เมื่อได้ทราบว่า น้องเคนมีอาการป่วยที่ต้องรักษาหลายโรค ทั้งหนังตาม้วนปิดทำให้ขนตาทิ่มเข้าไปในลูกตาจนอักเสบมานาน ถ้าไม่รักษา น้องเคนอาจจะตาบอดได้ในที่สุด มีก้อนเนื้องอกบริเวณก้นและเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง ซึ่งแต่ละโรคต้องมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดรักษาพักฟื้นจำนวนเงินไม่น้อย หลายหมื่นเลยค่ะ ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะไม่ทราบมาก่อน เข้าใจว่า น้องเคนมีปัญหาขนร่วง ผิวหนังเป็นเชื้อรา เนื่องจากภูมิคุ้มกันตกตามประสาของน้องหมาอายุมาก
รู้สึกผิดและเกรงใจพี่กุ้งมากค่ะ เพราะโดยปกติ การหาบ้านให้น้องหมา จะต้องแจ้งรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับน้องหมาอย่างละเอียด ทั้งลักษณะนิสัย ปัญหาสุขภาพทุกอย่างที่มี เพื่อให้ผู้รับอุปการะได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด ก่อนจะตัดสินใจรับน้องหมาเข้าบ้าน
เพื่อให้น้องหมาได้บ้านหลังสุดท้ายในชีวิตจริงๆ เพราะการที่น้องหมาต้องย้ายบ้านบ่อยๆ ต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่อยู่ตลอดเวลา จะทำให้น้องหมาเกิดความเครียดและซึมเศร้าทุกข์ใจอย่างน่าสงสาร การช่วยน้องหมา จึงจะต้องคิดและทำอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้ายจิตใจของน้องหมาซ้ำซ้อนแม้จะด้วยความหวังดีก็ตาม
แต่พี่กุ้งบอกว่า “…พี่เต็มใจอย่างยิ่ง...” ที่จะดูแลน้องเคน “…สำหรับน้องเคนพี่กุ้งจะดูแลมันอย่างดีนะคะ..วันนี้พี่พาน้องเคนไปหาหมออีกครั้ง เพื่อขอความเห็นเป็นsecond opinion ก็ตกลงจะพาน้องเคนเข้ารับการผ่าตัดตกแต่งหนังตาที่พับลงมาทำให้มันม้วนเข้า อันก่อให้เกิดการระคายเคืองจนตาบอดได้ในที่สุดและจะขูดหินปูนรวมถึงตัดก้อนเนื้องอกใต้ก้นน้องเคนเอาไปตรวจหาความผิดปกติ..น้องเคนนิสัยดีมากและเข้ากับ ตัวอื่นๆได้ไม่น่ามีปัญหา... ”
ประโยคสุดท้ายที่ขออนุญาตคัดลอกมาจาก FB ของพี่กุ้ง ทำให้ทราบว่า น้องเคนได้ถึงจุดหมายที่จะขอฝากชีวิตเล็กๆนี้ไว้จนวันสุดท้ายของชีวิต
โพสต์สั้นๆ แต่ความหมายชัดเจนที่สุดของพี่กุ้ง หลังจากพาน้องเคนมาตรวจที่รพส.และกำลังจะเดินทางกลับบ้าน
“ On the way back home..sweet home..with uncle Kenzo..we love you!!! ”
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 55 15:23:41
วันเสาร์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.) ก็ถึงกำหนดวันที่น้องเคนจะต้องออกจากบ้านที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่อายุเพียง 3 เดือน ไปสู่บ้านหลังใ{แตกประเด็นจาก J12135028}
ยินดีและดีใจกับลุงเคน.. ดูอบอุ่นมากๆค่ะ
