ความคิดเห็นที่ 1 ขั้นตอนการประกอบเตา 1. นำถังน้ำมัน  200 ลิตร  ตัดฝาด้านใดด้านหนึ่งออก  ให้สามารถเปิดปิดได้  นำ ฝาที่ตัดออกเจาะเป็นรูสี่เหลี่ยม  20  x 20 เซนติเมตร  ส่วนฝาอีกด้านหนึ่งไม่ต้องตัดออก  แต่ให้เจาะรูกลม  เส้นผ่านศูนย์กลาง  4 นิ้ว 2. ปูพื้นด้วยทราย  ให้มีขนาดความกว้าง – ยาว  เท่ากับถังน้ำมัน 200 ลิตร  และ นำถังน้ำมันไปวางไว้ 3. ประกอบข้องอและท่อใยหิน  ซึ่งทำหน้าที่เป็นปล่องควัน  ต่อเข้ากับเตาที่ได้ เจาะรูขนาด 4 นิ้ว  พร้อมกับประสานรอยต่อโดยใช้ดินเหนียวผสมกับขี้เถ้าแกลบ 4. นำดินเหนียวไปหุ้มเตาทั้ง 3  ด้าน  คือด้านข้าง 2 ด้าน  และด้านบน  ความหนา ประมาณ  30  เซนติเมตร  จะทำให้เก็บความร้อนภายในเตาได้ดีขึ้น (เป็นฉนวน)   5. ใช้เหล็กเส้นความยาวประมาณ 1 ฟุต  2  อัน  วางไว้ภายในเตาในแนวขวาง   หัว – ท้าย  เพื่อให้ความร้อนหมุนเวียนได้ดีขึ้น 6. นำไม้ฟืน  ตัดให้มีความยาว  80 เซนติเมตร  (ถังน้ำมัน 200 ลิตร  ยาว  90 ซม.) วางไปตามความยาวของเตาจนเต็ม  ไม้ที่นำไปเผาไม่ควรสด - แห้งจนเกินไป 7. ปิดฝาถัง  จากนั้นนำอิฐบล๊อก  มาวางไว้ด้านหน้าเตา  บริเวณช่องที่เจาะไว้   และประสานรอยต่อโดยใช้ดินเหนียวกับขี้เถ้าแกลบ ขั้นตอนการเผา / การเก็บน้ำส้มควันไม้ 1. จุดไฟบริเวณหน้าเตา  โดยค่อย ๆ ใส่เชื้อเพลิง  ความร้อนจะกระจายเข้าสู่ตัว เตา  เพื่อไล่อากาศเย็นและความชื้นที่อยู่ในเตา  ในระยะแรกควันจะมีกลิ่นเหม็น  ซึ่งเป็นกลิ่นกรดที่อยู่ในไม้ 2. ค่อย ๆ ใส่เชื้อเพลิงเข้าไปเรื่อย ๆ  ควันสีขาวตรงปล่องควันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อุณหภูมิบริเวณปากปล่องควันประมาณ 70 C  อุณหภูมิภายในเตา  200 - 250 C    ควันจะมีกลิ่นเหม็นฉุน (ช่วงนี้จะใช้เวลาประมาณ  2 – 3 ชั่วโมง) 3. เมื่อเผาไปอีกระยะหนึ่ง ควันสีขาวจะเริ่มบางลงและเปลี่ยนเป็นสีเทา  อุณหภูมิ ปากปล่องควัน  80 - 85 C    อุณหภูมิภายในเตา  300 - 400 C    ช่วงนี้จะต้องลดเชื้อเพลิงลง  เนื่องจากเป็นช่วงที่สารที่อยู่ในเนื้อไม้ถูกขับออกมา  สังเกตโดยบริเวณปากปล่องควัน  จะมีสารสีดำที่เรียกว่ายางไม้  หรือ  Tar  ติดอยู่  ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะเริ่มเก็บน้ำควันไม้ได้ดีที่สุด  (ใช้เวลาประมาณ  2 – 3 ชั่วโมง) 4. จากนั้นควันจะเปลี่ยนจากสีเทาเป็นสีน้ำเงิน  อุณหภูมิปากปล่องควันประมาณ 100 - 120 C    อุณหภูมิภายในเตา  400 – 500  C    (ช่วงนี้ใช้เวลา  2 – 3 ชั่วโมง) 5. ขั้นตอนต่อไป  จะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ  ซึ่งเป็นช่วงที่ไม้จะเปลี่ยนเป็น ถ่าน  ให้เฝ้าสังเกตดูควันที่ปล่องควันจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีฟ้า  แสดงว่าฟืนภายในเตาเริ่มจะกลายเป็นถ่าน  จากนั้นควันสีฟ้าจะอ่อนลง  ยางไม้ที่เกาะอยู่บริเวณปล่องควันด้านในจะแห้ง  อุณหภูมิภายในเตาจะสูงมาก ประมาณ  500  C    ในที่สุดควันสีฟ้าก็จะหมดไป  และเปลี่ยนเป็นควันใส  ซึ่งแสดงว่าไม้ที่อยู่ในเตาได้กลายเป็นถ่านไปหมดแล้ว  ให้เริ่มทำการปิดหน้าเตาก่อน  โดยใช้ดินเหนียวปิดรอยรั่ว  รอยต่อ  จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง  ก็ปิดปล่องควันให้สนิท  ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการเผาถ่าน             จากนั้นทิ้งไว้หนึ่งคืน  หรือประมาณ  10  ชั่วโมง  เป็นอย่างน้อย  เพื่อให้ถ่านดับสนิท  แล้วจึงเปิดเตาเพื่อเอาถ่านออก  วางเรียงในที่โล่งแจ้งก่อนประมาณ  1  ชั่วโมง  เพื่อป้องกันไม่ให้ถ่านกลับติดลุกเป็นไฟ  แล้วจึงบรรจุใส่ภาชนะหรือกระสอบ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:24:36

