดไป ลาก่อนนะปีโป้ You are my love at first sight. ติดต่อทีมงาน

แค่ตั้งหัวข้อกระทู้...กว่าจะพิมพ์ได้จบประโยค...น้ำตาเราก็ร่วงไม่รู้เท่าไหร่แล้ว  ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาตั้งกระทู้แบบนี้ของปีโป้เร็วขนาดนี้เลยจริงๆ ค่ะ  คิดอยู่เสมอๆ ว่า...ขอให้เค้าอยู่กับเรานานๆ อยู่ให้นานที่สุด  ขอให้เค้าเป็นตัวสุดท้ายที่จะจากเราไป  


สิ่งที่ทำเราเสียใจมากที่สุดก็คือ...เราไม่รู้แม้กระทั่งว่าเค้าเป็นอะไรถึงจากไป  ไม่ได้เห็นแม้กระทั่งอาการผิดปกติของเค้า  ไม่ได้รับรู้อาการอะไรของปีโป้เลยแม้แต่นิดเดียว  ถ้าเมื่อวานนี้เราได้อยู่กับเค้าตลอดทั้งวัน  เค้าอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้  เราอาจจะช่วยเค้าทันหรือพาไปหาหมอได้ทัน  เพราะทุกๆ ครั้งที่เค้าอาการไม่ค่อยดี  เราจะสังเกตเห็นถึงอาการผิดปกติของเค้าตลอดมา  และทุกๆ ครั้งปีโป้ก็ผ่านนาทีชีวิตมาได้ตลอด  แต่ครั้งนี้...เราไม่มีโอกาสได้อยู่ข้างๆ เค้าในวินาทีสุดท้ายของชีวิตเค้าเลย


เหตุเกิดเมื่อวานนี้  (13 เมษายน 2555) เรากลับมาถึงบ้านประมาณสี่ทุ่มได้หลังจากเปลี่ยนกับน้องสาวไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล เนื่องจาก  2  เดือนที่ผ่านมานี้เราต้องสลับกับน้องไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลตลอด  เราจะมีเวลาได้อยู่กับปีโป้แค่วันเว้นวัน คืนเว้นคืน  เราจำเป็นต้องฝากน้องที่บ้านคอยให้อาหารปีโป้ & โปเต้และเด็กๆ ที่บ้าน ซึ่งเราต้องคอยกำชับอยู่ตลอดเวลาว่าต้องคอยป้อนน้ำให้ปีโป้ด้วย  เนื่องจากปีโป้ไม่ค่อยกินน้ำที่แขวนไว้  หรือกินในปริมาณที่น้อยมาก  เราต้องคอยป้อนเค้าในแต่ละวันเพิ่มเติมให้เพียงพอกับน้ำหนักตัวเค้า
 

เมื่อเย็นวันที่  12  เมษายน  2555 ก่อนที่เราจะไปเปลี่ยนน้องเพื่อไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล  เราออกจากบ้านประมาณ 19.00 น. ได้ เราพยายามป้อนน้ำเค้าให้ได้มากที่สุด เพราะเรารู้ว่า...ก่อนที่เราจะออกจากบ้าน  เราต้องทำทุกอย่างให้พวกเค้าด้วยตัวเราเองให้มากที่สุด  จะอาศัยพึ่งน้องที่ฝากให้ดูแลก็ยังไม่ค่อยไว้วางใจ  เป็นห่วงเป็นกังวลทุกครั้งที่เราไม่อยู่เลย  ต้องคอยโทรเตือนทุกเวลาเลยว่าเอาอาหารให้เด็กๆ กับป้อนน้ำให้ปีโป้หรือยัง


แต่เมื่อวานนี้  (13 เมษายน 2555)  ช่วงเช้าๆ สายๆ เราลืมนึกไปว่าน้องคนที่เราฝากดูแลปีโป้ & โปเต้ และเด็กๆ จะต้องออกไปเล่นน้ำสงกรานต์  เราก็เลยไม่ได้โทรกำชับให้ป้อนน้ำปีโป้ด้วย  น้องเราออกไปเล่นน้ำตั้งแต่เที่ยง  ส่วนน้องคนอื่นๆ ก็ไม่มีใครอยู่บ้านเลยซักคน  เราโทรติดต่อใครไม่ได้ซักคน ตอนนั้นเริ่มรู้สึกแปลกๆ...ใจไม่ดียังไงไม่รู้  แต่ไม่ได้นึกไปถึงปีโป้เลยว่าเค้าจะเป็นอะไรมั๊ย  ห่วงแต่ว่าพวกที่ออกไปข้างนอกจะเกิดอุบัติเหตุอะไรกันหรือเปล่า  เพราะมันผิดปกติที่โทรติดต่อใครไม่ได้ซักคน  จนประมาณ  18.30  น. น้องที่เราฝากดูแลเด็กๆ ก็โทรกลับมา  เราก็ถามเหมือนทุกครั้งว่าให้อาหารกระต่ายหรือยัง  น้องก็บอกว่าให้แล้วก่อนออกมาเล่นน้ำตอนเที่ยงๆ เราก็เลยเบาใจนิดนึงว่าเด็กๆ ได้กินอาหารกันแล้ว  แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ถามเรื่องป้อนน้ำให้ปีโป้หรือยัง  ลืมนึกไปด้วยซ้ำ  