ความคิดเห็นที่ 2 ตัวหนังสือเยอะๆ อย่าพึ่งเบื่อกันก่อนนะครับ เอาหลักการเอาให้ทัศนา เดี๋ยวต่อไปจะเป็นการสาธิตการเผาแบบไร้หลักการครับ วิธีเก็บน้ำส้มควันไม้ ในการเก็บน้ำส้มควันไม้  แนะนำให้เก็บในช่วงอุณหภูมิปากปล่องควันประมาณ 80 – 85  C    ช่วงอุณหภูมิภายในเตาจะประมาณ  300 – 400  C   ถ้าเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า  300  C    จะได้สารประกอบที่มีประโยชน์น้อยมาก  และถ้าเก็บควันในช่วงที่อุณหภูมิเกิน  425  C    น้ำมันดินหรือน้ำมันทาร์ (Tar)  จะสลายตัวเป็นสารก่อมะเร็ง  น้ำส้มควันไม้สามารถเก็บได้โดยใช้เครื่องมือง่าย ๆ  โดยอาศัยการถ่ายเทความร้อนจากปล่องดักควันที่มีอุณหภูมิสูง  สู่อากาศรอบปล่องดักควันที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า  ความชื้นในควันจะควบแน่นเป็นหยดน้ำ  นำมารวบรวมและทำให้บริสุทธิ์ขึ้น  ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ จุดสำคัญของการเก็บน้ำส้มควันไม้ก็คือ  ต้องให้ปล่องดักควันอยู่ห่างจากปากปล่องควันของเตาผลิต  เกิน  20 – 30  เซนติเมตร  หากทั้งสองส่วนเชื่อมต่อกันโดยตรง  จะเท่ากับเป็นการต่อความยาวให้กับปล่องควันของเตา  และส่งผลถึงคุณภาพและผลผลิตของถ่านไม้ด้วย 1. นำเอาไม้ไผ่ที่เตรียมไว้  ให้ส่วนโคนอยู่เหนือปล่องควัน  20 – 30 เซนติเมตร   ส่วนปลายให้ชี้ขึ้นทำมุม  45 องศา  โดยนำวัสดุยึดไว้ 2. เจาะรูด้านล่างของไม้ไผ่  ขนาด 1 เซนติเมตร  บริเวณโคนของไม้ไผ่ 3. นำปลายสายยางด้านหนึ่งไปสวมไว้ที่รูไม้ไผ่  อีกด้านหนึ่งหย่อนลงในถัง พลาสติก 4. ควันที่อกจากปล่องควัน  จะเป็นไอร้อน  เมื่อกระทบกับอากาศในลำไม้ไผ่  จะ เกิดการควบแน่นกลายเป็นหยดน้ำ  แล้วจะไหลย้อนกลับลงมาผ่านรูที่เจาะ  ผ่านสายยางลงสู่ถังพลาสติก  น้ำที่ได้ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้  จะต้องทำให้บริสุทธิ์เสียก่อน จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:26:41

ความคิดเห็นที่ 3 ประโยชน์และการนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ประโยชน์ น้ำส้มควันไม้มีสารประกอบต่าง ๆ มากมาย เมื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรมีคุณสมบัติ เช่น เป็นสารปรับปรุงดิน สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช และสารเร่งการเติบโตของพืช นอกจากนี้ มีการนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม เช่น ใช้ผลิตสารดับกลิ่นตัว ผลิตสารปรับผิวนุ่ม ใช้ในการผลิตยารักษาโรคผิวหนัง เป็นต้น  เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีความเป็นกรดสูง ดังนั้นก่อนที่จะนำไปใช้ควรจะนำมาเจือจางให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ดังนี้ - อัตราส่วน 1: 20 (ผสมน้ำ 20 เท่า) พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นประโยชน์และแมลงในดินซึ่งควรทำก่อนการเพาะปลูก 10 วัน - อัตราส่วน 1: 50 (ผสมน้ำ 50 เท่า) พ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำลายพืช หากใช้ความเข้มข้นที่มากกว่านี้รากพืชอาจได้รับอันตรายได้ - อัตราส่วน 1: 100 (ผสมน้ำ 100 เท่า) ราดโคนต้นไม้รักษาโรครา และโรคเน่า รวมทั้งป้องกันแมลงมาวางไข่ - อัตราส่วน 1: 200 (ผสมน้ำ 200 เท่า) พ่นใบไม้รวมทั้งพื้นดินรอบๆ ต้นพืชทุกๆ 7-15 วัน เพื่อขับไล่แมลงและป้องกันเชื้อรา และรดโคนต้นไม้เพื่อเร่งการเจริญเติบโต - อัตราส่วน 1: 500 (ผสมน้ำ 500 เท่า) พ่นผลอ่อน หลังจากติดผลแล้ว 15 วัน ช่วยขยายผลให้โตขึ้นและพ่นอีกครั้งก่อนเก็บเกี่ยว 20 วัน เพื่อเพิ่มน้ำตาลในผลไม้ -อัตราส่วน 1: 1,000 (ผสมน้ำ 1,000 เท่า) เป็นสารจับใบ เนื่องจากสารเคมีสามารถออกฤทธิ์ได้ดีในสารละลายที่เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสารเคมีทำให้สามารถลดการใช้สารเคมีมากกว่าครึ่งด้วย การนำน้ำส้มควันไม้ ไปใช้ด้านอื่นๆ นอกจากการนำไปใช้ทางด้านเกษตรและปศุสัตว์แล้ว ยังสามารถนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ด้านอื่นๆ ได้อีก เช่น 1. ความเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้รักษาแผลสด แผลถูกน้ำร้อน รักษา  โรคน้ำกัดเท้าและเชื้อราที่ผิวหนัง 2. น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำ 20 เท่า ราดทำลายปลวดและมด 3. น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำ 50 เท่า ใช้ป้องกันปลวก มด และสัตว์ต่างๆ เช่น ตะขาบ แมงป่อง 4. น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำ 100 เท่า ใช้ฉีดพ่นถังขยะเพื่อป้องกันกลิ่นและแมลงวัน ใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำ ห้องครัวและบริเวณชื้นแฉะ ข้อควรระวังในการ ใช้น้ำส้มควันไม้ 1. ก่อนนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ต้องทิ้งไว้จากการกักเก็บก่อนอย่างน้อย 3 เดือน 2. เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีความเป็นกรดสูง ควรระวังอย่าให้เข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้3. น้ำส้มควันไม้ไม่ใช่ปุ๋ยแต่เป็นตัวเร่งปฎิกิริยา ดังนั้นการนำไปใช้ทางการเกษตรจะเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพให้กับพืชแต่ไม่สามารถใช้แทนปุ๋ยได้ 4. การใช้เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และแมลงในดิน ควรทำก่อนเพาะปลูกอย่างน้อย 10วัน 5. การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ต้องผสมน้ำให้เจือจางตามความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ 6. การฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้ เพื่อให้ดอกติดผล ควรพ่นก่อนที่ดอกจะบาน หากฉีดพ่นหลังจากดอกบานแมลงจะไม่เข้ามาผสมเกสร เพราะกลิ่นฉุนของน้ำส้มควันไม้และดอกจะร่วงง่าย จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:33:47

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อไปเป็นวิชาเกินแล้วนะครับ - เริ่มจากการเตรียมสถานที่ครับ หาที่เหมาะๆ ดูทิศทางลมด้วยนะครับ ถ้าจะให้ดีควรให้ช่องด้านหน้าอยู่ทิศทางเดียวกับทิศทางลมนะครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:35:37