แต่น้องเราตอนที่กลับมาเค้าเข้าบ้านไม่ได้  เพราะบ้านล็อค...ไม่มีใครทิ้งกุญแจไว้ให้  มาถึงตรงนี้...ทำให้เราเริ่มกังวลเป็นห่วงปีโป้ & โปเต้ และเด็กๆ แล้ว  เพราะกว่าเราจะกลับถึงบ้านก็ตั้งเกือบสี่ทุ่มแน่ๆ


พอเรากลับมาบ้านทุกครั้งที่เราขึ้นบันไดไปถึง  เราจะส่งเสีงเรียกปีโป้ก่อนเลย และทุกครั้งเราก็จะเห็นเค้านอนแผ่อย่างสบายใจตามข้างตู้ ข้างที่นอน  แต่เมื่อวานนี้มองไปไม่เห็นเค้านอนอยู่มุมเดิม เราก็เริ่มมองหาเค้าแล้ว  แล้วสายตาเราก็เห็นปีโป้นอนหัวตะแคงๆ อยู่ใต้ตู้...ที่เค้ามักจะใช้เป็นที่หลบภัยเวลาตกใจหรือได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ เรารีบวิ่งไปเอาตัวเค้าออกมาจากใต้ตู้  แล้วก็รับรู้ว่าเค้าไม่มีลมหายใจแล้ว  ไม้มีชีวิตอยู่แล้ว  ตัวเค้ายังนิ่มๆ อยู่เลย  แต่ปากเริ่มเป็นสีคล้ำแล้ว  มีน้ำอะไรเหลืองๆ ไหลออกจากปากด้วย  แต่สิ่งที่เราเห็นแล้วเราร้องไห้แทบจะขาดใจก็คือ  มีมดแดงไต่ที่ปากเค้าหลายตัวเลย  เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า  เค้าถึงไปนอนตายใต้ตู้แบบนั้น  ซึ่งปกติมุมนั้นไม่ใช่มุมของเค้าเลย  เป็นมุมของโปเต้ซะมากกว่า  ไม่รู้ว่าเค้าตกใจอะไร  หรืออากาศร้อนมาก  จนเกิดฮีทสโตรคแล้วช็อคหรือเปล่า  แล้วอีกอย่างนึงที่เราสงสัยสุดๆ ก็คือ  เค้าได้กินน้ำอีกบ้างมั๊ยหลังจากเราป้อนเค้าไปเมื่อตอนทุ่มนึงของวันที่ 12 ที่ผ่านมา  แต่เราก็ไม่ได้ถามคำถามน้องเรา  เพราะเรารู้คำตอบว่า...เค้าจะต้องบอกว่าป้อนแล้ว  เรารู้นิสัยของน้องคนนี้ดี...ว่าเค้าไม่เคยยอมรับความจริงอะไรทั้งนั้น  เราก็เลยไม่อยากจะถามให้ตัวเองต้องเจ็บใจ เสียใจไปมากกว่านี้  เพราะถึงจะคาดคั้นเอาความจริง...ปีโป้ก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี  


ถ้าจะผิด...ก็คงต้องผิดที่ตัวเรา  ต้องโทษตัวเราเองที่ตอนเช้าลืมโทรกำชับเค้าให้ป้อนน้ำให้ปีโป้ด้วย  ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ควรวางใจน้องคนนี้  เพราะบ่อยครั้งในวันที่เราไม่อยู่  เค้าให้อาหารผิดเวลา  แล้วก็ไม่รู้ว่าเค้าคอยป้อนน้ำปีโป้ & โปเต้บ้างหรือเปล่า  เพราะเรารู้ดีว่าช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ แล้วเด็กๆ ก็กินแต่อาหารเม็ด  ความต้องการน้ำมันย่อมมากขึ้นเป็นเท่าตัว  โดยเฉพาะปีโป้...เค้าจำเป็นต้องกินน้ำมากกว่าตัวอื่นๆ เนื่องจากน้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะ  และมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหารบ่อยมาก  


แต่ที่เราสงสัยมากๆ ก็คือเค้าเป็นอะไรมากกว่าฮีทสโตรคหรือเปล่า  เพราะตั้งแต่ที่เราเอาเค้าออกมาจากใต้ตู้  ตอนนั้นมีแค่น้ำเหลืองๆ ไหลออกมาทางปาก  แต่ช่วงหลังจากนั้น...มีเลือดปนน้ำเหลืองออกมาทางจมูกด้วย  เราใช้ทิชชู่ซับจมูกให้เค้าตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าตอนที่นำไปฝังก็ยังมีเลือดออกมาทางจมูกอยู่เลย  เค้าได้รับความกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้  เพราะตอน  "ปาร์ตี้"  กับ  "ปิคโก้"  ไม่เห็นมีเลือดออกมาทางจมูกแม้แต่นิดเดียว  ช่วงเวลาก่อนที่เค้าจะจากไป...เค้าจะเจ็บปวดทรมานมากมั๊ยนะ  เราไม่มีโอกาสได้รับรู้เลยแม้แต่นิดเดียว