ความคิดเห็นที่ 5 จากนั้นก็ตั้งถัง ๒๐๐ ลิตรเลยครับ โดยถังจะต้องเจาะก้นเป็นวงกลมสำหรับใส่ข้องอ ๔ นิ้วด้วยนะครับ   การตั้งไม่ควรเกิน ๒ ถังครับ ผมเคยตั้งต่อกันยาว ๕ เตา เผาแทบไม่ได้ ทั้งร้อนทั้งควัน กำลังดีก็ถังคู่นี่ละครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:37:58

ความคิดเห็นที่ 6 จากนั้นก็หาแผ่นสังกะสีหรือกระเบื้องมุงหลังคาที่ไม่ได้ใช้มากั้นเป็นขอบเขตสำหรับเอาดินถมหลังเตา โดยใช้วิธีตอกลักกั้นให้แน่นหนาครับ ขั้นตอนนี้แหละที่เหนื่อยที่สุด จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:39:33

ความคิดเห็นที่ 7 กั้นให้ดีทั้งด้านข้างกับด้านหลัง จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:40:54

ความคิดเห็นที่ 8 เสร็จแล้วเป็นแบบนี้ครับ   แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 11:44:58 จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:44:14

ความคิดเห็นที่ 9 อ้าวมาเด็กๆ มาถ่ายรูปกันหน่อย เย้ๆๆๆ สนุกสนานกันครับ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 11:46:18 จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:45:55

ความคิดเห็นที่ 10 จากนั้นก็ไปถึงขั้นตอนการให้ความรู้กันก่อน จะได้รู้หลักการและวิธีการเผา จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:47:16

ความคิดเห็นที่ 11 ภาคทฤษฎีเสร็จแล้ว ก็ไปเผากันเลย เริ่มจากเรียงไม้ก่อนนะครับ ก่อนเรียงต้องตัดไม้ขวางที่พื้นก่อน ให้เป็นช่องอากาศสำหรับให้อากาศเข้า แบบนี้ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:49:10

ความคิดเห็นที่ 12 จากนั้นก็เรียงไม้ใส่เตาเลยครับ โดยเรียงไม้เล็กๆ ไว้ด้านล่าง ไม้ใหญ่ไว้ด้านบนครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:50:24

ความคิดเห็นที่ 13 เรียงให้เต็มแบบนี้เลย จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:50:59

ความคิดเห็นที่ 14 เสร็จแล้วก็ปิดเตา จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:52:03

ความคิดเห็นที่ 15 นี่ก็ปิดเตา จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:53:03

ความคิดเห็นที่ 16 ตั้งอิฐสำหรับก่อไฟครับ บริเวณฝาก็เอาดินเหนียวผสมแกลบยาให้รอบครับกันอากาศเข้า แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 11:55:01 จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:53:55

ความคิดเห็นที่ 17 ตั้งเสร็จก็เริ่มก่อไฟเลยครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:55:41

ความคิดเห็นที่ 18 ปูเสื่อรอดูอยู่นะคะ  (แอบเร่งเพราะ อยากดูไวๆๆ  55555555) จากคุณ : รักคุณแฟน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:01:43

ความคิดเห็นที่ 19 จะไปลองทำดูค่ะ จากคุณ : ต้มส้มปลากระบอก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:06:29

ความคิดเห็นที่ 20 ปูเสื่อรอดูอยู่นะคะ  (แอบเร่งเพราะ อยากดูไวๆๆ  55555555) จากคุณ : รักคุณแฟน     เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:01:43     ---- แอบไปทานข้าวเอาแรงมาครับ จะไปลองทำดูค่ะ จากคุณ : ต้มส้มปลากระบอก   เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:06:29     ---- ดูแล้วเอาไปทำได้เลยครับ ไม่ยากครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:17:42

ความคิดเห็นที่ 21 มาต่อครับ จุดไฟหน้าเตา เดี๋ยวควันและความจะเข้าไปในเตาเอาครับ ค่อยๆจุดนะครับไม่ต้องเร่งไฟ จุดกองเล็กๆพอ ของดีต้องใจเย็นๆครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:19:17

ความคิดเห็นที่ 22 เดี๋ยวกลับมาใหม่ไปกินข้าวก่อน จากคุณ : สีมุก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:20:20

ความคิดเห็นที่ 23 ก่อไฟใสไปเรื่อยๆครับ ช่วงแรกๆนี่จะเป็นช่วงไล่ความชื้นในไม้ครับ ถ้าไม้ขนาดเล็กๆ และแห้งดีก็จะผ่านช่วงนี้ไปได้เร็วครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:20:49

ความคิดเห็นที่ 24 เผาแบบปราณีตต้องใจเย็นๆครับ เวลาที่ใช้ในช่วงนี้ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับขนาดและความชื้นของไม้ครับ บางทีก็ ๒ - ๔ ชั่วโมง ถ้าไม้ท่อนใหญ่ก็อาจจะถึง ๘ ชั่วโมงได้เหมือนกัน เมื่อความชื้นเริ่มจะหมด อุณหภูมิในเตาจะสูงขึ้นครับ ไม้จะเริ่มติดไฟขึ้นมาเองครับ ช่วงนี้จะสังเกตได้จากควันภายในเตาจะหนาแน่นครับ ดังในรูปครับ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 12:26:09 จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:23:34

ความคิดเห็นที่ 25 ดูชัดๆ ครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:28:15

ความคิดเห็นที่ 26 เรียกช่วงที่ ๒ นี้ว่า เมื่อไม้กลายเป็นถ่าน หรือ ปฏิกิริยาคลายความร้อน  เมื่อเผาไปอีกระยะหนึ่ง ควันสีขาวจะเริ่มบางลง และเปลี่ยนเป็นสีเทา อุณหภูมิบริเวณปากปล่องควัน ประมาณ 80-85 องศาเซลเซียส อุณหภูมิภายในเตาประมาณ 300-400 องศาเซลเซียส ไม้ที่อยู่ในเตาจะคายความร้อนที่สะสมเอาไว้เพียงพอที่จะทำให้อุณหภูมิในเตาจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ค่อยๆ ลดการป้อนเชื้อเพลิงหน้าเตาจนหยุดการป้อนเชื้อเพลิง และเริ่มเก็บน้ำส้มควันไม้ หลังจากการหยุดการป้อนเชื้อเพลิงหน้าเตา จะต้องควบคุมอากาศโดยการหรี่หน้าเตาหรือลดพื้นที่หน้าเตาลงให้เหลือช่องพื้นที่หน้าเตาประมาณ 20-30 ตารางเซนติเมตร ช่วงนี้จะสังเกตเห็นควันบ้าครับ คือควันที่พวยพุ่งขึ้นมากมายเลยเรียกว่า "ควันบ้า" แสดงว่าไม้ได้ติดไฟแล้ว หรือเตาติดแล้ว จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:30:21

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อได้ควันบ้าแล้วก็เริ่มลดไฟหน้าเตาครับ โดยการคุมปริมาณอากาศที่เข้าไปในเตาครับ อย่าให้เข้ามากเพราะไม่งั้นไม้จะเป็นถ่านไม่สม่ำเสมอ วิธีการหรี่อากาศก็ทำได้หลายวิธีครับ แบบในรูปที่ผมทำก็ได้ หรือจะเอาไม้ไปขวางไว้ก็ได้ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:32:24

ความคิดเห็นที่ 28 เก็บน้ำส้มควันไม้ครับ เตานึงก็ได้ประมาณนี้ครับ แล้วก็เอาไปแยกให้เหลือแต่น้ำส้มควันไม้ครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:33:29

ความคิดเห็นที่ 29 T T อยากเล่นค่ะ  แต่พื้นที่บ้าน มันเล่นไมได้  แง้  อยู่ในหมุ่บ้าน  ลองเล่นไป ข้างบ้านด่าตายแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 12:41:08 จากคุณ : รักคุณแฟน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:40:34

ความคิดเห็นที่ 30 พอผ่านช่วงที่ ๒ มาได้จะเข้าสู่ช่วงที่ 3 ช่วงทำถ่านให้บริสุทธิ์ ขั้นตอนนี้เป็นช่วงที่ไม้จะเปลี่ยนเป็นถ่าน ต้องทำการเพิ่มอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดหน้าเตา ประมาณ 1 ใน 3 ของหน้าเตาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เมื่อควันสีน้ำเงิน เป็นสีฟ้า แสดงว่าไม้เริ่มเป็นถ่านใกล้หมดจากนั้นควันสีฟ้าอ่อนลงและจะกลายเป็นควันใสแทน เมื่อมีควันใสเริ่มทำการปิดหน้าเตา โดยใช้ดินเหนียวปิดรอยรั่วและรอยต่อ จากนั้นทำการปิดปล่องควันให้สนิทและอุดรูรั่วทั้งหมด ไม่ให้อากาศภายนอกผ่านเข้าไปได้ ช่วงนี้สังเกตง่ายครับ ควันจะเป็นสีใสๆ หรือสีฟ้าอ่อนๆ และถ้าลองเอาไฟแช็กไปจุดที่ปล่องควันนี้จะติดไฟครับ (ไม่ต้องกลัวไม่ระเบิดครับ) เพราะควันที่ออกมามี CO เป็นส่วนผสมครับ ถ้าได้ช่วงนี้แล้วก็ปิดเตาให้สนิทเลยครับ อุดรู้ให้หมดนะครับ ด้านบนตรงปล่องก็เอาผ้าที่ไม่ได้ใช้ห่อดินชุบน้ำอุดไว้ครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน ควันในช่วงนี้สามารถเอาไปเข้าเครื่องยนต์ช่วยให้เครื่องยนต์เดินได้ครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:41:15