ตอนนี้ในสมองเรารู้สึกตื้อๆ ไม่อยากจะเชื่อ  ไม่อยากจะยอมรับความจริงว่า  "ปีโป้ไม่อยู่แล้ว"  "ไม่มีปีโป้ให้เรากอดกับจุ๊บที่หัวเค้าอีกต่อไปแล้ว" เมื่อวันที่ 12 ก่อนเราจะไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลเรายังกอดเค้า  ยังเช็ดก้นให้เค้าอยู่เลย  ยังนั่งมองเล็บเท้าทั้งสี่ของเค้าอยู่เลย  แล้วคิดว่า...เดี๋ยวพรุ่งนี้ (13 เมษายน) ค่อยกลับมาตัดให้ก็ได้  แต่กลับมาถึง...เราก็ไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งที่เราคิดจะทำให้เค้าแล้ว


เมื่อเช้านี้  (14 เมษายน 2555)  เราตื่นแต่เช้าเพื่อไปใส่บาตรให้เค้า  เราซื้อพวงมาลัยกลมดอกดาวเรืองมา 1 พวง กับดอกกุหลาบสีชมพูอีก 1 ดอก เพื่อจะนำมาใส่ในหลุมให้เค้าตอนที่จะฝังเค้า  ผ่านมา  10  ชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่ตอนที่เราพบเค้า  เค้ายังตัวนิ่มอยู่เลย  ยังไม่เห็นแข็งเหมือนตอน  "ปิคโก้"  ซึ่งกว่าจะนำไปฝังก็ใช้เวลาใกล้เคียงกัน  ตอน 8.00 น.  เรานำปีโป้ไปฝังไว้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมที่เคยฝัง  "ปาร์ตี้"  กับ  "ปิคโก้"  เค้าจะได้อยู่ด้วยกันกับลูกทั้งสองของเค้า  เราตั้งใจไว้ว่าเมื่อถึงเวลาที่ทุกตัวต้องจากไป...เราจะนำพวกเค้าพ่อแม่ลูกมาอยู่ด้วยกันให้หมด  


หวังว่าตอนนี้ปีโป้คงได้ไปอยู่ดาวกระต่ายกับลูกปาร์ตี้  ลูกปิคโก้  พี่บุญทิ้ง  พี่บุญหล่น  น้องฮะเก๋า  น้องซูกัส  และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ กระต่ายตัวอื่นแล้ว  หวังว่าเค้าคงจะมีความสุข  สนุกสนานในอีกโลกหนึ่ง  หรือถ้าได้เกิดใหม่...ก็ขอให้เค้าได้ไปเกิดในที่ดีๆ ไม่ต้องพบเจอความทุกข์ ความเจ็บปวด ความทรมานใดๆ ทั้งสิ้น

แต่ไม่ว่า...วันนี้หรือวันข้างหน้าปีโป้จะไปอยู่ ณ ที่แห่งไหนก็ตาม...แต่  "ปีโป้"  จะยังคงอยู่ในหัวใจและความทรงจำของเราทุกวันตลอดไปแน่นอน  เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะทำใจไม่ให้ร้องไห้ได้ถึงเมื่อไหร่  เพราะในบรรดากระต่าย  8  ตัว  "ปีโป้"  เป็นตัวที่เรารักมากที่สุดและใกล้ชิดมากที่สุดแล้ว


ตลอดเวลา  5  ปี  4  เดือนที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกับเค้า  ทำให้เราได้รับรู้ถึงคำว่า  "รักแท้"  คืออะไร  เรารักเค้าได้อย่างเต็มหัวใจโดยที่ไม่เคยคาดหวังอะไรจากตัวเค้า  และไม่เคยต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น  แค่หวังว่าทุกๆ วันที่เค้ายังมีชีวิตอยู่  เค้าจะมีความสุข  สนุกสนาน  และสุขภาพแข็งแรง


ขอบคุณมากๆ นะ  "ปีโป้"  ที่หนูทำให้ชีวิตทุกๆ วันของเรามีค่ามีความหมายมากขึ้น  เรามีความสุขมากๆ ที่ได้มีเค้าเข้ามาในชีวิตของเรา


ลาก่อนนะ  "ปีโป้"  ลูกชายสุดหล่อสุดที่รักของแม่...และเมื่อถึงเวลา...เราจะกลับมาพบกันอีกครั้ง...

 
 

จากคุณ : JDT
เขียนเมื่อ : วันเนา 55 15:40:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com