ความคิดเห็นที่ 31 ถ่านไม้ที่ทำมีคุณภาพดีหรือไม่  ดูได้จาก.... - การทดสอบถ่านคาร์บอน http://www.youtube.com/watch?v=9xfAE5PIGCg จากคุณ : ญี่ปุ่น35 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:41:54

ความคิดเห็นที่ 32 ช่วงที่ 4 ช่วงทำการให้ถ่านในเตาเย็นลง      เกลี่ยดินบนเตาออกให้เห็นหลังเตา เพื่อระบายความร้อนในเตา จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน หรือประมาณ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ถ่านดับสนิท แล้วจึงเริ่มการเปิดเตาเพื่อนำถ่านออกจากเตา และนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ปล่อยค้างคืนไว้ ๑ คืนก็ได้แล้วครับ ตอนเช้าก็แอบมาส่องดู ได้ถ่านหรือได้ขี้เถ้าหว่า จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:43:30

ความคิดเห็นที่ 33 เปิดดูซิ อ้า.....เตานี้ปิดเตาช้าไปหน่อยขี้เถ้าเลยเยอะ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:44:42

ความคิดเห็นที่ 34 อีกชุดละ อันนี้สวย ผ่านๆ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:45:46

ความคิดเห็นที่ 35 เด็กๆทำละ เป็นไง จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:46:44

ความคิดเห็นที่ 36 เผา ๒ เตาคู่กันพอมีถ่านใช้ไปเป็นเดือนครับ เข้าท่าใช่ไหมครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:47:40

ความคิดเห็นที่ 37 ไม้ที่ใช้ก็เอาที่เรามีครับ อย่าแอบไปตัดของข้างบ้านนะครับ เอาพวกเศษไม้กิ่งไม้กพอแล้วครับ ถ้าเผาจนชำนวญแล้วจะประยุกต์เผาพวกผลไม้ก็ได้ เช่นเผามะพร้าว ลูกตาล น้อยหน่า เป็นต้น ได้แล้วก็เอาไว้ดูดความชื้นในตู้เย็น เก๋ไปอีกแบบครับ ทำเสร็จถ้ามากก็แจกจ่ายเพื่อนบ้านครับ   ผมชอบเผาไม้ไผ่ครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:50:11

ความคิดเห็นที่ 38 กิ่งเล็กกิ่งน้อยก็ได้หมดครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:50:50

ความคิดเห็นที่ 39 เสร็จก็บรรจุเอาไปแจกจ่าย บางคนเอาไปลองทำเล่นๆ เผาไปเรื่อยๆ เอาไปเอามาใส่ถุงขายกลายเป็นอาชีพเสริมไปเลยก็มีครับ เรื่องการทำเตานี้มีหลากหลายวิธีครับ ที่ผมนำมาให้ดูก็ส่วนหนึ่งที่นิยมทำ เพราะทำเตาง่ายวัสดุหาซื้อได้ง่าย วิธีการเผาก็ไม่ยุ่งยากจนเกินไป จริงๆแล้วการเผาแบบนี้ญี่ปุ่นจะนิยมครับไม่ทราบว่าเรียนแบบมาจากเตาอิวาเตะหรือเปล่าผมก็ลืมๆไปแล้ว ส่วนของไทยที่นิยมเผากันก็แบบเตาหลุมผี เตาแบบนี้มีให้เห็นบ้างเป็นบางที่แค่ชาวบ้านจะนิยมก่อเตาด้วยดินเหนียวครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:55:35

ความคิดเห็นที่ 40 การประกอบนั้นผมลืมบอกครับ ข้องอที่เอามาใช้ต้องเจาะรูด้วยนะครับ เพื่อระบายน้ำที่ควบแน่นในปล่องควันจะได้ไม่ไหลย้อนเข้าเตา เจาะให้กว้างซัก ๑ นิ้วก็ได้ครับ จากนั้นก็ใส่เข้าไปในช่องที่เราเจาะไว้ด้ายท้ายเตาสวมท่อตรงซีเนต์ที่เตรียมไว้ ตอกหลักไม้ยึดให้แน่น จากนั้นก็เอาดินเหนียวผสมแกลบที่เตรียมไว้ยาตามจุดข้อต่อให้หมดก็เป็นอันเสร็จครับ ประทานอภัยที่ภาพอาจจะสลับไปสลับมาครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:59:18

ความคิดเห็นที่ 41 ผมก็แค่คนชอบลองครับ แต่ทำจริงๆจังไม่ได้กับเขาหรอกครับ เพราะโอกาสยังไม่เอื้อครับ ท่านใสนใจก็ลองทำดูครับ หรือจะลองหาวิธีอื่นๆอีกก็มีครับเดี๋ยวนี้หลายๆท่านเอาไปดัดแปลงกันเยอะเลย ของผมทำเมื่อ ๕ ปีที่แล้วครับ เห็นว่ายังพอจะเป็นประโยชน์บ้างเลยเอามาลงให้ดูกัน ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้าครับ คนบ๊องกำลังหาของเล่นอยู่ครับ   ขอบคุณที่ติดตามครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 13:06:36

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ ฟ้าสีหมอก  //เค้าอยากเล่นทำผลไม้ดอกไม้ถ่านอะ    แต่พื้นที่ไม่อำนวย  หามาล่อให้เกิดกิเลสแบบนี้ได้ยังไงคะ จากคุณ : รักคุณแฟน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 13:15:11

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ รักคุณแฟน น่าเสียดายเนอะหาสถานที่ไม่ได้ ผมก็เช่นเดียวกันครับเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีที่ให้เล่นเลย ถ่านจากผลไม้ทำออกมาแล้วสวยครับ เมื่อก่อนชาวบ้านเขาทำเป็นของขวัญมาให้ได้หมากมาเป็นพวงเลยครับ ข้าวโพดก็มี ลูกตาลก็มี อย่างสวยครับ เห็นแล้วเอาวางตู้โชว์ก็เข้าท่า ใส่ตู้เย็นไว้ดูดกลิ่นก็กิ๊บเก๋ น้ำส้มควันไม้นี่ก็ประโยชน์เยอะครับ สมัยก่อนเราส่งออกไปญี่ปุ่นครับเอาไปทำเครื่องสำอางค์สำหรับรักษาสิว หรือเอาไว้ฉีดพ่นต้นไม้ก็ดีเช่นเดียวกันครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 13:28:32

ความคิดเห็นที่ 44 แจ๋วเลยค่ะ  ดูทำง่ายจัง  แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ  คงทำไม่ไหว ที่บ้านแม่แฟน  มีคนทำชุดเผ่าถ่านมาขายด้วยค่ะ ตอนเก็บน้ำส้มควันไม้นี่  เอาไม้ไผ่ไปต่อตรงไหนเหรอคะ  ตรงท่อปูนที่โผล่ออกด้านหลังหรือเปล่าคะ ไม่เคยได้ไปดูงานเกี่ยวกับเกษตรเลยค่ะ  ขับรถไม่เป็น  แต่ชอบเกษตร จากคุณ : JavaMySon เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 13:46:48

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ JavaMySon ทำไม่ยากครับแต่ก็ไม่ง่ายซะทีเดียวครับ ต้องอาศัยการฝึกฝนเผาซัก ๒ - ๓ เตาก็จะเริ่มจับทางได้ การเผาแบบนี้ต้องอาศัยความใจเย็นด้วยครับ เพราะต้องก่อไฟหน้าเตาก่อนจนกว่าไม้จะติดไฟได้ แต่ทำไปก็เพลินดีเหมือนกันครับ เวลาจะตั้งเตาตำแหน่งที่ตั้งเตาจึงควรเป็นที่มีร่มเงาด้วยครับ การเก็บน้ำส้มควันไม้จะเก็บในช่วงที่ ๒ ครับ ถ้าใหม่ๆ จะเอากระเบื้องมาอังที่ปล่องควันดูถ้าน้ำเป็นสีเหลืองแล้วก็จะเริ่มเก็บ แต่ถ้าทำไปจนชำนวญจะสังเกตสีควันได้ครับ การเก็บน้ำส้มควันไม้จะใช้ไม้ไผ่ตัดปลายเป็นปากฉลามวางบนปล่องควันครับ แล้วก็เอาผ้าชุบน้ำผันรอบเพื่อไม่ให้ควันรั่วออกครับ เตาแบบนี้ยุ่งยากกว่าเตาแบบตั้งครับ แต่อาศํยว่าทำได้ง่ายกว่าเตาแบบตั้ง ผมเลยชอบแบบนี้มากกว่าครับ สำหรับท่านใดที่มีสวนผมเห็นว่าเตาเผาถ่านเป็นทางเลือกที่ดีครับในการกำจัดกิ่งไม้ที่เราตัดแต่งกิ่ง ได้ประโยชน์หลายทางเลยทีเดียว คุณ JavaMySon ลองดูราคาเตาแบบตั้งที่เขาดูนะครับ ถ้าไม่แพงก็น่าซื้อมาตั้งในสวนซักถัง หรือถ้าจะทำแบบถังนอนเหมือนผมทำก็อาศัยไหว้วานแรงงานพรรคพวกเพื่อนฝูงมาช่วยไม่เกิน ๒ ชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ เลี้ยงข้าวซักมื้อ แบ่งถ่านให้ใช้ก็ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย ฮิๆ   สำหรับท่านที่กังวลเรื่องควันที่ได้จากการเผาถ่าน จากที่ผมเคยเผามาพบว่าควันไม่เห็นและฉุนเหมือนเตาแกลบครับ และควันก็ไม่มากครับ มีแค่มากแค่ช่วง ๒ ช่วงเดียวครับ ถ้าไม่อาศัยในเขตชุมชนเมืองก็สามารถทำได้ครับ อายุการใช้งานของเตาจากที่เคยทำพบว่าอยู่ได้เป็นปีครับ เผาได้เป็นร้อยครั้งครับ ผมเคยเอาไปตั้งทีเดียว ๕ เตาให้เขาเผาเศษไม้ เผาไปเรื่อยๆ ได้เป็นรถสิบล้อเลยครับ ได้ถ่านใช้กันข้ามปีเลยทีเดียว ข้อดีของถ่านที่ได้จากเตาเผาแบบนี้คือ ถ่านที่ได้จะมีน้ำมันดินน้อยครับ เพราะถูกเผาที่อุณหภูมิที่สูง ทำให้นำมาปิ้งย่างปลอดภัยกว่าถ่านทั่วไปครับ และถ่านที่ได้ทำกับข้าวอร่อยกว่าถ่านซื้อแน่นอนครับ เพราะเราเผาด้วยใจไงครับ จบกระทู้นี้ใครๆก็ดูถูกผมไม่ได้แล้วนะ เพราะผมเป็นคนเอาถ่านครับ ^_^ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 16:05:41

ความคิดเห็นที่ 46 โหวตให้ครับ เนื้อหาสาระเหมือนตำรานำไปใช้งานได้จริง จากคุณ : P_ปรัชญา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 21:11:30

ความคิดเห็นที่ 47 ขอเสริมนิดหน่อยครับ... เคล็ดลับ ^^v หาสังกะสีมาตัดให้สั้นกว่าขอบถัง 200 ลิตรเอามาลองด้านในถังก่อนวางไม้ที่จะเผา เหมือนใน คห. 36 นั้นแหละครับ แต่ตัดให้สั้นกว่าถัง 200 ลิตรให้เอาใส่ลงไปในถังได้ พอดี ก่อนวางไม้ซ้อนๆ แล้วก็เผาปกติ นั้นแหละครับ  เวลาเผาเสร็จ อย่าง คห. 34  เราก็ดึงสังกะสีออกมาถ่านก็จะอยู่บนสังกะสี ไม่ต้องมุดหรือเอาคราด เอาพลั่วไปตักให้ลำบาก ขอเสริมอีกอย่าง ถ้าใกล้ก็อกน้ำจะทำงานสะดวกและเร็วด้วยครับ .. จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 21:35:43

ความคิดเห็นที่ 48 มีประโยชน์เก็บเข้าคลังก่อน ความคิดเห็นที่ 11 ตรงรูที่เห็นใช่ต่อท่อปูนที่เป็นข้องอ กับท่อปูนตรงหรือเปล่าค่ะ แล้วเอายัดเข้าไป แปะดินเหนียวใช่ไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : jkob เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 07:46:03

ความคิดเห็นที่ 49 ย่องมาเก็บเข้าคลังกระทู้ค่ะ จากคุณ : JavaMySon เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 12:32:19